“นกน้อย อุไรพร-ฝน ธนสุนทร”ตอบกระแสคืนชีพวงเสียงอิสาน โดนแซะแก่ใกล้ตาย ทำไมไม่ลาวงการ!

ฟินิกซ์คัมแบ็ค แม่นกน้อย อุไรพร ควงลูกสาวในวงการ ฝน ธนสุนทร เปิดใจปลุกชีวิตวงหมอลำในตำนานเสียงอิสานที่มีมายาวนานกว่า 50 ปี พลิกโฉมใหม่ทุ่มเงินกว่า 50 ล้านบาท คว้า ฝน ธนสุนทร ร่วมวงหลังจากไม่ได้ร่วมงานกันมานานเกือบ 10 ปี พร้อมย้อนเล่าคำพูดก่อนเสียชีวิตของพ่อหลอด อดีตหัวหน้าวงเสียงอิสานผู้ล่วงลับที่ทำเอาแม่นกน้อยถึงกับน้ำตาตกในและคำดูถูกที่ทำให้แม่นกน้อยเดือดถึงขั้นเลือดขึ้นหน้า ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เป็กกี่ ศรีธัญญา และ ชมพู่ ธัณย์สิตา เป็นพิธีกร

การรวมตัวครั้งนี้เกิดขึ้นได้ยังไงเห็นว่ากระแสปังขึ้นมากๆเลย ? 

ฝน : ปังมากแล้วก็ฮือฮามากๆ เพราะว่าพี่ฝนเคยได้ขึ้นเวทีเสียงอิสานกับคุณแม่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว

ณ ตอนนั้นทำอะไร พี่ฝนเป็นหมอลำมาก่อนหรอ ?

ฝน : ไม่ได้เป็นหมอลำเป็นนักร้องนี่แหละค่ะ แต่ว่าเป็นนักร้องบ้านเอ็มก็คือคอนเสิร์ต M150 ซึ่งตอนนั้น M150 เขาจะทัวร์ทั้งภาคกลางที่เป็นลูกทุ่งแล้วก็ทัวร์หมอลำก็คือหมอลำเสียงอิสานไปทั่วประเทศ พี่ฝนจะขึ้นในฐานะนักร้องบ้านเอ็ม เหมือนเป็นงานอีเวนท์ไปขึ้นรวมกับคุณแม่ แต่ไม่ได้ร้องหมอลำ

บรรยากาศเป็นยังไงบ้างตอนนั้น ?

ฝน : คนดูเป็นหมื่นๆเลย คนดูเยอะมาก เราก็เหมือนเป็นลูกสาวแม่อีกคนนึง เราเป็นคนอุดรฯเหมือนกัน แม่ก็เลยจะเอ็นดูเรามากเป็นพิเศษ

เห็นบอกว่าวันแรกที่พี่ฝนเขาวงไป แม่น้องน้อยตั้งกำแพงใส่พี่ฝนด้วย ?

ฝน : เรารู้สึกได้เหมือนกัน คือตอนนั้นเราเดินเข้าไปหลังเวที ก็ถามว่าแต่งหน้ากันตรงนี้หรอ เหมือนเราจะถามว่าปูเสื่อแต่งหน้ากันตรงนี้หรอ แล้วแม่เดินมาจากไหนก็ไม่รู้ “ฉันก็แต่งตรงนี้แหละ” แต่เราไม่ได้อะไรนะคะ จำได้เลยว่าแม่ตอนนั้นผมยาวสีดำสนิทเลย ตัวเล็กๆ แม่ก็จะมีความนางพญา เราก็จะกลัวๆนิดๆ แต่เราก็ไม่ได้กลัวอะไรนะคะ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งแม่ก็คงมองดูพฤติกรรมเราว่าเป็นยังไง 

วันนั้นแม่ได้ยินประโยคอะไรจากพี่ฝน ?

แม่นกน้อย : คือพี่ฝนจะเป็นคนที่ไม่รู้อันไหนความจริงอันไหนที่ไม่จริงไง พี่ฝนจะซับซ้อน ทะลึ่ง จับประเด็นไม่ได้เลยว่าอันไหนความจริงของฝน คือวิถีชีวิตของหมอลำไม่ได้เป็นเจ้าหญิงเหมือนพี่ฝน ณ ตอนนั้นก็ที่ไหนก็ได้ 

ได้ยินพี่ฝนถามแบบนั้นใจแม่เป็นยังไง ตั้งกำแพงเลยไหม ?

แม่นกน้อย :  อ๋อ เยอะหรอ ! (หัวเราะ) แล้วแม่ก็เชิ่ดๆ แล้วก็แต่ง

เห็นแม่เขาเชิ่ดๆ แต่ความจริงตื่นเต้นมากที่ได้เจอ ฝน ธนสุนทร ?

แม่นกน้อย :  อันนี้จริงค่ะ แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือฝนจะมาอยู่กับเราได้หรอ จะมาคลุกคลีอยู่กับฝุ่นแบบนี้ได้หรอ เพราะว่ามีศิลปินหลายหลายท่านพอจะมาขึ้นหมอลำ มีคำถามว่าหนูต้องพักโรงแรมห้าดาวไหม หนูต้องนั่งเบนซ์ไหม แต่ในชีวิตจองเรามันคลุกคลีตีฝุ่นอยู่ตลอด 

พอเจอกันกำแพงตรงนั้นละลายตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เริ่มเปิดใจว่าเด็กคนนี้มันน่ารัก ?

แม่นกน้อย : ก็ไม่นานนะ แม่ก็ต้องปรับตัวหาพี่ฝน พี่ฝนก็ต้องปรับตัว 

ฝน : ในวันที่ฝนรู้สึกว่าแม่ทลายหมดทุกอย่างแล้ว คือมีอยู่วันนึงพี่ฝนนั่งเล่นกับหางเครื่อง แล้วก็พูดเรื่องตลกเฮฮาทะลึ่งโน่นนี่นั่น แล้วแม่ก็คงแอบเห็นแม่ก็เลยไปถามเด็กๆหางเครื่องว่าพี่ฝนเป็นยังไง ทุกคนก็บอกว่าพี่ฝนเป็นกันเอง หลังจากนั้นเรียกเราขึ้นรถทุกวันเลย 

เห็นว่าฟินิกซ์คืนชีพ ?

แม่นกน้อย :  ฟินิกซ์นี่คือแม่ได้เรื่องราวฟีนิกซ์แล้วก็ศึกษาเรื่องนกฟินิกซ์กรีกโบราณที่เขาแลกมาด้วยน้ำตา ตายแล้วเกิดใหม่ ตายเป็นสิบเกิดเป็นแสน ณ ชั่วโมงนั้นก็คือพ่อหลอดตาย แล้วตำนานฟินิกซ์ก็ขึ้นมาเลยแล้วได้งานเพลงได้งานโชว์ของฟีนิกซ์เสียงอิสาน จึงเป็นฟีนิกซ์คืนชีพ แล้วก็ได้รุ่นลูกมาต่อยอดศิลปินเสียงอีสานเพื่อสืบสานวัฒนธรรมหมอลำของพ่อหลอด 

แขกรับเชิญเปิดวงใหม่ทำไมถึงเป็นพี่ฝน ? 

แม่นกน้อย :  รักมาก ดวงใจของแม่ 

เห็นว่ามีเรื่องที่เคยสัญญากันไว้ด้วย ?

ฝน : ตอนนั้นเราได้ไปเดินสายกับแม่ แม่แบกปัญหาอะไรเยอะ เรารู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ ปีกของแม่โอบอุ้มทุกคนแต่ปีกของแม่หนักมาก แม่ต้องแบกไว้กหนักมาก เลยพูดออกไปว่า แม่ไม่ต้องกลัวนะเดี๋ยวฝนจะดูแลแม่เอง พูดเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วที่ได้ไปเดินสายกับแม่ 

แล้วโปรเจ็กต์ใหม่ที่คุณแม่ติดต่อไป นึกถึงคำสัญญามั้ย ?

ฝน : ใช่ค่ะ หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป บางทีงานที่มันเยอะๆพอถึงช่วงโควิดมันหายไปหมดเลยมันไม่มีเลย เราก็แทบจะหมดเนื้อหมดตัวเพราะเราไม่มีงาน ใช้เงินเก่า ใช้บุญเก่า แล้วเราก็รู้สึกว่าเห็นแม่เจอปัญหาหนักหน่วงแต่เราช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลย บางทีเราก็รู้สึกเสียใจมาก แล้วก็มีครั้งนึงที่มีการไลฟ์สดที่ไปช่วยกันที่บ้านเสียงอิสาน เราไม่มีเงินช่วยแม่แต่เราไปช่วยด้วยกำลังแรงกายของเรา เราไม่มีกำลังเงินที่จะช่วยแม่ได้เลย เรารู้สึกผิดตลอดเวลา ยิ่งไฟไหม้เราช่วยแม่ไม่ได้ เจอปัญหาที่เขายกเครื่องอะไรไป เราก็ยังช่วยแม่ไม่ได้ แล้ววันที่แม่โทรหาให้เราไปช่วย พี่ฝนร้องไห้บอกแม่เลยว่าฝนรู้สึกคำนี้มันติดอยู่ในหัวเรา ฝนพูดเลยว่าฝนจังไม่มีปัญญาช่วยแม่เลย แต่แม่กลับมาช่วยเรา

ตอนที่แม่โทรไปพี่ฝนร้องไห้ แม่รู้สึกยังไงบ้าง ?

แม่นกน้อย : ปกติศิลปินทุกคนต้องมีอีโก้สูงอยู่แล้ว พี่ฝนก็เช่นเดียวกันแต่ในความที่เป็นแม่ ในช่วงชีวิตที่มีแสงสว่างปลายอุโมงค์ หลังจากวันที่ 20 เมษา 67  ที่ผ่านมา ครบรอบ 1 ปีที่พ่อหลอดตายจาก วันที่ 22 ไฟไหม้ แม่ก็ไปไม่ถูกเช่นเดียวกัน คือมันจุก กลืนก้อนน้ำตากลับ เราอ่อนแอไม่ได้ คือทัวร์กับดราม่ามันมาลงเรามากพอแล้ว บอกตัวเองว่าต้องประคับประคองวงตัวเอง หลังจากนั้นได้มีความคิดว่าพอไฟไหม้ คือก่อนที่พ่อหลอดจะตายพ่อหลอดบอกว่าถ้าจะทำวงต่อนะต้องสร้างเอาใหม่ ผมไม่ให้นะ ของผมอย่ามากินบุญเก่า แม่ก็คิดทันทีว่ามันถึงเวลาที่เราจะต้องรวมพลคนเสียงอีสานที่จะมาช่วยกัน 

ฝน : วันที่แม่โทรมาแม่โทรมาเช้าตรู่เลย แล้วแม่ก็บอกว่าเอาไปพิจารณานะ แล้วก็บอกว่าไม่ต้องพิจารณาไปจ้า ไปเลย ก็คือตอบเลยทันที

แม่อยากบอกอะไรพี่ฝนไหมคะได้ยินแบบนี้ ?

แม่นกน้อย : แม่อย่าบอกพี่ฝนว่ารักมาก รักมากก็ห่วงมาก ในช่วงที่แม่เจอมรสุมต่างๆมากมายไม่ได้คิดถึงพี่ฝนนะ คิดว่าลูกก็คงลำบากเช่นเดียวกันกับแม่ เวลาที่ฮึดสู้ยังจะสู้ไหม สัญญานั้นยังจำได้อยู่หรือเปล่า เพราะว่าศาสตร์ของหมอลำไม่ได้เรียนกันง่ายๆ แล้วถ้าพี่ฝนบอกว่าอยากดูแลแม่พี่ฝนต้องมาดูแลรุ่นน้องรุ่นต่อๆไปแล้วล่ะ เพื่อที่แม่จะได้เหนื่อยน้อยลง ต้องทวงสัญญากันแล้วไง 

เสียงอิสานเจออุปสรรคเยอะมาก การสูญเสียพ่อหลอด โควิด ไฟไหม้ แม่เอาแรงจากไหนมาฮึดสู้กับเรื่องพวกนี้ ?

แม่นกน้อย : สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นการพิสูจน์นั่นก็คือครอบครัวเสียงอิสานซึ่งไม่ไปไหน ทุกคนรอความหวังว่าผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงเก่ง แม่ต้องสู้นะ ห้ามท้อนะ เป็นความหวังของครอบครัว 

เคยมีท้อมากๆมั้ย ?

แม่นกน้อย : ท้อ มีช่วงนึงที่พ่อหลอดอาการหนัก แล้วลูกๆในครอบครัวไม่รู้ว่าพ่อแม่จะทำอะไร โควิดด้วย สองคนแม่กับพ่อคุยกันว่า ผมขอให้คุณยุบวงตั้งแต่เสียงอิสานยุคทองที่เราสองคนมีมากมายจนจำไม่ได้แล้วว่ามีอะไร แต่คุณดื้อดึงเอง คุณจะยังทำวงต่อ ตอนนี้มีช้อยส์ให้เลือกคือ ขายบานตองห้าและยุบวง แม่จะเลือกอะไร แม่ก็บอกว่าแม่เลือกขายบ้านตองห้าเพราะมันเป้นสมบัติของพ่อหลอด ถ้าเหลือส่วนต่างที่รักษาท่าน ส่วนที่เหลือใช้หนี้ว่าจะทำวงต่อ แล้วแม่ก็ออกมาไลฟ์สดว่าแม่จะขายบ้านตองห้า มันไม่แปลกใจเลยที่คนเจอปัญหาแล้วจะฆ่าตัวตาย มันตันไปหมด 

เคยไปถึงจุดนั้นด้วยหรอ ?

แม่นกน้อย :  จุดนั้นด้วยค่ะ 

บนความโชคร้ายยังมีความโชคดีเพราะวันที่เกิดไฟไหม้ ไม่ตรงโกดังที่เก็บรถเก็บของเวที หมดเลย แต่วันนั้นลมเปลี่ยนทิศ กำลังจะลามไปถึงบ้านคนงาน ?

แม่นกน้อย :  ถ้าลมไม่เปลี่ยนทิศก็ไปหมดทั้งบ้านตองห้า

เสียหายมูลค่ารวมเท่าไหร่ ?

แม่นกน้อย : เครื่องเสียงของพ่อหลอด ชุด ห้องสตู รถอีกหลายๆ คัน น่าจะประมาณ 20 กว่าล้าน

เสียงพ่อหลอดดังมาในหูเลยไหมว่าถ้าจะทำวงใหม่คุณต้องเริ่มใหม่ ?

แม่นกน้อย : ดังมาเลย ตอนแรกแม่น้ำตาไหล พอเสียงเพราะหลอดแว่วมา แม่กลืนก้อนน้ำตากลับเข้าไป ไม่เป็นไร ถ้าพ่อไม่ให้ พ่อเอาของพ่อไป แม่จะสู้ใหม่

แม่จะเกษียณตัวเอง ?

แม่นกน้อย :  ความหมายของแม่คือ แม่ประเมินอายุ อย่าง ฝน ธนสุนทร ก็กลับมา ปอยฝ้ายก็กลับมา แล้วมีลูกๆที่กำลังออดิชั่นเข้ามา ทุกคนให้ความสนใจและยินดีที่จะมาต่อยอดศาสตร์หมอลำ แล้วแม่เคยบอกว่า ถ้าแม่อายุ 70 แม่จะขึ้นเวทีไหวมั้ย แล้วเด็กพวกนี้จะไม่ให้เราพักเลยหรอ

แม่ทุ่มงบทำวงใหม่เท่าไหร่ ?

แม่นกน้อย :  คือไฟมันไหม้หมด ทุกอย่างไปกับไฟหมด น่าจะ 50 กว่าล้าน

มีคอมเม้นท์แรง “แก่ใกล้จะตายมาทำวงอีกทำไม” อันนี้เป็นคำพูดที่โดนมา ?

แม่นกน้อย : บางครั้งแม่ก็ออกมาโพสต์แล้วทิ้งเบอร์โทรเลย สายตรงมาเลยข้องใจอะไร 

รู้สึกยังไงที่คนคิดแบบนี้ เราเหนื่อยแทบตาย ?

แม่นกน้อย :  แม่คิดเลยว่า เราเป็นดารา เราดัง คนสนใจ ถ้าเราเป็นคนธรรมดาทั่วไป ใครจะเข้ามาสนใจชีวิตเราหรอ ไม่เป็นไรเราเป็นดารา เรารับได้ คิดมุมนี้ค่ะถึงผ่านได้ เพราะมันเยอะมาก

อยากบอกอะไรซึ่งกันและกันบ้าง ?

ฝน : ต้องบอกว่าแม่คือแสงสว่างของฝนจริงๆ แม่คือ ผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก แม่คือฮีโร่ของฝน ฝนจะดูแลแม่ตลอดไปค่ะ

แม่นกน้อย :  อยากบอก ฝน ธนสุนทร ว่า ฝนคือดวงใจของแม่นกน้อยค่ะ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/LD7G99k8PTA

About Author