65 ผจญนรกล้านปี “อดัม ไดร์เวอร์” เปิดโหมดสู้เอาตัวรอดแบบเต็ม MAX! 12 เม.ย.นี้ ในโรงภาพยนตร์ -

หลังจากที่ยานร่วงลงสู่ดาวนอกพิกัดการเดินทาง นักบินมิลล์ส. (อดัม ไดรเวอร์ – จาก Star Wars The Force Awaken) และโคอา (อริอาน่า กรีนแบลทท์ –จาก Avengers Infinity War) ผู้รอดชีวิตอีกคน จะต้องดั้นด้นข้ามพื้นที่รกร้างไปที่ยานฉุกเฉินซึ่งใช้หนีออกจากดาวดวงนี้ โดยระหว่างทางเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตสุดอันตรายที่พวกเขาต้องเอาตัวรอดให้ได้ ในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เพื่อหาทางกลับบ้าน จากมือเขียนบท A Quiet Place และผู้อำนวยการสร้าง “แซม ไรมี่” เปิดวาร์ปไป 65 ล้านปีก่อนกำเนิดโลกกับสิ่งมีชีวิตสุดอันตรายที่จะทำให้คุณ…ตื่นเต้นจนลืมหายใจ!

“อดัม ไดร์เวอร์” ต้องเปิดโหมดสู้เอาตัวรอดแบบเต็ม MAX! และแอ็คชั่นความมันส์สุดระทึกจากผู้เขียนบท A Quiet Place ใน #65movie #ผจญนรกล้านปี พุธที่ 12 เมษายน ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

ข้อมูลงานสร้าง

หลังจากที่ร่วงลงสู่ดาวเคราะห์ที่ไม่มีใครรู้จัก นักบินมิลส์ (อดัม ไดรเวอร์) ก็ได้ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าจริง ๆ แล้ว เขามาติดอยู่ในโลก…เมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว ณ ตอนนี้ เมื่อมีโอกาสในการได้รับการช่วยเหลือเพียงแค่ครั้งเดียว มิลส์และโคอา (อาเรียนา กรีนแบลทท์) ผู้รอดชีวิตอีกคน จะต้องดั้นด้นข้ามพื้นที่รกร้าง ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตอันตรายยุคก่อนประวัติศาสตร์ในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเอาชีวิตรอด จากมือเขียนบท A Quiet Place และผู้อำนวยการสร้างแซม ไรมี 65 ทริลเลอร์ไซไฟ ที่นำแสดงโดยอดัม ไดรเวอร์, อาเรียนา กรีนแบลทท์และโคลอี้ โคลแมน เขียนบทและกำกับโดยสก็อต เบ็ค & ไบรอัน วู้ดส์และอำนวยการสร้างโดยแซม ไรมี, เด็บราห์ ลีบลิงและไซแน็บ อาซีซี ร่วมอำนวยการสร้างโดยสก็อต เบ็คและไบรอัน วู้ดส์

โคลัมเบีย พิคเจอร์ส ร่วมกับบรอน ครีเอทีฟ ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยไรมี เบ็ค/วู้ดส์ โปรดักชัน 65 นำแสดงโดยอดัม ไดรเวอร์และอาเรียนา กรีนแบลทท์ กำกับโดยสก็อต เบ็ค & ไบรอัน วู้ดส์ อำนวยการสร้างโดยแซม ไรมี, เด็บราห์ ลีบลิง, พี.จี.เอ., ไซแน็บ อาซีซี, พี.จี.เอ., สก็อต เบ็ค, พี.จี.เอ. และไบรอัน วู้ดส์, พี.จี.เอ. ผู้ควบคุมงานสร้างได้แก่มารีแอนน์ แบรนดอน, ดั๊ก เมอร์ริฟิลด์, เจสัน โคลธและแอรอน แอล. กิลเบิร์ท ผู้กำกับภาพคือซัลวาโทร์ ต็อตติโน, เอเอสซี, เอไอซี ผู้ออกแบบงานสร้างคือเควิน อิชิโอกะ มือลำดับภาพได้แก่เจน โทนส์และจอช แชฟเฟอร์, เอซีอี ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคือไมเคิล แคปแลน ดนตรีโดยคริส เบคอน

เกี่ยวกับภาพยนตร์

“เรารักการสร้างหนังเฉพาะแนว การได้ไปโรงหนังในคืนวันศุกร์ที่คนแน่นเต็มโรงและได้ดูหนังที่เล่นกับเราเหมือนเปียโนน่ะครับ” สก็อต เบ็ค ผู้ร่วมมือกับคู่หูของเขา ไบรอัน วู้ดส์ เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ใหม่เรื่อง 65 กล่าว “หนังสยองขวัญ ลุ้นระทึก แอ็กชัน ผจญภัย นั่นเป็นของโปรดของเรา และสิ่งที่เรารักมากยิ่งกว่าคือการผสมผสานแนวนั้นๆเข้ากับเสียงหัวใจเต้น – ตัวละครที่คุณรักจริง ๆ น่ะครับ”

“เรื่องราวที่เรารักมักจะเหมาะกับการสร้างเป็นหนังเสมอ” วู้ดส์กล่าว “มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่หนังนำเสนอ ทั้งภาพวิชวล การแสดง ดนตรี การผสมผสานองค์ประกอบที่แตกต่างกันเหล่านี้น่ะครับ”

ก่อนหน้านี้ เบ็คและวู้ดส์เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในฐานะทีมเขียนบทของ A Quiet Place ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ชมในปี 2018 สำหรับ 65 พวกเขาได้นั่งแท่นผู้กำกับเป็นครั้งแรก และพวกเขายังได้รับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างร่วมกับแซม ไรมี, เด็บราห์ ลีบลิงและไซแน็บ อาซีซี (ประธานไรมี โปรดักชันส์) อีกด้วย

“สิ่งที่ดึงดูดใจผมมากที่สุดเกี่ยวกับ 65 คือแก่นของเรื่อง และนั่นก็คือความสัมพันธ์แบบพ่อกับลูกสาว ระหว่างมิลส์และโคอา” ไรมีกล่าว “โคอาเป็นเด็กสาวที่ฉลาดและกล้าหาญ ผู้ท้าทายมิลส์ ทั้งคู่ทั้งปกป้องและต่อสู้เพื่อกันและกัน แม้ว่าในตอนแรก มิลส์จะเป็นคนช่วยชีวิตโคอา แต่จริง ๆ แล้ว โคอาเป็นคนที่ช่วยเขาเอาไว้ มันเป็นเรื่องเล่าที่งดงามจริง ๆครับ”

ใน 65 อดัม ไดรเวอร์รับบทมิลส์ นักบินอวกาศที่ขนส่งผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ในห้วงอวกาศ ในตอนที่อุบัติเหตุได้คร่าชีวิตผู้โดยสารเกือบทั้งหมดของเขา โดยเหลือผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเด็กสาวที่ชื่อโคอา ที่รับบทโดยอาเรียนา กรีนแบลทท์

สิ่งที่มิลส์และโคอาไม่รู้ก็คือดาวเคราะห์ที่พวกเขาลงจอดนั้นคือโลกของเราเอง เมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว ขณะที่พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ไปสู่หนทางหลบหนีเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขา พวกเขาก็ถูกไล่ล่าจากฝูงไดโนเสาร์ดุร้ายที่ตามรอยของพวกเขาในดินแดนอันตรายนี้

“เด็ก 12 ขวบในตัวเราอยากจะเขียนบทหนังไดโนเสาร์อยู่เสมอ” เบ็คกล่าว “อารมณ์แบบมนุษย์จริง ๆ จะปรากฏบนหน้าจอในแบบที่ทรงพลังที่สุดผ่านทางฉากพวกนี้ครับ”

“ฉากต่าง ๆ ทั้งเข้มข้นและน่าสะพรึงกลัว” ลีบลิงกล่าว “ความตึงเครียดจะก่อตัวขึ้นอย่างเจ็บปวดและแสนสาหัส และมันก็ส่งผลให้เกิดช่วงเวลาที่งดงามพวกนี้ ที่มีความสุขอย่างแท้จริง ที่เกิดจากความผูกพันที่ตัวละครพวกนี้สร้างขึ้นกับกันและกัน มันเป็นโรลเลอร์โคสเตอร์ที่สนุกจริง ๆ ค่ะ”

ผู้อำนวยการสร้างไซแน็บ อาซีซีเห็นพ้องด้วย “ใครจะไม่รักหนังไดโนเสาร์เยี่ยม ๆ ล่ะคะ” เธอกล่าว “สก็อตและไบรอันพบวิธีในการนำความตื่นเต้นแบบนั้นขึ้นสู่จอเงินในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน”

สำหรับอดัม ไดรเวอร์ โอกาสในการได้แสดงตัวละคร ผู้ซึ่งการต่อสู้ทางกายเพื่อเอาชีวิตรอดสะท้อนการต่อสู้ทางอารมณ์ เป็นสิ่งที่เย้ายวนเกินต้านทาน “ทุกสเกลของการถ่ายทำทำให้ผมสนใจได้ทั้งนั้นและไม่มีประสบการณ์การถ่ายทำครั้งไหนที่เหมือนกันเลย โดยเฉพาะ 65 หนังเรื่องนี้ดูเหมือนหนังฟอร์มยักษ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เพราะมันมีไดโนเสาร์ สเกลก็เลยใหญ่ยักษ์ แต่มันก็มีพื้นที่สำหรับตัวละครที่ใช้ความคิดและธีมโดยรวมที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน และในขณะเดียวกัน มันก็เพลิดเพลินสุด ๆ เลย ในตอนที่ครอบครัวรวมตัวกันไปดูหนังเรื่องเดียวกันในโรงหนัง มันก็เป็นอะไรที่พิเศษสุดที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมันน่ะครับ”

ผู้ที่แสดงประกบไดรเวอร์ ในบทโคอา คืออาเรียนา กรีนแบลทท์ “โคอาเป็นเด็กสาวที่อยากรู้อยากเห็น กล้าหาญ ไร้เดียงสา และอ่อนหวานค่ะ” เธอกล่าว “เธอโตขึ้นเยอะเลยระหว่างหนังเรื่องนี้ เธอเริ่มต้นขึ้นจากการเป็นเด็กสาวที่ขี้กลัวตื่นสังคม เหมือนแมวและขวัญอ่อน แต่พอถึงตอนท้าย ๆ เธอก็ค้นพบความกล้าหาญของตัวเองค่ะ”

65 นับว่าเป็นบทบาทที่ใหญ่ที่สุดของกรีนแบลทท์จนถึงปัจจุบัน และเป็นการแสดงประกบนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดสองสมัยด้วย “ตอนฉันเริ่มทำงานโปรเจ็กต์นี้ ฉันกังวลจริง ๆ ฉันรู้สึกกดดันมหาศาลเลยเพราะเขาเหลือเชื่อเลยล่ะ แล้วก็มีเราแค่สองคนอีกต่างหาก” เธอเล่า “เขามีพรสวรรค์และสร้างแรงบันดาลใจมากเหลือเกิน ฉันเคารพอดัมและผลงานของเขามาก ตอนที่ฉันทดสอบกับเขาผ่านทางซูม เขาส่งผลกระทบกับฉันผ่านหน้าจอมาด้วยซ้ำไป คุณจะรู้สึกได้จริง ๆ ถึงทุกอย่างที่เขาส่งต่อมาให้กับคุณน่ะค่ะ”

แต่กรีนแบลทท์ยังกล่าวด้วยว่า เธอไม่ปล่อยให้ความหวาดหวั่นมาครอบงำเธอ อย่างแรกเลย เธอรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร “ฉันทำให้แน่ใจว่าตัวเองจะเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีในทุกวัน และเข้าถึงตัวละครของตัวเองอย่างถ่องแท้ค่ะ” เธอกล่าว “แต่ฉันยังบอกตัวเองด้วยว่า ฉันทำได้ ไม่ว่าคุณจะอายุน้อยแค่ไหน คุณจะมาจากไหน คุณก็จะสามารถทำอะไรตามที่คุณตั้งใจไว้ให้สำเร็จได้ ในฐานะนักแสดงหญิงเชื้อสายละตินที่อายุน้อย เป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันที่จะใช้ประโยชน์จากบทที่เหลือเชื่อนี้และจากโอกาสนี้ให้มากที่สุด เพื่อตัวฉันเองและสาว ๆ เชื้อสายละตินคนอื่น ๆ ด้วยค่ะ”

นอกจากนี้ 65 ยังเป็นโอกาสให้นักแสดงสาวได้แสดงฉากสตันท์ด้วยตัวเอง เช่นการห้อยหัวจากฐานทรงกลมนานกว่าหนึ่งนาที “ฉันรักการได้แสดงฉากสตันท์ด้วยตัวเองจริงๆ ค่ะ! ฐานทรงกลมนั่นเจ๋งไปเลย เหมือนกับเครื่องเล่นในงานคาร์นิวาลเลยค่ะ” เธอกล่าว “แต่แน่นอนว่ามันต้องอาศัยการเตรียมพร้อมมากมาย ฉันมีผู้ประสานงานฝ่ายสตันท์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ที่สอนฉันในการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างปลอดภัยและสอนให้ฉันรู้ถึงเคล็ดลับในการแสดงงานสตันท์ ซึ่งเจ๋งมาก ๆ ค่ะ”

เกี่ยวกับทีมงานสร้างและงานถ่ายทำ

อาซีซีกล่าวว่า วู้ดส์และเบ็คเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบ “พวกเขาเป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่เกรดหกในไอโอวา” เธอกล่าว “ฉันตีความว่าสก็อตเป็นสมองซีกซ้าย ส่วนไบรอันเป็นสมองซีกขวา พวกเขาจะมองหน้ากัน โดยไม่ต้องพูดอะไรเลย แต่พวกเขาจะรู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ พวกเขาทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยมและถ่วงดุลกันและกันค่ะ”

“สำหรับเรา การเขียนบทและการกำกับเป็นสิ่งเดียวกัน เพราะมันเกี่ยวกับการเล่าเรื่องทั้งนั้นครับ” วู้ดส์กล่าว

เบ็คกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าขันที่การที่ทั้งคู่ทั้งเขียนบทและกำกับทำให้พวกเขาถูกผูกมัดด้วยบทภาพยนตร์ของพวกเขาเองน้อยลง “ในฐานะผู้กำกับ คุณสามารถเปิดรับไอเดียดี ๆ ไหนๆ ในกองถ่ายก็ได้ ไม่ว่าจะอยากผู้กำกับภาพของคุณหรือซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ของคุณหรือนักแสดงคนใดคนหนึ่งของคุณ” เบ็คกล่าว “คุณสามารถผสมผสานมันได้จนถึงวินาทีสุดท้ายที่คุณพร้อมจะสั่ง ‘แอ็กชัน’ น่ะครับ”

วู้ดส์กล่าวว่า ความสัมพันธ์นั้นชัดเจนเป็นพิเศษเมื่อร่วมงานกับนักแสดงพรสวรรค์อย่างอดัม ไดรเวอร์ “เขามีไอเดียเยี่ยมๆ มากมายเกี่ยวกับตัวละครของเขา” วู้ดส์กล่าว “เขาท้าทายเราให้คิดถึงฉากต่าง ๆ จากมุมมองของตัวละครแต่ละตัวและกลั่นกรองฉากพวกนั้นผ่านเลนส์พวกนี้น่ะครับ”

ลีบลิงกล่าวว่า เช่นเดียวกับที่พวกเขาทำกับ A Quiet Place แนวทางของเบ็คและวู้ดส์ทำให้พวกเขาโดดเด่นในฐานะทีมผู้สร้าง เพราะพวกเขาได้นำเสนอภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึกโดดเด่น ความคิดอ่านของพวกเขาทำให้พวกเขาใช้ประโยคจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของภาพยนตร์ในการนำเสนอใบหน้าที่แสดงออกถึงอารมณ์ของไดรเวอร์ในตอนที่เขาแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ที่มากกว่าคำพูด “มันเป็นวิธีการบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างจากที่เรามักจะเห็นบนจอเงินตามปกติ” ลีบลิงกล่าว “มันมีไดอะล็อคที่จำกัดมาก ๆ มีนักแสดงหลัก ๆ เพียงแค่สองคนในหนังเรื่องนี้ และมันก็ยังเป็นหนังที่ตึงเครียดมาก ๆ ที่มีอะไรเกิดขึ้นมากมายด้วยค่ะ”

“มันเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่หนังทำได้ดีที่สุด ทั้งภาพวิชวล เสียง ดนตรี การแสดง เราได้รับแรงบันดาลใจจากการสร้างหนังเงียบ และการพึ่งพิงหลักพื้นฐานต่าง ๆ ของหนัง การใช้เครื่องมือมินิมอลลิสต์พวกนี้ในการเล่าเรื่องราวในสเกลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” วู้ดส์กล่าว

บทเรียนคลาสสิกอีกอย่างหนึ่งที่เบ็คและวู้ดส์ได้เรียนรู้คือการสร้างความลุ้นระทึก “เรามีคำที่เราพร่ำบอกกันที่ว่า ‘มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่คุณมองไม่เห็น’ น่ะครับ” เบ็คกล่าว “มันเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งใน A Quiet Place เหมือนกับที่มันสำคัญต่อเราที่โตมากับหนังอย่าง Jaws หนังทั้งเรื่องถูกสร้างขึ้นมาจากคำที่พวกเขาพร่ำบอกนั้น ไอเดียที่ว่ามีบางสิ่งที่อันตรายและลึกลับในสิ่งแวดล้อมนี้ ที่มิลส์และโคอาจะต้องไปข้องเกี่ยวด้วย เราใช้การออกแบบเสียง ใช้กล้องใช้การออกแบบงานสร้างในการเสนอแนะว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ข้างนอกนั่น และมีแค่จังหวะที่เหมาะสมเท่านั้นที่เราจะทำให้ผู้ชมตกใจน่ะครับ”

“สก็อตและไบรอันได้สร้างภาพที่งดงาม เป็นช็อตที่ฉันไม่เคยเห็นผู้กำกับคนไหนคิดได้มาก่อน” ลีบลิงกล่าว “มันไม่ใช่วิธีที่พวกเขาสอนกันในโรงเรียนภาพยนตร์ ที่มีการถ่ายทำตามแบบฉบับ มันนำพาเราเข้าสู่ประสบการณ์ของพวกเขาค่ะ”

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในป่าภายในรัฐโอเรกอน รวมถึงที่โกลเดน ฟอลส์ ซึ่งทำให้ทีมผู้สร้างได้ภาพที่ตระการตามาเป็นฉากหลัง จากฝีมือของผู้กำกับภาพชื่อดัง ซัลวาโทร์ ต็อตติโน ผู้ซึ่งผลงานของเขารวมถึงภาพยนตร์เรื่อง Everest, Spider-Man™: Homecoming, Inferno และ Bird Box

“มีฉากที่เหลือเชื่อหลายฉากครับ” ต็อตติโนกล่าว “มันเป็นความท้าทาย บางช็อตนี่ซับซ้อนจริง ๆ และเราก็อยู่ในโลเกชันที่ทำงานด้วยไม่ง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนเครนเข้าสู่ป่าหรือบึงน้ำ และคิดหาทางออกว่าเราจะให้แสงพื้นที่กว้างใหญ่นี้ตอนกลางคืนในแบบที่ทำให้มันดูน่าสนใจ แต่ก็น่ากลัวและเป็นปริศนาได้ยังไง เราคิดวิธีที่ดีจริง ๆ ขึ้นมาได้และเราก็ได้เล่าเรื่องราวในแบบที่อาศัยภาพวิชวลมาก ๆ ในแบบที่คุณไม่ได้เล่าบ่อยนักน่ะครับ”

“ซัลเป็นนักมายากลค่ะ” อาซีซีกล่าว “เขารู้ว่าจะถ่ายทำด้วยมุมที่เพอร์เฟ็กต์ยังไง คุณจะเห็นได้ในฉากใหญ่ ๆ แต่บ่อยครั้ง ช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเปี่ยมด้วยอารมณ์จะเป็นช็อตที่ทำให้คุณทึ่งได้มากพอ ๆ กับช็อตที่ซับซ้อนค่ะ”

ตามคำที่พวกเขาพร่ำบอกว่า “มันคือสิ่งที่คุณมองไม่เห็น” ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ คริส ฮาร์วีย์กล่าวว่า เขาได้ร่วมงานกับต็อตติโนเพื่อซ่อนเจ้าไดโนเสาร์พวกนี้ไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม “ซัลได้เล่นกับแสง ใช้การซ่อนตัวในเงามืด เป็นแสงสว่างกับความมืดครับ” ฮาร์วีย์กล่าว “เราเล่นกับสิ่งเหล่านั้นในการออกแบบสิ่งมีชีวิตด้วยเหมือนกัน วิธีการที่เราสร้างภาพอนิเมชันของพวกไดโนเสาร์และวิธีการที่พวกมันเคลื่อนตัวผ่านเงามืดน่ะครับ”

ในการออกแบบพวกไดโนเสาร์ ฮาร์วีย์ได้ใช้งานเนวิลล์ เพจ นักออกแบบในตำนาน ผู้ซึ่งผลงานรวมถึงแฟรนไชส์ Avatar, Star Trek และ Tron “ตัวละครแต่ละตัวมีพื้นฐานจากความเป็นจริง แต่ใส่เอากลิ่นไอความสยดสยองเข้าไปนิด ๆ ครับ” ฮาร์วีย์กล่าว “เราสร้างเรื่องราวความเป็นมาให้กับงานดีไซน์แต่ละตัวของเขา ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของตัวละคร เช่นพี่เบิ้มตัวร้ายนั่นจะมีตัวผอมซูบ มันอายุมาก และมีร่องรอยบอบช้ำจากการต่อสู้ครั้งก่อน ๆ และเราก็ต่อยอดจากตรงนั้นครับ”