ครอบครัวร้อง ลูกวัย 11 ขวบถูกทำอนาจาร คนกลางช่วยไกล่เกลี่ย สุดท้ายครอบครัวถูกจับยัดยา -

กรณีเด็กหญิงวัย 11 ปี ถูกล่วงละเมิดทางเพศ มีคนกลางอ้างเป็นยุติธรรมจังหวัดพยายามเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย ระหว่างผู้เสียหายกับผู้ก่อเหตุ แต่สุดท้ายบอกให้ผู้เสียหายรับเงินไปจะได้จบ ๆ แต่ครอบครัวผู้เสียหายต้องการเอาคนผิดเข้าคุก แต่อยู่ดีๆ ครอบครัวนี้กลับถูกยัดยา ถูกตร.จับ ชาวบ้านยืนยันครอบครัวนี้ไม่มีค้ายาแน่นอน มาร้องขอความเป็นธรรมผ่าน “ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์”

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 11 ม.ค. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ พ่อแม่ผู้เสียหาย รวมทั้ง ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์

ลูกถูกล่วงละเมิดจากใคร?

แม่ : เป็นคนที่นับถือกันอยู่ใกล้บ้านค่ะ เราไปแจ้งความ จากนั้นมีการเจรจาไกล่เกลี่ยโดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ยุติธรรมจังหวัดค่ะ

ไพศาล : จากที่ผู้เสียหายบอก เขาไปอ้างเจ้าหน้าที่ว่าเป็นนักข่าวสื่อช่องใหญ่ ผมทราบแล้วล่ะ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นใคร

ยุติธรรมจังหวัดเข้ามาช่วยประสาน แล้วยังไงต่อ?

แม่ : เขาพาไปเจรจา แล้วก็บอกว่าจะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ก็ให้เรียกเลย เราเลยลองเรียกไป 5 แสน แต่เขาบอกว่าเรียกไม่ได้ ให้เรียก 3.5 แสน แล้ว 1.5 แสนต้องเอาไปให้ตร. เพื่อให้คดีเดิน แม่ไม่โอเค ก็กลับบ้าน จากนั้นเดือนกว่าๆ มียาเสพติดมาโผล่อยู่ที่บ้าน มีตร.ไปเรียกว่าที่บ้านมียาเสพติดค่ะ

ตอนไปคุย คิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นตรงนี้?

แม่ : เรื่องยาเสพติด มีตร.ไปเคาะประตูเรียก แล้วบอกว่าพวกคุณได้เสพยาเสพติดมั้ย เราก็บอกว่าไม่ได้เสพ เขาบอกว่าพวกเธอมียาเสพติดอยู่ในครอบครอง เขาเจอยาเสพติดข้างบ้าน ตรงก๊อกน้ำที่ล้างจาน

ไพศาล : พีคตรงมาเคาะประตูก่อนว่ามียามั้ย แป๊บเดียวเจอยาอยู่ข้างบ้าน พิรุธมาก ยาอยู่นอกรั้วแต่อยู่ข้างบ้านกฎหมายถือว่าเป็นบริเวณบ้าน แล้วตอนนั้นฝนตกหนัก ตรงก๊อกน้ำมันเปียก แต่ยาไม่เปียกเลย แล้วคุณรู้ได้ไงว่าเขามียา สองสถานที่ตรงนั้นไม่สอดคล้อง ยาอยู่ในถุงผ้าต้องเปียก แต่นี่ไม่เปียก

แม่ : ตรงนั้นมีเศษกระเบื้องปูพื้นค่ะ ยานี้มีกระเบื้องทับไว้ค่ะ

ไพศาล : แล้วมาเจอภายหลัง มันเป็นพิรุธแล้ว คุณรู้ก่อนได้ไงว่ามียา มีถึง 990 เม็ดนี่โทษหนักเลยนะ เข้าประหารได้เลย แล้วตอบคำถามอะไรไม่ได้เลย เราไปถึงหน้างาน ท่านก็ดี ส่งรองผกก.มาช่วย แต่สืบหายหมดเลย นักข่าวก็โทรถามว่ามามั้ย ก็ไม่มี บอกไปตรวจงาน ลงพื้นที่ ผมก็บอกให้แจ้ง 157 เลยแบบนี้ พอแจ้ง 157 ไล่มาทีละคน ตอบมือไม้สั่น มาถึงตอบอะไรไม่ได้ ผมก็บอกว่าคุณชี้มาเลยสายคนไหนแจ้ง เราให้เอามายืนยันภายใน 3 วัน เพราะคนที่ชี้มีลักษณะกลั่นแกล้ง พยายามสร้างเรื่องว่าบ้านนี้ค้ายาจริง

ยุติธรรมจังหวัดคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้องได้ยังไง?

แม่ : เขามาดูแลเรื่องเงินเยียวยาลูกสาวค่ะ ติดต่อเรื่องเงินเยียวยา คุยกันทางไลน์ รวมทั้งจะมาดูแลคดีให้ ทักแชตมาตลอดค่ะ หลังจากนั้นเขาก็แอดไลน์แม่ คุยสนิทชิดเชื้อ เขาถามแม่ว่าที่บ้านมีพระมีอะไรมั้ย ติดต่อเรื่องพระกันมาด้วย ขอพระเราด้วย เขาจะขอชมพระเครื่อง แล้วบอกจะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบบ้าน มาเก็บสำนวน พอเขามาลงที่บ้านก็มาขอชมพระ แม่เลยเอาให้เขาดู เขาก็หยิบๆ ไว้ บอกเผื่อเอาไปตรวจสอบว่าพระจริงหรือพระปลอม ตรวจสอบเพื่ออะไรก็ไม่ทราบ แต่เขาเอาไปเหยียบ 300 องค์ค่ะ

เกี่ยวอะไรกับคดี?

แม่ : เขามีคำพูดนึงหลุดออกมาว่าใช้งานเขาอย่างเดียว พระก็ไม่ให้ เขาเป็นนักข่าวด้วย หลังจากเขาพาไปไกล่เกลี่ยกับผู้ต้องหา คุยให้หนูเรียกค่าเสียหายจากผู้ต้องหา เขาบอกเรียกเท่าไหร่เรียกเลย หนูเลยลองเรียก 5 แสน แล้วเขาบอกว่าเรียกได้ 3.5 แสน อีก 1.5 แสน เอาให้ตร. หนูได้ยินกับหูจริง ๆ แล้วเขาขอค่าน้ำมันกลับอีก 1 พัน ขอลอตเตอรี่อีกชุดนึง 5 ใบ 550 เลขท้ายลงท้ายด้วย 35

เขาบอกเขาสนิทกับผู้ต้องหาเหรอ?

แม่ : เขามีเบอร์โทรค่ะ แต่เขารู้จักกันมั้ย หนูไม่ทราบ วันที่ไปไกล่เกลี่ยเห็นเขาขอเบอร์กัน แต่พอเขาขอค่าน้ำมันรถ หนูไม่โอเค

แล้วเกี่ยวอะไรกับยาที่เขาต้องเอามายัดคุณ?

ไพศาล : พอเคลียร์ไม่ได้ แม่ไม่ยอม ก็มีการพูดว่าญาติผู้ต้องหาบอกว่าจะทำให้ครอบครัวมึงพินาศเลยก็ได้

แม่ : ทางญาติผู้ต้องหาบอกว่าเขามีสิทธิ์ทำให้หนูไม่เหลืออะไรเลยก็ได้ อยู่ที่ว่าเขาจะทำหรือไม่ทำ หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น เจอยาเสพติดที่บ้านก่อนเลย แล้วมีเรื่องที่ดินโดนร้องเรียนว่าลักลอบขุดดิน หนูขุดจริง เพื่อเคลียร์ดินปลูกทุเรียน แต่เป็นที่หนูเอง

ไพศาล : พอถามป่าไม้ว่าใครแจ้ง ป่าไม้ให้เบอร์มาก็เป็นเบอร์ยุติธรรมจังหวัดคนนั้นแหละ

ยุติธรรมจังหวัดโกรธอะไรคุณ?

แม่ : หนูก็ไม่ทราบ

ที่คุณเป็นโฉนดหรืออะไร?

แม่ : สปก.ค่ะ เป็นชื่อหนูเอง

คุณขุดหน้าดินปลูกทุเรียน ป่าไม้มาเล่นงานคุณ คุณถามว่าเกิดอะไรขึ้น ป่าไม้บอกว่ามีคนมาแจ้ง เอาเบอร์ไปเช็กก็เป็นยุติธรรมจังหวัดที่เอาพระไป 300 องค์?

แม่ : เขาทำให้หนูมั่นใจเลยว่าขนาดเจ้าหน้าที่ภาครัฐยังเป็นแบบนี้ แล้วหนูจะเชื่อใจใครได้คะ

เรื่องยามันยังไง?

ไพศาล : เรื่องยา ญาติผู้ต้องหาพูดว่าเขาเดินเข้าเดินออกโรงพัก ไม่รู้เขาเป็นใคร แต่มันเป็นพิรุธหมด สืบต้องมาชี้แจงให้ได้ พยายามสร้างสตอรี่จะให้บ้านนี้เป็นจริง แล้วการตรวจค้นเกือบพันเม็ด เอาชาวบ้าน เอาผู้ใหญ่ไปรับรอง ก็กันเป็นพยานตรวจสอบ วันนั้นเราถามว่าการตรวจสอบค้นวันนั้นมีหมายค้นมั้ย มีเอกสารมั้ย แล้วยาเสพติดชุดที่เจออยู่ไหน ตอบไม่ได้ หายไปทีละคนๆ จนเราจะดำเนินคดี

มั่นใจได้ยังไงว่าไม่ใช่คนค้ายาจริง?

แม่ : หนูกล้าตรวจฉี่ค่ะ ตรวจเลือด ตรวจได้ทุกอย่างค่ะ

คนค้ายาไม่เสพก็มีนะ?

แม่ : ถ้าหนูเป็นผู้ค้าจริง หนูจะส่งเรื่องให้หมอปลาเพื่ออะไรคะ

คิดว่าใครกลั่นแกล้งคุณ?

แม่ : ผู้ต้องหาที่ข่มขืนลูกหนูนี่แหละค่ะ รวมตัวกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐค่ะ

คุณ “เอ” (นามสมมติ) อยู่ในสาย คุณเป็นยุติธรรมจังหวัดใช่มั้ย?

เอ : เป็นอดีตครับ ตอนนี้ผมมีสัญญาจ้าง ตอนนี้หมดสัญญาจ้างไปแล้ว เหตุเกิด 27 ส.ค. 65 วันเกิดเหตุผมไปตามเรื่องในคดี

คุณออกจากการเป็นยุติธรรมจังหวัดนานแค่ไหนแล้ว?

เอ : ผมหมดสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 65 ครับ

ลูกคุณถูกล่วงละเมิดเมื่อไหร่?

แม่ : รู้เรื่องวันที่ 17 ก.ค. ค่ะ

ตอนติดต่อเข้าไปยังเป็นยุติธรรมจังหวัด จากนั้นยังไง?

เอ : จากนั้นเคสแรกเป็นคดีเพศ ของเด็ก เคสที่สอง เป็นคดีภรรยาผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กในบ้าน เขาประสานมาทางผมให้ติดตามช่วยเหลือดำเนินการ ติดตามพนักงานสอบสวนให้ประสานงานกับผู้ก่อเหตุให้หน่อย วันนั้นเขาก็แชตไลน์คุยกับผม ให้ประสานงานคุยเรื่องคดี แล้วมีการนัดวันที่ 27 ส.ค. พนักงานสอบสวนก็โทรมาบอกว่านัดแล้วนะ ให้ประสานไปที่ร้อยเวรหน่อยว่านัดนี้จริงหรือไม่ ก็ประสานไปที่ร้อยเวร ผู้กองเจ้าของคดี ผู้กองก็บอกว่าโอเคงั้นมาเจอกันระหว่างผู้ ภรรยาผู้ก่อเหตุ และผู้เสียหายเอง ก็ไปเจอกันที่โรงพักแต่ก่อนไปโรงพักไปบ้านผู้เสียหายก่อน เขาบอกที่บ้านหนูมีพระนะมาดูได้เลย ผมก็ซื้อเคเอฟซีไปฝากเขา มีหลักฐานในแชตไลน์ เขาให้พระผมมา ผมให้ตังค์เขาไป 300 ไม่ใช่เอาพระเขามา 300 องค์

เรื่องถูกล่วงละเมิด คุณไปเคลียร์ก่อนมั้ย?

เอ : มันเป็นคดีเพศของเด็ก เขามายื่นคำขอที่ยุติธรรมจังหวัดระยอง แล้วยุติธรรมระยองก็เร่งช่วยเหลือเหยื่อคดีอาญาไปแล้ว 5 หมื่นบาท หลังจากนั้นก็ทำงานควบคู่กัน แล้วมีคดี 2 เคส มีเคสที่ภรรยาผู้ก่อเหตุไปทำร้ายเด็กหน้าบ้าน ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว

เรื่องล่วงละเมิดเกิดขึ้นจริงมั้ย?

เอ : เกิดขึ้นจริงสิครับ

จากนั้นคุณเอไปบอกเขาว่าให้เรียกเงิน เขาเรียก 5 แสน แต่คุณเอบอกว่าได้แค่ 3.5 แสน อีก 1.5 แสน ให้ตร. จริงมั้ย?

เอ : ตรงนี้ ผมปฏิเสธเลย เพราะมีการสอบปากคำระหว่างผมและแม่เด็ก กับต้นสังกัดผม คือกระทรวงยุติธรรมไปเรียบร้อยแล้ว มีคำให้การ มีบันทึกสอบปากคำ ตั้งแต่วันที่ 30 ตรงนี้มีหลักฐานชัดเจนครับ

ผมไม่ได้ถามถึงขบวนการ ถามถึงคุณไปบอกเขามั้ยว่าเรียกไปเลยเท่าไหร่ แล้วคุณพูดจริงมั้ยว่าได้แค่ 3.5 แสน อีก 1.5 แสนให้ตร. ตอบแค่ตรงนี้?

เอ : ประเด็นเขาคุยกันสองคนระหว่างผู้ก่อเหตุและผู้เสียหาย ไม่เกี่ยวกับผมเลย

แม่ : เขาพูดค่ะ ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ กล้าสาบานมั้ยคะ คุณพูดกับหนูหน้าแผงลอตเตอรี่ที่ปั้มน้ำมัน

เอ : มีการลงบันทึกประจำวัน เอาหลักฐานมาขึ้นหน้าจอเลยครับ ประชาชนจะได้เห็นด้วย ไม่ได้พูดลอยๆ เขาตกลง 3.5 หมื่น กับผู้ก่อเหตุ จากนั้นเขาไปตกลงกันเองหน้าโรงพัก ไม่เกี่ยวกับผมเลย แล้วเขามาลงบันทึกประจำวัน และมีการผ่อนชำระกันทุกเดือน แล้วเขาชวนผมไปที่ปั้มน้ำมันทั้งคู่ ให้ผมไปเป็นพยานเรื่องนี้ รับฟังเขาจะขอโทษกันแล้วผมผิดตรงไหน ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ผมคนเดียว ที่ไปช่วยเขาในวันหยุดราชการ

คุณจะบอกว่าคุณเป็นยุติธรรมจังหวัดที่ทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว?

เอ : เขาเดือดร้อน เสาร์อาทิตย์เราก็ไปทำได้ มาตรการเชิงรุกของท่านเลขาฯ ผมไปช่วยเขาด้วยใจหรือไม่ ถามแม่เด็กเลย

คุณพูดมั้ย 3.5 แสน กับ 1.5 แสน?

เอ : ผมจะพูดได้ไง ผมพูดในฐานะอะไร มันเกี่ยวอะไรกับผมครับ เขาคุยกันสองคน

ไม่ได้พูด จบนะ?

แม่ : หนูยืนยันว่าเขาพูดค่ะ

เอ : ทุกอย่างมีคำให้การของมันอยู่แล้วครับ

ตอนนี้พระ 300 องค์เอาของเขาไปมั้ย?

เอ : เขาให้ผม แต่ไม่ถึง 300 องค์ เขาให้ด้วยความเสน่หา ผมก็ให้เงินเขา 300 เหล้า 1 กลมกับแฟนเขา นี่เขาชวนผมในแชตไลน์ ไปถามเขาได้เลยครับ

ไพศาล : ไม่รู้คุณเป็นใคร มาสมอ้างเป็นบุคคลท่านที่พูดถึง ผมไม่ยืนยันว่าเป็นใคร คุณบอกเขาให้คุณด้วยความเสน่หา แล้วทำไมเขาไปแจ้งความคุณ ข้อหาที่เขาแจ้ง ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคุณ ในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับทรัพย์สิน มันคืออะไร

เอ : อันนี้ก็ไปต่อสู้กันในชั้นศาลสิครับ มีคำให้การ

ไพศาล : ก็คุณบอกว่าคุณให้เขาโดยเสน่หา คุณอยู่ยุติธรรมก็ต้องรู้กฎหมาย คุณก็แค่ตอบว่าไม่ได้เอาไป

เอ : ผมเป็นแฟนคลับพี่นะ ผมรับพระเขามาแต่ไม่ถึง 300 องค์

ไพศาล : กี่องค์

เอ : (เงียบ)

ตกลงกี่องค์?

เอ : ยืนยันไม่ถึง 300 องค์ เขายื่นพระให้ผม ผมก็ให้เงินเขาไป 300 พร้อมเหล้า

แม่ : ไม่จริงค่ะ หนูไม่ได้รับเงิน

เอ : ผมซื้อเหล้าให้เขาหนึ่งกรม ให้เงิน 300 ซื้อเคเอฟซีให้เด็ก และไปกับเขาที่สภ.แกลง ที่ตร.นัด ก็ไปด้วยกัน จะเอาพระไปตรวจสอบยังไง 300 องค์เป็นไปไม่ได้

แล้วกี่องค์?

เอ : 200 ก็ไม่ถึง

ไพศาล : คุณเอบอกเขาเสนอให้คุณเอง และคุณให้เงินด้วย 300 คุณยอมรับนะ

เอ : แล้วเขายอมรับมั้ย

ไพศาล : คุณเป็นยุติธรรมจังหวัด มีความรู้ด้านกฎหมายอยู่แล้วถูกต้องมั้ย คุณเข้าใจข้อหาเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สิน คุณเข้าใจมั้ย

เอ : คุณจะเอาธงนี้ใช่มั้ย

ไพศาล : มันก็ต้องธงนี้ ตามกฎหมาย

เอ : ก็ไปสู้กันในชั้นศาลสิคุณ ไม่ต้องมาอะไรมากมาย

ไพศาล : ก็แค่นั้น เขาเสนอให้ คุณยอมรับ มันก็เข้าแล้วไง

เอ : คุณไปที่วัดแบบนั้น ใครจะรับผิดชอบสังคม

ไพศาล : มันคนละเรื่องหรือเปล่า

เอ : เอาตรงๆ เอาให้ชัด

ใจเย็น นิ่งนะเอนะ ขอคุยกับตร.ก่อนนะ “พ.ต.อ.ประติพัฒน์ ภูมิลี” ผกก.สภ.แกลง ประเด็นนี้มันเกิดอะไรขึ้น

พ.ต.อ.ประติพัฒน์ : ได้ฟังจากตอนแรกรู้สึกเสียใจนิดๆ เรื่องกระทำชำเรา ตร.ตั้งใจทำงานมากเคสนี้ แจ้งวันที่ 19 ออกหมายจับวันที่ 21 และไปจับกุมให้เลยในวันเดียวกัน ผู้ต้องหามีการประกันตัวในชั้นศาล และหนีประกันตัว ฟังดูบอกว่าคดีไม่มีความคืบหน้า โห่ (หัวเราะ) เสียความตั้งใจ ตร.ตั้งใจทำให้เต็มที่นะครับ

เรื่องยาเสพติดที่ไปอยู่หน้าบ้านเขา?

พ.ต.อ.ประติพัฒน์ : ตัวรายละเอียดคงเจาะลึกมากไม่ได้ เพราะอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน เรื่องยาเสพติดทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเขาก็ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชี้เป้าเรื่องยาเสพติด เลยเข้าไปตรวจสอบ และเจอเรื่องยาอย่างที่เห็น แต่เนื่องจากตร.มีวิจารณญาณ ดูน้ำหนัก ดูสภาพแวดล้อมต่างๆ มีการพูดคุยเจรจากันไปแล้ว ก่อนแจ้งข้อหาหรือจับกุมต้องมีความชัดเจนพอประมาณ ตามขั้นตอนของกฎหมาย

ผู้เสียหายบอกว่ายุติธรรมเอบอกว่าได้ 3.5 แสน อีก 1.5 แสนเอาไปให้ตร. รู้เรื่องนี้บ้างมั้ย?

พ.ต.อ.ประติพัฒน์ : ไม่เคยทราบเรื่องนี้ รู้แค่ว่าต้องสอบสวนให้เสร็จตามกระบวนการและส่งอัยการ การยอมความอะไร คุณจะไปเจรจายังไงก็เป็นส่วนตัวประกอบอยู่แล้ว ถ้าเจรจากันตามความประสงค์ ก็มีบันทึกแนบคล้ายๆ ทุกคดีครับ เป็นความประสงค์ของสองฝ่าย ตรงนี้ตร.ไม่ทราบครับ

ชาวบ้านท้าให้ตรวจบ้านนี้เลยว่าไม่มีแน่นอนเรื่องยาเสพติด?

พ.ต.อ.ประติพัฒน์ : เราจะดำเนินการเต็มที่เพื่อความยุติธรรมของทุกฝ่ายครับ

ตอนนี้จับตัวผู้ก่อเหตุล่วงละเมิดได้หรือยัง?

พ.ต.อ.ประติพัฒน์ : ตอนนี้ในส่วนหนีประกันตัวในชั้นศาล กำลังไล่จับกุมตัวครับ เลยพาลเข้าใจผิดว่าตร.ไม่มีความคืบหน้าคดี ตร.ส่งคดีเรียบร้อยหมดแล้วนะครับ ทำด้วยความรวดเร็วตามกรอบเวลา

ยุติธรรมคนนี้บอกจะไปที่บ้าน คุณให้พระเขาเอง เขาให้ตังค์ 300?

แม่ : ไม่เคยเห็นเลยค่ะ ถามแฟนเลยมีบุหรี่ให้ดูดมั้ย บุหรี่สองซอง

พ่อ : เขาเอาบุหรี่ออกมาแกะดูซองนึง แล้วเอากลับบ้านไปซองนึง

เรื่องลอตเตอรี่ก็ซื้อให้เขา?

แม่ : หนูนึกว่าเขาจะจ่ายตังค์คืนให้ เพราะเขาสั่งลอตเตอรี่เสร็จ เขาก็เดินไปคุยกับผู้ต้องหาเลย วันนั้นหนูเดินไปที่ผู้ต้องหา เขาพูดมาคำนึงว่ามองหน้ากันไม่ได้เหรอ หนูก็เลยลุกเดินหนีเลยค่ะ ยุติธรรมยังเดินมาถามหนูเลยว่าต้องการความสะใจเหรอ คิดดูดีๆ นะ

มีเรื่องที่ดินอีกที่ไปขุดหน้าดินตัวเองจะปลูกทุเรียน แต่ป่าไม้มาไล่จับเลย?

แม่ : หนูแสดงหลักฐาน ป่าไม้บอกว่าไม่ผิดค่ะ เขาก็ให้เบอร์มา ก็ขึ้นชื่อยุติธรรมคนนี้ค่ะ

ไพศาล : โป๊ะแตก (หัวเราะ)

พ่อ : ไม่ได้เอาของเขาไปคนเดียว เอาของผมไปด้วย เอาของกูคืนมาเลย ไม่ได้ไปเอาที่บ้านนั้นบ้านเดียวใช่มั้ย หรือต้องให้แจ้งความดำเนินคดีอีกคนนึง

เอ : ก็ไม่เป็นไร เงินที่ลุงเอาผมไป ลูกสาวลุงรับไป 300 ก็เอามาคืนด้วย เอาเหล้าแสงโสมมาคืนด้วย โอเคมั้ย

แม่ : เมื่อกี้แกบอกให้เงินหนูอ่ะ

เอ : ลูกสาวลุงหรือเปล่าที่รับเงินผมไป อยู่ไหน

พ่อ : ไม่เคยเห็นเลย 300

เอ : หลานสาวที่รับเงินไปอยู่ไหน ลูกลุงหรือเปล่า

พ่อ : ผมไม่รู้คนไหน คุณเข้าไปบ้านผมได้ยังไง

เอ : ผมไม่เคยเข้าไปบ้านลุงเลย มีแต่ลูกสาวลุงเดินไปเอาพระหน้าบ้านผู้เสียหาย

คืนพระเขาได้มั้ย?

เอ : เดี๋ยวเอาไปคืนเลย ตอนแรกจะเอาไปไว้ที่วัด ทั้งที่เป็นคนให้เรามาแท้ๆ ผมไม่ได้เกี่ยวเลย

คุณต้องเอาพระที่เป็นของเขามาให้นะ?

เอ : พระที่บ้านมีหมด เดี๋ยวเอาไปเลย แต่ไม่ถึง 300 องค์แน่นอน

เงินพันนึงคุณไปขอเขาค่ารถจริงมั้ย?

เอ : เขาขอความช่วยเหลือให้ช่วยคดีทำร้ายเด็กที่หน้าบ้าน ผมขับรถจากศาลากลางจังหวัดไปอ.แกลง 60 กิโล วันหยุดราชการ ผมไปช่วยเขา พอเสร็จเรื่องเสร็จราว เขายื่นเงินที่ปั้มให้ผม 1 พัน บอกว่าช่วยค่าน้ำมัน เรื่องลอตเตอรี่ผมจะไปฉี่ เขาขายหน้าห้องน้ำ เขาถามผมว่าเอาเลขอะไร ผมก็บอก 135 แล้วเขาก็ยื่นลอตเตอรี่ให้ผม

เขาบอกคุณไปสั่งลอตเตอรี่เสร็จก็เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วให้เขาจ่ายแล้วไปเลย?

เอ : ไม่ใช่ครับ เขายืนดูลอตเตอรี่อยู่แล้ว เขามาถึงก่อนผม ผมมาถึงทีหลัง

แม่ : พี่กวักมือเรียกหนูไปค่ะ พี่กล้ายืดอกรับแบบลูกผู้ชายหรือเปล่า กล้าสาบานหรือเปล่า

เอ : สาบานก็สาบานสิครับ วัดไหนว่ามา

แม่ : ที่ปั้มมีกล้องวงจรปิดนะ อย่าลืม

เอ : เรื่องคดียาเสพติด สามีคุณ ตอนนี้ตร.มีข้อมูลหมดแล้ว เดี๋ยวรอดูแล้วกัน เส้นทางที่คุณกล่าวหาว่าตร.ยัดยา เขามีข้อมูลหมดแล้ว ถามในรายการนี่แหละคุณมีคลิปมั้ย มีข้อมูลหมดแล้วที่ตร.

แม่ : แล้วเรื่องสวน คุณไม่เคยไปที่หนู คุณรู้ได้ยังไง กล้าตอบตามความเป็นจริงด้วยค่ะ

เอ : ทุกคนหยุดและฟังผม เรื่องที่ดิน มีชาวบ้านไปร้องเรียนหลายหน่วยงานแล้ว เรื่องการปรับหน้าดิน และถือครองโฉนด แล้วไปแจ้งกรมป่าไม้ มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 7 นายลงตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามเลขโฉนด ป่าไม้ยืนยันว่าไม่ใช่ที่ดินรับผิดชอบของป่าไม้ เป็นที่ดินสปก. ป่าไม้จังหวัดลงพื้นที่เร็วมาก เพราะมีคนมาร้องเรียน สปก.มาตรวจสอบ แค่ 8 วัน จะมาปลูกทุเรียนได้ยังไง มันต้องเตรียมการมาเป็นปี มันแอบขุดตัดหน้าดินมานานแล้ว ตรงนี้เจ้าหน้าที่รัฐไปตรวจสอบ ทำไมเอาดินไปขาย เป็นกระบวนการลักทรัพย์ของแผ่นดิน เป็นไปไม่ได้ที่จะปลูกทุเรียนภายใน 8 วัน มันมีการลักลอบขุดตักหน้าดินมาก่อนแล้ว ผมเป็นแฟนคลับพี่หนุ่ม เอาผู้ร้องมากล่าวหาในรายการลอยๆ ไม่ได้ แล้วมันมีการกระทำความผิดจริง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันมีกระบวนการต่อเนื่องอยู่แล้ว

แต่เขาไม่ได้มีความผิดเรื่องขุดตักหน้าดิน รู้หรือยัง?

เอ : ต้องให้สปก.เป็นคนชี้ว่าเขามีการกระทำความผิดหรือไม่

เขาชี้แล้วว่าไม่ผิด?

ไพศาล : เขาชี้แล้วว่าไม่ผิด เจ้าหน้าที่เอาเอกสารมาให้ดูแล้ว คุณเป็นยุติธรรมต้องรู้กฎหมาย กฎหมายก็เหมือนอาวุธ ระวังปืนจะลั่นใส่ตัว คุณพูดแบบนี้คุณเข้าข่ายหมิ่นประมาทเขาแล้วนะ ผมทราบว่ากำลังจะย้ายบ้านไม่รู้ว่าเชียงใหม่หรือภูเก็ต คุณก็ไปตามรับหมายเอานะ

เอ : ผมไม่รู้ ชาวบ้านเขามาร้องเรียน

ไพศาล : แล้วคุณไม่รู้ แล้วคุณมายืนยันพูดชัดเจนในรายการได้ไง ปืนลั่นใส่ขาแล้วรู้เปล่า

เอ : แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าไม่ผิด

ไพศาล : ก็เขาชี้มาแล้ว ตร.เอาเอกสารมาให้ดูแล้ว เขาให้เปลี่ยนแปลงหน้าดินกลับเหมือนเดิม

เอ : ผมยืนยันตามเอกสาร

ไพศาล : ยืนยันไปเลย ชอบ หลักฐานเขาชี้มาแล้วว่าไม่ผิด คุณยังยืนยันว่าเขาผิดกลางรายการ คุณเข้าข่ายหมิ่นประมาทเขาแล้ว

เอ : พี่จะตอบเองไม่ได้ เพราะลักลอบขุดหน้าดินทำให้รัฐเสียหาย

ตอนนี้เขาชี้มาแล้ว ขุดหน้าดินไม่ผิด ข้อกฎหมายตร.เองบอกว่าไม่ผิด เขาหลุดไปแล้ว?

เอ : ไม่ผิด แต่ต้องหาดินมาทำสภาพให้เหมือนเดิม นั่นคือผิดหรือเปล่า

ไพศาล : ก็เขายืนยันมาแล้วว่าไม่ผิด คุณโซโล่เรื่องยาเสพติดมาเลย ผมอยากรู้ เล่ามาสิ เล่ามาเยอะ ๆ

เอ : ต้องไปถามตร.เอง ผมไม่รู้ ต้องไปถามตร. คุณจะมาอ้างว่าผมรู้ได้ไง

ไพศาล : อ้าว ก็คุณบอกว่าคุณรู้

เอ : ผมแค่บอกว่าเขามีคลิปหรือไม่ ตร.เขาไล่เส้นทางกันเอง ผมไม่รู้ครับ ยโสธรที่คุณบุกไปในวัด คุณรับผิดชอบสังคมยังไง

ไพศาล : ผิดก็ขอโทษไง แล้วคุณเป็นอดีตนักข่าวเหรอ

เอ : ถูกต้อง

ไพศาล : เห็นว่าใหญ่คับระยองจริงเหรอ

เอ : เอาคำพูดนี้มาจากไหน คุณก็หมิ่นประมาทผมเช่นกัน

ไพศาล : ก็ฟ้องมา

เอ : คุณก็ไปกล่าวหาสภ.แกลงว่ายัดยา ไม่ใช่เป็นคนมีชื่อเสียง จะเอาคนโน้นคนนี้มากล่าวหามันไม่ใช่ไง

ว่างสักวันมั้ย?

เอ : ได้ แต่ให้หายจากโควิดก่อน เรื่องนี้มีอะไรใต้พรมหรือเปล่าผมไม่รู้ เด็กส่วนเด็ก มีผู้ก่อเหตุกระทำผิดจริง แต่ผมไปช่วยด้วยใจ และช่วยในวันหยุดราชการด้วย ไม่เกี่ยวข้องกับผู้บังคับบัญชาหรือต้นสังกัดอะไรเลย ผมไปด้วยตัวเอง ถ้าจะผิดก็ผิดที่ผมเอง ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ขอโทษพี่ไพศาลนะ ถ้าผิดก็ผิดที่ผมคนเดียว ที่เสนอตัวเองไปช่วยเหลือครอบครัวนี้

เอาพระไปคืนเขานะ สองเงินพันนึง ลอตเตอรี่ชุดนั้นไปคืนเขาซะ บุหรี่สองซอง?

เอ : บุหรี่สองซองขอนึกก่อน งั้นเหล้า 1 กลม เคเอฟซี 1 ถาด เงิน 300 เอามาคืน ให้เด็กผมทอง อยู่ในบ้านหรือเปล่า

แม่ : ก็ไม่ให้หนู เขาอยู่คนละหลัง

เอ : เรื่องทุกเรื่องเขาก็ต้องพิสูจน์ ผมก็ต้องพิสูจน์ในตัวผม ทุกอย่างพิสูจน์ในชั้นศาล แต่ไม่ได้มากล่าวหากันลอย ๆ ว่าผมเป็นผู้มีอิทธิพล มันไม่ได้

ไม่ได้เอาเหล้าเขาไปนะ?

แม่ : ไม่ค่ะ

ไพศาล : ระยองบ้านผม เดี๋ยวจะลองคุยกับท่านธนกฤตดูว่าจะจบยังไง เทปนี้ออกอากาศถ้อยคำมัดตัวแล้ว สะดวกก็ฟ้องได้ ยุติธรรมทรงเอ ผมไม่รู้คุณเป็นใคร

เอ : ผมไม่ได้เป็นยุติธรรมแล้ว จริงๆ ผมกับพี่ไพศาลไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย จริง ๆ ต้องคุยกันด้วยเหตุผล