คุยแซ่บShow

เมาท์แซ่ด “ยุ้ย จีรนันท์” ออกจากวงการบันเทิง ผันตัวเป็นแม่ค้าออนไลน์ รายได้ 7 หลักต่อวัน?

นางเอกตลอดกาลอย่างยุ้ย จีรนันท์ ที่วันนี้จะขอมาเคลียร์ทุกเรื่องกับข่างเม้าท์ที่ว่าเลิกรับงานละครแล้ว และออกจากวงการบันเทิง ผันไปตัวไปเป็นแม่ค้าออนไลน์ ขายของในไลฟ์สด เพราะรายได้ปังกว่ามาก แถมยังโดนคอมเมนท์เป็นนางเอกแต่มาแย่งอาชีพแม่ค้า ซึ่งพอมาเป็นแม่ค้าก็โดนเพจปลอมหลอกขายของลูกค้าและเจอสลิปโอนเงินปลอม เคลียร์ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี บูม สุภาพร และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ จะเลิกรับละครแล้ว? ยุ้ย : หลายคนตกใจคิดว่าจะลาออกจากวงการแล้ว จริงๆยังไม่ได้ลาออกตอนนี้ขอเบรคแปปนึง...

“ฌาร์ม โอสถานนท์” ลั่นเข็ดกับการแต่งงาน รับมีหนุ่ม ๆ จีบ เพราะโสดมาหลายปี

นางงามสาว ฌาร์ม โอสถานนท์ ที่งานนี้ถึงขั้นเอ่ยว่าตอนนี้ยังเข็ดไม่อยากแต่งงานแล้ว เพราะโสดมาแล้วหลายปีมีความสุขกับตัวเอง ไม่ปิดใจ แต่ก็ไม่ได้เปิด แถมงานนี้ยังมีหนุ่มๆมาจีบเพียบทั้งไทยทั้งเทศ เผยตอนนี้สเปคไม่สำคัญแล้ว พร้อมเล่าปาฎิหาริย์ของานละครกับพญานาค ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ โสดมา 4-5 ปีแล้ว? ฌาร์ม : รู้สึกว่าตอนนี้มีความสุขอยู่แบบนี้ เหมือนได้อยู่กับตัวเอง ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ปิดกั้น แต่ว่าไม่ได้เปิดใจ เราไม่ได้รีบร้อน เราไม่ใช่เด็กแล้ว เราเคยผ่านเรื่องราวความรัก  รู้สึกว่าถ้าอยู่กับตัวเองมีความสุขได้เหมือนกัน มีคนจีบมั้ย? ฌาร์ม : หรือพอจะเข้ามาปุ๊ปเราก็ถอย ถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่เราไม่อยากที่จะทำให้เค้าเสียเวลา ถอยมาก่อนเลย คนที่เข้ามาก็มีฝรั่ง 70% คนไทยที่ทักมาในวงการหรือนอกวงการ? ฌาร์ม : นอกวงการ ส่วนใหญนักธุรกิจ อายุมากว่า อายุมากกว่าสเปคเรามั้ย? ฌาร์ม : ชอบผู้ใหญ่ หลังจากที่โตขึ้นมาแล้ว ตอนเด็กๆจะมีสเปคของเราที่วางไว้ ชอบคนผิวเข้ม จะมีสิ่งที่เราต้องการตั้งแต่สมัยเด็ก คิดว่านี่แหละมันเป็นอุปสรรคที่ทำให้เราเจอความรักที่ดีได้ เพราะว่าการที่เรามีสเปค เรามองภาพว่าจะต้องดีวิมานในอากาศของเรา นี่คือสิ่งที่เราต้องการ แต่ว่าถ้ามีกคนเข้ามาในชีวิตแล้วเค้าไม่ได้ตรงสเปค แต่เค้ามีความเป็นไปได้ที่เป็นคนดีและเหมาะกับเรามาก แต่เราไม่มองเค้า มันคือการที่เราปิดกั้นโกาสที่เราจะได้เจอคนดีๆคนนึงเพียงแค่คำว่าเค้าไม่ตรงสเปคเรา คิดว่าอะไรที่ทำให้คนไม่กล้าเข้าหาเรา? ฌาร์ม : ไม่รู้อ่า ก็นั่งรออยู่เนี่ย ไม่ปิดกั้น แต่จะมีความกลัวอยู่นิดนึง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะบอกตัวเองว่าให้ตัดสเปคไป? ฌาร์ม : เราจะบอก แต่ว่าเราคงไม่เชื่อ เพราะว่าเราก็ต้องลองผิดลองถูกก่อน อยากเจอด้วยตัวเอง เจ็บเอง เรียนรู้ไปตอนนี้พร้อมเปิดโอกาสเลยไม่ต้องผู้ใหญ่ก็ได้ เด็กก็ได้ เรียกว่าไม่ประสบความสำเร็จในความรักได้มั้ย? ฌาร์ม : ได้ค่ะ เวลาที่อยู่ไหนเราพูดถึงคนของเราแล้วมีความสุขที่เล่าให้คนอื่นฟัง เราอยากได้แบบนี้ เมื่อก่อนแล้วโดยรวมมันจะไม่มีความรู้สึกเป็นธรรมชาติแบบนี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากการที่เรารักตัวเอง เราถึงจะส่งต่อความรักนั้นให้คนอื่นได้ รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง? ฌาร์ม : ตอนนี้ยังไม่ได้รักใครก็โสดมานาน ตอนนี้รักตัวเองอยู่ สมัยก่อไม่ใช่แค่ความรัก เรียกว่าเอาใจดีกว่า ฌาร์มเป็นคนสุดโต่งเราจะทำเต็มที่ จนลืมไปว่าบางครั้งมันไม่ใช่ตัวเอง เราปรุงแต่งสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่เพื่อให้เค้ามีความสุข  แต่เวลาเห็นเค้ามีความสุขเราก็มีความสุขด้วย แต่เวลาที่เกิดปัญหาอะไรขึ้นมาความอดทนของเรามันจะมีขีดที่น้อยกว่า ถ้าเราเป็นตัวของตัวเองแฮปปี้ไปเลยมันสามารถที่จะทนได้ยาวกว่าหรือปล่าว อันนี้ที่คิดนะ รักและสายเปย์? ฌาร์ม : เรียกว่าเอาใจ ในชีวิตก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยจ่าย อย่างเค้าใส่แว่นสวย เค้าไม่ได้อยากได้ด้วย แต่เราวกกลับไปละซื้อ...

เอ็กซ์ ธิตินันท์ ควงภรรยา อิ๋ว ประกาศขายโรงแรม 35 ล้าน ถูกเม้าท์หมดตัว ขายสมบัติกิน

ดาวร้ายตัวพ่อเอ็กซ์ ธิตินันท์ ควงภรรยา อิ๋ว กิติยา นักธุรกิจและเจ้าของโรงแรมที่กาญจนบุรี มาเผยถึงสาเหตุที่ต้องขายโรงแรม ราคา 35 ล้านบาท จนถูกเม้าท์ว่าหมดตัวต้องขายสมบัติกิน พร้อมเรื่องที่หวิดตายเพราะปาร์ตี้หนักและวีรกรรมเจ้าชู้ที่จับได้คาหนังคาเขา ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องOne31 ที่มีพีเคปิยะวัฒน์ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ กลัวคนรู้ว่ามีเมีย? เอ็กซ์ : เลิกกลัวตั้งแต่มีลูกคนแรกแล้ว ลูก 7 ขวบแล้ว ประกาศขายโรงแรมที่กาญจนบุรี? อิ๋ว : นิดหน่อยค่ะ 30 กว่า ๆ ล้าน มันเหมือนรักแท้ดูแลไม่ได้ อันนี้เป็นของรักจริงๆ สร้างมาตั้งแต่พื้นที่ยังไม่มีอะไร อิ๋วเป็นคนตัดสินใจขาย ถ้าน้องไปอยู่กับคนที่มีความสามารถมากกว่าเราในด้านการบริหาร การขาย ทำให้น้องดีขึ้นก็จะดีกว่าเรา อิ๋วทำหลายอย่างไม่ค่อยมีเวลา เดือนนึงเข้าไปดูนับครั้งได้ ส่วนใหญ่ดูผ่านกล้อง การดูแลให้สวยและพร้อมบริการลูกค้ามันมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เจ้าของคนต่อไปเหมาะที่จะไปอยู่ไปดูแลปรับปรุงต่อไป ถ้าเราไม่ดูแลมันเหมือนลูกเลย ไม่ดูแลมันจะทรุดโทรม เอ๊กซ์ : ต้นไม้ส่วนใหญ่ปลูกเองหมดเลย 35 ล้านได้หมดทุกอย่าง? อิ๋ว : โรงแรม ที่ดิน ร้านกาแฟด้วย อิ๋วถ้าทำอะไรจะดูแลเอง พอเราใส่ใจอะไรมากๆมันทำให้เวลาที่ดูแลสามี เวลาที่ดูแลลูก หรือดูธุรกิจที่เรามีอยู่แล้วมันน้อยลงไป เหตุผลนี้อาจจะเป็นหลัก ที่หลักๆดูแลตอนนี้คือคุรแม่ แล้วท่านมีปัญหาสุขภาพ แทนที่ท่านจะได้พักผ่อนตอนแก่ ช่วงโควิดที่โรงแรม? อิ๋ว : เราปิดค่ะ แต่ช่วงปิดเราก็ทำโน่นทำนี่ทาสี  เอ็กซ์: เราไม่เอาพนักงานออก เราเปลี่ยนอาชีพให้เค้า ทำโฮมเมด ทำขนม รักจริง ๆ เรียกโรงแรมว่าน้อง? อิ๋ว : ของรักจริง ๆ ที่กว่าจะได้เค้ามาก็ต้องใช้พลังหลาย...

เซ่นพิษข่าวฉาว จั๊กกะบุ๋ม ไม่มีงานยาว 4 ปี เผยวันนี้กลับตัว ขอโอกาสทำงานใช้หนี้

เรียกว่าเจอมรสุมข่าวฉาวมาตลอดสำหรับนักแสดงตลก จั๊กกะบุ๋ม และที่ทำให้มีประเด็นมากที่สุดคือมีสาวปริศนาออกมาแฉตลกโฆษกนักการเมืองส่งของลับให้ ทำเอาเรื่องนี้ต้องมีการฟ้องร้องกัน และพิษข่าวฉาวทำเอาไม่มีงานยาวถึง 4 ปี  และหนี้สินอีกเพียบ พร้อมเผยเรื่องความรักครั้งใหม่ ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOWออกอากาศทางช่องวัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ตลกโฆษกนักการเมืองส่งของลับคุกคามสาวปริศนา เกี่ยวกับเรามั้ย? จั๊กกะบุ๋ม : เกี่ยวครับ นักข่าวโทรหาผมซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ตลกโฆษกนักการเมืองในตอนนี้ผมคนเดียวไม่มีใคร นักข่าวโทรหาผมตัวผมเองยังไม่รู้เรื่องเลย เลนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น? จั๊กกะบุ๋ม : มันเกิดมาจากมีเหตุหลายประการ ไม่ใช่เหตุที่เพิ่งเกิด มันต่อเนื่องมายาวมาก ๆ จนลุกลามไม่จยไม่สิ้นเสียทีมันต่อปากต่อคำ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าคู่กรณีผมเค้าต้องการอะไร เค้าต้องการให้ผมไม่มีที่ยืนในสังคมหรอ ให้ผมไม่มีงานหรอ ต้องการให้ผมชิบหายไปเลยหรอ มีส่งของลับจริงมั้ย? จั๊กกะบุ๋ม : ผมขออนุญาติไม่พูดเพราะเป็นเรื่องราวขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม เรื่องทุกอย่างมีที่มาที่ไป อยู่ดีๆผมจะนั่งส่งไปให้คนอื่นเพราะอะไรมันไม่มีเหตุ มันต้องมีเหตุสิ มันต้องมีที่มาที่ไป แต่พอข่าวออกไปแล้วคนเห็นข่าวแล้วผมยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ผมยังไม่ขึ้นศาล ผมยังไม่เจอทนาย แต่สังคมตัดสินผมไปแล้ว สิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดในตอนนั้นก็ต้องออกมาแก้ต่างให้ตัวเอง ผมแค่อยากจะพยายามอธิบายให้คนอื่นฟังผมบ้าง วันนี้ทุกคนได้แต่ดูมือถือแล้วก็เตรียมตัวเยาะเย้ยถากถางโดยอ่านเต็มที่ก็ไม่เกิน 3 บรรทัดกันเลย ไม่รู้เลยว่าเนื้อในเหตุการณ์จริงคืออะไร กับคู่กรณีรู้จักกันมาก่อน? จั๊กกะบุ๋ม : เราเคยมีข้อพิพาทถึงขั้นฟ้องร้อง ตัวผมเคยฟ้องร้องเค้ามา 1 รอบละ มีการแถลงข่าวต่อหน้าท่านอธิบดีศาลแขวงธนบุรี ณ ขณะนั้น เกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์ในครั้งนั้นนึกว่ามันจะจบไปละ มันก็มีเหตุการณ์ที่กวนจิตกวนใจมาเรื่อยๆ ทำให้มาถึงเหตุการณ์นี้ ฟ้องกลับด้วยมูลค่าเงิน 7 หลัก? จั๊กกะบุ๋ม : ใช่ครับ ฟ้อง 2 คน เค้ามีคนที่คอยช่วยเค้า ผมไม่ได้โกรธคนที่ช่วยเค้านะ ผมแค่อยากจะอธิบายให้เค้าฟังว่าเค้าไม่ผิดที่ช่วยคน แต่ก่อนที่จะช่วยคนคุณต้องฟังเหตุผลทั้ง 2 ฝ่ายก่อน การเรียกร้องค่าเสียหายมันไม่อยู่ในประเด็นที่ผมจะได้ ที่ผมจะได้คือผมออกมาปกป้องตัวผมเอง ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เอาตำแหน่งที่ผมเพิ่งได้รับโอกาสจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่เค้าให้โอกาสได้เป็นโฆษกนักการเมือง เพิ่งเริ่มผมเป็นตัวเล็กๆที่ได้รับโอกาส เพิ่งล้มแล้วเพิ่งยืนขึ้นมาจะเตะตัดขาให้ผมล้มอีกแล้วหรอ ฟาดด้วยคำว่าตำแหน่งโฆษก? จั๊กกะบุ๋ม : ก็ยังดีครับที่ผู้หลักผู้ใหญ่เค้าก็ฟังเหตุผลจากผม ตั้งคณะกรรมการสอบสวนผม ก็เรียกเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง ลงมติ ทางหัวหน้าพรรคก็ให้โอกาสผมในการชี้แจง วันนี้อยากบอกอะไร? จั๊กกะบุ๋ม : จริงๆมีคนถามผมเยอะเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่รู้สึกอะไรก็เป็นไปไม่ได้ จลอดระยะเวลามันบั่นทอนผมพอจะดีๆ จะมีอะไรแบบนี้ตลอด ผมโทษตัวเองส่วนนึงด้วย ทำไมต้องมาเจอเหตุการณ์ยังงี้อยู่ตลอด แต่ผมต้องแก้ปัญหาจะทำให้ผมเดินต่อไปข้างหน้าได้ ผมเสียใจนะกับคนที่ตัดสินผมเพราะวันนี้คนเสิร์จชื่อผม ไม่มีข่าวผมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างพระไม่มี มีแต่จั๊กกะบุ๋มเผ้าบ้าน ตบตีเมีย ทุกอย่างเป็นข่าวที่ไม่ดีหมดเลย แต่ไม่โทษใครครับ ไม่เป็นไร ผมขอขอบคุณที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ มันเป็นวัคซีนทำให้ผมแข็งแรงมากขึ้น  ในช่วงที่ดาวน์น้อยใจมั้ย? จั๊กกะบุ๋ม : น้อยใจ เรานั่งย้อนนึกถึงวันวานที่เรามีงาน มีเงิน มีโอกาส มีอะไรทุกสิ่งทุกอย่าง แต่พอเรามาพลาด 1 2...

นุ๊ก-ปาย ประกาศแล้วขอลดสถานะ! พร้อมเผยแฟนคลับเปย์ 7 หลัก?

นิยามคำว่า "เฟื่อน" ของนุ๊ก  ธนดล และป๊ายปาย โอริโอ้ ต้องบอกเลยว่าคำนี้มีที่มาที่ไป และจุดเริ่มต้นของสุดยอดคู่จิ้นในประเทศไทยคู่นี้ พร้อมกับสถานะล่าสุดที่ทั้งคู่ออกมาประกาศลดสถานะเลิกจิ้น เพราะอะไร? ไหนจะเรื่องที่แฟนคลับเปย์ถึง 7 หลัก พร้อมเล่าประสบการณ์สุดหลอนผีบังตา ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยวัฒน์ ธัญญ่า ธัญเรศ และตั๊กแตน ชลดา ดำเนินรายการ ล่าสุดประกาศยุติบทบาทการเป็นคู่จิ้นฟีดแบคกลับมาเป็นยังไง? นุ๊ก : ค่อนข้างที่จะมีเห็นด้วยบ้าง ไม่เห็นด้วยก็มีเหมือนกัน แค่ไม่เห็นด้วยเปอร์เซนต์เยอะกว่า บางคนเค้ายังไม่เข้าใจในมุมที่เราจะสื่อที่เราอยากจะบอก ปาย : ของเราน่าจะครึ่ง ๆ ด้วยความที่เราสาวหล่ออยู่แล้ว ตั้งแต่ยุคแรกๆเราก็ชอบผู้หญิง มีบางครั้งที่เราเปิดใจคุยกันแล้วแต่ก็คิดว่าสถานะความเป็นเพื่อนยังดีที่สุดอยู่ แต่ความห่วงใยเป็นห่วงทุกๆการเดินทางใช้ชีวิตของเค้า เหตุผลที่ยุติบทบาทการเป็นคู่จิ้น? นุ๊ก : หลัก ๆ เลยมันจะได้กว้างขึ้นในการทำงาน อย่างถ้าปายไปเล่นซีรีย์หรือเอ็มวี ก็ต้องมีนางเอก บางคนอาจจะไม่เข้าใจ ทำไมนุ๊กไม่ได้เป็นพระเอก นุ๊กก็เหมือนกันทำไมปายไม่ได้เป็นนางเอก ปาย : เป็นการทำงานในอนาคตมากกว่า เพราะว่าตอนนี้ทุกคนยังติดภาพว่ามีนุ๊กก็ต้องมีปายไปด้วยกัน มันทำให้การทำงานข้างหน้ามันลำบาก ผู้ใหญ่แนะนำหรือนั่งคุยกัน? ปาย : มันเป็นการตัดสินใจของเราทั้ง 2 คน ตัดสินใจแล้วเราไปปรึกษาทางด้านค่าย ตัดสินใจจากความรู้สึกหรือเรื่องงาน? นุ๊ก : เรื่องงานครับ เรา2คนเหมือนเดิมตลอด ส่วนมากเราอยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้วถึงแม้เราจะประกาศแบบนั้นลดการจิ้นลง ยังไงเราก็ไปด้วยกันเหมือนเดิม อยู่ด้วยกันแทบจะ 24 ชั่วโมง เรียกว่าเพื่อนสนิท? นุ๊ก : มากกว่าสนิท ใช้คำว่า "เฟื่อน"? นุ๊ก : ไม่เชิงว่าเพื่อนกับแฟนผสมกัน มันคือทุกอย่างเลย นุ๊กกับปายอยู่ด้วยกันมานานมาก เรียกว่ามองตารู้ใจ อยู่ด้วยกันมาประมาณ 6 ปีแล้ว ประกาศยุติไปแล้ว มันดีกว่าเดิมมั้ยกับการที่เป็นตัวเรามากขึ้น? ปาย : มันก็ดีครับ มีพี่...

“ดวงตา คงทอง” ควงสามีเปิดใจหลังเป็นเจ้าสาวป้ายแดง ย้อนเล่าข้อห้ามที่ทำสามีรู้สึกนอยส์ขั้นสุด

ออกมาเล่าเส้นทางความรัก สำหรับนักร้องดังอย่าง ”ดวงตา คงทอง” หลังวิวาห์สามีนอกวงการ “พี่ญี่ปุ่น ทรงเดช” สายฟ้าแล่บ เพราะเพิ่งคบหาดูใจกันได้เพียงแค่ 2 ปี รวมไปถึงเล่าข้อห้ามก่อนแต่งที่ทำคุณสามีเสียความรู้สึกไม่น้อยถึงขั้นเสียน้ำตา ในรายการ “คุยแซ่บShow” ทางช่องOne31 ที่มี "พีเค ปิยวัฒน์" และ "ธัญญ่า ธัญญาเรศ" เป็นพิธีกร แต่งงานไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเดือนที่แล้ว? ดวงตา : 31 กรกฎาคมค่ะ ต้องถามแต่ละคนแต่งงานแล้วเป็นยังไงบ้าง? พี่ญี่ปุ่น : เหมือนเดิมแหละครับ รักเหมือนเดิมครับ แล้วชีวิตเราต้องเปลี่ยนไหม? พี่ญี่ปุ่น : ก็ไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ครับ การดูแลกันต้องเพิ่มมากขึ้นไหมคะ ในความเป็นภรรยา? ดวงตา : ก็น่าจะนะ คือจริง ๆ แล้วเราใช้ชีวิต หรือเราคบหากัน เราเป็นตัวของตัวเองตั้งแต่แรก คือการคบหากันระหว่างเราสองคน เรารู้จักกันมานาน แล้วก็มันไม่มีอะไรต้องปรับเยอะ เราก็ดูแลกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พอแต่งงานไปแล้วเราก็แค่ทำหน้าที่ต่อ รู้จักกันมานาน หลายคนก็สงสัยว่าทำไมอยู่ดี ๆ ทำไมดวงตาถึงรีบแต่งงาน ใช้คำว่ารีบถูกไหม? ดวงตา :  หลาย ๆ คนอาจจะมองว่ารีบ แต่จริง ๆ แล้วด้วยวัยของเรา ซึ่งเราก็มองว่าตอนนั้นที่ไม่มีใครมาขอเราแต่งงานมีแฟนแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน เราแค่คิดว่าเรากำลังสนุกกับงาน เรารักงาน เรารักตัวเอง เหมือนเซฟตัวเอง แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งเราก็มีความพร้อมด้วยวัยวุฒิเราด้วย ด้วยหน้าที่การงานเราก็ทำงานมา 20 กว่าปีแล้ว มันน่าจะถึงเวลาแล้วแหละ เราไม่ค่อยได้ยินเรื่องราวความรักของดวงตาเท่าไหร่เนาะ ที่ผ่านมามันไม่มีคนถามหรือไม่รู้ว่าจะมานั่งป่าวประกาศทำไม? ดวงตา : ด้วยค่ะ ด้วยหนึ่งคือไม่ค่อยมีใครถาม แล้วตัวเราเองก็ไม่ชอบอวดหรือว่าเปิดแฟนสักเท่าไหร่ เราก็จะใช้ชีวิตปกติด้วย อย่างที่บอกคือตาค่อนข้างที่จะรักตัวเอง รักงาน แล้วก็ห่วงสายตารอบข้างด้วยว่าเขาจะมองเรายังไง...

“ปุยฝ้าย ภัทณชา” รับหมด Passion ในวงการ ปฏิเสธละครไป 10 กว่าเรื่อง !!!

นักแสดง นักร้อง มากความสามารถ ปุยฝ้าย ภัทณชา หรือ ปุยฝ้าย AF ที่วันนี้จะมาเปิดใจหมด Passion หมดไฟประกาศพักงานในวงการบันเทิง ปฏิเสธงานละครเกือบ 10 เรื่อง ไม่รู้ว่าแบบนี้เจ้าตัวคิดจะออกจากวงการเลยหรือเปล่า แล้วหันไปเป็นศรีภรรยาเต็มตัว แถมล่าสุดเธอยังยอมใจอ่อนมีลูกให้สามีแล้วด้วย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ อะไรทำให้เราซีเรียสเรื่องออกกำลังกายขนาดนี้? ปุยฝ้าย : มันไม่เชิงซีเรียส มันเชิงเก็บกด จริง ๆ ก่อนหน้านี้ฝ้ายเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้น การใช้ชีวิตมันถูกจำกัดมากเลย ห้ามออกกำลังกายแบบนี้ อย่าวิ่ง อย่าล้ม พยายามดูแลตัวเองให้อยู่ในสภาพที่ไม่บาดเจ็บ พอเราไปผ่าคอเรารู้สึกว่ากิจกรรมอะไรก็ตามที่เราอยากทำ เราอยากทำมันให้เต็มที่ ซึ่งพอผ่าคอเราก็ทำได้ คือฝ้ายผ่ามาประมาณปีกว่า ในความรู้สึกเรา เราอยากจะเป็นผู้หญิงแข็งแรงมากกว่า แล้วอยากทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำมาหลายปี ที่ออกกำลังกายเป็นเพราะสามีชอบ สามีคลั่งรักหนักมากที่แฟนหุ่นดี จริงไหม? ปุยฝ้าย : เปล่า เขาจะบอกว่ายังไงก็ได้ขอให้มีความสุข เขาเห็นว่าเราเป็นคนชอบกิน ตัวเขาชอบออกกำลังกาย เขาไม่เคยแบบ เห้ย...ฝ้ายต้องไปนะ แล้วแต่เรา คนในบอกว่าสามีคลั่งรักฝ้ายหนักมาก แต่ข่าวออกมาว่าขาเตียงฝ้ายไม่แข็งแรง? ปุยฝ้าย : ขาเตียงในที่นี่น่าจะเป็นเรื่องของการมีลูก ตอนนั้นเขาถามว่าเราอยากมีลูกไหม เราก็บอกว่าเราไม่เคยคิดเลยว่าเราอยากมีลูก เราปฏิบัติธรรม เรารู้สึกว่าเราไม่อยากเอาอะไรมาผูกความรู้สึกให้เราต้องห่วงอีกแล้ว เราไม่อยากมีลูก เขาก็เลยมีความผิดหวัง แต่ว่าในความผิดหวังนั้น เขาก็มีความเข้าใจเรา จนในที่สุดเราก็มานั่งถามตัวเองว่าถ้าเราปฏิบัติธรรมมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วเราไม่สามารถจัดการความรู้สึกเราได้ว่าวันหนึ่งถ้ามีลูกเราจะทุกข์ เราจะห่วงไหม แสดงว่าเราสอบตก เพราะฉะนั้นเนี่ย เรามี  ทำไมวันนี้ถึงเปลี่ยนความคิด? ปุยฝ้าย : คือเราเกิดความคิดใหม่ว่า ถ้าเรามีแล้วเราไม่สามารถจัดสรรความรู้สึกของเราได้ หมายความว่าสิ่งที่เราฝึกฝนมาคือเรื่องของการปฏิบัติธรรมมันไม่ประสบความสำเร็จ เพราะถ้าเราไปคาดหวังในตัวลูกเรา เรากลัวว่าลูกจะทำให้เราผิดหวัง ลูกจะทำให้เราทุกข์ มันหมายความว่าเราอะไม่ดี เราต้องให้ตัวเองที่ฝึกฝนมาตั้งนานสามารถรับสภาพอะไรก็ได้บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะผิดหวังหรือสมหวัง เราก็เลยลองดู อันนี้คือสนามใหญ่ของเรา เราเก็บไข่ไหม? ปุยฝ้าย : ตั้งใจจะเก็บแล้ว จริง ๆ ด้วยวัย 35 ปี มันอยู่ในช่วงที่ควรจะ ถ้าไข่ที่ดีคือช่วง 28-31 ปี แต่พอเราเริ่ม 34-35 แล้วถ้าเรายังไม่มีลูกสักที คุณหมอจะแนะนำว่าเก็บไข่ไว้ก่อน เพราะปีนี้มันจะดีกว่าปีหน้าแน่นอน ถ้าปีหน้ายังไม่มี ปีถัดไปมันจะแย่ไปอีก ขั้นตอนของการเก็บไข่มันเป็นยังไง? ปุยฝ้าย : เขาต้องตรวจร่างกายเราก่อนว่ามีปัญหาอะไรไหม อย่างตัวฝ้ายเป็นภาวะไข่ไม่ตกจากการออกกำลังกายค่อนข้างมากไป ก็ต้องมารักษาตรงนั้นก่อนพอเสร็จปุ๊บก็ไปตรวจความสมบูรณ์ของไข่ ก็เริ่มมีการฉีดกระตุ้นฮอร์โมน แล้วเลือกไข่ที่แข็งแรงแล้วเก็บเอาไว้ ถ้าเราอยากจะมีก็เอาไข่มาผสมภายนอกกับเชื้อของแฟนเรา แล้วพอเป็นตัวอ่อนแล้วค่อยฝังกลับเข้าไปคืน มันเก็บได้นานแค่ไหน? ปุยฝ้าย : เรื่อย ๆ เลย อยู่ที่ว่าเรามีทุนทรัพย์ยังไง ก็ฝากปีต่อปีไป คุยกันไหมว่าอยากมีผู้ชายหรือผู้หญิง?...

“ท็อป จรณ” เคยติสท์แตกเลือกรับงาน พร้อมย้อนเล่าความรักสุดเจ็บปวด

เมาหัวราน้ำ 6 เดือน  จนต้องเข้าวัดพึ่งธรรมะ อดีตพระเอกช่องน้อยสี ท็อป จรณ ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นฟรีแลนซ์ทำเอางานรุมหนักมาก วันนี้จะมาเปิดใจยอมรับเคนเป็นพระเอกสายติสท์เลือกรับงาน พร้อมทั้งอัปเดตสถานะหัวใจ ตอนนี้โสดหรือไม่โสด อีกทั้งยังย้อนเล่าความรักที่เจ็บปวดที่สุดถึงขนาดเมาหัวราน้ำนานถึง 6 เดือน และอกหักจนต้องเข้าวัดมาแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง ONE31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ  คุณอยู่ช่องน้อยสีมาทั้งหมดกี่ปี? ท็อป : ประมาณ 10 ปีครับ ทำใจยากไหมที่จะไม่ต่อสัญญาแล้วออกมาเป็นฟรีแลนซ์? ท็อป : ยากครับ ตอนนั้นเราค่อนข้างจะคิดหนักเหมือนกัน มันเหมือนเป็นบ้านของเรา แล้ววันหนึ่งเราต้องเดินออกจากบ้านไป ผมก็งง ๆ เหมือนกัน แต่คิดว่าเราอยากจะหาสิ่งใหม่ ๆ มาลองทำดู ตอนนั้นตัดสินใจนานเลย ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ ผู้จัดการ สุดท้ายเรามาตกตะกอนกับตัวเองว่ามันยังมีงานอีกหลาย ๆ แบบที่เรายังไม่เคยทำ เราก็อยากจะลองไปทำดู อยากเห็นตัวเองอยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ อยากลองซีรีส์ใหม่ ๆ แปลก ๆ ที่เรายังไม่เคยทำ ซึ่งวันที่เราเซ็นสัญญา เราตื่นเต้น ดีใจมากที่ได้เซ็นสัญญากับช่องที่ใหญ่ขนาดนี้ วันที่มันหมดแล้วเราต้องเดินไปนั่งคุยกับผู้มีพระคุณสุด ๆ มันเป็นเรื่องที่ใจสั่น วันนั้นผมน้ำตาคลอเลยนะ แต่ก็มีคนเม้าท์ว่าจริง ๆ คุณอยากอยู่ต่อ แต่ที่ไม่เซ็นเพราะว่าทางต้นสังกัดเดิมไม่ป้อนงานเลยจริงไหม? ท็อป : ไม่จริงเลย ช่องให้งานผมตลอด ไม่เคยมีปีไหนที่ไม่มีงานเลย มีเยอะด้วยซ้ำ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมี 2-3 เรื่องต่อปีเราเป็นตัวหลักเราไม่มีสิทธิ์รับปีหนึ่ง 5-6 เรื่องอยู่แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเรามีทุกวัน บางปีเราได้เลือกด้วยซ้ำว่าเราอยากเล่นเรื่องไหน ตอนที่คุณตัดสินใจไม่เซ็นสัญญา เห็นว่าคุณพูดว่าลองไปตายเอาดาบหน้า มันขนาดนั้นเลยเหรอ? ท็อป : ใช่ คือเราไม่รู้ว่าข้างนอกมันเป็นยังไง แล้วเราไม่รู้ว่าจะมีคนจ้างเรามากน้อยแค่ไหน ถ้าอยู่กับช่องมันอุ่นใจ ยังไงในหนึ่งปีเรามีงานอยู่แล้ว ปกติมีคนคอยเลือก คอยจัดการ คอยบริหาร วันหนึ่งเราต้องทำทุกอย่างเองมันยากมากนะ แต่ว่าเอาวะ..เราอยากไปลองอะไรใหม่ ๆ เราก็ต้องลองเสี่ยง คือปมเป็นนักแสดงที่ติสท์พอสมควร เรามานั่งคิดว่าถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้ท้าท้ายตัวเอง ผมจะไม่มีความสุข ผมเลือกความสุขของผม อย่างน้อยๆ ผมต้องได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แล้วได้ไปโลดแล่น ไปหาประสบการณ์อีกแบบ...

“หญิง รฐา” ควง “แม่น้อย” เคลียร์ รักลูกเขยมากกว่า? แย้มเรื่องลูก ตอนนี้ยังไม่คิดที่จะมี!

เจ้าสาวป้ายแดงหญิง รฐา ควง แม่น้อย โพธิ์งาม มาเม้าท์ชีวิตหลังแต่งงาน แถมด้านคุณแม่ยังออกอาการรักลูกเขยมากกว่าลูกสาว เพราะดูแลเป็นอย่างดี พร้อมเผยเรื่องลูกที่ฝ่ายหญิง รฐา ไม่อยากมี แต่แม่น้อยอยากอุ้มหลานสุด ๆ ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ อาจารย์เป็นหนึ่ง และชมพู่ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ หลังผ่านพิธีวิวาห์ไป 3 เดิอน ชีวิตเปลี่ยนขนาดไหน? แม่น้อย : ไม่เปลี่ยน หญิง : จริง ๆ ก็ไม่เปลี่ยนคล้าย ๆ เดิม หญิงกับพี่ตุลย์คบกันมาก็ใช้ชีวิตด้วยกันเยอะ อย่างไปต่างประเทศ เช่า AIR BNB เราก็เห็นทุกอย่าง เราก็จะเห็นใครทำกับข้าว ใครเก็บเตียง ใครเป็นคนทำ? แม่น้อย : เมื่อก่อนจะเป็นพี่เจี๊ยบพี่สาวเค้าจะคอยเก็บทุกวันแต่ขึ้นไปเก็บเตียงเค้าเก็บหมดแล้วทุกวันเลย พี่ตุลย์นะสิไม่ใช่หญิง ถ้าเป็นหญิงเปิดแล้วลงเตียงเลยสมัยอยู่คนเดียวนะ ลงมาชงกาแฟ แต่เดี๋ยวนี้มีคนดึงที่นอนให้แล้ว แล้วคนที่ดึงที่นอนก็ลงไปชงกาแฟให้นาง หญิง : ถ้าวันไหนหญิงต้องไปทำงานเช้า เค้าจะไปชงกาแฟให้ แต่ถ้าวันไหนหญิงว่างๆก็ลงไปชงกาแฟเอง หลังแต่งใครเป็นแม่บ้านมากกว่ากัน? แม่น้อย : พี่ตุลย์เป็นแม่บ้าน พี่ตุลย์เป็นแม่บ้าน หาเงิน เป็นเจ้าของบริษัท ทำงานทุกอย่าง คนนี้ก็ยังนอนอยู่เหมือนเดิมแต่หลังแต่งละเอียดขึ้นมาหน่อย ไม่ได้เกรงใจแม่นะ อายสามี ภาพนก 2 ตัวที่พี่ตุลย์ลงโซเชียลคืออะไร? หญิง : พี่ตุลย์เค้าเป็นคนเล่นโซเชียลเค้าดูรูปแล้วไปเจอนกคู่นี้ แล้วตัวนึงมันหันมาแว๊ดอีกตัวนึงอยู่ แล้วเผอิญเค้าเอาขึ้นในเฟสบุ๊ค คนก็จะมาคอมเมนท์อึดอัดอะไรหรือปล่าว  ปกติหญิงเป็นคนดุมั้ย? หญิง : พี่ตุลย์บอกว่าดุค่ะ ได้มาจากแม่น้อย แม่เป็นคนใจนักเลง แต่หญิงจะดึด้วยเหตุและผล แต่เค้าเป็นคนไม่ค่อยมีข้อเสียอะไร มันเป็นเรื่อวเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น เค้าทำอะไรเฉื่อย เราเป็นคนแอคทีฟกับเรื่องเวลา ก็จะมีบ้างที่ว่ายังงี้ไม่ได้นะพี่ตุลย์คนอื่นเค้ารอเราอยู่นะ มันจะมีเลเวลของเสียงบ้าง ถ้าหนักๆเลยคือเงียบแล้วมองเค้าจะรู้ เหมือนแม่น้อย?...

“แพนเค้ก” เล่าเรื่องลับบนเตียงทำ “พี่หมี” ถึงกับอึ้ง ย้อนพูดเรื่องรักทะเลาะจนหวิดเลิก

ออกมาเปิดชีวิตรักที่หลายคนยังไม่เคยรู้ สำหรับนางเอกสาวเรื่องราวดี ๆ อย่าง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” ที่เพิ่งจะวิวาห์หวานไปกับหวานใจ “พี่หมี พ.ต.ท ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์” หลังคบหาดูใจกันมานานกว่า 11 ปี โดยล่าสุดสาวแพนเค้กได้ออกมาเปิดใจชีวิตหลังแต่งงาน รวมไปถึงเรื่องความรักที่เคยทะเลาะหนักจนหวิดเลิกกันมาแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ หลังจากที่เป็นเจ้าสาว ชีวิตเปลี่ยนมั้ย? แพนเค้ก : แค่พูดคำว่าสามียังไม่คุ้นเลยค่ะ (หัวเราะ) ทั้งคู่พี่หมีก็บอกแบบนี้ พอเวลามีคนมาพูดกับพี่หมี เขาก็จะทำตัวไม่ถูก จริง ๆ ก็เหมือนเดิมในมุมที่ดูแลกันและกัน มีการปรับตัวบางอย่างในการใช้ชีวิต เพราะมีบางอย่างเล็ก ๆ น้อยที่ปรับจูนกัน ไม่คุ้นบ้างในบางเรื่อง หรืออะไรให้ทำเยอะขึ้น ห่วงหามากขึ้น ถามไถ่กันมากขึ้น คุณผู้ชายก็จะตกใจนิดหนึ่งว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นเหมือนจะดูแลเป็นพิเศษอะไรแบบนี้อะค่ะ ก็เลยบอกว่าทำให้เหมือนเดิม กี่เดือนแล้ว? แพนเค้ก : 2 เดือนแล้วค่ะ ก็เป็นความรู้สึกที่ดี บอกไม่ถูก  พอแต่งงานการดูแลใกล้ชิดขึ้น มีอะไรพิเศษขึ้น มีทำกับข้าวให้สามีกินบ้างมั้ย? แพนเค้ก : พูดได้เต็มปากเลย ว่ายังไม่ได้ทำค่ะ (หัวเราะ) คือ.. แต่ก็จะถามไถ่ตลอดว่าจะกินอะไร เหมือนกับนึกถึงกันบ่อยขึ้น ว่าเย็นอยากกินอะไร เช้าให้เตรียมอะไรให้มั้ย หรือมีอะไร จะให้เตรียม  เบรกฟาสต์ ให้มั้ย พี่หมีก็บอกว่าไม่เป็นไร (หัวเราะ) เดี๋ยวพี่บอกเองว่าอยากได้อะไร แล้วทางฝั่งพี่หมีเขามีความเปลี่ยนแปลงอะไรมั้ย หลังแต่งงาน? แพนเค้ก : จริง ๆ เขาเป็นคนนึกถึงคนอื่นเยอะอยู่แล้ว เตรียมอะไรให้เราเยอะอยู่แล้ว กับข้าวส่วนใหญ่พี่หมีก็จะเป็นคนทำอยู่แล้ว เวลาไปซุปเปอร์เขาก็จะถามเอาอะไรมั้ย แล้วก็เตรียมอาหารไว้ให้ในตอนเช้า เขาก็เข้าครัวเอง เข้าทีก็โฮโห.. เละไปหมดเลยค่ะ (หัวเราะ)  อยู่บ้านใครเป็นหลัก? แพนเค้ก : จริง ๆ ก็อยู่บ้านแพนเป็นหลักค่ะ แต่ว่าบ้านแพนกับบ้านคุณพ่อคุณแม่พี่หมีก็อยู่ใกล้ ๆ กัน ก็เลยมีโอกาสได้ไป ๆ มา...