“พลอย พลอยไพลิน” กับบทบาทใหม่ที่ทุกคนจะรักและเอาใจช่วย ใน “MONDO รัก | โพสต์ | ลบ | ลืม”

บทสัมภาษณ์ “พลอย พลอยไพลิน” กับบทบาทใหม่ที่ทุกคนจะรักและเอาใจช่วย ในภาพยนตร์เรื่อง “MONDO รัก | โพสต์ | ลบ | ลืม”

บทบาทที่ได้รับในเรื่องนี้เป็นอย่างไร

ในเรื่องนี้พลอยก็รับบท “ยี่หวา” ค่ะ เป็นยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ หรือ KOL (Key Opinion Leader) ที่แบบสังคมตอนนี้เขาฮิตกัน ก็เป็นหญิงสาวที่ร่าเริงสดใส ชอบทำคอนเทนต์แบบทะเยอทะยาน มีความที่อยากได้ความรักและความสนใจ รวมถึงพยายามทำทุกอย่างให้ยอดฟอล เอนเกจเมนต์ มันเพิ่มขึ้นอะไรอย่างนี้ จนมันทำให้เกิดความขัดแย้งและกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตเลยค่ะ

MONDO รัก | โพสต์ | ลบ | ลืม” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของ “ยี่หวา” ที่เป็นยูทูบเบอร์สาวเจ้าของช่องดังอย่าง “โสดไปไหน” ก็เป็นช่องที่ทำทราเวลท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ คนเดียวซึ่งมียอดผู้ติดตามหลายแสน แต่เพื่อรักษาฐานแฟนคลับเอาไว้ทำให้ยี่หวาต้องปกปิดความสัมพันธ์กับ “ดอม” (เกรท สพล) แฟนหนุ่มที่คบกันมานาน จนกระทั่งยี่หวาได้พบกับ “หวัง” (มีน พีรวิชญ์) สตาร์ตอัปหนุ่มที่เป็นเพื่อนเก่าของทั้งคู่ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของยี่หวาไปสู่เป้าหมายใหม่ในโลกธุรกิจผ่านตัวช่วยอัจฉริยะอย่าง “เม-บอต” (May-Bot) ที่เชื่อมโยงไปสู่โลกเสมือนใน “มอนโด” (Mondo) มันก็เลยทำให้ยี่หวาพบปัญหาใหญ่ในชีวิตที่มีอนาคตของตัวเองเป็นเดิมพัน เธอไม่แน่ใจว่าจะเลือกทางไหนดีระหว่างความสำเร็จที่รออยู่ตรงหน้ากับความรักที่ไม่สามารถคาดเดาปลายทางได้เลย

คือเรื่องนี้มันมีทุกอย่างเลยค่ะทั้งในเรื่องของความรักและหน้าที่การงานของหนุ่มสาว เรื่องครอบครัวมันก็เด่นมากๆ เช่นกัน เป็นความอบอุ่นของความเป็นครอบครัว แล้วก็ความไซไฟในโลก Mondo โลก Metaverse เทคโนโลยีต่าง ๆ อะไรอย่างนี้ มันมีน้ำหนักที่พอ ๆ กัน มันสามารถผสมผสานให้เข้ากันแบบลงตัวมาก ๆ เลย ถ้ามันขาดด้านใดด้านหนึ่งไปแล้วหนังมันก็จะไม่สมบูรณ์ในความเป็นหนังโรแมนติกไซไฟคอมเมดี้ของเรื่องนี้ค่ะ

“เม-บอต” (May-Bot) ในเรื่องนี้คืออะไร

“เม-บอต” ในเรื่องนี้เนี่ยมันก็จะเป็นเหมือนแอปพลิเคชันหรือเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อมาช่วยเหลือชีวิตประจำวันของเราในเรื่องของการหาข้อมูลต่าง ๆ หรือเราสงสัยอะไรก็ปรึกษามันได้เหมือนเป็นเพื่อนคู่ใจ ถามอะไรก็ตอบหรือแนะนำเราได้ทุกอย่าง มันก็เหมือนกับ AI ที่จะรู้ข้อมูลหรือความทรงจำของเราแทบทุกอย่างจากการประมวลผลผ่านโซเชียลมีเดียอะไรอย่างนี้ค่ะ และมันก็ยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่โลกเสมือนจริง “มอนโด” (Mondo) ที่เป็นชื่อหนังเรื่องนี้ด้วยค่ะ

มุมมองความรักและความสำเร็จในหน้าที่การงานของ “ยี่หวา” มันส่งผลต่อกันยังไงบ้าง

เรื่องความรักของ “ยี่หวา” ก็รู้สึกว่าบทหนังมันเขียนมาได้กลมประมาณหนึ่งเลยนะคะ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราก็เชื่อเหมือนกันว่าความรักสมัยเด็กที่เราคบกับ “ดอม” มาตั้งแต่มัธยม แล้วเราก็ผูกพันกันมาหลายปีมาก ๆ แต่พอจังหวะชีวิตเราโตขึ้น ทุก ๆ คนมันต้องมีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของทางเลือกจากการเรียนมาเป็นการทำงาน มันต้องเจอคนใหม่ ๆ อยู่แล้ว แล้วยิ่งกับคนใหม่ที่มันทำงานด้วยกันทุก ๆ วันมันสามารถมีความหวั่นไหวได้ แล้วยิ่งคน ๆ นั้นเขาคือหนึ่งในคีย์สำคัญให้เราประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ด้วย มันก็เลยทำให้รู้สึกว่าเขาคนนี้ก็เป็นคนสำคัญในชีวิตเราอีกคนหนึ่งเหมือนกัน แต่คนที่อยู่กับเรามาตั้งแต่แรกเขาก็สำคัญมากเหมือนกัน แล้วเราต้องทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดี

แล้วด้วยความที่ดอมเป็นตัวละครที่ตรงข้ามกับยี่หวามาก คือยี่หวาเป็นคนในโซเชียล แต่ดอมเป็นคนออฟไลน์ ก็คือไม่มีไอจี ไม่มี Facebook ไม่เล่นอะไรเลย อยู่กับการขายของที่บ้านที่เป็นครอบครัวคนจีนมาก ๆ ครอบครัวของดอมก็คาดหวังอยากจะให้ดอมแต่งงานไว ๆ เพื่อมาสืบทอดกิจการที่บ้าน มันก็กดดันเราทั้งคู่มากเหมือนกัน เราเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นกับหลายคนในชีวิตจริงอยู่แล้วที่แฟนเราอยากจะ

แต่งงานแล้วนะ แต่เรายังไม่พร้อม เราอยากทำงานอยู่เลย เรากำลังไปรุ่ง กำลังดัง มีล้านคนติดตาม แล้วพอยี่หวาไปเจอกับ “หวัง” ที่อยู่ในสายธุรกิจเดียวกัน ทำ Social เหมือนกัน เข้าใจชีวิตเรามาก ๆ ก็รู้สึกว่าเฮ้ย…คนนี้เขาเข้าใจเรามาก ๆ เลย แล้วเขาก็ไม่กดดันเราเหมือนกับแฟนและครอบครัวแฟนเราที่กดดันเราว่าแบบเมื่อไหร่จะแต่งงานกัน มันมีความวุ่นวายและความกดดันเต็มไปหมดเลย เราเชื่อว่ามันมีคนแบบนี้ในชีวิตจริงจริง ๆ ที่แบบว่าคนใหม่มันสบายใจ แต่กับคนเก่าที่เราอยู่ด้วยกันนาน ๆ มันก็อาจจะผูกพันแต่มันก็ทำให้เบื่อและกดดันในหลาย ๆ อย่างเช่นกัน มันก็เลยทำให้เกิดความเราลังเลสับสนของตัวละครเข้ามา

ตัวละครนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างจากตัวเองยังไงบ้าง

ตอนแรกที่เราอ่านบทคร่าว ๆ ก็รู้สึกว่ามีความคล้าย ๆ เราอยู่นะ ด้วยความที่ว่าเราทำ YouTube ท่องเที่ยว มันตรงกับเรามากๆ แต่ว่าพอเรามาเจาะบทดีๆ แล้วก็มาแสดงเนี่ย มันมีความไม่เหมือนกันหลาย ๆ อย่างทั้งเรื่องของความคิด เรื่องของ Mindset แล้วก็ Background ของตัวยี่หวาเองที่ไม่เหมือนกัน คือถ้าเป็นตัวยี่หวานั้นก็คือเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างที่จะขาดความรัก ครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบ แล้วก็ทะเยอทะยานในการอยากได้ยอดฟอล ได้ความสนใจ แต่กับตัวพลอยไม่ได้เป็นคนที่มีความแบบต้องได้ความรักขนาดนั้น แล้วก็เป็นคนที่ไม่ได้แบบหิวยอดฟอลหรืออะไรขนาดนั้น แล้วยี่หวาก็แบบต้องพยายามทำทุกอย่างแม้กระทั่งที่ว่าไม่ได้ชอบเที่ยวโหดๆ แต่ฉันต้องทำเพราะว่าฉันอยากได้ยอดคนดูอะไรอย่างนี้ แต่พลอยเป็นคนชอบเที่ยวแบบนั้นอยู่แล้ว มันมีความตรงกันข้ามมาก ๆ คือถ้ามองผ่าน ๆ มันอาจจะเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเจาะลึกในเป้าหมายของตัวยี่หวามันไม่เหมือนกันกับตัวเราเลย บทมันมีความเหมือนจะง่าย แต่จริง ๆ มันก็ยากมาก ๆ เหมือนกัน

เรื่องนี้ถือว่าเปลี่ยนแนวหรือแตกต่างจากการแสดงเรื่องที่ผ่านมายังไงบ้าง

เปลี่ยนแนวอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะว่ามันจะมีเรื่องของเทคโนโลยี AI เข้ามา มีการถ่ายทำกับ CG เข้ามา และด้วยความที่ว่ามันมีความเป็นโลกอนาคตประมาณหนึ่ง แล้วเราก็ต้องจินตนาการกับภาพที่เหมือนพี่มะเดี่ยวผู้กำกับเขาจะมีภาพของเขาที่เราต้องตามเขาให้ทัน ในเรื่องของการถ่ายทำที่มันจะมีช็อตบางช็อตที่นี่คือถ่ายอะไรอยู่นะ มันคือช็อตอะไรนะที่เราแบบทรานซิชันวึบ ๆ วับ ๆ อะไรอย่างงี้ แล้วเราก็ต้องตามให้ทันว่าเนี่ยมันคือการถ่ายทำในช็อตไหนเชื่อมกับช็อตไหน เพราะมันมีความแอดวานซ์ในเรื่องของมุมภาพอะไรเยอะมาก  แล้วก็ในเรื่องของความดราม่าก็มีเข้ามามากประมาณหนึ่งเหมือนกัน แล้วก็มีเรื่องของ

ครอบครัวเข้ามาด้วย เพราะว่าเรื่องก่อนหน้านั้นที่เราเล่นก็คือ Low Season สุขสันต์วันโสด” (2563) ก็จะเป็นเรื่องการเดินทางกับความรักแล้วก็เรื่องผีอะไรอย่างงี้ แต่ MONDO รัก | โพสต์ | ลบ | ลืม” นี่ก็จะเป็นในเรื่องของความรัก ครอบครัว แล้วก็เทคโนโลยีค่ะ ก็จะออกแนวโรแมนติกไซไฟคอมเมดี้ค่ะ

ความยาก-ง่ายในการแสดงเรื่องนี้

ด้วยความที่ว่ามันเป็นโลกเทคโนโลยีอะไรอย่างงี้ ในเรื่องของการจินตนาการภาพอย่างในเรื่องของตัว “เม-บอต” เองที่ไม่ใช่คนที่มีอยู่จริง แต่มันเป็นตัวบอตขึ้นมา เราก็ต้องเห็นภาพว่าหน้าตาจะออกมาเป็นยังไง หรือความแบบว่าจินตนาการของพี่มะเดี่ยวที่เขาล้ำเลิศมาก บางทีเราก็แบบภาพในหัวเค้ามันเป็นยังไงนะ บางทีเราก็ต้องแบบพยายามสร้างโลกของเราขึ้นมาคือมันไม่ใช่แค่แบบว่าโลกในชีวิตจริง แต่มันคือโลกใน “มอนโด” ด้วยที่เรารู้สึกว่ามันเหนือจินตนาการของเราไปอีกขั้นหนึ่ง อันนี้ก็จะเป็นความยากที่เราจะถามพี่มะเดี่ยวตลอดว่าแบบนี้ยังไงนะพี่ คือถามละเอียดมากเพราะว่าเราอยากเห็นภาพตรงกันจะได้เข้าใจตรงกัน แล้วก็ในเรื่องของอาชีพที่มันคล้ายๆ กับตัวเราอยู่แล้ว คืออาชีพยูทูบเบอร์ที่เราทำอยู่มันก็แอบช่วยเราเหมือนกันนะ ด้วยความที่ว่าถ้าเป็นเรื่องอื่น เราทำอาชีพอื่น เราก็ต้องไปทำความเข้าใจว่าเขามีกระบวนการทำงานยังไง แต่ว่าพอเราเป็นยูทูบเบอร์อยู่แล้วในชีวิตจริง เราก็จะรู้ว่าการทำงานมันต้องมีการสนใจเรื่องเอนเกจเมนต์นะ เรื่องอัลกอริทึม การปั่นวิว หรือยอดฟอลมันมีความสำคัญอย่างไรกับอาชีพนี้ เราจะมีความเข้าใจเร็วมาก เราก็รู้สึกว่าค่อนข้างที่จะช่วยเราได้ในตัวละครนี้เหมือนกัน

การร่วมงานกับผู้กำกับ “มะเดี่ยว ชูเกียรติ” เป็นยังไง

กับ “พี่มะเดี่ยว” เหรอคะ ก็คือต้องบอกว่าพี่มะเดี่ยวเขาเป็นเหมือนอาจารย์ เป็นไอดอลของเราอยู่แล้ว เพราะว่าเราก็เรียนภาพยนตร์มา ก็เป็นที่พูดถึงกันอยู่แล้ว ก็รู้สึกว่าเราอยากร่วมงานด้วยสักครั้งหนึ่งในชีวิตจนเราได้มาร่วมงานจริงๆ ก็รู้สึกดีใจมาก รู้สึกว่านี่สินะผู้กำกับ “รักแห่งสยาม” (2550) ที่ฉันดูมาแต่เด็กอะไรอย่างนี้ พอมาทำงานด้วยกันจริงๆ ก็รู้ว่าพี่มะเดี่ยวเป็นคนทำงานละเอียดมาก แบบว่าซีนไหนแสงไม่ได้ ก็ต้องรอ รออย่างเดียว ถ้าวันนี้ไม่ได้ ถ่ายใหม่พรุ่งนี้ ถ่ายใหม่คิวหน้าอะไรอย่างนี้ คือเป็นคนที่ต้องเป๊ะ ในหัวเขาภาพเป็นยังไงก็ต้องออกมาเป็นแบบนั้นเลย เราก็รู้สึกว่านับถือ เออ…มันต้องอย่างนี้ ต้องเอาให้ได้ อยากได้แบบนี้ก็ต้องได้อย่างนี้ ในเรื่องของการแสดงมันก็จะมีบางอย่างที่เขามีภาพในหัวที่เหนือจินตนาการเรา ไม่ใช่แค่เรื่องของ “เม-บอต” แต่ในเรื่องของกิมมิกการแสดงบางครั้งจังหวะบางจังหวะที่รู้สึกว่ามันเล่นอย่างนี้ได้ เขาก็เข้ามาปรับเราอะไรอย่างนี้ ก็รู้สึกว่าเออ…ได้เรียนรู้อะไรจากพี่มะเดี่ยวเยอะมากนะคะทั้งการแสดงและการกำกับ เราก็รู้สึกประทับใจ แล้วก็เป็นคนน่ารัก อาจจะมีดุบ้างในบางครั้งที่เราเล่นแบบว่ายังไม่ได้สักทีอะไรอย่างนี้ แต่ว่าโดยส่วนตัวเรารู้สึกว่าเขาทำงานอย่างตั้งใจ แล้วก็ตั้งใจทำให้ผลงานออกมาดีที่สุดค่ะ

การร่วมงานกับทีมนักแสดงเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

เราก็ได้ร่วมงานกับพระเอกทั้งสองคนก็คือ “พี่เกรท สพล” กับ “มีน พีรวิชญ์” ก็รู้สึกว่าสนุกดี เพราะว่าอายุเราใกล้ ๆ กัน มันก็เลยมีความเหมือนเพื่อน ๆ กันนิดนึงค่ะ ไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน แต่พี่เกรทเนี่ยเคยอยู่ช่องเดียวกันก็เลยอาจจะมีเรื่องลิงก์ ๆ กันได้ พอคุยกันได้ ส่วนมีนเนี่ยยังไม่เคยเจอกัน แต่ว่าด้วยความที่เราต้องเข้าฉากกันบ่อย เพราะต้องคุยเรื่องธุรกิจของ “ยี่หวา” และ “หวัง” อะไรอย่างนี้ค่ะ ทำให้เราค่อนข้างที่จะสนิทกัน ก็ทำให้คุยกันได้เหมือนเพื่อนกัน ก็รู้สึกสนุกดี ส่วนพี่ๆ นักแสดงคนอื่นที่เล่นเป็นครอบครัวอย่าง “พี่พิช – พี่ต๊งเหน่ง – พี่แอนนา” ก็รู้สึกว่าเรายังคงชอบการฉากเข้ากับนักแสดงรุ่นใหญ่อยู่ เพราะเรารู้สึกว่าได้เห็นความเป็นมืออาชีพ ถึงแม้ว่าเขาจะอายุเยอะแล้วแต่เขาเก๋ามากในซีนในหนัง รู้สึกว่าเก่ง รู้สึกนับถือ อยากโตไปแล้วเป็นให้ได้แบบนี้

โลเคชันการถ่ายทำ

หนังเรื่องนี้เราประทับใจหลายอย่างมาก ไม่ใช่แค่ในเรื่องของบทมันดี บทมันคิดได้ยังไง แต่รวมถึงโลเคชันการถ่ายทำด้วย อย่างบ้านของ “ยี่หวา” อยู่ที่ “ชลบุรี” ซึ่งบ้านหลังนี้มันไม่ใช่บ้านที่เอาไว้ถ่ายทำ มันคือบ้านของชาวบ้านจริง ๆ เหมือนพี่มะเดี่ยวอาจจะไปถูกใจหรือเตะตากับบ้านหลังนี้ แล้วมันมีความเหมือนอยู่ริมทะเลแล้วมันสวยมาก แบบเฮ้ย…ไปเจอได้ไง ทำการบ้านยังไงถึงไปเจอหลังนี้ที่อยู่ในหลืบแต่มันสวยมาก ๆ ได้ แล้วคือบ้านมันวิวดีมาก ๆ เลย แล้วมันเหมาะกับการถ่ายทำหนังเรื่องนี้มาก ๆ แล้วเราก็คิดไม่ถึงว่ายูทูบเบอร์จะมีออฟฟิศอยู่ริมทะเลได้อะไรอย่างงี้ ส่วนเซตฉากในร้านของ “ดอม” ร้านคนจีน เรารู้สึกว่าทำเซตมาได้เหมือนมาก รู้สึกว่าบ้านคนจีนมันคืออย่างนี้ แล้วตอนแรกเราคิดว่ามันคือร้านอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่จริง ๆ มันคือการเซตทั้งหมด มันเหมือนมีอยู่แล้วจริง ๆ  

แล้วก็จะมีการถ่ายในสตูดิโอด้วย ไม่ใช่แค่การถ่ายเอาต์ดอร์อย่างเดียว ในสตูดิโอก็เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายกรีนสกรีนเพื่อไปทำซีจี เป็นฉากที่เราเข้าไปในตัวของ “Mondo” วาร์ปไปในอีกโลกหนึ่ง ก็เป็นไฮไลต์เหมือนกันนะ เพราะมันคือการเซตให้มันเป็นอีกโลกที่เราไม่เคยเข้าไปอยู่จริง ๆ การใส่แว่น VR แล้วสวิตช์ไปในหลาย ๆ ที่ทั้งไปทะเล ไปบ้าน ไปโรงเรียนอะไรอย่างนี้ เราก็รู้สึกว่ามันมีความวูบ ๆ วาบ ๆ ในการถ่ายทำในฉากอะไรอย่างนี้ด้วย

ชีวิตจริงติดโซเชียลมากน้อยแค่ไหน

มันต้องติดเพราะมันเป็นงาน ก็คือแทบจะเล่นตลอดเวลา เพราะมันคือการที่ต้องดูเทรนด์  ต้องดูว่าคนเขาชอบอะไร เสพอะไรกัน แล้วก็ต้องคิดคอนเทนต์ตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็ค่อนข้างติด แต่ว่าก็ไม่ใช่แค่งาน ไม่งานก็ติดอยู่ดี (หัวเราะ)

ถ้ามี “เม-บอต” (May-Bot) ขึ้นมาจริง ๆ จะลองใช้มั้ย

พี่เชื่อมั้ยว่าหลังจากที่ถ่ายทำไปอะ พลอยเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะว่ามันมีแอปอย่าง Chat GPT ที่เราถามแล้วมันตอบได้ แล้วมันจะมีฉากหนึ่งที่ตัว “ยี่หวา” มันถาม “เม-บอต” ว่าจะทำคอนเทนต์อะไร แล้วมีจังหวะหนึ่งที่พลอยไปถาม Chat GPT จริง ๆ ว่า 100 คอนเทนต์ในการท่องเที่ยว แล้วพอมันไล่ออกมา มันก็มีโมเมนต์หนึ่งที่แวบเข้ามาว่านี่มันคือยี่หวา นี่เรามาถึงยุคนี้แล้ว คือหนังมันเพิ่งถ่ายมาได้ปีที่แล้ว แต่เทคโนโลยีในโลกความเป็นจริงมันไปตามหนัง มันไปไวมากจนเรารู้สึกว่าเราใช้เทคโนโลยีในการทำคอนเทนต์ได้จริงๆ อะไรอย่างนี้

จุดขายและความน่าสนใจโดยรวมของเรื่องนี้

จุดเด่นในหนังเรื่องนี้พลอยว่ามันคือความที่เข้าใจในโลกสมัยใหม่มาก ๆ เข้าใจวัยรุ่น แล้วก็คนสมัยนี้มาก ๆ ในเรื่องของ Social Media ความที่เป็นสังคมของการวิ่งหาความสำเร็จโดยที่เราลืมคนรอบตัวไปหมดเลย แล้วความที่เป็นเด็กจบใหม่หรืออะไรก็ตามที่โดนสังคมกดดันว่าจะต้องสำเร็จนะ ต้องแต่งงานนะ ต้องนู่นต้องนี่ ต้องกลับไปทำงานที่บ้านนะ จริง ๆ เราก็เป็นหนึ่งคนที่วิ่งตามหาความสำเร็จเหมือนกัน หลาย ๆ คนก็คงอยากประสบความสำเร็จแหละ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหน้าที่การงานเงินทองอะไรอย่างงี้ มันเป็นยุคของสังคมที่กดดันเราว่าต้องสำเร็จนู่นนี่นั่นนะ แล้วโซเชียลมีเดียก็เข้ามาทำให้เห็นว่าคนอื่นเขาประสบความสำเร็จไปแล้ว ทำไมเรายังอยู่ที่เดิมวะ เราก็ต้องไปอีก ๆ ทะเยอทะยานอีก จนเราก็อาจจะลืมสิ่งรอบตัวไปเยอะมาก ๆ เหมือนกัน

คือเรื่องนี้มันเป็นหนังรอมคอม เป็นเรื่องของความรักความสัมพันธ์ของตัวละคร แต่ในความสัมพันธ์นั้น มันมีหลาย ๆ อย่างที่สอดแทรกเข้ามาอย่างในเรื่องของครอบครัวด้วย ในเรื่องของไซไฟด้วยอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็รู้สึกว่ามันเป็นหนังที่ครบรสมาก คือใครอยากจะมาดูความอบอุ่นความน่ารักของหนังเรื่องนี้ พลอยว่าน่าจะตอบโจทย์ รวมถึงความทันยุคทันสมัยด้วย แล้วก็ต้องบอกว่านี่เป็นบทหนังเรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วร้องไห้ตั้งแต่ตอนอ่านครั้งแรกเลย แล้วก็ร้องออกมาแบบมันเข้าใจ คือมันร้องไห้เพราะว่ามันแทงใจเราเอง คือมันร้องไห้เพราะว่ามันมีไดอะล็อกที่มันแทงใจชีวิตของเราจริง ๆ ว่าเราวิ่งตามอะไรอยู่วะ แล้วเราก็คิดของเราเองคือขนาดอ่านบทเรายังได้อะไรกลับมา ก็รู้สึกว่ามันเจ๋งดี ต้องนับถือคนเขียนบทด้วย ก็รู้สึกว่าอยากให้ลองไปดูกันจริงๆ เพราะว่ามันเป็นหนังที่กลมกล่อมมาก ๆ แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นหนังที่เรารู้สึกสนุกมากในตอนเล่นด้วย

ก็ฝากทุกคนด้วยนะคะกับหนังเรื่องนี้ ก็เป็นหนังที่เรารู้สึกว่าอยากให้ทุกคนได้เข้าไปดูจริง ๆ เราก็อยากเห็นเหมือนกันนะว่าจะฟีดแบ็กออกมาเป็นยังไงบ้าง เพราะเราเชื่อว่ามันดีมาก ๆ มันเป็นหนังรอมคอมไซไฟครอบครัวอบอุ่นเลย เราคิดว่าหลายๆ คนก็น่าจะชอบด้วย ก็ฝากด้วยนะคะ “MONDO รัก | โพสต์ | ลบ | ลืม” 10 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ค่ะ มาดูกันเยอะ ๆ นะจ๊ะ

About Author