“เอ๋ มณีรัตน์” ประกาศโสดตัวโต ๆ รับเคยถูกจ้างให้เป็นแฟนมากถึง 6 หลัก !!!

นักแสดงสาวสวยมากความสามารถ เอ๋ มณีรัตน์ ที่วันนี้จะมาประกาศหาแฟนกลางรายการ  พร้อมเผยประสบการณ์รักสุดช้ำเจอผู้ชายมีเจ้าของจีบตลอด แถมมีผู้ชายเคยจ้างเป็นแฟนให้เงินหลักแสน อีกทั้งยังเคลียร์ข่าวเม้าท์ชอบเพศเดียวกัน ตลอดจนอยู่ในวงการมา 15 ปี เคยท้อไม่รับงานหลายปี หรือว่าอยากจะผันตัวจากดารา นักแสดง ไปเอาดีทางด้านการเป็นเชฟ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

สวยขึ้นแบบนี้หลายคนทักเลย มีความรักหรือเปล่า?

เอ๋ : ไม่มี

ไม่มีความรักมานานเท่าไหร่แล้ว?

เอ๋ : ประมาณ 3-4 ปีแล้วค่ะ

ชอบผู้ชายหรือผู้หญิง?

เอ๋ : ชอบผู้ชาย คือชอบไม่มาก ไม่เยอะ ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรเยอะ ขอเป็นนอกวงการ ขออายุมากกว่า เป็นคนสุขุมจิตใจดี ใจเย็น ใจเดียว ดูแลเราได้

ดูแลเราได้ ต้องมีทรัพย์มากกว่าเราไหม?

เอ๋ : ดูแลเราได้ไม่ได้หมายความว่าต้องมีเงิน การมีเงินอย่างเดียวแล้วไม่ได้รักจริง มันก็ไม่ได้มีประโยชน์สำหรับเอ๋ เอ๋รู้สึกว่าการดูแลของเอ๋หมายความว่าเวลาเจ็บ เวลาป่วย หรือความรู้สึกที่ไม่ดี อยู่ด้วยกันไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ยินดีที่จะแชร์กัน ยินดีที่จะอยู่ข้าง ๆ เรา ในวันที่เราไม่น่ารัก

ทำไมถึงไม่ชอบคนในวงการ?

เอ๋ : เราทำงานตรงนี้มานานมากจนเรารู้สึกว่าเราไม่หวือหวา เรานิ่ง ๆ  มันอาจจะดูเฉย ๆ อย่างนี้หรือเปล่า แล้วเราก็ไม่ทันใครด้วย

จริง ๆ คนมาจีบเยอะ แต่ไม่รู้ตัว?

เอ๋ : ทุกครั้งที่เข้ามา ทุกครั้งที่รู้ว่ามาจีบก็คือผ่านไปแล้ว คือเขาผ่านกระบวนการจีบแล้วก็เลยมาแล้ว คือส่วนใหญ่จะเข้ามาคุยเป็นเพื่อน เป็นอะไรอย่างนี้ แบบมาแชร์เรื่องราวแต่ละวันให้ฟัง แต่เราไม่รู้ก็เหมือนเพื่อนปกติ

พอเขาไปแล้วรู้ได้ไงว่าเขาจีบ?

เอ๋ : เขาบอกทีหลัง เขาบอกว่าเขารู้สึกว่าเราไม่ได้ชอบเขา

แล้วเราชอบเขาไหม?

เอ๋ : บางคนก็รู้สึกดี แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบวะ

อย่างนี้ชอบผู้ชายเข้ามาจู่โจมเลยไหม?

เอ๋ : อันนี้ก็จะกลัวนิดนึง แต่มาเนียน ๆ แบบเพื่อนหนูโอเค แต่กว่าหนูจะรู้ตัวเขาหมดความพยายามไปแล้ว

มีคนจ้างเป็นแฟน 6 หลัก?

เอ๋ : ก็ประมาณหนึ่งค่ะ มันเหมือนทีเล่น ทีจริงเหมือนรู้จักกันมา เป็นเพื่อนกันประมาณหนึ่ง แต่ไม่ได้สนิทขนาดนั้น ก็คุยๆ กันเรารู้สึกว่าเราก็โอเคกับคนนี้ เขาก็โอเคกับเรา แต่ไม่ถึงขั้นชอบมาก ๆ เขาก็มาคุย กินข้าว แล้วเห้ยเขาเหมือนชอบเรานานมากๆ แล้ว แล้วเราก็ยังรู้สึกนิ่งๆ อยู่ เขาก็คงไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เขาเลยบอกว่า เราชอบเธอ เราจะทำยังไงดี เราก็อึ้ง ๆ ไป เพราะเรายังไม่ถึงจุดนั้น แล้วเขาบอกว่าเราขอดูแลเธอได้ไหม เขาเป็นเชิงพูดเล่น ในหลักประมาณเท่านี้ต่อเดือน เราก็แบบถามเขาว่าเขามองความรักในมุมของเขายังไง ความรักคืออะไร เขาบอกว่าอยากมีคนอยู่ข้าง ๆ ดูแล คำว่าดูแลของเขากับของเรามันอาจจะไม่เหมือนกัน เรารู้สึกการดูแลเขาโอเค เขาเป็นคนดี เป็นคนน่ารัก แต่การดูแลของเขาอาจจะเป็นในเชิงลงทุนหรืออะไรอย่างนี้มากกว่า แต่เราต้องการอีกแบบหนึ่งในการที่เราป่วยมีคนดูแล มีคนซัพพอร์ตเวลาเรารู้สึกแย่ มีคนอยู่ข้าง ๆ ให้อบอุ่น

ถ้าสมมติคนนี้เขาไม่เปิดมาด้วยเงิน แล้วจีบเราจริงจังล่ะ? 

เอ๋ : มันก็อาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งพอเจอแบบนั้นเราก็หยุดเลยค่ะ ประเด็นคือพอเขาพูดเล่นมา เราก็ตกใจ เพราะเราไม่เคยเจอแบบนี้เลย แล้วเราก็มีกำแพงแล้ว1 

คนมีเจ้าของก็มาจีบอีกด้วย?

เอ๋ : ค่ะ เขาบอกว่าชอบ คือเอ๋จะรู้จักแบบเพื่อน แบบเพื่อนๆ ของเอ๋ที่มีแฟน เอ๋ก็จะรู้จักแฟนของเขา ซึ่งเอ๋รู้สึกว่าเราไม่ปิดกั้นที่จะรู้จักใคร โดยเฉพาะผู้ชายที่มีแฟนแล้ว เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเรารู้จักผู้ชาย เรารู้จักแฟนเขาด้วย เราได้เพื่อนดับเบิ้ล พอคนที่มีเจ้าของเข้ามาคุย เราคุยเป็นเพื่อน เราไม่ได้อะไร ทีนี้พอรู้ตักกันไป เขาคงรู้สึกดีกับเรา แล้วเขาก็บอกว่าพี่ชอบเรา

แล้วแฟนเขารู้ไหม?

เอ๋ : ระหว่างนั้นที่คุยกับเขา เราพยายามบอกเห้ยพี่ เอาแฟนมาด้วยสิ แฟนพี่เป็นยังไง อันนี้แฟนพี่น่าจะชอบแน่เลยพาไปร้านนี้ดิพี่ แล้วเขาพยายามเลี่ยงไม่พูดถึงแฟน ไม่เอาแฟนมาเจอ เรารู้สึกว่ามันยังไม่ถึงเวลามั้ง แล้วพอเขามาพูดแบบนี้เรารู้สึกอึ้ง เราบอกพี่ แต่พี่มีแฟนแล่วนะ แล้วแฟนพี่ยังไง เขาก็บอกว่าพี่รู้สึกดีกับเรา เราก็บอกมันไม่ได้แล้วพี่แล้วก็เฟดออกมา

ไม่ใช่มีแต่ผู้ชายเข้ามาจู่โจม ผู้หญิงก็เข้ามาจีบเราก็มี?

เอ๋ : อยากจะบอกตรงนี้ไม่ได้ชอบผู้หญิง ชอบผู้ชาย

แล้วผู้หญิงคนนั้นที่เข้ามา คือคนในวงการ?

เอ๋ : ค่ะ แต่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว

เขามาจีบยังไง?

เอ๋ : เมื่อก่อนเอ๋เคยตัดผมสั้น อาจจะรู้สึกว่าเราเป็นผู้หญิงที่เป็นเวอร์ชั่นดูแลได้ แล้วน้องคนนี้เป็นผู้หญิงผมยาวด้วย น่ารักเลย เล่นละคร แล้วเขาเห็นเราเข้าใจว่าเราชอบผู้หญิง 2.เขาบอกเขาปลื้มเราเป็นทุนเดิม แล้วเขาก็ส่งสายตาให้ แล้วพยายามว่าพี่กินอะไรไหม พี่โอเคหรือเปล่า หนูชอบพี่มากเลย ก็คือถึงเนื้อถึงตัว เราก็รู้แล้วแหละว่าอารมณ์ประมาณนี้ฉันก็เคยใช้กับผู้ชาย ถ้าผู้หญิงกับผู้หญิงที่เป็นเพื่อนกัน มันก็จะเป็นอีกฟิลหนึ่ง แต่อันนี้จะเป็นอีกจริตนึง

เราตอบกลับเขายังไง?

เอ๋ : เราก็บอกว่าขอบคุณมากเลยที่ปลื้ม น่ารักมากเลย แต่พี่ไม่ได้ชอบผู้หญิง ซึ่งเขาก็เข้สใจ คุยกันดีโอเค

ไม่มีความรู้สึกว่าเออ..ผู้หญิงก็น่ารักดี?

เอ๋ : ผู้หญิงน่ารัก ชอบมองผู้หญิง

หมายถึงชอบแบบนั้นเลย?

เอ๋ : ไม่ค่ะ ถ้าความสัมพันธ์แบบชู้สาว ไม่ นึกภาพไม่ออกเวลาจูบ

ที่ไม่เลือกใคร เป็นเพราะเรื่องมากหรือเปล่า?

เอ๋ : เราจริงจังกับเรื่องนี้ พอใครที่เข้ามาเรามองระยะยาว ถ้าใครที่ไม่คลิกหรือไม่เหมือนกัน เรารู้สึกว่าไมาเสียเวลาดีกว่า ถามเพื่อนเหมือนกันนะ ทำไมคนถึงคิดว่าเรามีแฟนทั้งที่เราไม่มีอะ เราก็งง เพื่อนก็บอกว่า 1.ดูอยู่คนเดียวแล้วมีความสุขมาก แฮปปี้ สุดท้ายคืออาจจะสวยเกินไป เราบอกไม่ใช่มั้ง เดี๋ยวก่อนไม่ชอบคนสวยเหรอ

เอ๋เคยเศร้า ร้องห่ม ร้องไห้ เป็นเพราะเข็ดกับครั้งนั้นด้วยหรือเปล่า เลยแบบอยากได้ดี ๆ?

เอ๋ : เราก็ลงใจไปเนาะ ความรักของเราทุกครั้งเราลงใจไป 100% จริง ๆ เราเลยอยากได้ใครที่เขาเองก็อยากได้เหมือนกันในการที่จะเป็นคู่ชีวิตแล้วก็เดินกันไป มันไม่มีใครอยากเลิกอยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้วถ้าเราเข้ากันไม่ได้ หรือเราคุยแล้ว มอง ณ ปัจจุบันแล้วในระยะยาวเป้าหมายเราไม่ได้เดินไปทางเดียวกัน เราก็ขอหยุดดีกว่า

สัมผัสได้เลย เอ๋เป็นคนที่ทุ่มเทกับความรักมาก ๆ?

เอ๋ : มากจริงจังมาก

อยากได้ผู้ชายยังไง?

เอ๋ : เรายินดีที่จะคุยแบบเพื่อนนะคะ ค่อยๆ เข้ามาก็ได้ มาทำความรู้จักกัน แล้วก็สุขุม จิตใจดี เห็นว่าตอนนี้แฮปปี้ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากมีคู่ เราแฮปปี้ที่จะอยู่คนเดียวได้ แต่เราเชื่อว่าถ้าคุณเต็มเราเต็ม เราเต็มกันทั้งคู่ เราจะดูแลกันไปได้อย่างดี เพราะเราไม่เชื่อว่าถ้าเราขาดแล้วเราไปเติมเต็มให้ใคร เราเหนื่อย เรารู้สึกว่าคุณก็เหนื่อยเหมือนกัน เราเลยรู้สึกว่าเต็มกับเต็มมาเจอกันดีกว่า

เอ๋เคยเจอเรื่องหนัก ๆ ผ่านการเจอเรื่องอุบัติเหตุแล้วรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์เลย ทีมงานบอกว่าเลือดคลั่งในสมอง?

เอ๋ : ค่ะ จริง ๆ เป็นเลือดที่คลั่งข้างเดียว ไม่ถึงเข้าไปในสมอง เป็นตอนสมัย ม.2 ก่อนถ่าย เพื่อนสนิท อยู่ต่างจังหวัดแล้วขับมอเตอร์ไซค์กลับมาจากโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนอยู่นอกจังหวัดจะต้องขับกลับบ้าน แล้วไหล่ทางมีนจะเป็นไหล่ทางลาดลงชันอยู่ประมาณนึง พอขับไปเรารู้สึกทำไมง่วงจังแล้วแดดมันร้อน เราเป็นคนขับรู้สึกว่าเหมือนทุกอย่างมันช็อตดาวน์ ลืมตามาอีกทีเห็นล้อกำลังหมุนไปข้างๆ ไหล่ทาง เราตกใจเห็นล้อมันหมุนลงไป เบรกปุ๊บรถไหลลงไปจนสุดข้างล่างเลย หน้าฝั่งนี้เหมือนกระแทกแล้วรูดลงไป

มีหมวกกันน็อกไหม?

เอ๋ : ไม่มี ตอนนั้นยังเด็กวัยรุ่น

สลบไปเลยไหม?

เอ๋ : สลบไปเลยค่ะ พอดีซ้อนท้ายกับพี่สาว พี่สาวไม่เป็นอะไรเลย พี่สาวพาไปส่งโรงพยาบาล หน้าข้างนี้มันบวม ต้องอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือน ต้องรอให้ยุบเอง แล้วรักษาไป แต่ผลของอุบัติเหตุครั้งนั้นมันทำให้เคี้ยวข้าวไม่ถนัด เซ้นซิทีฟกับช่วงนี้ที่มันเป็นเรื่องของกราม ทุกวันนี้ก็ยังเป็น

ตอนที่อยู่โรงพยาบาลหมอบอกไหมโอกาสรอดหรือเปอร์เซ็นต์ที่จะหาย?

เอ๋ : ตอนนั้นคิดว่าหน้าจะเสียโฉมไปแล้ว เพราะแผลมันครึ่งหน้าไปเลย เป็นเลือดคลั่งครึ่งหน้าไปเลย แล้วมันก็บวมมาก

ตอนนั้นทำใจยัง?

เอ๋ : ทำใจแล้ว มันไม่คืนมาแน่เลย อย่างน้อยหน้าก็ต้องเบี้ยวแน่ๆ 

เอ๋จะออกจากวงการไปเป็นเชฟจริงไหม?

เอ๋ : เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งให้ออกไปไหนเลย ยังทำอยู่ แต่เชฟเป็นเสริม คือเป็นคนชอบกินโดยเฉพาะอาหารไมย ขนมไทยก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น ก่อนหน้านี้คือไปเรียนจริงจัง แล้วเราได้มีโอกาสไปแข่งรายการหนึ่ง มันสนุกมากเลย ตอนแรกกดดัน รู้สึกตัวเองทำไม่ได้ แต่พอไปแข่งมา เรารู้สึกอยากทำ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ เอ๋ มณีรัตน์ 

About Author