“แอนนี่ บรู๊ค” ควง “น้องฑีฆายุ” เปิดใจ คว้ารางวัลที่ 1 ระดับประเทศ ทุ่ม 11 ชม. เพื่อคลิป 3 นาที

ชีวิตนี้อุทิศให้ลูก “แอนนี่ บรู๊ค” ควง “น้องฑีฆายุ” เปิดใจ คว้ารางวัลที่ 1 ระดับประเทศ ทุ่ม 11 ชม. เพื่อคลิป 3 นาที ถึงเหนื่อยล้า แต่คุ้มค่าที่สุด 

“แอนนี่ บรู๊ค” คุณแม่สายสตรอง ที่วันนี้ควงลูกชายสุดหล่อวัย 14 ปี “น้องฑีฆายุ” มาเปิดใจครั้งแรกหลังคว้าเหรียญทองอันดับหนึ่งของประเทศจากการประกวดพูดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ 100 คะแนนเต็ม เปิดเผยเทคนิคเลี้ยงลูกชายที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น พร้อมเปิดใจหลังชนะคดีฟ้องหมิ่นประมาทเพจและเกรียนคีย์บอร์ด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี หนิงปณิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ 

 ได้รับรางวัลอะไรมา?

แอนนี่ :   ก่อนอื่นน้องฑีฆายุมีของขวัญเซอร์ไพรส์พี่ธัญญ่า-พี่หนิงนิดนึง เพราะพวกเราสำนึกในบุญคุณคุยแซ่บโชว์และพิธีกรทุกคน เรามีของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแม่ลูกมาให้นะคะ เราเตรียมมาตั้งแต่เมื่อวาน กลัวไม่สวยถูกใจ 

ฑีฆายุ : (เอาพวงมาลัยไปไหว้ธัญญ่ากับหนิง) ขอบคุณมากนะครับ 

แอนนี่ :   ที่สำคัญที่สุด ทุกครั้งที่รายการเชิญพวกเรามา พวกเรามีชีวิตที่แย่ที่สุด ตกต่ำที่สุด ทำให้เรามีกินมีใช้อยู่ได้ ขอบคุณพี่ขวัญ พี่ส้มด้วยนะคะ (ให้พวงมาลัยกับโปรดิวเซอร์ตัวแทนพี่ส้ม) 

ได้เหรียญทองอันดับ 1 ของประเทศด้วยคะแนนเต็มร้อย?

แอนนี่ :   ขอบคุณทุกอย่างด้วยนะคะ พวกเราไปประกวดของทางธรรมศาสตร์ ได้รับรางวัลจากท่านชัชชาติค่ะ ได้ที่หนึ่งของประเทศ ซึ่งจะมีหลายคน แต่น้องได้ 100 เต็ม 100 

ฑีฆายุ : ผมภูมิใจในตัวเองมากครับ 

 อะไรทำให้ตัดสินใจประกวด?

แอนนี่ : มีผู้ปกครองส่งข้อมูลมา ก็ถามว่าน้องเอามั้ย อันนี้เป็นสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ภายใน 3 นาทีต้องตั้งเรื่องตั้งราว ตั้งหัวข้อ แกรมม่าต้องถูก หัวข้อต้องได้ คอนเทนต์ต้องปัง ใช้คำศัพท์ที่ยากแล้วดี ภายใน 3 นาทีห้ามตัดต่อ แล้วห้ามอ่านสคริปต์ ตาต้องมองกล้อง ถ้าเขาเห็นเรามองปุ๊บเขาจะตัดสิทธิ์เลยค่ะ  

ยากมั้ย?

ฑีฆายุ : ยากครับ 

น้องฑีฆายุไม่ได้เรียนนานาชาติ แล้วฝึกจากไหน?

ฑีฆายุ : ผมดูยูทูปครับ ตั้งแต่เด็กแม่ให้ผมดูยูทูปที่ฝรั่งเขาพูดกัน เป็นคนอังกฤษพูดกัน (พูดภาษาอังกฤษขอบคุณทุกคนที่ซัปพอร์ต)

แอนนี่ : มีคนบอกว่าก็แม่เธอเป็นฝรั่งไง เธอเลยพูดได้ หนูไม่ได้พูดได้ (หัวเราะ) ไม่ได้เก่ง เพิ่งมาพูดได้ตอนอายุ 23 ดูพวกหนังซาวด์แทร็กแล้วฟังเพลง ไม่ได้เก่งแกรมม่า ลูกบอกว่าแม่ผมสอนให้เอามั้ย (หัวเราะ) แต่ขี้เกียจ แม่จะพูดของแม่แบบนี้แหละ 

วิธีการทำให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ และสำเนียงดีแบบนี้ ทำยังไง?

แอนนี่ : แอนว่าภาษาที่สาม ไม่ว่าภาษาอะไรก็ตาม เป็นภาษาที่ต้องซื้อมา เราควรหาทางให้ได้มาฟรี คือสื่อต่าง ๆ ที่เราจะใส่ให้ลูกได้ ตั้งแต่ 3 ขวบแอนก็เริ่มแล้ว อะไรที่เป็นเพลง ใส่เพลงภาษาอังกฤษทั้งหมด อะไรที่เป็นรายการ สนุกสนาน โทรศัพท์ แท็บแลต คอมพิวเตอร์ ตั้งค่าเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แล้วบอกทุกคนในบ้านว่าถ้าน้องจะเล่นะไรให้เปิดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ห้ามเปิดภาษาไทย เพราะภาษาไทยเราได้พูดอยู่แล้ว 

 การแข่งก็ไม่ได้ง่าย เห็นบอกว่าคลิปมีความยาวไม่กี่นาที แต่ใช้เวลาถ่ายทำถึง 11 ชม.?

แอนนี่ : ตั้งแต่ 5 ทุ่มถึง 8 โมงเช้า แม่แอนเป็นทีมงานตากล้อง เป็นช่างไฟ เป็นพร็อบค่ะ เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ลูกเล่าซิทำไมมันยาวนานขนาดนั้น

 ฑีฆายุ : ผมพูดอะไรผิด ผมก็เริ่มใหม่ครับ ต้องทำให้มันดีที่สุดให้มันเพอร์เฟกต์

 แอนนี่ : 3 นาที สมมติพูดไปจะจบแล้ว แต่พูดแกรมม่าผิด ลืมเติมเอส ก็เอาใหม่หมดเลย 

 ท้อมั้ย 11 ชม.กับคลิปสั้น ๆ แค่ 3 นาที?

ฑีฆายุ : ตอนประมาณตีหนึ่งเริ่มเหนื่อยแล้ว ผมอยากขึ้นไปข้างบนแล้ว แต่ผมก็สู้ต่อไป ในที่สุดก็ทำได้ครับ 

 คนสู้สุด ๆ คือคุณแม่ คุณแม่ป่วยด้วย?

แอนนี่ : วันนั้นหนูเป็นไข้เลือดออก (หัวเราะ) 

แม่ป่วยด้วยหรือเปล่าเลยคิดว่าต้องทำให้ได้?

ฑีฆายุ : ใช่ครับ ภูมิใจในตัวแม่มาก แม้ป่วยแม่ก็ช่วย 11 ชั่วโมง จริง ๆ แม่ผมสมควรรักษาตัวเองแล้วนอน แต่แม่ก็บอกว่าไม่ ทำไม่ได้ ถ้าผมไหวแม่ผมก็ไหวครับ 

แอนนี่ : ต้องส่งงานภายในวันรุ่งขึ้นค่ะ มีเวลาแค่นั้น 

แอนพูดประโยคนึงบ่อย ๆ ว่าแอนตั้งใจจะเลี้ยงลูกคนนี้ให้ดีที่สุด?

แอนนี่ : ชีวิตนี้อุทิศให้เขาแล้ว แอนไม่ต้องการพิสูจน์ให้โลกเห็นหรอกว่าแอนเป็นผู้หญิงที่ดีหรือยังไง แต่ทุกวันนี่ที่แอนทำ แอนต้องการพิสูจน์ให้ลูกเห็น ผลพลอยได้อาจเป็นผลพลอยได้ที่คนอื่นเห็นมาด้วย แต่แอนต้องการพิสูจน์ให้ลูกเห็นว่าแม่คนนี้ วันนึงถ้าแอนตายไป ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ความรู้สึกหรือความทรงจำที่เหลือไว้กับเขา เขาจะรู้ว่าแม่คนนี้เดอะเบส พอ มี ดีที่สุดแล้ว 

ได้ยินแล้วรู้สึกยังไง แม่พูดคำนี้ในรายการสัก 2-3 ครั้ง ตอนนั้นหนูยังเล็ก ๆ อยู่เลย จนตอนนี้ 14 แล้ว?

ฑีฆายุ : ภูมิใจในตัวแม่ผมมากเลยครับ แม่ผมเป็นแม่ที่ดีมากเลยครับ รักแค่ไหนมันพูดอธิบายไม่ได้ 

แอนนี่ :   มันมากขนาดนั้นเลยเหรอลูก ไปถึงไหนลูก เขาเป็นคนทะเล้น ฮา อยู่บ้านเราจะเฮฮากันมาก มีความสุขกันมาก เหมือนเล่นกันเป็นเพื่อน เขาเรียกเราแอนนี่นะ เราก็ว่าไงคะคุณ ก็ตลกดี มีความสุขดีค่ะ 

ตอนเขาประกาศผล เราต้องโทรไปตามเหรอ?

แอนนี่ :   ใช่ เราคิดว่าเราไม่เข้า เราส่งไปเป็นอาทิตย์แล้ว ลูกเราคงไม่ได้แล้วแหละ เสียใจนิดหน่อย เราไม่เห็นชื่อ เขาก็เลยบอกว่าคุณแม่ไปดูดี ๆ น้องได้ 100 เต็ม 100 แม่ไม่เห็นเหรอ ตอนนั้นน่าจะลนลาน มันลุ้นมาก ๆ เราทำงานกันตั้ง 10 กว่าชม. อุปสรรคเยอะมาก เราพยายามอย่างสูงมาก เรามีความคาดหวัง  ตอนรู้ว่าได้เหรียญทองอันดับหนึ่ง แอนรู้ก่อนน้องอยู่ข้างบนอยู่เลย แอนก็กรี๊ด กระโดดรอบบ้านเลย ได้แล้ว โอ้มายก๊อด มันคุ้มค่า ตอนนั้นลูกเราก็ทั้งเหนื่อยล้า เราก็อยากได้พอร์ตด้วย เพราะพอร์ตบางทีต้องสะสม ถ้าเป็นพอร์ตใหญ่ ๆ อาจมีสิทธิ์ยื่นขอทุนการศึกษาได้ 

 ฑีฆายุ : ตอนนั้นตกใจมากครับ ผมง่วงอยู่ ตกใจว่าแม่เป็นอะไร แม่เขากรี๊ดครับ ผมก็ดีใจครับ แม่บอกว่าได้เหรียญทอง ผมก็ไม่ได้กรี๊ด ยกนิ้ว ผมง่วงอยู่ครับ 

มีใครติดต่อเป็นพระเอกหรือยัง?

แอนนี่ : ไม่มีค่ะ (หัวเราะ)

รู้สึกยังไงไม่ใช่แค่เหรียญทองอย่างเดียว เราเป็นที่หนึ่งแบบ 100 เต็ม 100 ต้องใช้คำว่านัมเบอร์วัน?

แอนนี่ : คนที่เขาเป็นแอดมินเขาไลน์มาบอกว่าคนได้ 100 เต็ม 100 ไม่มีนะ หนึ่งต้องมีทั้งห้าข้อที่เขากำหนดไว้ ต้องไม่หลุดแม้แต่นิดเดียว เราบอกให้ลูกใส่แอ็กติ้งเข้าไปหน่อย เอาความแพรวพราวที่เรามี ใส่เข้าไปเลย แม่ว่า เชื่อแม่ มันต้องได้ เพราะดูแล้วสุนทรพจน์ ถ้าเป็นทางการมากเกินไปมันจะไม่มีเสน่ห์ คิดว่าตรงนี้ด้วย และน่าจะใช้คำศัพท์ที่ยากด้วย

ศัพท์คิดเองมั้ย มีใครคอยติวมั้ย?

ฑีฆายุ : หนึ่งชม.เขียนครับ 

เวลาฟังข่าวภาษาอังกฤษ แปลได้มั้ย?

ฑีฆายุ : ถ้าไทยไปเป็นอังกฤษ ผมแปลได้ครับ ถ้าอ่านหนังสือพิมพ์อังกฤษแปลเป็นไทยก็ได้เหมือนกัน แต่ภาษาไทยอาจไม่แข็งแรง 

 แอนคุยกับลูกภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก? 

แอนนี่ : ต่อให้พูดผิดพูดถูก โก ๆ แว ๆ (หัวเราะ) เขาก็อาจชิน คิดว่าเราเป็นฝรั่ง (หัวเราะ)

ฑีฆายุ : ไม่งงครับ ตอนเด็กต้องพูดสอนแม่ด้วยครับ 

แอนนี่ : เขาจะสอนเรา เราก็บอกว่าได้ลูก สอนมาเลย แต่จะฟังหรือไม่ฟังอีกเรื่องนึง (หัวเราะ) เขาอยากให้แอนพูดภาษาอังกฤษเก่ง ๆ เขาบอกว่าแม่ยังสวยอยู่เลย (หัวเราะ) ทำไมแม่ถึงไม่มีงานแสดงแล้ว เราก็คุยกันเรื่องงาน คุยกันทุกเรื่อง 

ฑีฆายุ : ผมบอกว่าแม่ก็ยังโอเคอยู่ ถ้าไปต่างประเทศ ถ้าพูดภาษาอังกฤษได้จะดีมากเลย แม่ผมจะได้มีงานเยอะ ๆ

ถ้ามีงานแสดงติดต่อ แอนรับมั้ย?

แอนนี่ : ถ้าเมื่อก่อนคงไม่ได้เลยเพราะเราฟูลไทม์ แต่ตอนนี้ถ้ามีงานเข้ามาเราก็ต้องคุยกันว่าช่วงนี้เรากลับจากโรงเรียน เรากลับเองได้มั้ย ต้องขึ้นรถแบบไหน ต้องเริ่มสตาร์ทชีวิตแบบนั้น ก่อนหน้านี้เราคิดว่าพื้นฐานต้องปูให้แน่น เพราะถ้าเขาอายุ 17-18 ไปแล้ว ไม่ใช่ 17 หรอก นี่ก็เริ่ม ๆ ไม่ใช่เขาไม่รักเรา แต่หนึ่งเราเป็นผู้หญิง เขาเป็นผู้ชาย สองความเป็นส่วนตัว เราไม่อายที่จะคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว พอมีอะไรเขาก็พูดกับแอนตรง ๆ 

จุดประสงค์นอกจากให้น้องได้มีโอกาสยื่นขอทุนในอนาคต ยังมีอะไรอีกมั้ย?

แอนนี่ : แอนว่าโอกาสในเรื่องการศึกษาสำหรับแอน แอนว่าสำคัญมาก ๆ เลย แอนไม่ได้ต้องการขอเงินใครนะ แต่สมมติสถาบันการศึกษานี้เห็นคุณค่าเห็นในงานหรือเห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวของน้อง แล้วรู้สึกว่าน้องสามารถต่อยอดให้กับสถาบันได้ หรือโรงเรียนได้ หรือทำชื่อเสียงให้กับโรงเรียนได้ แอนอยากได้ทุนการศึกษา เพราะแอนก็เป็นนักเรียนทุน แอนรู้ว่าโอกาสมันยากมาก เวลาได้มามันคุ้มค่ามาก ถ้าสมัยก่อนแอนไม่ได้ทุนการศึกษา แอนไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่ง แม่แอนส่งแอนไปเป็นเมดนะ ด้วยบ้านเรา ด้วยทุกอย่าง เราถูกบังคับให้เป็นแบบนี้จริง ๆ ถ้าเราไม่มีการศึกษา ไม่มีเงิน งานเราที่จะทำ มันจะมีไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง แม่แอนก็ส่งแอนไปเป็นคนทำงานบ้านเลย เราเลยคิดว่าไม่ได้ ฉันต้องเรียนให้เก่ง หาทุนการศึกษาให้ได้ เมื่อได้ทุนการศึกษาก็รู้เลยว่าแม้ไม่ได้เป็นหมอ หรือเป็นอะไรระดับประเทศ แค่เราได้ก้าวขึ้นมาจบปริญญาตรี หรือจบอะไรดี ๆ อย่างน้อย ๆ เราได้ทำงานมีเงินเดือน เราได้ภาคภูมิใจ เราได้มีองค์ความรู้ใหม่ ๆ ไม่ได้ว่าอาชีพใดนะคะ สมมติวันนั้นแอนเป็นเมด แล้วแอนไม่มีความรู้เพิ่ม แอนละทิ้งหนังสือ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย โอกาสอื่น ๆ ก็จะไม่เข้ามาด้วย ที่สำคัญแอนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ใครจะซัปพอร์ตเขา มันเหลือแอนแค่คนเดียว ถ้าไม่มีแอน ฑีไม่มีใครแล้ว แอนก็เลยอยากให้เขา ณ วันนึงเราไม่รู้ชีวิต ไม่ได้บอกว่าแอนกำลังจะตายนะคะ แต่เราระลึกถึงความตายทุกวัน เวลาที่เราอายุเยอะขึ้นแล้ว ถ้าเขามีการศึกษาที่ดี มีทุนการศึกษาได้เรียนไปถึงปริญญาตรี หนูตายตาหลับเลย 

ฑีฆายุ : ตอนนี้กำลังหาตัวเองอยู่ครับ ตอนผมอายุ 6 ขวบ ผมอยากเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์

 อยากเป็นนักแสดงมั้ย?

ฑีฆายุ : ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าได้เป็นก็โอเคครับ 

ตอนนั้นที่น้องเคยมาในรายการ ธัญญ่าสมทบทุนค่าใช้จ่ายให้หลาน?

ธัญญ่า :   ตอนนั้นน้องยังเล็กอยู่เลย พี่พีเคด้วย 

แอนนี่ : วันนี้เอาผลงาน พัฒนาการ เขาอยากเป็นคนสร้างตัวละคร อันนี้ก่อนเรียน ที่สัมภาษณ์ในรายการ วันที่มานั่งในรายการ เขาวาดเอาไว้ ตอนนั้นพี่ธัญญ่ากับพี่พีเคให้ทุนการศึกษาน้องเรื่องคอร์สต่างประเทศ ตรงนี้เป็นการเรียนอนาโตมี่ เหมือนหมอเลยค่ะ ไหล่ กระดูก ละเอียดเลย เขาก็เรียนมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เข้าสู่อนิเมชั่น เป็นตัวละคร แอนถามว่าตัวละครมันทำอะไรในโลกใบนี้ได้ลูก เขาบอกว่าถ้าเราขายตัวละคร เกมต่าง ๆ ถ้าเขาชอบลายเส้นเรา เขาจะซื้อตัวละครแบบนี้ 

 ออกแบบอาร์ตทอยส์ได้มั้ย?

ฑีฆายุ : ผมยังไม่ได้ลองครับ 

แอนนี่ : แอนก็บอกเขาว่าช่วงนี้ว่าง ๆ เราลองออกแบบเสื้อแล้วเป็นตัวละครของตัวเอง เราไม่ต้องรอลองงานจากไหน ถ้าเรามีไอเดียก็เริ่มได้ ไม่ต้องอาย ไม่มีใครซื้อก็ไม่เป็นไร แม่ซื้อคนแรก (หัวเราะ)

ธัญญ่า : ภูมิใจมาก ณ วันนั้นน้องยังเด็กอยู่เลย แต่วันนี้น้องโตเป็นหนุ่มที่เก่งในทุก ๆ ด้านเลย ภูมิใจมากเลยลูก พัฒนาไปเรื่อยๆ นะ หนูจะเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นอนาคตของชาติที่ดีมาก ๆ เลย 

อยากบอกอะไรป้าญ่า?

ฑีฆายุ : ผมขอบคุณมากเลยครับ 

เริ่มเป็นหนุ่มแล้ว ก็ห่าง ๆ แม่บ้างแล้ว แม่น้อยใจ?

แอนนี่ : เราเป็นแม่ เราก็จะฟัดตลอดเวลา เขาก็น่าฟัดอยู่นะคะ เราคิดว่าเขาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เหมือนเดิม ถึงเขาจะตัวโตสูงแค่ไหน เราก็คิดว่าเขาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อยู่ดี ล่าสุดเรามีอะไรคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว ล่าสุดน้องบอกว่าอะไรนะ

ฑีฆายุ : ต้องการไพรเวซี่ 

 ตอนนั้นเป็นไง?

แอนนี่ : แอนสกินชิฟเขาเยอะเกินไป แอนก็รู้ตัวแหละ เขาเป็นผู้ชาย เขาบอกว่าบางทีไม่ได้ เราเป็นผู้หญิง จะไปแบบ ลูกจ๋าลูกแล้วกอดลูก เราก็ว่ามันน่ารัก แต่เขาเป็นผู้ชาย เขาบอกว่า แม่ ผมเป็นผู้ชาย แม่อย่าทำอย่างนี้เยอะ 

ฑีฆายุ : ไม่ได้มีใครเห็น แต่ผมแค่ไม่ชอบครับ 

แอนนี่ : เราก็มาทบทวนตัวเราว่าเออ เราเยอะไปจริง ๆ แหละ มันเยอะไปใช่มั้ย แม่หอมมากเกินไปใช่มั้ย งั้นแม่ลดลง แต่ยังคงหน่อย ๆ ได้มั้ย (หัวเราะ) เรารู้สึกเหมือนตัวเองอกหัก  นั่งเศร้าแล้วไปนั่งซึมอยู่หน้าบ้าน (หัวเราะ) แอนว่าพ่อแม่ทุกคนต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กับลูก บางคนคิดว่าเราเป็นแม่ เราจะทำอะไรก็ได้ จริง ๆ เราต้องถามเขาบ้าง เขาไม่ได้ไม่รักเรา เขาแค่ต้องการสยายปีกแล้วโบยบิน 

 มีสาวมาชอบหรือยัง?

แอนนี่ : เรื่องนี้ดิฉันก็ไม่ทราบ 

ฑีฆายุ : ไม่มีเลยครับ 

แม่แอนยื่นคำขาดกับน้องฑี ถ้ามีแฟน เรื่องความสัมพันธ์ต้องมาบอกแม่แอน?

แอนนี่ : แน่นอน เราเป็นแม่ อีกหน่อยเป็นแม่สามี ถ้าเกิดลูกมีแฟน เราก็บอกลูกไปเรื่องเพศศึกษา สอนไปตั้งแต่ป.3 ปอ.4 แล้ว ในเมื่อเขามีเพื่อนผู้หญิงแล้ว มีผู้หญิงมาสารภาพรักกับเขาสมัยเด็ก ๆ แล้ว ก็คิดว่าเขาน่าจะรู้แล้วว่ามีความรักหนุ่มสาว ในโรงเรียนก็เริ่มสอนสุขศึกษาแล้ว เราดูการบ้านลูกอยู่ก็ใส่เข้าไปว่าเมื่อเป็นแบบนี้มันอย่างนี้ ๆ นะ เราเล่าให้เขาฟังว่าการดูแลตัวเองมันเป็นแบบนี้นะลูก แล้วสิ่งสำคัญที่สุด ยูโตขึ้นมา ถ้ายูเมาปลิ้นแค่ไหน ยูรักผู้หญิงคนนั้นมากสุดหัวใจ ถ้าเกิดสิ่งอะปิ๊งอะปึ้งกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือวิ่งค่ะลูก วิ่งหนีออกจากห้องให้เร็วที่สุด ให้กลับบ้านมาหาแม่ 

ได้มั้ย?

แอนนี่ : ไม่รู้ เราก็พูดให้ตลก เหมือนถ้าไม่มีสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ให้นึกถึงแม่เข้าไว้ ถ้าสมมติมีหลานให้แม่ก่อนหนูดูแลตัวเองได้ ก่อนมีเงินมีทองเป็นของตัวเอง กรุณาเลี้ยงเองนะคะ เพราะที่ผ่านมาฉันเลี้ยงเธอเหนื่อยมากเลย แต่เวลาแอนพูดก็ตลกแบบนี้ แต่ในความตลกของแอน เขารู้ว่ามันมีความจริงนะ 

ฑีฆายุ : แม่สอนผมตลอด ผมก็โอเคครับ เราไม่เครียด ก็เข้าใจและตลกด้วยครับ 

ห่วงลูกขนาดไหน?

แอนนี่ : ไม่หวงค่ะ อยากมาก็ลองดู (หัวเราะ)

เขินมั้ยแม่สอนแบบนี้?

ฑีฆายุ : ไม่รู้ครับ 

 แอนนี่ : มันออกไปแนวตลก มันเลยไม่เขิน แอนทำให้เขารู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ใช่เรื่องต้องเครียดที่จะคุยกับแม่ มันสามารถคุยกันได้ 

เพิ่งชนะในการฟ้องคดีหมิ่นประมาท รู้สึกยังไง?

แอนนี่ : แอนฟ้องเพจ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 10 กว่าปี แอนไม่ฟ้องใครอยู่แล้ว อยากด่าก็ด่าเต็มที่ เอาให้เต็มเลย อยากพูดอะไรก็พูด เพราะมันเป็นขยะในใจเขา ไม่เป็นไร แต่อันนี้ลูกแอนก็โตแล้ว เขาเรียกว่ามาจัดอันดับ พูดพาดพิง ขึ้นรูปลูกเรา ใส่ข้อความไม่น่ารัก ครั้งที่แล้วแอนก็พูดไปแล้ว แอนก็เลยตัดสินใจ แอนให้ฑีดูว่าอันนี้ไม่น่ารัก แล้วลูกต้องอยู่ในสังคมโรงเรียน เรื่องเก่าลูกก็รู้ ทุกอย่างเราผ่านมาหมดแล้ว อันนี้ควรมูฟออนไปเรื่องใหม่ได้แล้ว ถึงคุณไม่มูฟออนก็ไม่เป็นไร แต่คุณอย่าสร้างเรื่องให้เรา อย่าสร้างเรื่องใหม่ ทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง 

แอนก็โดนบูลลี่กลางไลฟ์ เห็นว่าร้องไห้เลย?

แอนนี่ : ใช่ ก็เลยหยุดไลฟ์ จิตตก บางทีเวลาเราไลฟ์สดขายของ เมื่อก่อนแอนไลฟ์ทุกวัน ได้มากได้น้อย แต่พอมีคำพูดไม่น่ารักเกิดขึ้น บางทีแอนก็อ้วน ๆ ผอมๆ บางทีก็โทรมบ้าง ไม่ใช่จะสวยตลอดเวลา ก็พูดขึ้นมาว่าหน้าอย่างนี้เหรอ บูลลี่เรื่องหน้าตา รูปร่าง วันนี้หัวไม่มัดมา ไม่เหม็นเหรอ เราก็เฮ้ย ทำไม คุณไม่ซื้อเราไม่ได้ว่า แต่อย่าด่าให้มันมากนัก เรารู้สึกว่าคนด่ามักไม่ค่อยซื้อ คนซื้อมักไม่ค่อยด่า เราเลยหยุดไลฟ์สดไปก่อนช่วงนึง

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง 

About Author