“ต๋อง ศิษย์ฉ๋อย” เผยนาทีโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก  สูญ 3.2 ล้าน รู้แล้วว่าเงินไปอยู่ที่ไหน? 

หลังจากต้องช็อคไปแบบไม่ทันตั้งตัว สำหรับ “ต๋อง ศิษย์ฉ๋อย” หรือ “วัฒนา ภู่โอบอ้อม” นักกีฬาทีมชาติที่เพิ่งไปคว้าเหรียญทองมาจากการแข่งขันซีเกมส์ล่าสุด แต่ก็ต้องมาช็อกหลังจากถูก “แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์” หลอกทำให้สูญเงินไปกว่า 3.2 ล้านบาท แทบจะหมดบัญชี เหลือเพียงแค่ 8 พันกว่าบาท ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจผ่านรายการ “คุยแซ่บShow ทางช่องOne31 พร้อมเล่าว่าทำไมถึงตกเป็นเหยื่อ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็ระมัดระวัง รวมไปถึงคืบหน้าว่าจะได้เงินคืนไหม

กับเรื่องราวที่ถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอก?

“วันที่ 16 หลังจากที่เราได้ไปแข่งขันซีเกมส์มา ก็ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาว่าผมนี่ ว่าเราชื่อนี้นะ ปลายสายก็บอกว่าโทรมาจากเคทีซีแบงค์กิ้งนะ คุณมียอดเงินที่ใช้เงิน 89,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เพิ่งจะเคลียร์เงินไป 60,000 กว่าบาทก่อนจะบินไปซีเกมส์ จังหวะมันพอดี เรามีลิมิตในการช้อปปิ้ง 1 แสนบาทและช้อปไป 6 หมื่นกว่าบาท และเราจะไปซื้อเก้าอี้เพิ่ม แต่มันโดนบล็อกเหมือนเราใช้วงเงินเกิน เราไม่เคยติดหนี้ด้วย เราเลยเอ๊ะใจ ก็เลยคิดว่ากลับมาจากซีเกมส์แล้วค่อยมาจัดการ พอโทรศัพท์โทรมาพอดี ถามว่าเอะใจไหม คือปลายสายเขาเป็นผู้หญิง พูดจาดี เรากำลังรีแลกซ์เพราะเพิ่งได้เหรียญทองมาด้วย และเราอยากรู้เรื่องนี้พอดี เราก็ยืนยันว่าเราไม่ได้ใช้เกินลิมิต และเราก็เพิ่งจ่ายไปเองเขาเลยขออนุญาตเรียกชื่อเล่นเรา แนะนำให้เราไปรายการตัวที่ สภอ.นครสวรรค์ และก็โอนสายไปที่ สภอ. เราก็เห็นว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่เขาบอก และทางปลายสายก็บอกว่าขอเป็นวีดิโอคอลได้ไหม เราก็บอกว่าดีเลย จะได้รู้ว่าคุณเป็นตำรวจจริงไหม แลกไลน์กัน วิดีโอคอลมา เขาเป็นตำรวจริง ๆ เขาเอานามบัตรให้ดู เราก็ไปเช็ค มันก็มีชื่อนี้อยู่จริงๆ แต่ภาพที่เราวิดีโอคอลมันอาจจะไม่ชัด แต่เห็นว่าเป็นชุดตำรวจจริงๆ เขายังบอกว่าลูกสาวของเขาเองเป็นแฟนคลับคุณต๋อง พร้อมบอกจะขอเลี้ยงข่าวสักมื้อ และผ่านไป 5 นาที เขาก็บอกว่ามีข่าวร้ายว่าเราไปขายบุ๊คแบงค์ให้ใครหรือเปล่า ไปขายในราคา 50,000 บาทที่จันทบุรี เขาก็แคปหน้าบุ๊คแบงค์ เป็นชื่อเราด้วย ซึ่งเราไม่เคยไปทำเลย มันคือความเนียนที่ยิ่งทำให้เรายิ่งเชื่อ ผมก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เขาก็ยังบอกว่ามันมีมากกว่านั้นอีกถามว่ารู้จักนายสัญญา แซ่ลี้หรือเปล่า บุคคลนี้เพิ่งโดนจับไปเมื่อ 2 อาทิตย์เพราะเป็นพ่อค้ายาเสพติด บุคคลนี้โอนเงินให้ผม 850,000 บาท ผมยิ่งตกใจไปอีก เรายังบอกว่าให้ไปเช็คเส้นทางการเงินก็ได้ ซึ่งนี่ก็คือที่มาว่าทำไมเขาได้ดูบัญชีเราได้”

อะไรคือความเนียนที่เราเชื่อ เพราะรู้ทั้งรู้ว่าเขาคือ “คอลเซ็นเตอร์”

“อย่างที่เรามาตลอด เราเริ่มเบลอ สติเริ่มไม่อยู่กับตัว พอเริ่มมียูนิฟอร์มเข้ามา มีนามบัตรเข้ามา และเรียกคุณต๋องทุกคำ เราเลยไว้ใจ เราไม่ได้คิดว่าเขาจะมาหลอก เราเลยให้ความร่วมมือ เขาพูดดี เขาบอกว่าขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่เช็ค 5 บัญชีของคุณต๋องได้ไหม โดยระยะเวลาที่คุย 3 ชม. แต่เพื่อนก็บอกว่าวางได้แล้ว โดนหลอกแล้ว แต่เราก็ไม่ฟังเพราะเรากำลังให้ความร่วมมือ และยังบอกว่าชื่อผมอยู่ที่ศาล ซึ่งถ้าผมไม่ให้ความร่วมมือ เขาบอกว่า อีก 1 ปี 6 เดือนค่อยคุยกันใหม่นะ และก็เปลี่ยนไปอีกเสียงนึง ทำให้เราตื่นตระหนกแล้ว เขารู้ว่าผมเริ่มกลัวแล้ว และที่น่ากลัวคือเขารู้เวลาเรากลับมาถึงเมืองไทยด้วย จนเพื่อนมากระชากมือถือไปบอกว่าโดนหลอกแล้ว ไม่ต้องคุยแล้ว”

สรุปเราโอนไม่กี่ครั้งแล้ว?

“โอนไป 10 ครั้ง ครั้งแรกโอนไป 499,999 บาท 99 เป็นรหัสของ 191 เขาก็บอกไม่มีการโกงแน่นอน และมีเรื่องยาเสพติดเข้ามา ยิ่งทำให้เรากังวลไปอีก เขาให้เราโอนให้กับตำรวจ ปลายทางของชื่อบัญชีเป็นชื่อของผู้หญิง 2 คน เราก็เอะใจแล้ว ว่าทำไมไม่ชื่อตำรวจที่เราคุยกัน นี่คือพิรุธ แต่เขาก็ให้เราไปเพิ่มวงเงิน เขายังรู้เลยว่าเรามีเงินเท่าไรในบัญชี เพราะเขาให้เราไปเพิ่มวงขึ้นให้เท่ากับเงินในบัญชี จะได้ให้เราโอนทีเดียว และเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ เขาบอกว่าใครที่มีแอฟธนาคาร นั่นคือสะพานข้ามไปหามิจฉาชีพ และคนที่ใช้แอนดรอยต้องระวัง”

รู้ว่าเราตกเป็นเหยื่อตอนไหน?

“คือตอนที่เรากำลังจะโอนครั้งที่ 11 ปลายสายบอกให้ไปหามาอีก 1 ล้าน เขาบอกว่าระดับคุณต๋องโทรไปยืมใครก็ได้เราเริ่มเอะใจเข้าไปอีก  แต่เราก็ไปเอาจากแม่ 1.4 แสน เป็นการโอนครั้งสุดท้าย จนเพื่อนมากระชากโทรศัพท์ไป เรามารู้ว่าโดนแล้ว จิตตกไปเลย และระหว่างที่เราโดนกระชากโทรศัพท์ไป ปลายสายก็ถามว่าเป็นใคร เราก็บอกว่าเป็นพี่เขาก็เลยบอกว่าถ้าเป็นพี่ต๋อง ก็ต้องมีเงินมากกว่าต๋องซิ พอเรารู้ เราทรุดเลย ล้มไปแบบงงๆ และพอมีสติปุ๊ป เราก็ไปอายัดทุกแบงค์ แบงค์นึงอายัดกว่าจะอายัดได้ ก็ครึ่งชั่วโมง ซึ่งของเราโดนไปทั้งหมด 3.2 ล้าน และตอนนี้เหลือเงินติดบัญชี  8,000 กว่าบาท วันที่จะเดินไปปิดบัญชี ผมเดินเข้าไปถอนเงินใช่เวลากว่า 2 ชม. ทั้ง ๆ ที่เราไปเอง บัตรประชาชนเราเอง ผมบอกไปว่าผมมาด้วยตัวเองกับเงิน 8 พันกว่าบาทใช้เวลา 2 ชม. แต่เงิน 3.2 ล้านไม่เกิน 5 นาที วันนี้ที่ผมมาอยากจะมาแชร์ความรู้สึกผู้เสียหาย อีกหน่อยอาจจะเป็นคนที่กำลังดูอยู่ตอนนี้ก็ได้”

ถ้าโดนแล้ว เราต้องทำยังไงบ้าง?

“จริง ๆ ต้องไปแจ้งความก่อน ต้องไปอายัดกับแบงค์ก่อนแต่กว่าจะเสร็จทุกอย่าง เงินเราไปแล้ว ไปไหนก็ไม่รู้แล้วธนาคารเขาไม่รับผิดชอบอะไร เขาปัดความรับผิดชอบ เขาโอนไปให้ตำรวจเป็นคนจัดการ เพราะเราเป็นคนโอนเอง จากอายัดก็ไปแจ้งความ ผมอยู่ในห้องสอบสวน 3 ชม. แต่อยากให้มันเร็วกว่านี้อีกได้ไหม 2 อาทิตย์ที่ต้องเดินเรื่องทำให้เรานอนไม่หลับ ความคืบหน้าคดีคือตอนนี้จับได้แล้ว 22 คน ส่วนคนที่ปลอมเป็นตำรวจ เขาบอกว่าเขาโดนแอบอ้าง  แต่ขอถามกลับไปว่าจะไม่ขยายผลเลยเหรอ ถามแบบเป็นคนธรรมดา และตำรวจชั้นผู้น้อยเขามาแตะตัวเรา พูดตรงๆ ว่าการที่จะได้เงินคืนนั้น เปอร์เซ็นต์น้อยมาก ๆ ไม่ถึง 1% ผมก็ร้องโอ้โห และตำรวจเขาก็รู้ว่าเงินผมไปอยู่ที่ไหนไปอยู่ที่คริปโตเคอเรนซี่ ตอนนี้เงินที่ไม่ถูกต้องไปอยู่ที่นั่น มันคือการฟอกเงิน และเพื่อนผมโดนไป 50 กว่าล้านนะ”

หลังจากเจอเหตุการณ์นี้ไป ทำให้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปยังไง?

“ต้องไปอายัดทุกบัญชีที่มี ปิดบัญชี เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ อยากอยู่แบบเงียบ ๆ สักพัก เราต้องประหยัดขึ้น เราต้องระวังตัวมากขึ้น เราต้องไม่ให้เบอร์ใครมากขึ้น บวกกับปีนี้เป็นปีชงด้วย ยอมรับว่า 2 อาทิตย์มันเหนื่อย มันเสียรู้คนมันโดนด้วยตัวเอง เข้าใจว่าคนอื่นสงสัยว่าโดนได้ไง ถ้าคุณไม่โดนด้วยตัวเอง คุณก็จะไม่รู้”

ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย 

About Author