“ขุน ชานนท์” เคลียร์ คู่กรณี ชนแล้วหาย 

ลั่นขอจ่ายแค่2 หมื่น หลังอีกฝ่ายแจกแจงค่าเสียหายเกือบ 3 หมื่น

จากประเด็นที่ “หมอแล็บแพนด้า” โพสต์ในเพจ  “หมอแล็บแพนด้า” ว่ามีดาราชายท่านหนึ่ง ขับรถไปเฉี่ยววัยรุ่นคนหนึ่ง ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ แขนผิดรูป หลังจากน้ันได้มีการโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหาย ปรากฎว่าผู้เสียหายบอกอยากจะได้เงินในการรักษาตัวเองส่วนนึง อีกส่วนนึงเป็นค่าซ่อมรถมอเตอร์ไซต์ แต่ดาราท่านนั้นบอกว่าผมจบได้แค่หมื่นเดียว 

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที รายการโหนกระแสวันที่ 29 เม.ย. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้พูดคุยกับผู้เสียหาย “ติ๊ก ปรารถนา” ที่ถูกดาราท่านนั้นชน พร้อมด้วย “คุณแม่ราตรี” และมีทนาย “เกิดผล แก้วเกิด” มานั่งร่วมด้วยถึงประเด็นดังกล่าว

อาการตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหม?

ติ๊ก : “ตอนนี้อาการทุเลาลงบ้างแล้วค่ะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25  เม.ย. เวลา22.45 น. เหตุเกิดที่แยกลำสาลีวันนั้นหนูกำลังจะกลับบ้าน ใกล้จะถึงบ้านแล้ว วันนั้นมีการทำถนน เขาเลยมีการปิดถนนตรงทางไปตลาดบางกะปิ หนูก็เลยต้องตรงไป พี่เขาเลี้ยงซ้ายเข้ามา ตรงที่ทำทางมันมีแบริเออร์มากั้น เป็นทางเบี่ยง แล้วเขาไม่ได้เขาไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว พี่เขาก็บอกว่าไม่ชินเส้นทางด้วย พอล้มไปหนูก็รีบลุกขึ้นมาทันที หยิบกุญแจรถ พักนึงพี่ผู้หญิงเขาก็ลงมา ไม่ได้ใส่แมสก์ พร้อมกับพี่ผู้ชาย หนูคุ้นๆหน้าเขาแต่จำชื่อไม่ได้ แต่พี่ผู้หญิงเป็นคนคุยกับหนูเสียส่วนใหญ่ เขาก็ถามว่าเป็นอะไรมากไหม พี่ผู้ชายเขาเข้าไปหาประกันในรถพักนึงเลย แล้วก็มาบอกว่าประกันหมด พี่ผู้หญิงเขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวเขาจะเสียค่ารักษาให้ หนูก็เรียกพี่กู้ภัยมาคุย

พอพี่กู้ภัยมาถึงเขาก็คุยกันพักนึง บอกว่าจะไม่ดำเนินคดี ตอนนั้นพี่กู้ภัยบอกเหมือนได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากพี่ผู้ชายด้วย”

แล้วมารู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นใคร?

ติ๊ก : “ไปเสิร์ชดูจนกระทั่งเจอ”

ก็คือคุณ “ขุน ชานนท์”?

ติ๊ก : “ใช่ค่ะ”

พอตกลงกันว่าจะมีการชดใช้ค่าเสียหายให้กันต่าง ๆ นานา แล้วหลังจากนั้นแยกย้าย?

ติ๊ก : “พี่เขาก็ขับมอเตอร์ไซต์ของหนูไปส่งหนูที่คอนโด พี่ผู้หญิงขับรถตามมา หนูก็ซ้อนมอเตอร์ไซต์พี่กู้ภัยไปโรงพยาบาล มีถ่ายรูปบัตรประชาชนเก็บไว้ พี่เขาก็พูดถึงมาว่าผมไม่หนีหรอก ผมเป็นดารา ก็เลยแยกย้ายกันตรงนั้นแล้วเขาก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย 

คืนนั้นหนูก็แอดมิทที่โรงพยาบาลที่หนูทำอยู่ ไม่มีใครโทรมา วันที่26 เม.ย. ช่วงเที่ยง ๆหนูออกจากโรงพยาบาล บ่ายๆเย็นๆหนูก็แอดไลน์ไปหาพี่ผู้หญิงที่ให้เบอร์ไว้ เพื่อบอกค่าเสียหายทั้งหมด ค้าเสียหายมันทั้งหมด 2 หมื่นกว่าบาท พ.ร.บ.ของมอเตอร์ไซต์หนูคุ้มครอง 3 หมื่นกว่าบาท”

แล้วเขาให้เราเท่าไหร่?

ติ๊ก : “ตอนแรกพี่เขาพิมในแชตว่าจะให้ 1 หมื่นบาท แต่ของหนูมันมีค่าใช้จ่ายมัน 20328 บาทและก็มีอีกบิลนึงเป็นนัดครั้งถัดไปอีก 5000 บาท แล้วก็ยังมีค่าซ่อมรถอีก3พันกว่าบาท” 

แม่ราตรี : “เป็นค่าใช้จ่ายตามจริงทั้งหมด ทางศูนย์ออกเอกสารให้เรียบร้อย”

ไม่เรียกค่าอย่างอื่นอีกเลย? 

แม่ราตรี : “ประมาณ3 หมื่นไม่เรียกค่าอย่างอื่นอีกเลย ขอแค่นี้ ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาตัว แต่เขาจะให้แค่หมื่นเดียว”

ติ๊ก : “ตอนแรกที่คุยแชตกันพี่ผู้หญิงเขาบอกว่าจะให้ค่าเสียเวลาอีก 7 พันบาทด้วย หนูก็เลยแจ้งคุณแม่ให้คุณแม่เป็นคนคุยกับพี่เขา”

แม่ราตรี : “แม่บอกว่าขอ2หมื่นได้ไหมแม่จะจบเลย เขาก็บอกว่ามีให้แค่ 1 หมื่นบาท ก็เลยจะไปแจ้งความในอนาคตเราไม่รู้ว่ามือของน้องจะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมได้เมื่อไหร่ น้องผู้หญิงเขาก็ตอบกลับมาว่าไหวที่1หมื่น ไม่ใช่คุณขุน ก็เลยบอกว่างั้นขออนุญาตเอาบัตรประชาชนของน้องขุนไปแจ้งความที่สน.หัวหมากนะคะ ฝั่งผู้หญิงก็บอกว่าได้ค่ะ แจ้งเลยค่ะ เดี๋ยวหนูจะให้ผู้ใหญ่มาคุย คุณแม่ก็รออยู่ว่าจะติดต่อมาเมื่อไหร่ ก็ยังเงียบอยู่ แม่ก็ไปแจ้งความที่ สน.หัวหมาก ร้อยเวรก็แนะนำให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เพราะอยากให้คู่กรณีที่ชนเรามาด้วย อยากจะฟังความจากทั้งสองฝ่ายก่อน ก็เลยเป็นการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน แล้วคุณแม่ก็ติดต่อไป คุณแม่เข้าใจว่าคนนั้นเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณขุน ชื่อคุณเปิ้ลน้องเขาก็พูดจาดีค่ะ น้ำเสียงนุ่มนวลดีมาก น้องเขาบอกว่าตอนนี้เป็นช่วงวันหยุดของเขา น้องเขาไปดำน้ำอยู่ คุณแม่ก็เลยโอเค เกรงใจเขา เห็นว่าเขาไปเที่ยวอยู่ เย็นๆแม่ก็ทักไปอีกแต่ยังไม่มีการติดต่อใดๆมา ก็เลยเป็นข่าวอย่างที่เห็น”

ที่บอกไปดำน้ำอยู่หมายความว่าไง?

แม่ราตรี : “น้องเปิ้ลผู้จัดการเขายังไม่ว่าง เขาดำน้ำอยู่ ไม่ได้หมายถึงคุณขุน ยืนยันไม่ใช่คุณขุนดำน้ำเหมือนที่ข่าวออกนะคะ แต่เป็นน้องผู้หญิงที่รับสาย คุณเปิ้ลที่ไปดำน้ำ ไม่ใช่คุณขุน จากนั้นก็พยายามติดต่อคุณขุนมาโดยตลอดแต่ติดต่อไม่ได้ คุณเปิ้ลเขาก็บอกว่าเขาก็ติดต่อคุณขุนไม่ได้เหมือนกัน”

ทาง “หนุ่ม กรรชัย” ได้โฟนอินไปหา “ขุน ชานนท์” ซึ่งเจ้าตัวเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟังว่า…

ขุน : “ตอนนี้ผมถ่ายรายการอยู่ที่แก่นกระจานมา3วันแล้ว อยู่บนเขาไม่มีสัญญาณเลยครับ วันนั้นผมจะไปเอารถอีกคันนึงเพื่อไปขึ้นเขาแถวๆลำสาลี พอดีทางข้างหน้ามันเป็นแยก แล้วเขาทำทาง มันเลยเป็นทางเบี่ยง ผมก็เลี้ยวซ้ายทางเบี่ยงเพื่อที่จะเข้าทางหลัก  แล้วน้องเขาก็เข้ามาชนประตูด้านซ้ายผมแล้วก็ล้ม ผมก็จอดไฟกระพริบไว้ แล้วก็ไปแบกมอเตอร์ไซต์เขาขึ้นมา แล้วก็ให้แฟนผมคุยกับเขา แล้วก็รอ

แฟนเขามารับ แล้วผมก็ขับรถมอเตอร์ไซต์เขาไปส่งที่คอนโด”

ในวันนั้นมีการตกลงค่าเสียหายกันไหม?

ขุน : “ยังนะครับ ผมให้เบอร์ติดต่อแฟนผมไป แล้วก็ให้เขาถ่ายบัตรประชาชนผม”

ณ ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นทางฝั่งคู่กรณีมองว่าเขาขับมาทางตรง แต่ “ขุน ชานนท์” ไปเลี้ยวซ้ายตัดหน้าเขาทำให้เขาชน ซึ่งเขาต้องการเรียกร้องค่าเสียหายตามข้อเท็จจริง เขามีบิลมาให้เรียบร้อย เราสามารถดูแลเขาได้ไหม?

ขุน : “ได้ครับ ถ้าผมผิดจริง ๆ ผมก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ”

เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย “หนุ่ม กรรชัย” จึงขอเปิดคลิปที่ทาง “คุณแม่ราตรี” เตรียมผู้จะนำไปให้ตำรวจ หลังจากที่ดูคลิปจบ “ขุน ชานนท์” ก็เล่าต่อว่า…

ขุน : “มันเป็นทางเบี่ยงครับ เพื่อจะเข้าทางตรงอีกที มันเป็นจุดบอดด้วยครับ ผมมองไม่เห็น”

ติ๊ก : “ตรงนั้นเป็นก่อสร้าง ไม่มีใครเลี้ยวมาเลย” 

แม่ราตรี : “เราไม่ติดใจ เพราะเขาไม่ได้ชนแล้วหนี แต่ประเด็นคือติดต่อไม่ได้ แล้วพอติดต่อได้ช่วยพูดกับเราดีๆหน่อย น้องผู้หญิงอะ เราขออนุญาตน้องผู้หญิงก่อน เขาก็บอกแจ้งความได้ เราก็เลยไปที่ สน. แต่เรายังไม่ได้ลงใบแจ้งความนะคะ เราลงเป็นบันทึกประจำวันไว้ก่อน เพื่อรอให้น้องขุนติดต่อกลับมาแล้วมาคุยกันที่ สน. ร้อยเวรแนะนำเราไว้แบบนี้ ยังไม่ได้ดำเนินคดีใดๆทั้งสิ้น ร้อยเวรก็โทรไปเมื่อวาน เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะให้น้องขุนโทรกลับ เราก็บอกเขาไปว่าเราขอ2หมื่นได้ไหมคะ จบเลย คือมันก็เกินอยู่แล้วแหละ ค่าใช้จ่าย แต่โอเค เราขอ2 หมื่น น้องผู้หญิงบอกไหวหมื่นเดียว ไม่ใช่น้องขุนพูด”

ทาง “ขุน” จะเอายังไงต่อไปดี?

ขุน : “ก็ถ้าผิดก็รับผิดชอบครับ ผมก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน”

ในมุมกฎหมายข้อเท็จจริงตรงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ทนายเกิดผล : “จากในคลิปถ้าผู้ขับขี่รถจะเปลี่ยนเส้นทาง จะเลี้ยวตามแยกไหนก็แล้วแต่ หรือแม้กระทั้งทางเบี่ยง ถ้ามันไม่ได้ถูกบังคับให้เลี้ยวต้องให้สัญญาณก่อน จากคลิปนี้คือเลี้ยวกระทันหัน และไม่ให้สัญญาณตามที่ข้อกฎหมายระบุไว้ด้วย ต้องถือว่าคุณขุนประมาทอยู่แล้วครับ คงปฎิเสธจากเหตุการณ์ไม่ได้หรอก อาจจะมองไม่เห็นแต่มันก็คือประมาทนั่นแหละ จะบอกว่าไม่ผิดเลยมันก็ฟังไม่ขึ้น เพราะจักรยานของน้องเขาขับมาทางตรง คุณขุนจะเลี้ยวก็ต้องมองให้เห็นว่าปลอดภัยแล้วก็เปิดสัญญาณด้วย นี่แสดงว่าไม่ได้ดูหรืออาจจะอับสายตาก็ได้ มันก็เกิดจากความประมาทที่ไม่ให้สัญญาณล่วงหน้าก่อนที่จะเลี้ยว”

ทางผู้เสียหายจะเอาอย่างไรต่อ?

แม่ราตรี : “ทางคุณแม่ก็อยากจะไกล่เกลี่ย ในเมื่อคุณขุนออกมาคุยแล้ว เราไม่อยากดำเนินคดีความ ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นศาล มันเสียเวลาทั้งสองฝ่าย ก็ออกมาเคลียร์วันนี้ที่ สน.หัวหมาก”

ขุน : “วันนี้ไม่ทันครับ ยังอยู่ที่เพชรบุรีอยู่เลย” 

แม่ราตรี : “งั้นก็ให้คุณขุนรับปาก แล้วให้คุณหนุ่ม กรรชัยเป็นพยานไปก่อนว่าจะมาวันหลัง วันหลังก็ได้น้องเขาก็อยู่บนเขา ให้คุณหนุ่มเป็นพยานว่าเขาจะมา แต่ไม่ใช่วันนี้ เป็นวันที่น้องเขาสะดวก”

ขุน : “ได้ครับ” 

ทาง “หนุ่ม กรรชัย” ได้พูดกับ “ขุน ชานนท์” ว่า…

หนุ่ม กรรชัย : “พี่ว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริง ถ้าผิดจริงขุนก็ลองเอาคลิปอันนี้ไปให้ทนายทางฝั่งขุนดู ถ้าทนายเขาบอกผิดจริง เราก็แมน ๆ เนอะ สองเราก็เป็นนักแสดงที่อยู่ในวงการ เขาเป็นประชาชนเราก็จำเป็นจะต้องช่วยเหลือดูแลเขา เขาก็บอกค่าใช้จ่ายตามข้อเท็จจริง เท่าที่ดูกลม ๆ ก็คือ 29078 บาท แต่เขาบอกว่าเขาขอ 2 หมื่น ถ้าเกิดขุนจะช่วยเขาทั้งหมดเลยได้ไหม 3 หมื่นเลย”

ขุน : “2 หมื่นแล้วกันพี่ ขอต่อ”

หนุ่ม : “2 หมื่นนะ แม่โอเคไหม”

แม่ราตรี : “ได้ค่ะ เพราะว่าคุณขุนออกมาพูดกับคุณแม่แล้ว จบตรงนี้ให้ทุกคนเป็นพยาน สื่อเป็นพยานอย่าไปกล่าวถึงน้องเขาเสีย ๆ หาย ๆ อีก ก็คือจบ”

หนุ่ม กรรชัย : “แล้วอีกหมื่นนึงแม่จะทำยังไง”

แม่ราตรี : “แม่ก็จะหาเองค่ะ”

หนุ่ม กรรชัย : “ไม่ต้อง เดี๋ยวผมจ่ายให้ ผมให้แม่กับน้องเลย จะได้จบๆตรงนี้ไปเลย 3 หมื่นแม่ก็ไม่ต้องอะไรยังไงนะ ส่วนขุนจ่าย 2หมื่นนะ”

ขุน : “ครับ”

อยากจะขอโทษอะไรทางคุณแม่ไหม?

ขุน : “ผมก็ต้องขอโทษคุณแม่ด้วยนะครับที่ทำให่ไม่สบายใจ ขอโทษจริง ๆ ครับผม ส่วนน้องพี่ก็ขอโทษด้วยนะครับที่พี่ทำให้น้องได้รับบาดเจ็บ พี่ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ มันมองไม่เห็นจริงๆครับ หายไว ๆนะครับ”

ติ๊ก : “ขอบคุณค่ะ”

สบายใจขึ้นไหม?

แม่ราตรี : “สบายใจขึ้นค่ะที่เขาออกมาคุย ถ้าเขาออกมาคุยตั้งแต่แรกแม่ก็จะไม่อะไร ก็จะไม่เป็นข่าวขนาดนี้”

ติ๊ก : “สบายใจขึ้นค่ะ แผลก็ยังมีปวดๆอยู่ เข้าเฝือกอ่อนไว้ แล้วแขนก็ไม่ได้ผิดรูปนะคะ ตอนที่ล้มมันบวมเลยไม่เท่ากัน แต่จริงๆแล้วแขนไม่ได้ผิดรูป แค่บาดเจ็บ”

ในมุมแบบนี้ตามข้อเท็จจริง น้องต้องได้ค่าสินไหมเพิ่มเติมไหม?

ทนายเกิดแก้ว : “น้องจากค่าเสียดายแล้วมันก็มีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีก ค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา สิ่งเหล่านี้เขาเรียกว่าค่าตกใจ ก็อาจจะไม่เยอะหรอก แต่มันเป็นเรื่องของการตกลงกันในการแสดงน้ำใจ เช่น เราจะต้องไปโรงพยาบาลอีกกี่ครั้ง เราเสียเวลาทำงานกี่วัน สิ่งเหล่านี้คุณต้องคำนวณเข้ามา ถ้าเขามีรถ แล้วไม่ได้ใช้ ต้องเสียเวลาซ่อม อาจจะไม่มาก แต่ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่เขาควรจะได้รับ ก็ถือว่าจบด้วยดี”

แม่รู้สึกยังไงบ้างกับวันนี้?

แม่ราตรี : “แม่ก็ต้องเสียงานมาเนอะ ขุนเขาก็เสียชื่อเสียง แม่ก็เสียใจ ลูกเราก็เจ็บตัว มันก็เสียใจกันทั้งสองฝ่าย แม่เองอยากเจรจาตั้งแต่แรก อยากให้จบเร็วๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลากัน”

ติ๊ก : “ไม่อยากฝากอะไรถึงเขาค่ะ มันก็เสียใจ ผิดหวังที่เขาเงียบไป”

ทนายเกิดแก้ว : “จากคลิปก็เห็นได้ว่าคุณขุนเองไม่ได้เจตนา และก็ยังมีน้ำใจในการลงมาช่วยเหลือน้องแต่ว่าก็ควรจะมีการติดต่อสื่อสารกันมากกว่านี้ ไม่ใช่พอเป็นข่าวเป็นประเด็นแล้วค่อยออกมา เราเป็นบุคคลสาธารณะเราควรจะแสดงความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่นทั่วไป”

หนุ่ม กรรชัย : “สำหรับผมเองก็ต้องฝากถึงน้องๆที่อยู่ในวงการบันเทิงว่าพยายามช่วยดูๆกันหน่อย บางทีเรื่องราวที่มามันเกิดขึ้น พูดตรง ๆ สังคมก็มองในมุมของดาราไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ฉะนั้นมันต้องช่วย ๆ กันเวลาที่มีเรื่องอะไรกับประชาชนหรือสังคม อะไรที่ช่วยเขาได้ ช่วยเขา หยิบยื่นให้เขาหน่อย พี่เชื่อว่าสุดท้ายพวกเราที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงยังหาเงินกันได้ ยังมีเรี่ยวแรง มีสังคมที่เราไปตามหาเม็ดเงินกันได้แต่ชาวบ้านยาก เห็นใจเขาด้วย อันนี้ไม่ได้พูดถึงขุนนะ พูดถึงทุกๆคน อย่างเช่นผมเคยพูดไปหลายๆครั้งไม่ได้จะไปว่าคนในวงการบันเทิงของตัวเองนะ แต่บางครั้งไปรีวิวอาหารกันเต็มโต๊ะเลย ชาวบ้านเขาถามกินหมดไหม แต่เขากินดิน กินผักที่เพิ่งไปเก็บมา 100 บาทใช้ไม่เท่ากัน บอกเลยว่าเขาต้องไปหาเงิน 1 หมื่นบาทมาลำบากมาก 100 บาทไม่เท่ากันนะในชีวิตมนุษย์ บางคน100 กินกาแฟแก้วเดียว บางคน100 กิน3-4 วันแล้วไม่ได้กินคนเดียว กินกันทั้งครอบครัว ลำบากครับ อะไรยื่นมือช่วยได้ช่วยซะ มันจะได้สร้างวงการบันเทิงให้ไม่มีใครมาต่อว่าต่อขานได้ เป็นกำลังใจให้นะครับ”

About Author