“เป้ย ปานวาด” เปิดใจครั้งแรก “ปาลิน” ผ่าตัดครั้งใหญ่ เนื้อที่ในการหายใจเหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ 

“เป้ย ปานวาด” นางร้ายสุดแซ่บ ที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรก หลังลูกสาว “น้องปาลิน” ผ่าตัดครั้งใหญ่ ใช้เวลาผ่าตัดกว่า 2 ชม. ครึ่ง และเผยโมเมนต์ความประทับใจระหว่าง “พี่โปรด-น้องปาลิน” พร้อมขอเคลียร์ข่าวเม้าธ์ เตรียมทวงบัลลังก์เซ็กซี่สตาร์ ใส่ชุดว่ายน้ำอวดหุ่นแซ่บลงไอจี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

อาการน้องปาลินหลังผ่าตัด?

“ตอนนี้อยู่ในช่วงระหว่างพักฟื้นรักษาตัว ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปก่อน เพราะช่วงนี้แผลยังปิดไม่สนิท ยังไม่แห้งซะทีเดียว กลัวเชื้อโรคเข้าไปแล้วทำให้ไม่สบายอีกครั้งนึง”

น้องผ่าตัดเรื่องอะไร?

“ต่อมอะดีนอยและต่อมทอนซิลโตค่ะ โตแบบปิดทางเดินหายใจ เหลือไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ชัดมากตอนคุณหมออกจากห้องผ่าตัดแล้วบอก ตอนเอ็กซเรย์ คุณหมอคาดการณ์ว่าน่าจะประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ที่มีช่องทางเดินหายใจแต่พอผ่าแล้วปรากฎว่าเหลือน้อยมาก ถามว่านี่น้องใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง”

เขามีอาการยังไง?

“ปาลินอาการน้อยมาก แค่หายใจแรง เป็นไข้นิดหน่อยเราก็เข้าใจได้ เพราะลูกไปโรงเรียนอาจเจอเชื้อโรคเข้าปาก เป็นหวัด เป็นไข้เล็กน้อยเลยไม่ผิดสังเกตมาก แต่พี่โปรดเป็นเยอะ เป็นไข้ที่ค่อนข้ารุนแรง เหมือนมือเท้าปาก RSV พอหายปุ๊บก็เป็นโรคนี้ต่อ ของพี่โปรดจะจับสังเกตได้ง่ายกว่า แต่ปาลินน้อยมาก”

ตอนปาลิน เป้ยสังเกตลูกว่าอะไรผิดปกติ?

“มันแปลกตรงที่คนเรานั่งเฉย ๆ ทำไมหายใจแรง ไม่ได้ทำอะไรเลย วาดรูปเฉย ๆ หายใจแรง เราก็คุยกับทุกคน คุยกับคุณพ่อพี่เลี้ยงว่ามันแปลก ๆ เขาก็บอกว่าเราคิดมาก วิตกจริตหรือเปล่า แต่เราบอกว่าไม่เอาต้องพาไปตรวจ พาไปเอ็กซเรย์ ต่อมนี้จะมีบทบาทช่วง 1-10 ขวบ หลังจากนั้นมันจะค่อยๆ ลดบทบาทของมันไป แต่ช่วงพีคๆ คือ 2-6 ซึ่งเด็กต้องไปทำโน่นนี่ ทำกิจกรรม อาจมีเชื้อโรคเข้ามา กลายเป็นว่าต่อมนี้สะสมแล้วปิดกั้นทางเดินหายใจ พอพอปิดกั้นทางเดินหายใจ ก็จะหายใจแรง เวลานอนก็สะดุ้งเฮือก หยุดการหายใจบ้าง พอเป็นแบบนี้จะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกและสมอง พอเพาะเชื้อโรคเยอะๆ ก็ทำให้ไม่สบาย เป็นโรคโน้นโรคนี้ง่ายอีก”

ตอนกับน้องโปรดเป็นยังไง?

“จริง ๆ ยาก เป้ยไม่ได้สตรองเลยเป้ยร้องไห้เยอะมาก ๆ แต่เรามีประสบการตอนพี่โปรดแล้ว เราก็เก็บข้อมูลทั้งหมดเพื่อมาจัดการกับปาลิน ว่าจะเป็นแบบไหน เพื่อให้เป็นไปได้มากที่สุด ตอนโปรด เป้ยคุยเรื่องนี้แทบไม่ได้เลย คุยแล้วมันรู้สึกไม่อยากให้เกิดกับชีวิตเราแล้ว แต่พอเกิดปุ๊บ เราต้องฮีลใจตัวเองให้แข็งแรงเพื่อไปดีลกับปาลินให้แข็งแรง และทำยังไงก็ได้ห้ามให้ลูกเห็นว่ามันเรื่องใหญ่แล้ว ต้องคุยกับพี่โปรดด้วย โปรดเขาก็น่ารักมาก พอบอกว่าน้องเป็นเหมือนพี่โปรดนะ ต้องทำแบบนี้ ๆ กับน้องนะ เขาก็รู้ว่าเป้ยเซนซิทีฟเรื่องนี้ ตอนผ่าตัดเป้ยก็เล่าให้เขาฟัง ว่าเป้ยกอดตุ๊กตาเน่า ๆ ของเขาที่เป้ยไม่ชอบ แล้วเป้ยก็นั่งร้องไห้ มองท้องฟ้า อธิษฐานทุกอย่างว่าความดีที่แม่ทำมาทั้งหมด ขอให้ลูกแข็งแรง และตื่นขึ้นมาอย่างปลอดภัย อันนี้คือสิ่งที่เป้ยกังวล พอเขารู้ว่าเป้ยกังวลปุ๊บ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร แม่เครียดใช่มั้ย เดี๋ยวโปรดจะอยู่ข้างน้องให้กำลังใจเขาและจะบอกน้องว่าไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่คิด คือเขาก็เข้ามาช่วยเป้ย ซึ่งเขาทำได้ดีมาก ๆ เราก็ไม่กล้าชมลูกออกสื่อ กลัวคนหมั่นไส้ แต่เขาน่ารักมาก ๆ จนเป้ยและคุณป๊อปรู้สึกเซอร์ไพรส์ มันดีจังเลย กับการที่มีพี่ชายมาช่วยตรงความรู้สึกเราด้วย ช่วยให้น้องไม่กังวล สังเกตได้จากคลิป ปาลินไม่มีความกังวลอะไรเลย ก่อนผ่าตัด พี่โปรดตื่นตั้งแต่ตีสี่ อาบน้ำแต่งตัวเอง เพื่อพาน้องเข้าห้องผ่าตัด น้องจะได้ไม่ต้องกังวล”

น้องกังวลมั้ย?

“ไม่เลย เพราะเป้ยวางแผนรัดกุมมาก เป้ยไม่มีการหลอกปาลินเลย ทุกอย่างเป็นไปตามความจริง แต่อาจลดทอน เป้ยให้ดูรูปห้องผ่าตัด แต่อาจไม่มีรูปมีดและกรรไกร ก็อธิบายว่าต้องเป็นสเต็ปไหนบ้าง ต้องเจาะเลือด อธิบายให้เห็นภาพจริง ๆ มันจะเจ็บนิดนึงนะ ก็บอกตามความเป็นจริง เพื่อพอถึงเวลาเขาจะได้ไม่ต้องกลัวหรือกังวล ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ เพราะพอถึงเวลาเขาไม่ต้องจับมัดตัวอะไรเลย เขานอนชิลให้เจาะเลือดเลย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเบื้องต้นเขาต้องเจออะไรบ้าง แล้วถ้าพูดถึงระดับการเชื่อฟัง ปาลินจะเชื่อฟังพี่โปรดมากกว่าเป้ย (หัวเราะ) พี่โปรดเขาจะรู้สึกอุ่นใจ โดยที่เป้ยแทบไม่ต้องทำอะไร”

บอกพี่โปรดยังไง?

“เหมือนเขารู้เลยว่าต้องจัดการอะไรกับน้อง ตอนนี้โปรดอายุ 11 ปาลิน 4 กำลังจะ 5 ค่ะ เป้ยก็เคยแอบคิดว่าห่างเกินไปจะเป็นเรื่องที่ดีหรือเปล่า แต่กลายเป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาโตพอจะเข้าใจว่านี่คือน้อง”

ผลการผ่าตัดที่บอกว่าปาลินเหลือเนื้อที่ในการหายใจ 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นยังไง?

“บางทีเอ็กซเรย์มันไม่เห็น อย่างคุณหมอบอกว่าชม.ครึ่งน่าจะเสร็จแล้ว แต่ปาไปสองชม.ครึ่ง เราฟีลคนนั่งไม่ติด มันเกิดอะไรขึ้น แล้วไม่มีคำตอบเลย เราก็ได้แต่รออย่างเดียว นั่งไม่ติดเลย ทั้งเป้ยและโปรด”

พี่โปรด คุณพ่อชวนไปซื้อกาแฟก็ไม่ไปไหนเลย?

“พ่อก็สายชิล ชวนไปซื้อกาแฟ แต่เขาบอกขอรอน้องก่อน น่ารักค่ะ ที่นานเพราะมันใหญ่กว่าที่คิด หมอถึงได้ถามว่านี่ใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง”

ตอนน้องโปรดเป็นกับปาลินเป็น อาการเหมือนกันมั้ย?

“ปาลินจะใหญ่กว่า การหายใจ ของพี่โปรดรุนแรงกว่า คือป่วยบ่อยเห็นได้ชัด แต่การใช้ชีวิตต่างกัน โปรดก็ไม่มีอะไรให้สังเกตมากนักเหมือนกัน สังเกตได้ชัด ๆ คือป่วยบ่อย พาไปพ่นยา กินยา รักษาปีกว่านะคะ ไม่ใช่เอะอะผ่าตัดเลย ทำสลีปเทสต์แล้วด้วยแต่ผลไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น จนเราสงสัยว่าทำไมป่วยบ่อยจัง เดือนนึงป่วยสองสามรอบไม่ได้ไปโรงเรียนเลย เราก็เลยไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เราเอ็กซเรย์ดูมั้ย อันนี้เอ็กซเรย์ก็เจอเลย เราก็ยังยื้อนะ ไม่ผ่าได้มั้ย เพราะกลัวมาก ปรากฎว่าพอเขาป่วยบ่อยจนทำอะไรไม่ได้ก็เลยตัดสินใจผ่าแล้วกัน อย่างน้องปาลิน เอ็กซเรย์ปุ๊บคุณหมอเห็นว่าใหญ่ก็บอกให้ผ่าเลย แต่เราขอยืดเวลาขอเป็นช่วงปิดเทอมแล้วกัน จะได้ไม่ขาดเรียน อาศัยการพ่นยาเอา”

ถ้าไม่ผ่าผลตามมาจะเป็นยังไง?

“หลัง 6 ขวบเป็นไปได้ที่มันอาจดีขึ้น แต่เราจะปล่อยให้ลูกเราไปถึงตอนนั้นเหรอ พอกลางคืนหลับไม่สนิทมันส่งผลถึงทุกอย่าง ทั้งพัฒนาการและสมอง หยุดหายใจตอนกลางคืน มันก็ไม่ดีกับลูกเรา เลยตัดสินใจผ่า”

หลังปาลินฟื้น?

“บอกลูกเลยว่าถ้าลูกลืมตามาจะมีแม่อยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา แม่จะไม่หายไปไหน พอเจอเราเขายังสลึมสลืออยู่ แต่มวลรวมดีกว่าตอนพี่โปรดเยอะมาก เราอาจมีประสบการณ์ของพี่โปรดด้วย รู้ว่าต้องทำยังไง ก็ทำให้น้ำตาลดน้อยลง แต่ความกังวลใจมีเหมือนเดิม ลูกถูกวางยา เราก็ไม่อยาก กลัวไม่ตื่น กลัวไปต่าง ๆ นานา”

สองคนมีทะเลาะกันมั้ย?

“เขาดีลกันได้ลงตัว พี่โปรดมีวิธีจัดการกับปาลินได้ดีมาก ๆ เราอาจบอกบ้าง แต่ด้วยพื้นฐานนิสัยเขา เขารู้ว่าต้องจัดการกับน้องยังไง เวลาคุยกับเขา เราจะตอบอะไรโง่ ๆ ออกไปไม่ได้เลย เราต้องมีเหตุผล อย่างขอโพสต์รูปรับรางวัลได้มั้ย แฟนคลับเขาจะได้ชื่นชม เขาบอกว่าทำไมเราเก่งต้องบอกให้คนอื่นรู้ด้วย เราก็เออ ก็จริงว่ะ ก็เป็นอันเข้าใจ อย่างเป้ยก็อยากรู้สเปกลูก แค่หลอกถาม (หัวเราะ) ชอบผู้หญิงประมาณไหน สเปกเป็นยังไง เปิดไอจีให้ดู แบบนี้ชอบมั้ย หมวย ๆ หรือฝรั่ง เขาไม่ได้บอกสเปกแต่เขาบอกว่าชอบผู้หญิงที่เป็นแบบแม่ ไม่ได้สวยแบบแม่นะ เขาบอกว่าชอบที่อายุเท่านี้แต่ยังดูแลตัวเอง เราก็โอ๊ะ อย่างนี้เลยเหรอ แม่งอแงกับลูกไม่ได้นะ(หัวเราะ) เป้ยฟีลเหมือนแม่จริงจัง บางทีปรี๊ดก็ต้องไปต่อยตุ๊กตา หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า แล้วค่อยมาคุยด้วยเหตุผลกับลูก มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เราไม่เอาคำตอบเราไปกะเกณฑ์ลูก”

เคยเผลอปรี๊ดมั้ย?

“มีบ้าง แต่มันไม่ได้ผลเลย (หัวเราะ) ต้องค่อย ๆ สังเกต ปรี๊ดแล้วไม่ได้ผล ลงโทษแล้วไม่ได้ผล มันนานแล้วจริงๆ น้อยมากตอนนี้เราเรียนรู้นิสัยลูกแล้ว พอรู้ว่าต้องดีลยังไง ทุกอย่างก็ง่ายมาก แม่ต้องปรับตัวค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ใจเย็นหรอก พอกลับมาถึงบ้านทุกอย่างที่เจอข้างนอก กลายเป็นไม่เกิดอะไรขึ้น เข้าบ้านมาก็ต้องสงบ”

เคยโดนลูกบ่น?

“เมื่อก่อนช่วงโควิด พอเห็นเราแต่งตัวนิด ๆ หน่อย ๆ เขาจะถามว่าทำไมต้องแต่งตัวเซ็กซี่ จะไปไหนหรือเปล่า จะทำอะไรหรือเปล่า ก็มีบ่นเล็กน้อย ช่วงหลังเขาไม่ค่อยบ่นเป้ยแล้วเพราะรู้ว่าทุกอย่างคืองานของแม่ เป้ยค่อย ๆ คุยกับเขาว่านี่คืองานของแม่นะ เขาก็เข้าใจได้ แล้วช่วงโควิด เราดูซีรีส์ก็ติดเนอะ เวลาไคลแม็กซ์ ลูกก็มาบอกให้ทำนั่นนี่ให้หน่อย เขาก็มาบ่น (หัวเราะ) งงมากทำไมจำชื่อได้ เขาบ่นว่าเราสายตาสั้น เราก็สายตาสั้นจริง ๆ (หัวเราะ)”

ชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ตลอด?

“จริงๆ ตอนถ่ายไม่ได้คิดว่าต้องเซ็กซี่ คำว่าเซ็กซี่สำหรับเป้ยมันผ่านมานานมากแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจมีภาพลักษณ์ตรงนั้น แต่ ณ วัยนี้ วัยของเป้ย ที่เป็นคุณแม่ ถ้าคนมองลูกเป้ย อยากให้มองเรื่องการดูแลตัวเองน่าจะดีกว่า ในความรู้สึกเป้ยตอนถ่ายก็ไม่ได้โพสต์ท่าอะไรเลย ตอนนี้เป้ยหนัก 46-47 มั้งคะ ไม่ได้ชั่งเลย ส่วนออกกำลังกายไม่ใช่จริตของเป้ย การออกกำลังกายดีนะ แต่ไม่ใช่จริตของเป้ย เป้ยคิดว่าการที่เป้ยวิ่งตามลูก ไปถ่ายละคร คือนี่การออกกำลังกายของเป้ย”

คุณสามีว่าไง?

“เขาโอเคที่เราเป็นคนดูแลตัวเอง แต่เขาไม่โอเคถ้าเราเป็นคนที่ผอมมาก เขาเตือนว่าขอแค่นี้นะ อย่าผอมกว่านี้ได้มั้ย ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ถ้าคนจะผอม”

ยังสวีตกับสามีมั้ย?

“อย่าถามแบบนี้เลย มันสิบกว่าปีแล้ว เป้ยเล่นกับลูกยังไง เป้ยก็จะเล่นกับคุณป๊อปแบบนั้น เรากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกยังไง เราก็ทำกับสามีแบบนั้น เราแกล้งลูกยังไงก็ทำกับสามีแบบนั้น มันเหมือนเล่นกันมากกว่า เลยไม่ได้มีพาร์ทกินข้าวใต้แสงเทียนอะไรแบบนี้ ก่อนแต่งกับหลังแต่งก็เหมือนเดิมเลย เป้ยชอบกอด ชอบจับ ชอบสัมผัส เราชอบทานอะไรคล้าย ๆ  กัน กินปิ้งย่างติดมันเยอะ ๆ ก็จะไปกินกันแบบนั้น ไม่มีฟีลใต้แสงเทียน แต่ไปดูหนังด้วยกันก็มี ไลฟ์สไตล์ค่อนข้างตรงกัน”

ลูกนอนด้วยบ้างมั้ย?

“นอนด้วยกันสองคน (กับสามี) เยอะมาก ลูกมานอนบ้างเป็นช่วงเวลาค่ะ”

ลูกคนที่ 3?

“ไม่เอาแล้ว สองคนกำลังดี สำหรับเศรษฐกิจแบบนี้ เวลาไปไหนมันไม่เหนื่อยเกินไปสำหรับเป้ย ก่อนแต่งงานคิดว่ามีลูกคนเดียวน่าจะพอ แต่ไป ๆ มา ๆ มีอีกสักคนก็ดีนะ หญิงคนชายคน ก็เลยสอง ตอนนี้ปิดอู่แล้วค่ะ สามีทำหมันเรียบร้อยแล้วค่ะ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ เป้ย ปานวาด 

About Author