คุยแซ่บShow

“น้ำ รพีภัทร” เปิดใจครั้งแรก ทำไมไม่ต่อสัญญากับช่องมากสี ทั้งที่อยู่มานานกว่า 20 ปี

พระเอกหนุ่ม น้ำ รพีภัทร จะมาเปิดใจครั้งแรกหลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับช่องมากสี พร้อมเคลียร์ชัด ๆ กับฉายาที่ชาวเน็ตตั้งให้ว่าเป็นพระเอกขี้เมา อีกทั้งยังเปิดชีวิตคู่กว่า 10 ปีกับปัญหาที่อาจทำให้บ้านแตก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่องวัน31 ที่มีเป็กกี้ ศรีธัญญา และ ตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ตอนนี้หมดสัญญากับช่องมากสีหรือยัง? น้ำ : หมดแล้วครับ หมดเมื่อปี65 ที่ผ่านมาครับ ตอนนี้ถือว่าเป็นนักแสดงอิสระเต็มตัวแล้ว? น้ำ : เป็นนักแสดงอิสระแล้วครับ ทำไมถึงไม่ต่อสัญญา? น้ำ : ผมอยู่ในสัญญามา 20 ปีแล้วนะ ตอนนี้พอหมดสัญญาแล้วอยากจะได้ลองอะไรใหม่ ๆ ทำงานกับทีมใหม่ ๆ ไปเจอกลุ่มนักแสดงใหม่ ๆ บ้าง เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ ได้ทำงาน ได้ศึกษาอะไรใหม่ ๆ ด้วย ส่วนใหญ่นักแสดงที่หมดสัญญา พอออกมาปุ๊บเนรคุณ พี่น้ำกลัวคนจะว่าเนรคุณไหม? น้ำ : ต้องให้เขาดูจากงานที่ผ่านมามากกว่า เพราะว่าตลอดระยะสัญญาที่ผ่านมา เราก็ทำหน้าที่ของเราแบบเต็มความสามารถ แล้วก็รับผิดชอบทุกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เริ่มมีช่องอื่น ๆ ติดต่อมาบ้างหรือยัง? น้ำ : มีบ้างครับ ก่อนหน้านี้เขาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ก็ถามเรื่องสัญญาแหละครับ ก็บอกว่าหมดปลายปี65 หลังจากนี้จะมีเริ่มคุยจริงจังในเรื่องของการวางแผนงาน มีผู้ใหญ่ทางช่องวันมากทาบทามบ้างไหม? น้ำ : คงต้องผ่านรายการ คุยแซ่บshow นี่แหละครับ...

“บุ๋ม ปนัดดา” เอาจริง ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด คอมเมนต์แรง เรียกคนละ 1 ล้าน!

สวยสตรอง คุณแม่ลูก 2 บุ๋ม ปนัดดา วันนี้จะขอมาอัปเดตหลังคลอดลูกชาย น้องอเล็กซ์ พร้อมตอบกระแสชาวเน็ตที่คอมเมนต์แรง งานนี้แม่บุ๋มฟ้องเรียบ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ, เป็กกี้ศรีธัญญา และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ วันนี้ครบ 1 เดือนพอดี เป็นยังไงบ้าง? บุ๋ม : เป็นคุณแม่มือใหม่ 1 เดือนพอดีเป๊ะสำหรับน้องอเล็กซ์ เลี้ยงง่ายมากเลย ร้องอย่างเดียวคือหิว เขาคอแข็งเร็วมากเลย  น้องอเล็กซ์กับน้องอันดาห่างกัน 16 ปี ความรู้สึกที่เรามีลูกคนแรกกับตอนนี้มันต่างกันไหม? บุ๋ม : ต่างกันเยอะมากเลย เพราะว่า 16 ปีที่แล้ว ด้วยความรู้เกี่ยวกับแม่ลูก แล้วเทคโนโลยีต่าง ๆ อีกเรื่องนึง พอมาตอนนี้การดูแลตัวเองของคนเป็นแม่ อย่างเช่นน้ำหนัก แต่ก่อนเราจะรู้ว่าน้ำหนักขึ้นได้ 7-12 โล  แต่ตอนท้องอันดาบุ๋มขึ้นไป 18 โล พอคลอดอันดามาคนยังทักอยู่เลย เมื่อไหร่ผ่าน้อง แต่พอมาเป็น อเล็กซ์ 16 ปีให้หลังทั้งท้องไม่ต้องเกิน 3 โลก็ได้ ในช่วง 3 เดือนท้ายที่เด็กกำลังจะโต แล้วก็ให้งดนมวัว กินได้แต่นมถั่วเหลือง กลายเป็นว่าทั้งท้องบุ๋มขึ้นมาแค่โลเดียว เพราะพยายามคุมโปรตีน คุมน้ำหนักทุกอย่าง เพราะเราอายุเยอะแล้ว แล้วกลัวว่าถ้าน้ำหนักเหลือที่เราเยอะเราจะดูแลตัวเองยาก ก็เลยพยายามหาอาหารที่ลงถึงเด็กจริง ๆ น้องอเล็กซ์ออกมาก็เกือบ ๆ 3 โล พอรู้ว่าตั้งท้อง อันดารู้สึกยังไงบ้าง? บุ๋ม : อันดามารู้ตอนอเล็กซ์เข้า 4 เดือนแล้ว บุ๋มเอาผลอัลตร้าซาวด์ไปให้ อันดาก็ฮัลโหลคำเดียวแล้วไม่ได้พูดอะไร คุณอเล็กซ์เขาน่ารักมาก ตอนนี้แย่งกันเลี้ยงไหม? บุ๋ม : พ่อเขาดูซะส่วนใหญ่ เขาจะหอม ฟัดของเขาตลอดเวลา จนกระทั่งอเล็กซ์ติดมือก็เพราะพ่อเขานี่แหละ ตัวพี่บุ๋มเซอร์ไพรส์ไหม เราท้อง? บุ๋ม : ช็อกสิ เพราะว่าเราอายุเยอะแล้ว ถามว่าตั้งใจไหมก็ตั้งใจ เพราะว่าบุ๋มเตรียมฮอร์โมนตัวเองมา 2 ปี ไปหาคุณหมอเพื่อกินฮอร์โมน เรากินอยู่ประมาณ 2 ปี จนได้ผล ซึ่งหมอจะชัดเจนเลยว่ามีได้ แต่ต้องกินวิตามินนิดนึง อาจจะต้องบำรุงหน่อย แต่จะติดไม่ติดก็แล้วแต่โชคชะตา แต่วันที่ติดก็ยังสงสัยอยู่ว่าวัยทองหรือเปล่า เพราะอายุเราเยอะแล้ว คิดว่าฮอร์โมนสวิงเลยโทรหาคุณหมอประจำตัวที่ดูแลอยู่ บอกว่าคุณหมอประจำเดือนไม่มาต้องกินยาอะไรไหม เป็นคนกังวลว่าถ้าประจำเดือนไม่มาเดี๋ยวฉันจะผิวไม่สวย คุณหมอบอกตรวจครรภ์ก่อนดีกว่าไหม เราก็อะไร 46 แล้ว เขาบอกว่าตรวจไว้ก่อนดีกว่า วันนั้นเดินอยู่ห้าง ก็ไปร้านขายยา ซื้อนู้น ซื้อนี่ แล้วก็ซื้อที่ตรวจครรภ์มาอันนึง แต่ก็กลัวเหมือนกันถ้าฉันซื้อไปเดี๋ยวเขาหาว่าไปตรวจลูกหรือเปล่า เพราะลูกเราสาวแล้วไง แต่ก็ไปตรวจในห้องน้ำห้างนั่นแหละ ผลปรากฏว่า ตอนนั้นอัดวีดิโอไว้ด้วยนะ ขึ้น 2 ขีดไม่ใช่โควิดด้วย ลนลานโทรหาหมอ คุณหมอบอกไปตรวจเพื่อความชัวร์อีกทีดีกว่า แล้วเหตุผลที่ไม่บอกใคร คือเราไม่รู้ว่าท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างที่สองคือกลัวลูกหลุด เพราะพออายุเยอะไข่ที่ไม่สมบูรณ์มันจะหลุดง่าย พอหลุดง่าย ถ้าเสียเขาไปเราจะได้เสียใจแค่ในครอบครัว อีกอย่างหนึ่งเราต้องรอตรวจผลโคโมโซม ก็ลุ้นว่าจะยังไง แต่คุยกับหมอเรียบร้อยแล้ว ถ้าน้องไม่สมบูรณ์ น้องมีความผิดปกติ เราจะเอาเขาออกเพราะเราอายุเยอะแล้ว การที่เลี้ยงเขามนภาวะแบบนั้นโดยที่เราตายไปแล้ว เขาน่าสงสารเกินไป ก็เลยขอปิดไว้ก่อนจนกว่าจะรู้ว่าชัวร์หรือไม่ จรกระทั่งผลออกมาว่าน้องแข็งแรง 99% ด้วยคุณแม่วัย 46 อีก 1% ที่เหลือมันลุ้น มันยังเครียดอยู่ก็เลยปิดไว้ก่อนดีกว่า แต่ก็มานั่งคิดว่าถ้าเราระวังมากเกินไป เราจะเครียดเกินไป ก็เลยใช้ชีวิตตามปกติ ตอนท้องไม่บอกสามีเป็นคนแรก คุณบอกใครเป็นคนแรก? บุ๋ม : บอกหมอ เพราะมันมีคำถาม 108 พันเก้ามากเลย จะบอกสื่อดีไหม หรือไม่บอกดี หรือจะลองเล่นดู พอสามีรู้ว่าท้องเขาว่ายังไงบ้าง? บุ๋ม : เขาก็ดีใจ คือเราคุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่าเราจะมีลูกกัน วินาทีที่บอกสามีพูดว่าอะไร? บุ๋ม : ขอ 5 คน เดี๋ยวแค่ 1 คนฉันก็เครียดแล้ว...

“มัดหมี่ พิมดาว” เปิดตัว แฟนรุ่นน้อง ครั้งแรก 

มัดหมี่ พิมดาว ควงแฟนรุ่นน้อง วิน ภวัต เปิดตัวครั้งแรก แล้วอะไรที่ทำให้แหกกฎตัวเองยอมคบเด็ก?! คอนเฟิร์มแล้วจ้า มัดหมี่ พิมดาว เปิดใจอีกครั้งกับความรักครั้งใหม่ นายแบบรุ่นน้อง วิน ภวัต พร้อมควงคู่เปิดตัวเต็มๆ ที่แรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีหนิง ปณิตา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เพิ่งเปิดตัวว่าเป็นแฟนกันเมื่อเดือนที่แล้ว? วิน : เปิดครับ เห็นว่าดีกรีคุณวินไม่ธรรมดาเลย เป็นผู้บริหารโมเดลลิ่ง? วิน : ครับ ก็จะมีนายแบบ นางแบบ เป็นแนวสายแฟชั่น  หนึ่งในนั้นมีน้อง อีตั้น ลูกชายหมิว ลลิตา ด้วย? วิน : ใช่ครับ วินทำหน้าที่อะไรในบริษัทบ้าง? วิน : ก็แล้วแต่พี่ ๆ จะใช้เลยครับ ผมก็ทำทุกอย่าง สองคนนี้คนละสายเลย คนหนึ่งทำโมเดลลิ่งอยู่เบื้องหลัง ส่วนมัดหมี่อยู่เบื้องหน้า มาเจอกันได้ยังไง? วิน : จริงๆ ผมเป็นเบื้องหน้าด้วย ผมเป็นนายแบบอยู่ ก็ทำทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า เราเจอกันที่งานแฟชั่นโชว์ ผมมีโอกาสไปเดินให้กับแบรนด์หนึ่งแล้วเขามาดู แล้วไปปิ๊งกันตอนไหน? มัดหมี่ : ยังไม่ได้ปิ๊งตอนดูเดินแบบ จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ทำให้ทั้งคู่มาพูดคุยกัน เริ่มจากอะไร? วิน : ครั้งแรกปิ๊งก็ได้ที่เจอเขา อยู่บนเวทีไงเห็นเขามานั่งดู เราก็มองลงไป คนนี้น่ารักจังเลย เราก็สนใจเขาก็เลยแอบไปหาตามแท็กต่าง ๆ ใครแท็กแบรนด์นี้มาบ้าง จนกระทั่งไปเจอเขา ไอจีนี้นี่เอง มัดหมี่ : เขาไม่รู้จักหนู...

“แม็กกี้ อาภา” เปิดใจ หลังไม่ต่อสัญญาช่องมากสี “คุณพ่อตุ๋ย” อยากให้ลูกมีแฟน เรื่องเพศไม่จำกัด!

ซูโม่ตุ๋ย อรุณ ภาวิไล เปิดใจครั้งแรกถึงสาเหตุแยกทางกับภรรยามาแล้ว 27 ปี แต่ไม่มีใครรู้ พร้อมควงลูกสาวคนสวยแม็กกี้ อาภา มาเผยโมเมนต์ คุณพ่อ คุณลูก งานนี้คุณพ่อลั่นอยากให้ลูกสาวมีแฟน เพราะอยากอุ้มหลาน อีกทั้งยังเคลียร์ดราม่าใช้เส้นดันลูกสาวเข้าวงการ จนกลายเป็นนางเอกช่องดังกว่า 10 ปี แต่เพราะอะไรที่ทำให้แม็กกี้โบกมือลาไม่ต่อสัญญากับช่องมากสี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ หมดสัญญากับช่องเดิม? แม็กกี้ : ประมาณเกือบจะ 10 ปี พ่อตุ๋ย : ทีละ 5 ปี 2 รอบแล้ว ทำไมถึงไม่ต่อ? แม็กกี้ : เป็นจังหวะที่แม็กกี้หมดสัญญาพอดี แล้วช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมกับคุณแม่ได้ไปเจอกัลยาณมิตรที่ดี ได้มาศึกษา เจอธุรกิจใหม่ ตอนนี้เราให้น้ำหนักกับธุรกิจใหม่ของเรามากกว่า? แม็กกี้ : ถือว่าเป็นช่วงที่เราให้ความสนใจ มีธุรกิจที่ทำอยู่ในช่วงโควิด 3 อย่าง ก็จะมีอสังหาฯ ทัวร์ และธุรกิจออนไลน์เพราะคิดว่าช่วงโควิดธุรกิจออนไลน์กระทบน้อยที่สุด เราเลยคิดว่าอยากมีแบรนด์เป็นของตัวเองสักชิ้น ลูกสาวมาปรึกษาไหมตอนที่จะต่อสัญญา แล้วบอกว่าหนูไม่ต่อ? แม็กกี้ : เขาไม่ได้ปรึกษาเรื่องนี้นะ ส่วนใหญ่เขาจะปรึกษาบทที่จะได้รับเรื่องนี้ พ่ออ่านสิมันเหมาะกับหนูไหม แล้วมันควรเล่นหรือเปล่า แน่จากช่อง7 นี้ผมไม่รู้ ต่อก็ดี ไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร จะไปช่องไหนก็ได้ จะมาช่อง one ก็โอเค จริง ๆ เหตุผลเลยคือไม่ได้น้อยใจช่องใช่ไหม? แม็กกี้ : ไม่น้อยใจเลยค่ะ เพราะว่าคนรู้จักแม็กกี้ได้ 2 อย่าง คือรู้จักเพราะว่าแม็กกี้เป็นลูกของคุณพ่อ แล้วอีกอย่างรู้จักเราจากผลงานของเราจริง ๆ  เรียกว่าเราก็เติบโตมา แต่พอถึงวันนี้เราคิดว่าเราอยากพัฒนาตัวเองมากขึ้น เพราะที้ผ่านมาทุกคนจะมีทักษะด้านเดียว พ่อตุ๋ย : ผมจะบอกลูกเสมอนะว่านักแสดงเหมือนใบไม้ผลิใบ มันเปลี่ยนใบไปเรื่อย ๆ ถ้ายังอยู่ต่อมันก็ต้องเล่นตามวัยถ้าอยู่ต่อให้สมวัยก็ต้องเป็นพิธีกร ผู้ประกาศข่าว แม็กกี้ : คุณพ่อก็อยากให้ฝึก ตอนเป็นนักแสดงใหม่ ๆ คนส่วนใหญ่บอกว่าดังเพราะพ่อ เพราะเป็นลูกพ่อ? แม็กกี้ : ก็โดนเยอะ แรก...

“ปันปัน สุทัตตา” เล่าวีรกรรมวัยเด็ก ซน-เอาแต่ใจ จนทีมงานเอือม ตั้งฉายา เด็กเปรต!

นักแสดงวัยรุ่นตัวตึงซีรีส์วัยรุ่น อย่าง ปันปัน สุทัตตา ที่วันนี้จะมาเปิดเผยอายุ 25 ปีแล้ว เบญจเพศแรงมากป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าขยับไม่ได้ครึ่งซีก พร้อมอัปเดตสถานะหัวใจกับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ ไบรท์ อนันต์ ที่อายุห่างกันกว่า  14 ปี แถมย้อนเล่าวีรกรรมวัยเด็กกับความเอาแต่ใจจนทีมงานเอือมระอา ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ในสคริปต์บอกว่าป่วยอยู่ แต่น่ารักสดใสแบบนี้ป่วยอะไร? ปันปัน : ประมาณสัก 4 เดือนที่แล้ว อยู่ดี ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เหมือนปันกลับมาจากอเมริกา พอกลับมาถึงรู้สึกว่าพูดไม่ค่อยชัด รู้สึกว่าปากมันขยับไม่ได้ มองกระจกแล้วทำไมหน้าตาเราแปลก ๆ หน้าตาเราเปลี่ยนไป แล้ววันต่อไปดูกระจกแล้วเหมือนปากมันเบี้ยวไปครึ่งซีกล่าง ก็เลยไปหาหมอ ตอนนั้นรู้สึกยังไง? ปันปัน : รู้สึกปกติเลย แต่เหมือนร่างกายเราสั่งมันขยับไม่ได้ โรคนี้เขาเรียกโรคปลายประสาทอักเสบ ถูกต้องไหม? ปันปัน : ใช่ ทำไมอายุ 25 ถึงเป็นอะ? ปันปัน : มันเป็นโรคที่เหมือนไวรัสตัวนึงที่ทุกคนมีอยู่แล้ว แล้วมันขึ้นมา เราอาจจะนอนน้อย เครียดหรืออะไรแบบนี้แล้วมันขึ้นมาเอง ทุกคนมีสิทธิ์เป็นหมด วันไหนที่เราภูมิตก แล้วมันก็ขึ้นมา จุดไหนที่รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องไปหาแพทย์? ปันปัน : วันรุ่งขึ้นไปเลย แล้วคำแรกที่หมอถามคือ ฉีดโบท็อกซ์มาเหรอ มันเป็นเหมือนหน้าเบี้ยวฉีดโบท็อกซ์ หมอไม่ได้พูดถึงโรคแต่ถามว่าปันปันฉีดโบท็อกซ์มาไหม? ปันปัน : หนูบอกว่าไม่ได้ฉีดมานานมากแล้ว เขาเลยโอเค เข้ามาดูนู้น ดูนี่ ขยับไปน่าจะเป็นโรคนี้ วันนั้นเคาะแล้วว่าเป็นโรคนี้แน่นอน? ปันปัน : ใช่ค่ะ ถ้าเกิดว่าโรคนี้เป็นแบบฟูสตรีม มันจะเป็นแบบครึ่งหน้า มันจะขยับไม่ได้ มันจะตกลง ปันปันอายุน้อยมากเลยนะ อะไรเป็นสาเหตุให้เป็นโรคนี้?...

“แตน ราตรี” เปิดใจหลังตรวจ DNA ตามหาพ่อแท้ ๆ พร้อมเปิดตัว “น้องเนเน่” ลูกสาวคนที่3 

นักแสดงรุ่นใหญ่อารมณ์ดี แตน ราตรี เปิดใจถึงสาเหตุส่ง DNA ไปตรวจเพื่อตามหาครอบครัวที่อเมริกา แม้ตัวเองจะอายุ 56 ปีก็ยังอยากเจอพ่อแท้ ๆ สักครั้งในชีวิต พร้อมเปิดตัว น้องเนเน่ ลูกสาวคนที่3 ที่แรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีหนิง ปณิตา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ตอนนี้มีข่าวว่าพี่แตนตามหาพ่อแท้ที่ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ทำไมอยู่ ๆ เพิ่งคิดจะมาตาม? แตน : จริง ๆ ความคิดมันมีมานานแล้วนะ เพียงแต่เราติดคุณพ่อใหม่อยู่ ซึ่งคุณแม่มีคุณพ่อใหม่ เราก็เกรงใจ เพราะคุณพ่อใหม่ให้ความรักกับเราเหมือนลูกแท้ๆ ความคิดมันมาเป็นระยะ ๆ  แต่เกรงใจคุณพ่อคนใหม่? แตน : ใช่ เขาดูแลเราดีมากๆ ถึงจะมีน้องใหม่ ก็เลยทำให้เราไม่คิดจะทำอะไรเลย เบรกไว้ ๆ  ก่อนที่เราจะตามหาเรารู้ได้ไงว่าพ่อเราเป็นอเมริกัน หรือว่าเป็นฝรั่งทางไหน? แตน : ก็มีปู่ ยา ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา เขาบอกว่าพี่แตนเป็นลูกครึ่งอเมริกา เมื่อก่อนมีรูป มีอะไร ตอนประมาณ ป.2 พี่แตนยังใช้นามสกุลเขาอยู่เลย พอมีพ่อใหม่ก็เลยเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพ่อใหม่ ทำไมไม่ถามข้อมูลโดยตรงกับคุณแม่ว่าไปเจอที่ไหน ไม่ต้องประกาศตามหา? แตน : คุณแม่เสียไปแล้ว ตอนคุณแม่อยู่แกถามว่าไม่อยากเจอเหรอ ด้วยความจริงเลยนะ อยากเจอ อยากรู้ว่าคุณพ่อเราอยู่ตรงไหน ทำอะไร พอหันมาดูเห็นคุณพ่อใหม่ก็กลัวเขานอยด์ มันก็เลยเบรกไว้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้คุณพ่อ คุณแม่ไม่อยู่แล้ว ก็มาเจอเพื่อน ซึ่งอยู่ในวงการด้วยกันนี่แหละ ก็ถามว่ายากไหม ลำบากไหม เขาเจอแล้ว แล้วความคิดที่เราจะเจอมันเลยกลับมาอีกรอบนึง ตอนนี้ความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว? แตน : เจอแล้ว DNA พี่แตนเป็นไทย กัมพูชา ส่วนคุณพ่อเป็นอังกฤษ สก็อตแลนด์ ได้มีโอกาสเจอหน้ากันหรือยัง? แตน : ยังเลยค่ะ คือรู้ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน? แตน : ใช่ คือรู้ว่าอยู่อเมริกาแน่นอน...

“ขวัญ อุษามณี” ชัดเจน ขอเปิดตัวแฟนเมื่อแต่งงาน  –  ถ้ามีลูกพร้อมออกจากวงการ?

นางเอกสาวขวัญ อุษามณี ควงคุณแม่แอ๊ว ปราณี มาเผยความลับที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีหนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ อยู่วงการมา 30 ปี? ขวัญ : ขวัญเข้าวงการมาประมาณ 3-4 ขวบ แต่ว่าเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ตัวว่าเราทำงาน เรื่องนี้เป็นจุดพีคในชีวิตขวัญไม่ว่าขวัญไปรายการไหนเขาก็จะถาม เพราะมันไม่น่าเชื่อว่าเรายังคงอยู่ ณ ปัจจุบัน แม่ขี้บ่นมากจริงไหม? แม่แอ๊ว : ไม่ได้บ่นนะ มันเป็นการเตือนมากกว่า แต่พักหลังรู้แล้วว่าขวัญไปพูดกับเพื่อน พูดกับใครว่าแม่ขี้บ่น ก็บอกแม่สิ แล้วต่อจากนั้นแม่ไม่พูดเลย จนกระทั่งกินข้าว เขาบอกอันนี้อร่อยนะ แม่ก็เงียบ แม่เอาไหม แม่สั่งอะไรไหม แม่ก็เงียบก็นิ่ง ขวัญ : ก็ไม่มีความพอดีไง แม่แอ๊ว : ก็รอคำถามว่าทำไมแม่ไม่พูด ก็จะได้บอกว่าเวลากูพูดมึงก็บอกว่ากูบ่น เพราะฉะนั้นเงียบเลย น้อยใจใช่ไหม? แม่แอ๊ว : ใช่ เหลือกันอยู่ 2 คนไม่ให้แม่คุยกับลูกแล้วให้ไปคุยกับใคร คุยกับผู้ชายก็ไม่ได้ ทาปากแดงก็ไม่ได้ แม่ไปหาใคร ไปหาผู้ชายเหรอ ขวัญ : ไม่ได้ หนูเอารูปหน้าพ่อแปะไว้หน้าบ้านเลย คือหวงไม่ให้แม่คุยกับผู้ชายเลย? ขวัญ : ไม่ ถ้าสมมติมีคนมาจีบแม่ได้ไหม? ขวัญ : ไม่ได้ เพราะขวัญรู้สึกว่าคนพวกนั้นมาทีหลังพ่อ ถ้ามาพร้อมพ่อก็โอเค จะได้บอกว่าพ่อมาอยู่กับหนูให้เขาอยู่กับแม่ไป แม่จะได้มีเพื่อนคุย จะได้บ่นอุษาน้อยลง? แม่แอ๊ว : เดี๋ยวแม่ไปออสเตรเลียแล้วไง ลูกแก้วบอกแม่รีบมา หาคนกินกาแฟกับแม่ไว้แล้ว หลายคนบอกว่าแม่ลูกคู่นี้ชอบทะเลาะกันจริงไหม? ขวัญ : ก็ทะเลาะในสิ่งที่เขาสอนในแบบดี แม่แอ๊ว : แต่ตัวเองต่อต้านไง แต่อีกใจหนึ่งยอมรับ เป็นอย่างนั้นจริงไหม เรามีอีโก้ขนาดนั้นเลยเหรอ?...

“ตุ๊ก เดือนเต็ม” ย้อนเล่าความสัมพันธ์ “ลินดา ค้าธัญเจริญ” แค่เพื่อนร่วมวงการ แต่ดูแลกันมา 18 ปี

นักแสดงรุ่นใหญ่ ตุ๊ก เดือนเต็ม ที่วันนี้จะมาเผยถึงวินาทีสูญเสียเพื่อนรัก ลินดา ค้าธัญเจริญ ไปอย่างไม่มีวันกลับพร้อมเล่าความจริงที่หลายคนยังไม่เคยรู้ ทั้งแม่ตุ๊กและแม่ลินดาไม่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน อีกทั้งยังเล่าโมเมนต์น่ารักของคำว่าเพื่อนที่ดูแลกันมายาวนานกว่า 18 ปี แถมยังเล่าเหตุการณ์ที่หมอดูเคยทักคุณลินดาเอาไว้ก่อนที่จะป่วยผ่านทาง รายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทราบข่าวของอดีตนางแบบและนางเอก คือ พี่ลินดา ตอนนี้คุณแม่ทำใจได้หรือยัง? แม่ตุ๊ก : ตอนนี้มีความรู้สึกว่าเขายังอยู่ เราไม่ได้มีความทุกข์โศกตรงที่ว่า เหมือนทำอะไรทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่เขาก็ยังอยู่ในใจเรา ก็เหมือนเขายังอยู่ ใจหายไหม? แม่ตุ๊ก : ใจหาย แต่จริงๆ เราทำใจมาระยะนึงแล้ว เพราะว่าเมื่อปีที่แล้วของวันนี้ เขาก็เป็นหนัก เขาก็เข้าไปอยู่โรงพยาบาล 4-5 เดือน แล้วก็มาอยู่ที่บ้าน 9 เดือน ตอนที่เข้าครั้งที่2 มีความหวังลึก ๆ ไหมว่าจะกลับไปเหมือนเดิม? แม่ตุ๊ก : เรามีความหวังทุกครั้ง แล้วก็คุยกับพี่เลี้ยงเขา 15 ปี เขาอยู่ดูแลกันตลอด 24 ชม. แล้วเราก็จะติดต่อเขา มันช่วงโควิดเนี่ยเราไม่สามารถเยี่ยมได้เลย เพราะเขาจะไม่ให้คนนอกเข้าไป ยกเว้นคนนั้น เพราะเขากลัวว่าคนไข้จะได้รับเชื้อ เราก็จะวีดิโอคุยกัน ก็ได้เห็นหน้า แต่ไม่ได้สื่อสารด้วยคำพูด แต่พอถึงจุดสุดท้าย แม่ตุ๊กตัดสินใจคุยกับหมอดีกว่าว่าเราจะไม่ยื้อ ตอนนั้นตัดสินใจนานไหม? แม่ตุ๊ก : ตั้งแต่เล็กเขาพูด เราก็ปรึกษากันว่าเราไม่ให้พี่ดาทรมานอีกแล้วนะ ตั้งแต่แรก เราบอกว่าถ้ามีอะไรขึ้นมา ไม่ให้ปั๊ม ไม่ให้เจาะ หรือไม่ให้ทำอะไรเพิ่มแล้ว ให้เขาไปอย่างสงบ เพราะว่าเป็นขนาดนี้แล้ว อย่าเจ็บอะไรอีกเลย แต่ก็ไม่คิดว่าจะไป เพราะว่าครั้งสุดท้ายที่ไปก็คือไปเข้าโรงพยาบาล มีไข้ขึ้นสูง เข้าโรงพยาบาลวันที่ 4 พฤศจิกายน แต่เล็กเขามีเซ้นส์อะไรบางอย่าง เขาบอกว่า เขามีความคิดยังไงก็แล้วแต่มี๊ต้องได้กลับมา แต่เล็กก็เชื่อว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ตายของมี๊ดาหรอก เขาก็มีเซ้นส์ของเขา เราก็บอกทำใจเถอะ อะไรต่ออะไร เดี๋ยวเขาคงได้กลับมา ตอนนั้นช่วงโควิดเขาไม่ได้ให้เข้าเยี่ยมนะคะ เล็กก็ไปนั่งเฝ้า จนกระทั่งตรวจดูค่าของตับขึ้นสูงถึงระดับที่5 แล้ว มันไม่สามารถขับของเสียออกมาได้ เขาถึงได้มีการอักเสบ มีการเลือดออก หมอก็แปลกใจ ให้เลือดคุณลินดาทุกวันเลย ทำไมเลือกไปอยู่ที่ไหนหมด ลินดายังซีด แต่ภาวะคือร่างกายมันไม่รับอะไรแล้ว มันก็เลยกลายเป็นเลือดเข้าไปอยู่ในช่องท้อง วันที่4 เข้าไปคือไข้ขึ้นสูง แล้วอยู่กี่วันถึงรู้? แม่ตุ๊ก : ไปเรื่อยๆ ก่อน ว่าอาทิตย์นี้ให้เลือด แต่ทำไมยังซีดอยู่ มีภาวะหายใจด้วย หมอก็รักษาตามอาการ ก็ปรึกษาเพราะเรามอบให้คุณเล็กเลยว่าทุกอย่างให้เล็กเป็นคนเซ็นและตัดสินใจได้ เพราะเล็กอยู่ตรงนั้น เราไม่ได้อยู่ตรงนั้นแต่การที่เราจะตกลงอะไรกันจะต้องโทรมาถามกันก่อนว่าจะเอายังไง แล้วเล็กค่อยบอกกับหมอ เขาก็เล่า มีอาการเริ่มดร้อป เราก็บอกว่าล้างไตก็ไม่ได้แล้วล่ะ เป็นระดับนี้ ร่างกายไม่สมบูรณ์ จะมานั่งล้างไต มาเสียบท่อ มาอะไรต่ออะไรเราบอกไม่เอาแล้ว จบตรงที่ว่ารักษาตามอาการ แล้วคุณหมอดีมาก บอกเลยว่าคุณเล็กทำใจนะ เขาไม่วันนี้ แต่คงไม่เร็วๆ นี้หรอก คุณหมอเรียกเล็กไปคุยทุกเย็นไปบำบัดจิตให้เล็กด้วย เล็กก็ทำใจ แต่เขาขอวาระสุดท้ายขอไม่ให้ทำอะไรอีกแล้ว คุณหมอบอกไม่เป็นไรเที่ยวนี้ชีพจรเขาจะค่อย ๆ ตกไปเอง แต่เขาจะไม่ทรมาน เหมือนคนที่ไม่ได้รับประทานอาหาร ร่างกายมันก็ดับไปเอง เราก็เตรียมใจไปแล้ว จนสุดท้ายที่คุณหมอบอกว่าพี่เล็กเข้าไปนอนเฝ้าได้เลยพอแบบนั้นเรารู้แล้วว่า ดาจะต้องเสีย พอเล็กเขาเห็นดาปุ๊บ เขาจะน้ำตาไหล จับมือ เขาก็จะรู้ว่าให้เล็กเข้าไปนอนเฝ้าได้ เล็กก็ไปนอนเฝ้าอยู่ตรงนั้นได้ เราก็รู้แล้วว่าถ้าไม่ถึงขั้นนี้เขาคงไม่ให้เข้าไปเฝ้าหรอก ในมุมของคุณแม่ก่อน 1 วันก็มีเซ้นส์แปลก ๆ บางอย่าง? แม่ตุ๊ก : ใช่ ๆ รู้สึกว่าไปแน่ ๆ เลย ตอนแรกเราจะติดต่อเพื่อนอีกคนตลอด เราไม่มีใคร ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเราจะไปวัดไหน อะไรตรงไหน เราก็จะต้องเตรียมการไว้ก่อน เขาบอกว่าเดี๋ยวไปวัดเทพศิรินทร์ได้ เสร็จแล้วเราก็มารู้ข่าวว่าถ้าวัดเทพศิรินทร์ต้องหลังวันที่2 ธันวาคม พี่เลยเลยบอกเพื่อนว่าจองวัดพระศรีไว้ให้ก่อน  ให้จองวัดเลย? แม่ตุ๊ก : ให้จองวัด จองศาลาไว้เลย แต่ยังไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร ซึ่งเพื่อนคนนี้เขาสนิทกับทางนั้นอยู่ เขาเลยจอง แล้วบอกเราว่าทำให้เรียบร้อยแล้วนะ ก็ได้จองเอาไว้ ก็เป็นอันสบายใจแล้วว่าอย่างน้อยก็มีที่ตรงนี้...

“เฌอเบลล์” เล่าเคยคิดสั้นฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ พร้อมเปิดหน้าแฟนหนุ่ม ญาติสามี “หนิง ปณิตา” 

นักแสดงสาวสวยเฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน ที่เบื้องหน้าเป็นคนเฮฮา แต่หลายคนยังไม่รู้เจ้าตัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก และอาการหนักขึ้นจนเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว พร้อมเปิดโฉมหน้าแฟนหนุ่มที่นี่ที่แรก ซึ่งเป็นญาติของ จิน สามีหนิง ปณิตา ทุกประเด็นในรายการคุยแซบ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยวัฒน์ และเป๊กกี้ ศรีธัญญาดำเนินรายการ เสียใจด้วยเรื่องคุณพ่อ? เฌอเบลล์ : ขอบคุณค่ะ เรื่องเพิ่งจะเกิดเดือนนิดๆค่ะ ตอนนี้เข้าใจว่ามันเป็นธรรมชาติ ทำใจได้แต่ยังไม่ชินมากกว่ากิจกรรมที่เราทำกันตลอดมันหายไป เราเห็นการถดทอยของช่วงวัยชราจนวันที่เค้าจะไปเค้าก็โทรถามหาเราตลอด แต่เราติดงานอยู่บินไปไม่ได้ที่ภูเก็ต กว่าจะได้กลับไปคืออีก 5 วัน ในช่วงนั้นจิตใจไม่ดีตลอดเค้าจะไปวันไหนก็ได้วินาทีไหนก็ได้ใน 5 วันนั้น หนูก็ได้แต่ภาวนาได้กลับไปบอกลาสักคำนึง ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นเค้าให้เวลาหนูเยอะอยู่ เค้าแค่บอกเราว่าเค้าจะนอนแล้วนะ กลับบ้านกันไปได้แล้ว ถอดออกซิเจนออก เค้าพูดยังงี้  ซึมเศร้ากลับมากำเริบ? เฌอเบลล์ : จริง ๆ มันจะมีขึ้นๆลงๆบ้าง แต่มันกลับมาช่วงจังหวะโควิด งานไม่สเถียรแต่เรามีค่าใช้จ่ายปกติ เป็นห่วงด้วยเราอยู่กับคนอายุเยอะ เครียดไปหมดจะหาเงินจากไหน คุณพ่ออาการทรุดลงเรื่อยๆช่วงโควิดมันเห็นชัดมาก เป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก ๆ? เฌอเบลล์ : ใช่ค่ะ ไม่ได้โทษใครเราเข้าใจว่าคนที่เป็นพ่อแม่คนจะต้องพร้อมในการจะเลี้ยงดู คุณแม่หนูเป็นคุณแม่ที่เก่งแต่เค้ายังไม่พร้อม ณ จุดนั้น เพราะฉนั้นในการรับมือเด็กคนนึงที่มีภาวะเป็นไฮเปอร์ด้วย รับมือยาก เราเป็นคนที่อ่านกลับหลังด้วย กว่าเราจะรู้เราต้องไปหาจิตแพทย์ตั้งแต่เด็กอันนี้ที่เมืองนอก มีปัญหากับสารเคมีในสมอง แล้วบวกับเราเป็นคนเซนซิทีฟมาก แค่ดุเบาๆเราจะเสียใจมากแล้ว ด้วยที่เราเป็นเด็กซนเค้าอาจจะดุเรามากกว่าปกติ เค้าเลี้ยงแบบดุๆหน่อยเลยทำให้เราเป็นเด็กเก็บกดด้วยค่ะ เป็นเด็กเก็บตัวไม่ค่อยคบเพื่อน มีเปลี่ยนสภาพแวดล้อมตลอด เราพยายามสู้กับมันมาตลอด? เฌอเบลล์ : ด้วยความที่เราไม่เข้าใจเราทำอะไรผิด แม้กระทั่งการสั่งการสั่งกลับหมดเลย คุณแม่ก็ยังไม่เข้าใจเพราะเค้ายังไม่รู้ ทุกวันนี้ดีขึ้น มีฝึกการพัฒนาทำกิจกรมเรื่อย ๆ เพื่อสร้างความเคยชินให้สมองเรา พออายุ 12 มาไทย ก็ต้องปรับตัว เพราะต้องพูดภาษาไทย พูดไทยได้เมื่อไหร่? เฌอเบลล์ : เริ่มเข้าวงการเลยค่ะ เรื่องแรกที่หนูเล่นยังให้คุณแม่ช่วยอ่านแล้วเขียนภาษาไทยคาราโอเกะ คนในกองก็คอยแปลให้ ตอนเป็นนางเอกเรื่องแรกไม่มีความสุขเลย? เฌอเบลล์ : คุณแม่เลี้ยงมาแบบไทยสไตล์ไม่มีชมแนวกดดัน คุณพ่อจะเลี้ยงแบบฝรั่งเป็นเหตุและผล มีการชม ซึ่งเราชอบแบบคุณพ่อ แต่พอเจอแบบคุณแม่ตั้งใจทำดีมากอยากให้เค้าชม เค้าบอกทำได้แค่นี้เองหรอ เรารู้สึกเฟล คิดว่าเค้าไม่รักเราหรือปล่าว มันเป็นปมเล็กๆน้อยๆของเรา มีคนเขามาหาผลประโยชน์? เฌอเบลล์ : เราเป็นคนคิดดีกับใคร ไม่คิดว่าใครจะคิดไม่ดีกับเราหรือต้องการอไรจากเรา  แต่บางครั้งทุกอย่างที่เค้าทำเป็นโอกาสของเค้า พอเรามารู้ตอนหลัง มันเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่เหลือใคร นอกจากครอบครัวแล้วเพื่อนก็คืออีกครอบครัวนึงของ พอไม่เหลือทั้งคุณแม่ทั้งเพื่อนเราเลยรู้สึกว่าไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้ง...

“โตนนท์ วงศ์บุญ”  ย้อนเล่าอดีตช่วงดังมากเคยหลงตัวเอง ใช้เงินวันละล้าน? 

อดีตพระเอกดาวรุ่งช่องมากสี โตนนท์ วงศ์บุญ ที่วันนี้จะขอมาเปิดใจเคลียร์ข่าวเม้าท์เป็นนักแสดงตกอับ หลังตัดสินใจออกมาเป็นนักแสดงอิสระแล้วไม่เปรี้ยง พร้อมย้อนเล่าจุดสูงสุดหลงตัวเองหนักมาก ใช้เงินซื้อของเกือบล้านบาท ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธิกรดำเนินรายการ ตอนนี้ออกมาเป็นอิสระ ออกมาดูแลตัวเอง ทำไมถึงตัดสินใจออกมา? บอส : ที่ออกมาเป็นอิสระ ตอนช่วงที่เราอยู่สังกัดเก่าค่อนข้างจะรับงานเยอะ แล้วเจอเรื่องนู้น นี่นั่น มันทำให้เราเกิดความรู้สึกอึดอัด อยากจะลองอะไรใหม่ ๆ ทำอะไรใหม่ ๆ  เรื่องนู้นนี่นั่น หมายถึงละครยากใช่ไหม? บอส : ช่วงนั้นทางต้นสังกัดเขาให้งานเยอะ เยอะมาก เยอะจนไม่ได้พักเลยครับ 3 เดือน 6 เดือน ถ่ายละครทุกวัน อัดให้ๆ เราเลยรู้สึกว่ามันอยู่ตัว มันอิ่ม เมื่อก่อนถ่ายทีนึงข้ามไปอีกวันก็มี เพราะเราดัง มีชื่อเสียง เป็นที่ต้องการของคนทั้งประเทศหรือเปล่า เขาถึงอัดให้ขนาดนั้น? บอส : ผมว่าน่าจะเป็นช่วงมากกว่า ช่วงไหนมาเขาก็จะอัดงานให้เด็กคนนั้น ป้อนงานให้ เพราะจะให้เป็นที่รู้จัก แต่วันนึงรู้สึกอิ่มตัวกับตรงนี้? บอส : มันเป็นความติสท์ของผมมากกว่า เราทำงานเยอะแล้วอยากจะพักบ้าง ได้ถามเพื่อน ถามผู้ใหญ่ ถามครอบครัวไหม? บอส : ไม่ได้ถามครับ เราเข้าไปที่ช่องตอนที่หมดสัญญา ผู้ใหญ่เขาบอกว่า จะเอายังไง จะเป็นอิสระหรือจะยังไง ซึ่งเขาให้ละครมาก่อนเรื่องนึง แต่เราปฏิเสธ เราสามารถบอกเขาเหลือ 2 เรื่องอย่างนี้ได้ไหม? บอส : ตอนนั้นไม่ได้คิดครับ เด็กด้วย ช่วงที่เราเป็นวัยรุ่น เราหลงตัว คิดว่าตัวเองเก่ง เลือกได้ เราก็เลยขอหยุดดีกว่าพัก ถ้าสมมติย้อนกลับไปบอกตัวเองได้ตอนนี้เลย เมื่อตอนนั้นที่เราฟุ้งหน่อย เรายังจะเลือกเป็นอิสระไหม? บอส : ผมว่า ณ เวลาตอนนั้น เราคิดดีแล้ว ถ้าเกิดตอนนั้นเราทำอีกแบบผลที่เป็นปัจจุบันอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่งก็ได้ ถ้าย้อนกลับไปผมก็อาจจะเลือกเหมือนเดิม ที่เราถ่ายละครเหนื่อย ๆ แบบนั้นทั้งหมดกี่ปี? บอส : เต็มสัญญา 7 ปี ยาวเลยครับ ต้องขอบคุณทางช่องเก่าที่ให้โอกาสเราเยอะมากครับ ถ้าไม่มีช่อง7 ก็ไม่มีผมวันนี้...