คุยแซ่บShow

“ไอซ์ ปรีชญา” ตอบที่นี่ที่แรก! “รักหรือเลิก” แฟนหนุ่มลูกครึ่ง เผยมรสุมที่เจอจนคิดไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว

หลายกำลังใจถาโถมส่งไปให้รัวกับการลุกขึ้นสู้อีกครั้ง หลังจากที่นางเอกสาว “ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” ต้องเผชิญเรื่องราวมากมายจนกลายเป็น “คุณหนูตกสวรรค์” จนทำให้บางช่วงบางตอนในความคิดของเธอไม่อยากจะอยู่บนโลกนี้แล้ว โดยเจ้าตัวได้มาเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ ที่ออนแอร์ทางช่องวัน 31 ขอบคุณทุกกำลังใจที่ทุกคนส่งมาทำให้เจ้าตัวมาแรงที่จะลุกขึ้นมาสู้ต่อ แม้วิกฤตที่เจออาจจะยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ตาม รวมไปถึงคำถามที่หลายคนสงสัยว่าสถานะความรักกับแฟนหนุ่มลูกครึ่งนั้น ยังรักกันดีอยู่ไหม? เพราะหลังจากเกิดกรณีห่างสุดเจ้าตัวก็ยังไม่ได้เคลียร์ชัด ๆ ขอย้อนกลับไปตอนนั้น หลายคนมองว่าเราคิดสั้น? “ย้อนกลับไปตอนนั้น ถามว่าเรามีความคิดที่เราจะคิดสั้นไหม ตอนนั้นเคยมีคิดบ้าง แต่ว่ามันไม่ถึงขั้นนั้น คือมีความคิดแค่ไม่อยากอยู่แล้ว เราเหนื่อย เราไม่อยากทำอะไร แต่ว่าคุณพยายามไปหาว่าเรากินยาอะไรเข้า สุดท้ายเราไม่ได้กินอะไร แต่ยืนยันว่าที่เกิดขึ้นล่าสุดไอซ์ไม่ได้คิดสั้น มันวูบไปเอง” และในส่วนของเรื่องงานที่โดนแคนเซิล? “ก็คือโดนแคนเซิลหมดเลย ทำให้จำนวนรายได้ที่เราจะได้ก็หายไปหลักล้าน อย่างโอนเงินมามัดจำครึ่งนึง เราก็ต้องโอนคืนกลับไป ไอซ์ก็ต้องเอากระเป๋าแบรนด์เนมไปขายก่อนเลย เพราะต้องเอามาใช้จ่ายในแต่ละเดือน รายจ่ายประมาณเดือน 1.6 แสนบาท ซึ่งในเวลาน้าถามว่ามันยากไหม มันก็ไม่ยาก ถ้าหนูตั้งใจที่จะหามัน” อาการล่าสุดของคุณแม่เป็นยังไงบ้าง? “อาการของคุณแม่เป็นมะเร็งตับขั้นที่สอง ตอนที่เขาเป็น เขาก็ไม่บอกหนู ทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่บอก สงสารหนูเพราะเห็นว่าเราเหนื่อย เราสังเกตว่าทำไมเขาป่วยบ่อย ทานอาหารไม่ได้ เริ่มผอมลง จนไปคุยกับพี่สาว พี่สาวถึงยอมบอกว่าคุณแม่กำลังป่วย พอได้ยินก็วูบ ช็อคเลย ซึ่งรู้จากหลังที่เป็นข่าว จากที่รู้อาการคุณพ่อ และมาเป็นข่าว และก็มารู้ว่าแม่ป่วย คุณแม่ก็เลยไปใช้สิทธิ์ 30 บาทเพราะห้วงเราต้องไปจ่ายเงินเยอะเกินไป หนูไม่ได้บอกว่าสิทธิ์ 30 บาทไม่ดี แต่ด้วยความที่เราเป็นลูก เราก็ต้องการดูแลเขาได้รับการรักษาที่ดี กลัวคุณแม่ลำบาก กลายเป็นเครียด ล่าสุดคุณแม่ก็ไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลเฉพาะทาง เริ่มทำคีโมรอบแรก” เราเอากำลังใจมาจากไหน? “ไอซ์ฮึดด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อายุมากแล้ว ถ้าใครคนนึงเป็นอะไรไป หนูรับไม่ได้ ต้องมีใครสักคนในบ้านที่ต้องเข้มแข็ง เพราะสิ่งที่เราเจอมา ไอซ์รู้สึกว่าทุกเรื่องที่ไม่ดี มักจะมีเรื่องดีอยู่เสมอ คือไม่ว่าปัญหาใดก็ตามมันมีทางแก้ไขมีทางออก มีคนอื่นพร้อมจะหยิบยื่นความเมตตามาให้ครอบครัวหนูเยอะมาก ได้เห็นกำลังใจ ทั้งพี่ ๆ นักข่าว แฟนคลับเพื่อน ๆ ในวันที่เราแย่ ๆ ยังมีคนดี ๆ มากมายที่เขาพร้อมให้กำลังใจเราตลอด” และในส่วนของสถานะหัวใจเป็นยังไงบ้าง? “ตอนนี้ก็ดีค่ะ ไอซ์โฟกัสเรื่องการงาน ตัวเขาเองก็โฟกัสเรื่องการทำงานเหมือนกัน ต่างต่างมีปัญหาในเวลาเดียวกันส่วนเขาคุณแม่เพิ่งเสีย คอนโดไฟไหม้ ส่วนหนูคุณพ่อป่วย คุณแม่ป่วย งานแคนเซิล เหมือนกับว่ามีมรสุมเหมือนกันเหมือนกับว่าต่างคนต่างดูแลตัวเอง ฮีลตัวเองด้วยตัวเองกันไปก่อน ห่างกันเพื่อจะกลับมาค่อยคิดถึงเรื่องความรัก ห่างกันแต่ไม่ได้เลิกกัน คุยกัน ยังติดต่อกันเหมือนเดิม ไม่ใครขอห่าง แต่ด้วยสถานการณ์ มันทำให้ห่างกันเอง” แล้วพอมันห่างกันมันรู้สึกยังไง? “คือเขาก็ให้กำลังใจหนู หนูก็ให้กำลังใจเขาเหมือนกัน ต่างคนต่างสู้ ๆ นะห่าง ๆ อย่างห่วง ก็เพิ่งห่างกันไม่นานมากเพราะอย่างเรื่องคุณแม่เขาเพิ่งเสีย เราก็ไปร่วมงานศพที่อุบล เราอยู่เคียงข้างเขา  ก็ให้กำลังใจเขา เราเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่ทำใจยาก เราพยายามให้เขาคิดถึงสิ่งดี...

“ปีเตอร์” ควงแฟนสาว เปิดใจเส้นทางรัก 12 ปี พร้อมคำดูถูกสารพัดไม่เหมาะสม ไล่ให้ไปทุบหน้าใหม่

ควงกันออกมาเปิดใจที่แรกสำหรับ “ปีเตอร์ ธูนสตระ” กับแฟนสาว “จอย สุจิตรา” เผยเส้นทางรักกว่า 12 ปีที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และเปิดใจถึงอาการป่วยโรคธาลัสซีเมียของแฟนสาวที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด รวมไปถึงถูกบูลลี่ว่าไม่เหมาะสม ถูกไล่ให้ไปทุบหน้า ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง One31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ ชมพู่ธัณย์สิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ไม่เคยเปิดตัวที่ไหนมาก่อน แล้วคบกันมา 12 ปีแล้ว? ปีเตอร์ : ใช่ครับผม ทำไมถึงเพิ่งมาเล่นติ๊กต๊อกอัดคลิปที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้? จอย : เล่นมานานแล้วค่ะ แต่ว่าเพิ่งมาเป็นกระแสตอนที่อยู่โรงพยาบาล คือว่าตอนนั้นไม่แต่งหน้าแล้วถ่ายรูป คนก็เลยเข้ามาถามว่าป่วยจริงมั้ย ตัดต่อภาพหรืออะไร แล้ววันนั้นเป็นวันเกิดของคุณปีเตอร์เราอยู่โรงพยาบาลแล้วไปเที่ยวที่ไหนด้วยกันไม่ได้ เขาก็เลยมาอยู่โรงพยาบาลด้วยกัน เราก็เลยเอ่อ.. แต่งหน้าถ่ายรูปสักหน่อย คือคนเขาคิดว่าเราถ่ายคนเดียวแล้วเอาพี่ปีเตอร์มาตัดต่ออยู่ข้าง ๆ ? จอย : ใช่ค่ะ เขาก็ว่าเราตัดต่ออะไรประมานนี้อะค่ะ จุดเริ่มต้นของความรักรู้จักกันได้ยังไง? ปีเตอร์ : ตอนแรกคือเขาทำงานที่ห้าง แล้วบังเอิญไปเจอเขาที่ทำงานอยู่ ก็เอ้ยน่ารักก็เลยเข้าไปคุยกัน แล้วเป็นยังไงต่อเล่าให้ฟังหน่อยครับ จอย : วิ่งหนีค่ะ (หัวเราะ) คือวันนั้นเขามาทานข้าวแต่ไม่ได้ทานร้านเรานะ ไปทานร้านตรงข้าม แล้วเขาเดินมาหาเราด้วยความที่เราพูดภาษาไม่เป็น พูดได้แค่ไทยอย่างเดียว ก็เลยหนีเดินเข้าร้าน เขาก็พยายามเรียก เราก็ส่งเจ้าของร้านออกไปคุย บอกว่าฝรั่งคนนี้เขาจะเอาอะไรไม่รู้ ให้ไปรับรองหน่อย พอเฮียเขาเดินออกมาเขาก็บอกว่าเขาอยากคุยกับจอยอ่ะ เขาจะคุยด้วย ตอนนั้นพี่ปีเตอร์พูดภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย? จอย : ภาษาไทยได้ แต่ยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ยังไม่ชัดเท่าตอนนี้ ตอนที่เดินไปในห้างแล้วเห็นผู้หญิงคนนี้ปรากฎตัวต่อหน้าเราคือแบบสเปกเลยมั้ย? ปีเตอร์ : ก็คิดว่าคนนี้น่ารัก ก็อยากคุย เพราะเราไม่ได้ไปที่นี่ประจำ ไปงานพอดีเลยอยากถือโอกาสถ้าไม่ได้คุยวันนี้ก็คงไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ มาอีก เห็นแล้วก็เลยอยากลองคุยกันดู ถ้าวันนี้ไม่ได้คุย คิดว่าจะเสียโอกาสไหม ? ปีเตอร์ : ก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ เพราะว่าโอกาสที่จะเจอและน่าสนใจก็ไม่บ่อย ก็เลยถือโอกาสคุยดู  แสดงว่าเป็นคนชอบผู้หญิงตัวเล็ก น่ารักใช่ไหม? ปีเตอร์ : ใช่ครับ น่ารัก นิสัยเรียบร้อย ไม่ก้าวร้าว  สรุปวันนั้นเขาได้สั่งข้าวไหม ?...

“เป็กกี้” ควงสามี อัปเดตหลังแต่งงาน 7 เดือน งานนี้มีน้ำตาท่วมจอ!

เปิดบ้านสุดหรูมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ของสาวเป็กกี้ ศรีธัญญา พร้อมควงสามีหนุ่ม ฐากูร มาเผยชีวิตหลังแต่งงานกว่า7 เดือน และอาการป่วยของสาวเป็กกี้ที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีหนิง ปณิตา และ ชมพู่ ธัณย์สิตาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ ตอนนี้เป็นสามี ภรรยา กันมา 7 เดือน? เป็กกี้ : ใช่ ตั้งแต่ธันวาคม  จากแฟนเป็นสามี ภรรยา มันเปลี่ยนไปไหม? ฐากูร : ก็เปลี่ยนแปลงบ้างครับ เป็นในทิศทางที่ดีขึ้น แล้วก็มีบางอย่างที่อาจจะต้องปรับแก้กัน มันก็เป็นเรื่องของชีวิตคู่ มันมีช่วงหนึ่งที่ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักหน่วง? เป็กกี้ : เขาเรียกว่าทะเลาะกันทุกไตรมาส 5 ปีครั้ง ฐากูร : คบกันมาเข้าปีที่ 10 แล้วครับ 5 ปีแรกเรียกว่าหนักเลย? เป็กกี้ : ก็มีทะเลาะกันเนื่องจากการทำงาน และความเข้าใจไม่ตรงกัน บางทีเราอยากให้การทำงานมันออกมาเป๊ะ  ทิ้งความกดดันไปที่เขา เขามีความเครียด มันขนาดนี้เลยเหรอ แล้วมีอยู่วันนึงเขาพูดมาว่า ถ้านี่ไม่ทำงานเลย อยู่เฉยๆที่รักยังจะรักนี่อยู่ไหม ก็เลยมีปัญหากัน นี่ก็เลยบอกว่า ถ้าเธอจะมีคุณค่าอะไรล่ะ คนเราก็ต้องมีคุณค่าด้านการทำงานสิทีนี้เลยทะเลาะกัน พอทะเลาะปุ๊บ เขาไปไหนมาสักที่ ระหว่างที่รอ เรารู้สึกว่ามันจะต้องเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเคลียร์กันตอนทะเลาะเขาบอกว่าไม่อยากอยู่บ้านนี้แล้ว ทุบกีต้าร์ด้วย แล้วก็อะไรหลาย ๆ อย่าง เขาสติแตก ฐากูร : ผมจำไม่ค่อยได้ แต่มีอยู่ครั้งนึงที่บ้านนี้ที่ทะเลาะกันใหญ่ๆ เลย ด้วยทัศนคติที่เขาคิดว่าเงินสำคัญมากที่สุดในชีวิตแล้ว ผมมองว่าความสุขสำคัญกว่า เงินเอามาซื้อของได้ก็จริง แต่สุดท้ายถ้าร่างกายเรามันไม่ดี เราก็จะเป็นโรคภัยเงินจะเอามาใช้อะไร แล้ววันนั้นมันจบยังไง? เป็กกี้ : จบด้วยการแยกกันสักพักแล้วกลับมาเคลียร์กัน ค่อย ๆ คุยกันด้วยความซอฟลง ฐากูร : ก็จบลงด้วย ต่อไปนี้ผมมุ่งหน้าทำงานให้ดี ให้มากขึ้น แล้วล่าสุดที่บอกว่าคุณเป็กกี้งอนหนักมาก แล้วเป็นปัญหาใหญ่? เป็กกี้ : อันนี้เรียกว่าสงครามเย็น ต้องอธิบายอย่างนี้ ตั้งแต่ 10 ปีที่คบกันคุณฐาทำงานกับเป็กตลอด แล้วก็เขาตั้งใจทำหน้าที่ของเขาอย่างดี แล้วมีอยู่วันนึงหลังแต่งงานแล้ว บ้านเสร็จแล้ว เขารู้สึกว่าทุกอย่างมันลงตัวแล้วมั้ง เขาก็เลยไปค้นพบงานอดิเรกอย่างนึง นั่นคือ ฐากูร : ปั่นจักรยาน ที่เรารู้สึกว่าชอบ แล้วเราแบบมีความสุข จริงๆ ตอนแรกไปปั่นจักรยานด้วยกัน แต่ว่าด้วยแดดด้วยอะไร เขาเหมือนว่าไม่ชอบ เป็กกี้ : เป็กเป็นอย่างนี้เวลาเขาไปทำกิจกรรมอะไร โอเคชีวิตคู่เรามีกันอยู่ 2 คน เราก็ไปทำด้วยกัน มันจะได้เป็นกิจกรรมคู่ ก็พยายามไปในทุกๆ กิจกรรมที่เขาอยากไป กิจกรรมจักรยานก็เคยไปกับเขามา ตอนนั้นไม่ชอบหรอก แต่ยินดีที่จะไป ทีนี้พอไปเขารู้สึกว่าการปั่นตรงนี้ไม่พอ อยากลงถนน เขาก็ชวนไปปั่นที่พัทยา เขาบอกว่าแดดไม่แรง ออก8 โมงถึง 11 โมง แล้วเรารู้สึกว่าการปั่น 1.แดดด้วย เครียดกลัวหน้าพังด้วยผู้หญิงอะ แล้วอีกประเด็นเวลารองเท้าติดเวลาเราปั่นแล้วเราหมดแรง ขึ้นเนินมันไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มันไม่สามารถสลัดคีดให้หลุดได้ เราก็บอกว่าพี่ฐาช่วยด้วย 1-2 รอบแรกเขาก็ช่วยอยู่ แต่พอรอบที่3 ตอนเขามาช่วยเป็กเห็นสีหน้าเขามันมีความรู้สึกว่า เขาอยากสนุกของเขาแล้วเราเป็นภาระ ไม่รู้จริงไหมนะ แต่ว่าในสายตาเลยรู้สึกว่าไม่ใช่เวของเรามาแล้วเป็นภาระ กลับมากรุงเทพเป็กขายจักรยานทิ้งเลย...

“เจนนี่ รัชนก” น้ำตาคลอ ได้ยินครอบครัวสามี  “ยิว ฉัตรมงคล” พูดถึง ลูกสะใภ้

คู่รักน้อยร้อยดราม่า อย่าง เจนนี่ รัชนก หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น กับคุณสามีสุดหล่อ ยิว ฉัตรมงคล พร้อมเคลียร์ใจมีปัญหาแม่ผัว ลูกสะใภ้ จริงไหม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และชมพู่ ธัณย์สิตา  เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ข่าวดีมีลูกคนที่2 คนอื่นถือฤกษ์เวลาจะบอก ส่วนนี่ติดปุ๊บ ประกาศปั๊บ? เจนนี่ : ใช่ แฟนคลับถามทุกเดือน เราก็อยากบอกเขา เราท้องแล้วนะ เห็นว่าวันที่รู้ว่าท้อง ไปบอกยิวมือสั่นเลย? เจนนี่ : เรารู้สึกแปลก ๆ เลยแอบตรวจ เผื่อไม่ใช่ เขาจะได้ไม่ผิดหวังเยอะ แล้วคำแรกยิวพูดว่าท้องเหรอ เราแบบ อ้าว รู้ได้ไง ยิว : ผมเหมือนผมฝันว่ามีใครสักคนมาบอกได้ลูกชายอะไรอย่างนี้  เจนนี่ : หนูว่าน่าจะประมาณ 2 เดือน ยังไม่มีอาการแพ้ท้องเลย ส่วนท้องแรกแพ้เดือนที่4 แพ้เดือนเดียว แอบข้ามหลังผัว ผัวก็แพ้ต่อ ตอนแรกหนูก็ไม่เชื่อ ตอนนั้นหนูแพ้ท้องหนัก เขาหลับอยู่หนูเลยลองทำดู  ยิว : ปกติผมนั่งรถไม่อ้วก แต่ตอนนั้นจะอ้วก ๆ เจนนี่ : เนอะ อยากกินแต่ส้ม ส้มตำ ยิว : น้ำลายเหนียวเต็มปาก เจนนี่ : แต่หนูเพิ่งมาบอกเขาตอนคลอดลูกแล้วว่าแอบข้าม ยิว : ผมรู้สึกว่ามันดีนะถ้ามันส่งกันได้ เราจะได้แบ่งเบาเขา  เวลาเรามีภารกิจ มีลูกต้องดูแล ส่งสัญญาณกันไหม? เจนนี่ : ก็บอกว่าไปอาบน้ำ อาบนานๆ หอมๆ นะ เราก็รู้ตัวเริ่มเลือกชุด เราจะรู้ว่าถ้าวันนี้เรามีภาระกิจเราต้องเซ็กซี่นิดนึง มีชุดอะไรบ้าง? เจนนี่ : เรื่องชุดเมื่อก่อนหนูไม่เคยใส่เลย แต่เขาเป็นคนเริ่มซื้อให้เราก่อน ตอนคบกันใหม่ ๆ แล้วเรารู้สึกว่าพอใส่แล้วมันเป็นความสุขดีนะของชีวิตคู่ มันก็มีความแปลกใหม่  ก็มีการสั่งเรื่อย...

“โยเกิร์ต” เคลียร์ประเด็น หวังฮุบสมบัติ สามี  พร้อมเล่าเหตุการณ์โกรธกันข้ามทวีป!

พิธีกรตัวพ่อของประเทศไทย พีเค ปิยะวัฒน์ ที่วันนี้ควงภรรยาคนสวย โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ ขอมาเคลียร์ดราม่าหวังฮุบเงินสามี หลังมีข่าวหนุ่มพีเคโอนสมบัติเป็นชื่อภรรยาทั้งหมดเลย พร้อมเล่าเหตุการณ์โกรธกันข้ามทวีป ไม่คุยกันนานเกือบอาทิตย์ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ คู่นี้คบกันมา 11 ปี? โยเกิร์ต : ค่ะ เข้าสู่ปีที่ 11  เมื่อเช้าคุณโยเกิร์ตโพสต์ภาพรถ แต่แคปชั่นมีนัยยะ ใครที่รอรถคันนี้รอนานหน่อยนะ เพราะคุณเขายกคันนี้โอนเป็นชื่อภรรยาเรียบร้อยแล้ว? โยเกิร์ต : คือคิวยาวมาก อย่างที่รู้กัน พี่พีเคชอบเปลี่ยนรถ เขาจะใช้คันนึง 6 เดือนบ้าง 1 ปีบ้าง ซึ่งคนรู้หมด สิ่งที่พวกเราตีความกันคือใครรอต่อคันนี้ รอนานหน่อย เพราะคุณเขายกให้เราแล้ว ก็ตีความไปว่าบ้านนี้เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า มีสาวๆ ที่ไหนหรือเปล่า? พีเค : ไม่ใช่ ใครที่รอต่อคันนี้ ถ้าคนที่เล่นรถจะรู้ว่ารถคันนี้มันกำลังฮอตมาก แล้วใครซื้อมือ2 มาราคามันก็ขึ้น กำไรตอนนี้ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์แล้ว แล้วมันเป็นรถที่หายาก เอาที่น้องๆ ในกลุ่มซุปเปอร์คาร์ เขาบอกเลยว่าถ้าจะขายเมื่อไหร่บอกเลย คือถ้าพี่ลงขายคันนี้ 5 นาทีไปเลย แล้วทำไมโอนรถให้ภรรยา? โยเกิร์ต : ภรรยาสั่งค่ะ พีเค : คันนี้พี่ซื้อมาในช่วงโควิด แล้วพี่ก็ผ่อนมาทุกเดือน จนเดือนที่แล้วเป็นงวดสุดท้าย แล้วพี่ก็ลงว่า ในที่สุดก็ผ่อนหมดแล้ว จากนี้ไปเราจะเป็นไทย เราจะมีอิสระทางการเงินแล้ว เพราะบางเดือนก็ขาด ต้องยืมเงินบริษัทมาช่วยจ่ายเพราะมันสูง แต่ตอนนี้หมดแล้ว พอโอนหมดแล้วปั๊บ คุณภรรยาเขาบอกว่า ถ้างั้นต้องเปลี่ยนชื่อเจ้าของแล้วนะ เปลี่ยนเป็นชื่อเขาแล้วกัน ความรู้สึกพี่เป็นยังไง ต้องเซ็นชื่อแล้วโอนให้ภรรยา? พีเค : ดีใจที่สุดแล้ว โยเกิร์ต : ดีใจจนน้ำตาไหลเลย  พีเค : คือจะบอกว่ารถคันนี้เราสองคนชอบมาก เราตั้งชื่อว่า โมก้า มันย่อมาจากชื่อหมาเราสองตัว แล้วคันนี้เวลาเราไปไหน เราพาหมา 2 ตัวนั่งข้างหลังได้ แค่นั้นเอง ณ ตอนนี้พี่เข้าใจวัตถุประสงค์หรือยังที่โยให้โอนรถเป็นชื่อโย? โยเกิร์ต : อย่างที่โยบอก พี่พีเคชอบเปลี่ยนรถมาก อย่างที่บอกกันว่าชอบคันนี้มากเป็นแฟมิลี่ คาร์ โยชอบคันนี้มากขอแล้วกัน ไม่ให้ขาย เก็บไว้เป็นแฟมิลี่คาร์ แล้ววิธีเดียวที่จะเก็บรถคันนี้ได้ดีที่สุด ต้องเป็นชื่อโย  พีเค : ยังไงมันเป็นรถของเราอยู่แล้ว แต่ตอนแรกพี่เล็งไว้ว่าพอผ่อนหมดปั๊บ สักปลายปี ถ้าเป็นชื่อพี่ พี่ก็ขายได้เงินก้อนนึง ซุปเปอร์คาร์อีกคันก็เป็นชื่อพี่ พอขายก็ได้เงินอีกก้อน ผสมกันก็ได้ซุปเปอร์คาร์ที่ใหญ่ขึ้น แต่พอคันนี้เปลี่ยนชื่อเป็นของเขาแล้ว เขาใช้อยู่ตอนนี้ และรถที่เขาใช้อยู่พี่ขายได้ โยเกิร์ต : ก็บอกเขาว่าถ้าจะขาย ขายรถคันเก่าโยได้ แต่ยังไม่สรุป อยากรู้ความรู้สึกจริงของพี่ แล้วเขาบอกว่าคันนี้ยังไม่ขาย พีเค : ตอนแรกไม่เข้าใจ ตอนแรกเสียดาย เพราะเรามีซุปเปอร์คาร์คันใหม่เล็งอยู่ในหัวแล้วว่า พอขาย 2 คันนี้ เงินเท่ากับซื้อคันนั้นได้เลย ไม่ต้องไปกู้ไปผ่อนอะไรอีก แต่พอเขาอธิบายว่านี่คือรถครอบครัวนะ หมา 2 ตัวนั่งได้นะ แล้วเราไปไหนด้วยกันก็ได้ แต่สุดท้ายก็รักเขา เขาอยากได้อะไรก็ให้เขาไปเถอะ...

“แพรรี่ – ฟอร์ด” เล่าโมเมนต์ความรักสุดแฮปปี้ แต่คอมเมนต์จากชาวเน็ตเกือบทำให้เลิกกัน?!

เปิดโลกคนคลั่งรัก แพรรี่ ไพรวัลย์ กับแฟนเด็ก ฟอร์ด  ปกรณ์ศักดิ์ เผยข้อดีมีแฟนเด็กชีวิตสดใส พร้อมฟาดกลับชาวเน็ตโดนเด็กหลอกแน่ๆ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ระยะเวลาผ่านไป 5 เดือนแล้ว ความรักแฮปปี้? แพรรี่ : ดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจะดีขึ้นมากกว่านี้อีก ยิ่งรักกันงานยิ่งแน่น? ฟอร์ด : นิดนึงครับ แพรรี่ : อย่างที่พูดตอนแรกชัดเจนเลยว่า รักครั้งนี้ไม่เปย์เงิน แต่เปย์งาน คบกับเขาก็อยากให้เขามาเรียนรู้ ถ้าเป็นแฟนเรา เราเป็นอินฟู เราทำงาน เขาก็ควรจะต้องมาทำงานกับเรา แล้วมาดูว่าเราแต่ละวันกว่าจะทำงานมันไม่ใช่ง่าย ๆ นะ หลายอย่างที่เราทำต้องเรียนรู้ ฟอร์ดตั้งแต่มาคบพี่แพรรี่เรางานแน่นแทบทุกวันไหม? ฟอร์ด : ช่วงนี้ไม่ค่อยแล้วครับ เพราะว่าผมไปเรียนด้วย แต่ช่วงปิดเทอมมาบ่อยมากเลยครับ 5 เดือนโกยไปเท่าไหร่แล้ว? แพรรี่ : ก็เยอะอยู่เหมือนกัน แต่เราก็สกรีนนะคะไม่ใช่ว่าเรารับทุกงานไปเรื่อยเปื่อย ทั้งสองคนคลั่งรักหนักมาก? แพรรี่ : เวลาเราไลฟ์ fc ชอบหยอกล้อ โดยเฉพาะน้องฟอร์ด ช่วงแรก ๆ fc ก็อยากรู้ว่ารักเราจริงไหม หรือว่าเป็นแฟนกันจริงหรือเปล่า ไหนหอมแก้มให้ดูหน่อย เดี๋ยวจะช่วยซื้อทุเรียน ช่วยซื้อน้ำพริก แล้วถ้าไม่ออกอากาศคลั่งรักกันขนาดไหน? แพรรี่ : เอาจริงหนูเป็นคนแสดงความรู้สึกตลอดถ้าเวลาอยู่กับเขา เพราะว่าเรายังอยู่คนละที่คนละทาง น้องเขายังเรียนอาทิตย์นึงมาหาเราครั้งนึง มันยังรู้สึกว่าอยากแสดงออกให้เห็นว่าความห่างกันมันไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ารักน้อยลงหรือว่าตอนนี้เบื่อแล้วนะ หมดคอนเทนต์แล้วหรือว่าอะไรเหมือนที่คนอื่นเขามอง ไม่ใช่ ช่างมันหนูก็บอกรักทุกวัน ฟอร์ด : เขาจะโทรไปทุกวัน สม่ำเสมอตั้งแต่ต้นจนจบเลย เขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย โทรไปตลอด เขารักเธอนะแล้วก็ไม่รักน้อยลงเลย ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ช่าง เขารักเธอ ความแซ่บทั้งสองฝั่ง?...

“มิน พีชญา”เปิดเส้นทางความรักหนุ่มนอกวงการเผยเหตุไม่เปิดหน้า ไขข้อสงสัยไม่รับละคร 2 ปี”

มิน พีชญา เปิดใจครั้งแรกกับเส้นทางความรักหนุ่มนอกวงการร่วม 2 ปี พร้อมไขข้อสงสัยทำไมไม่ยอมเปิดหน้าซักที เล่าโมเม้นท์จากเพื่อนกลายมาเป็นคนรู้ใจ เคลียร์ประเด็นเหตุไม่รับงานละครกว่า 2 ปี เพราะอะไร ? ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์และชมพู ธัณย์สิตา เป็นพิธีกร มีละครติดต่อมามากกว่า 100 เรื่อง ปฎิเสธหมดเลย ? มิน : เว่อร์มาก...

“ธัญญ่า อาร์สยาม” มีเขิน! “แฟนหนุ่มชาวลาว” เอ่ยปากขอแต่งงาน แพลนอายุ 29 เตรียมสร้างครอบครัว

โนสน โนแคร์ ไม่ว่าใครจะมองว่าจีบผู้ชายก่อน แต่สำหรับ “ธัญญ่า อาร์สยาม” ที่ควง “อาร์โล่ เวียงแก้ว” แฟนหนุ่มชาวลาว ออกมาเปิดใจในรายการ “คุยแซ่บShow ช่องOne31”ที่มี ชมพู่ ธัณย์สิตา และ พีเค ปิยะวัฒน์ เป็นพิธีกร พร้อมเล่าที่ไปที่มาว่าแอบมองหนุ่มคนนี้ตั้งแต่ 3 ทุ่มยันเที่ยงคืน พร้อมยืนยันว่าในเมื่อเราชอบเขา และเขาก็ตรงสเปกทุกอย่าง แม้คนมองว่ามูฟออนจากรักเก่าเร็ว แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่อยากจะเสียเวลา วางแพลนอายุ 29 ปีเตรียมพร้อมมีครอบครัว ด้าน “อาร์โล่” มีเขินออกรายการครั้งแรก เผยว่าชอบในรอยยิ้มและความน่ารักของนักร้องสาว พร้อมเล่าเหตุการณ์พิสูจน์ใจว่านี่แหละแฟนผม ธัญญ่า : รู้จักกันมา 8 เดือนที่คบกัน นับได้ 6 เดือน  เพราะ 2 เดือนแรกวิดีโอคอลคุยกัน เพราะเริ่มจากที่รู้จักกัน ก็เพราะพี่ลาล่า มีเพื่อนจะทำธุรกิจ เขาเลยชวนไปเที่ยวที่ลาวไหม และตอนกลางคืนก็มีปาร์ตี้ในบ้าน ที่เป็นญาติของอาร์โล่ มีโต๊ะจีน 30-40 โต๊ะ หนูก็ขึ้นร้องเพลง เพราะมันมีเวที และคุณลาล่าเขาก็สนุกไปแล้ว เราเหงา ๆ เราไปสะดุดตาผู้ชายคนนึง ทำไมหล่อจัง  อาร์โล่ : ตอนที่เขาขึ้นร้องบนเวที เรายังไม่เห็น เพราะเราสายตาสั้น ได้ยินแต่เสียง ก็คิดว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ร้องเพลงเพราะจัง เรามาเห็นเขาตอนที่เจ้าของงานจะพาไปแนะนำกับเขา  ธัญญ่า : หนูมองเขาตั้งแต่ 3 ทุ่ม จนถึงเที่ยงคืน และเราก็พูดเล่น ๆ ไปกับเจ้าของงาน ว่ามีใครแนะนำไหม หนูโสดนะและเที่ยงคืน เขาไปดึงอาร์โล่มา เขาก็แนะนำว่าอาร์โล่โสด รู้จักกันไว้ ในใจคิดว่าเรามีความหวังไหม? ธัญญ่า : ไม่มีความหวัง เรามาจากต่างที่ เราต้องคีฟลุคนิดนึง และในคลิปที่เขาให้ดอกไม้ คือเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเราแลกเฟซ มีคุยกันก่อนจะเกิดคลิปนี้ เพราะพี่ลาล่านางจะถ่ายคลิปกับผู้ชายที่เข้ามาใกล้ และก็โพสต์ แต่คลิปนี้มีคนดูเยอะสุด อาร์โล่ : เขินนะคับ เพราะมีคนมองอยู่เยอะ แต่เวลามองใกล้ ๆ เขาสวยมาก เวลายิ้มมีเสน่ห์ น่ารัก ฟันสวย  ธัญญ่า : ที่เราแอบมองเพราะหนูเป็นคนชอบคนขาว มีแก้ม พอเห็นปุ๊บ พอเขาดึงมาให้เรารู้จัก มันคือคนเดียวกันกับที่หนูมองตอนแรก ยิ่งเขินไปอีก หนูหน้าแดง และตอนถึงที่พัก เราก็ติดต่อกันไม่ได้ เพราะเขาเล่นวอชแอฟ เราเล่นไลน์สุดท้ายก็วิดีโอคอลผ่านเฟซ เราก็เลยโทรหาเขาก่อน (ยิ้ม) ตอนนั้นคือชอบด้วย วิดีโอคอลหน้าสด หนูก็บอกเขาไปเลยว่าถ้าจะมาคุยเล่น ๆ ไม่ต้องนะ เพราะหนูอายุ 26 แล้ว หนูอยากจริงจัง โตแล้ว อยากสร้างครอบครัว แต่ก็เมด้วย(หัวเราะ) อาร์โล่ : ก็ตกใจ ซึ่งเรารู้จักกันมานานแล้ว แต่เพิ่งมาคุยกัน แต่ก็โอเคกับการที่เขาพูดตรง ๆ แต่ถามว่าเราก็ยังไม่พร้อม ธัญญ่า : หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราพูดเรื่องครอบครัวบ่อยจัง จริงๆ พื้นฐานครอบครัวไม่เท่ากัน เราสองคนมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ พอเรามาเจอกัน เราอยากสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์ หนูฝันว่าอยากแต่ง 29 ปี เราแค่แพลนชีวิต ...

“โบว์ เบญจวรรณ” พูดแบบนี้หลังอดีตแฟนหนุ่ม บอกยังรักแต่เป็นเพื่อนกันดีกว่า!!

เปิดใจ โบว์ เบญจวรรณ หลังเจอมรสุมรักพังแบบไม่ทันตั้งตัวกับพระเอกชื่อดัง ไม่รู้ว่าตอนนี้สาวโบว์มูฟออนได้หรือยังพร้อมเผยเหตุผลทำไมตัดสินใจไปฝากไข่ หรือว่ามีหนุ่มใหม่มาดามใจเรียบร้อยแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow  ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ วันนี้เป็นยังไงบ้าง? โบว์ : วันนี้โอเคนะ แฮปปี้ จริง ๆ แล้วโบว์พยายามที่จะแฮปปี้ในทุก ๆ วัน มันมีหลายอย่างที่โบว์สามารถมีความสุขกับมันได้ พยายามจะไม่ไปจมปลักกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานเกินไป เหมือนเรามีเรื่องถาโถมเข้ามาในเวลาเดียวกันเลย? โบว์ : มีอยู่แล้ว โบว์ว่ามันมีคำถามเยอะแหละในตัวเอง เพราะว่ามันมีการตั้งคำถามกับตัวเอง มีการตั้งคำถามกับสถานการณ์ แล้วมันมีความสงสัยเกิดขึ้น สับสน มันหลากหลายอารมณ์มาก ๆ ณ ตอนนั้นที่เราเองต้องจัดการ แล้วมันมาแบบเร็ว ๆ ทั้งหมด โบว์ว่ามันเป็นเรื่องปกติของทุกคนแหละ ที่เราเจอสถานการณ์อะไรที่มันช็อกหน่อย ๆ มันจะยังไม่รู้ว่ามันจะต้องทำยังไงให้ตัวเองเข้าใจ และออกจากสถานการณ์นั้น ๆ ได้ ของโบว์ อันดับแรก โบว์ต้องยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว แล้วโบว์ต้องมีการจัดการกับมันให้ได้และให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันใช้เวลาอยู่แล้ว แต่ว่าระยะเวลาของแต่ละคนมันต่างกันกับการที่เราจะจัดการกับความรู้สึก แล้ววิธีการมันก็ต่างกัน มีหลายคนเข้ามาแนะนำ โบว์เข้าใจทุกคนอยากใหโบว์ดีขึ้น แต่บางทีด้วยวิธีการจัดการของคนอื่นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์สำหรับโบว์ ณ จุด ๆ นี้ สมัยก่อนอาจจะใช่ แต่ ณ ตอนนี้วิธีแบบเดิม ๆ มันอาจไม่ได้ทำให้เราดีขึ้น เร็วขึ้น เพราะฉะนั้นวิธีที่โบว์ค้นพบกับตัวเอง แน่นอนโบว์เป็นคนทำสมาธิอยู่แล้ว เอาตรงน้้ามาใช้แบบเต็มที่ แล้วแต่ละวันมีการจดบันทึกอยู่แล้วว่าอยากขอบคุณอะไร โบว์เลยเปลี่ยนไดอารี่นั้นเป็นการจดถึงอารมณ์ตัวเอง แต่ละวันที่่เรารู้สึก เพราะโบว์ไม่ยากไปโทรหาเพื่อนว่าวันนี้เป็นอารมณ์ แบบนี้ ไม่รู้ว่าเองเจออะไรอะไรอยู่บ้าง โบว์เห็นการพัฒนาของอารมณ์ตัวเอง ช่วงแรก ๆ อึ้งกับความรู้สึกที่มันแปลกเราจะรับมือกับมันยังไง ผ่านไปก็แบบวันนี้ดีขึ้น มันไม่ใช่ทุกเช้าที่ตื่นมาแล้วเราจะนอยด์ แล้วไม่ใช่ทุกเช้าที่ตื่นมาแล้วเราจะแฮปปี้ แต่ละวันมันจะไม่เหมือนกัน ทุกชั่วโมงมันเปลี่ยนแปลงหมดเลย บางทีเราตื่นมาโอเค แต่มานอยด์ตอนเย็นแทน อย่างเช้านี้เป็นยังไง? โบว์ : ดีค่ะ เขียนไปเลยวันนี้เป็นวันที่ดี วันนี้ตื่นมาขอบคุณทุกสิ่ง ทุกอย่างที่โบว์มี แล้วอารมณ์วันนี้โบว์รู้สึกว่าคงที่ขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่าตลอดเวลา 2 เดือนที่เป็นโสด 100% จะเขียนไดอารี่ตลอดเวลา? โบว์ : เขียนตลอด เขียนเพิ่มขึ้น...

หวาย ปัญญ์ธิษา เล่านาทีชีวิต หัวใจเต้นผิดจังหวะขณะถ่ายรายการ ในใจคิดว่าไม่รอดแล้ว

นักร้องสาว หวาย ปัญญ์ธิษา หวิดเอาชีวิตไม่รอด หัวใจเต้นผิดจังหวะ ขณะถ่ายงาน ต้องแอดมิทด่วน รับชีวิตรวนกลัวไปหมด ไม่กล้าทำกิจกรรมที่เคยทำ แม้กระทั่งนอนก็ไม่กล้า อีกทั้งยังอัปเดตสภาพจิตใจหลังเลิกแฟนหนุ่มคนล่าสุดพร้อมควงคุณแม่หน่อง มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีเป็กกี้ ศรีธัญญา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ น้องหวายไปถ่ายรายการ แต่อยู่ดี ๆ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดอะไรขึ้น? หวาย : วันนั้นมีอาการเหมือนชาไปหมดตั้งแต่คอลงไปเลย แล้วก่อนหน้าวันนั้นระยะหนึ่งทุกเช้า หนูตื่นบอกคุณแม่ว่าทำไมหัวใจมันเต้นเร็วผิดปกติ เรารู้สึกแปลกๆ เพราะเพิ่งตื่นด้วย แต่ว่าเราเป็นโรคแพนิคอยู่แล้ว ก็เลยบอกตัวเองว่าอาจจะแพนิคหรือเปล่า คิดไปเองหรือเปล่า พยายามกล่อมตัวเองตลอด วันนั้นที่ไปทำงาน เราก็พยายามปลอบตัวเองเหมือนเดิมเวลาเราหายใจไม่ออก หรือเริ่มหายใจเร็ว ทำไมมันแน่นหน้าอก ก็บอกตัวเองว่าอย่าคิดมากนะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป เรากำลังจะแพนิคนั่นแหละ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ใช่ ตอนนั้นร่างกายตอบสนองเรายังไง? หวาย : ตอนแรกเหมือนจะทำงานต่อได้ แต่ว่าสักพักหายใจไม่ออก เท้าชา มือช้า ปกติถ้า เท้าชา มือชา จริง แต่ว่าอันนี้มันแน่นหน้าอก มันชามาถึงคอแล้วก็หู ซึ่งมันทำอะไรไม่ได้เลย ปกติหนูจะรู้ตัวว่าเกร็งเท้านะ หรือมือเรากำลังเกร็งอยู่นะ แต่อันนี้ไม่รู้สึกแล้ว  แม่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย? แม่หน่อง : อยู่ค่ะ ตอนนั้นคิดในใจว่าจะยังไงดี แต่ก็ลุ้นว่าเดี๋ยวก็ดีขึ้น ก็คิดว่าเป็นอะไร ก่อนหน้านี้คิดว่าจะเป็นลมก็ไม่ใช่ เพราะวันนั้นอากาศไม่ได้ร้อน ก็เดินชิวๆ ดูนู้น ดูนี่ คุยสนุกสนาน แล้วมันก็เกิดขึ้น เราเลยงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทีนี้ทำยังไง? หวาย : แม่ลุ้น ทุกคนพยายามช่วย แม่หน่อง : ตอนนั้นให้นอนแล้ว ค่อย ๆ จับตัว พอดีมีนักท่องเที่ยวเข้ามา เราก็ถามว่ายูเป็นหมอเหรอ เขาบอกว่าไม่ใช่แต่เขาเคยปฐมพยาบาล เขาบอกให้ถอดรองเท้า แล้วเขาเข้ามาบีบนวด เขาคงรู้ว่าเส้นเลือดอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วเขาช่วยอยู่อย่างนั้นหลายนาทีเลย หวาย : หนูรู้สึกว่ามันนานมาก ตอนแรกหนูคิดว่าหนูจะตายจริง ๆ หันไปบอกแม่ คิดว่าสโตรกแน่ เหมือนหนูจมน้ำ คำพูดของหวายบอกกับแม่ว่ากำลังจะตาย มันไม่ธรรมดาแล้ว? แม่หน่อง : แม่สายชิล ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แต่หวายก็ดึงตัวแม่มากอด  หวาย : ใช่ หนูคิดว่าหนูจะตาย แม่หน่อง : เราก็ดูก่อนว่าจะเรียกรถหรือยังไง หวาย : หนูเองด้วยอยากให้นางพยาบาลมา ไม่กล้าขยับตัวเองด้วย คิดว่าจะไป ณ ตอนนั้นทำไมไม่เรียกรถพยาบาล?...