โซลูชั่นตอบโจทย์นักการตลาด จากงาน Marketing Technology & Innovation Expo 2024 by SC Asset -

อีกหนึ่งความน่าสนใจจากการจัดงานMarketing Technology & Innovation Expo 2024 by SC Asset ที่Future Trends ร่วมกับJITTIPONG Loespradit (จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์) นายกสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (MarTech Association), บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) – SC Asset รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจได้แก่Rocket Innovation, บริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) – SIRISOFT และAmazon Web Services (AWS) จัดขึ้น คือการเปิดพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการ บริษัทและองค์กรชั้นนำในด้านดิจิทัล ได้แก่ eTailligence, Wisible, EX10, AIYA, JENOSIZE, aomMONEY, Yell Advertising, GoSell และ Connect X ได้มาร่วมกันอัปเดตเครื่องมือ โซลูชั่น และแพลตฟอร์ม ที่จะตอบโจทย์นักการตลาด รวมถึงแบรนด์ต่างๆ เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการนำมาใช้วางแผนด้านการตลาด จากการเปิดตัวของกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ MarTech ซึ่งได้เข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในปัจจุบันเพื่อสร้างโอกาสของธุรกิจในหลากหลายมิติ

คุณธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO & Co-Founder eTailligence Co., Ltd ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อ E-Commerce Data Insights to Accelerate Online Growth ว่า ในระหว่างปี 2022- 2023 ตลาด E-commerce ในประเทศไทยเติบโตอย่างมาก จนถึงจุดที่มียอดขายกว่า 980,000 ล้านบาท จากปัจจัยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกธุรกิจ เข้ามาอยู่ในตลาด E-commerce กันอย่างมากมาย จากข้อมูลของ Priceza ยังระบุว่า 55% ของเทรนด์ผู้บริโภคในยุคนี้ ซื้อสินค้าผ่านช่องทาง E-marketplace เช่น Shopee และ Lazada ทำให้เกิดข้อดีแก่ผู้บริโภค เนื่องจากมีตัวเลือกสินค้ามากมาย แต่ในมุมของผู้ขายสิ่งที่เกิดขึ้นคือมีการแข่งขันกันสูง ดังนั้นผู้ประกอบการหรือแบรนด์ที่อยู่ในตลาดออนไลน์ต้องรู้เขารู้เรา พร้อมกับหาจุด Winning Zone ให้เจอถึงจะชนะธุรกิจในยุคนี้ และสู้กับคู่แข่งได้ จากปัญหาของผู้ขายดังกล่าวทำให้ตนเองมีการหารือกับผู้ร่วมก่อตั้ง เราได้มีการพูดคุยถึงข้อมูลการช้อปปิ้งออนไลน์ในไทย ส่วนใหญ่ติดอยู่กับแพลตฟอร์ม E-commerce ของต่างชาติ ในขณะเดียวกันผู้ขายของออนไลน์ต้องการข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เพื่อนำมากำหนดกลยุทธ์ให้กับธุรกิจของตนเอง จึงรวมตัวกันเพื่อสร้างแพลตฟอร์ม eTailligence ขึ้นมา

“eTailligence เป็นแพลตฟอร์ม E-commerce ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของคนไทยในรูปแบบที่ครอบคลุมที่สุด ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการ E-commerce ในการวางแผนธุรกิจในการค้าขายออนไลน์ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยแพลตฟอร์มนี้มีฟังก์ชั่นหลักที่เรียกว่า 3C คือ Company ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ข้อมูลร้านค้าเพื่อแนะนำ Insight ที่ดีมีประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นในโลกออนไลน์ Competitors นำเสนอให้เห็นภาพคู่แข่งที่นำเสนอสินค้าที่คล้ายคลึงกัน มีแบรนด์ไหนอยู่ในตลาดบ้างและความสามารถของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ทำให้เราสามารถนำเสนอสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่งได้ และ Customers นำข้อมูลที่เจาะลึกจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้า ลงลึกไปถึงรายละเอียดตัวสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการวางแผนธุรกิจ นำสินค้ามานำเสนอขายผ่านแคมเปญให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้น 3C จึงถือเป็นหัวใจของการทำธุรกิจในโลกออนไลน์ eTailligence เชื่อว่าการใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ จะทำให้การตัดสินใจเรื่องต่างๆ สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น นอกจากนี้ เรายังนำเทคโนโลยี AI มาเป็นเครื่องมือช่วยทำงานใน 2 รูปแบบคือ 1.Product Listening การไปฟังเสียงลูกค้าจากการรีวิวโดยใช้ AI รวบรวมข้อมูลทุกด้าน 2. E-Commerce Monitoring การจับตาดูสินค้าแต่ละตัวที่ขายอยู่บนตลาด E-commerce อาทิ Shopee และ Lazada โปรแกรมอัจฉริยะจะทำให้เราทราบทันทีว่าสินค้าของคู่แข่งขายไปกี่ชิ้นในแต่ละวันและใช้โปรโมชั่นอย่างไร การเก็บข้อมูลสินค้าเหล่านี้ เรียกว่า E-commerce Data จากนั้นนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลผลเพื่อช่วยกำหนด กลยุทธ์ให้ผู้ประกอบการสามารถเสนอขายสินค้าที่อยู่เหนือคู่แข่งได้

ขณะที่ คุณสิทธิ เทียมเมฆา CPO/CTO จาก EX10 ได้บรรยายในหัวข้อ Voice of Customer : The Power of Customer Engagement MarTech ว่า EX10 ดู Activity ของลูกค้าที่ทักแชทเข้ามา แสดงความคิดเห็น รีวิว และร้องเรียน มีการใช้เทคโนโลยี Martech ในการเก็บข้อมูลลูกค้าและวิเคราะห์ Customer Insight เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยใช้ Personalization เพื่อสร้างความสัมพันธ์และเพิ่มโอกาสการขายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ EX10 ยังสามารถจัดทีมเพื่อดูแลลูกค้า และใช้ระบบสมาชิกในการพัฒนาคุณภาพการบริการลูกค้า เช่น การตอบกลับแชท สร้างรายงาน และการจัดกลุ่มลูกค้า ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของธุรกิจมากขึ้น

ด้าน คุณดิศรา อุดมเดช จาก Yell Advertising กล่าวบรรยายในหัวข้อ Help or Hurt: After the dust era of ‘Al’ in Creative Industry ว่า Yell Advertising ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI-Deate ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้ทำงานในวงการโฆษณาสร้างภาพโดยใช้เทคโนโลยี AI ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพิ่มเสถียรภาพในการปรับแต่งภาพตามความต้องการของลูกค้า ลดเวลาการทำงาน และช่วยให้ผู้ทำงานโฟกัสกับการแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการสร้างความสะดวกสบายและสร้าง Community ให้กับดีไซเนอร์และศิลปิน โดยมุ่งหวังให้แฟลตฟอร์มดังกล่าวเข้ามาช่วยในการลดการทำงานของคนในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อีกด้วย

ภายในงานครั้งนี้ ยังมีอีกหลากหลายแพลตฟอร์มที่พร้อมจะตอบโจทย์การทำงานของนักการตลาดเพื่อให้สามารถเลือกนำใช้ให้เหมาะสม โดยเฉพาะในกลุ่ม Data และ AI และนับจากนี้เราคงได้เห็นการพัฒนาเครื่องมือ โซลูชั่นทางการตลาดออกมาอย่างต่อเนื่อง ตามทิศทางและแนวโน้มความต้องการใช้งานของภาคธุรกิจ