เปิดใจสาวที่ออกมาไลฟ์ซัดตลาดเสื้อผ้าพัง!

เปิดใจสาวที่ออกมาไลฟ์ซัดตลาดเสื้อผ้าพัง! เหตุกลุ่มคนไลฟ์หน้าร้านประตูน้ำ! ยันไม่ได้ตัดช่องทางใคร

กรณีที่มีแม่ค้าออนไลน์รายหนึ่งออกมาไลฟ์สด ยอมรับว่าท้อมาก ตอนนี้ตลาดเสื้อผ้าพังมาก เหตุกลุ่มคนไลฟ์หน้าร้านประตูน้ำ ขายราคาส่ง คิดค่าหิ้วแค่ 5-10 บาท ทำคนที่ไปรับมาขายจากประตูน้ำแล้วมาขายในที่ของตัวเอง ขาดทุนยับมหาศาล พร้อมเตือนว่าใครที่คิดจะเริ่มขายเสื้อผ้าออนไลน์ตอนนี้ต้องคิดดี ๆ ขณะที่ผู้ประกอบการขายเสื้อผ้า ย่านประตูน้ำ ติดป้ายแจ้งห้ามไลฟ์ขายเสื้อผ้า ฝ่าฝืนปรับ 10,000  บาท เนื่องจากลูกค้าประจำที่รับของไปสต็อกขาย ไม่สามารถขายสินค้าได้ ส่วนยอดขายหน้าร้านลดลงกว่า 50%

รายการ เคลียร์ให้จบ ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง ททบ.5 ดำเนินรายการโดย “ดร.มนัส ตั้งสุข” วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ได้เปิดใจสัมภาษณ์“น้ำหวาน”แม่ค้าออนไลน์ขายเสื้อผ้าที่ออกมาเปิดประเด็นนี้ จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์สนั่นเมือง

ปกติเป็นแม่ค้าสต็อกโดยอาชีพอยู่แล้ว?

“ใช่ค่ะ สต็อกเพื่อขายออนไลน์ แล้วก็หน้าร้านด้วย แต่ตอนนี้ด้วยเศรษฐกิจก็ปิดไปแล้ว”

วันนี้ระบบตลาดมันพัง เป็นคนแรกที่ออกมาเปิดประเด็นเรื่องนี้ เพราะอะไร?

“ช่วงแรกจะต้องบอกก่อนว่ารับหิ้วมันมีมานานแล้ว มีมาหลายปีมาก แต่ตอนนี้มันเริ่มมีหน้าใหม่ขึ้นมาจนวันนึงเราก็หันมาไลฟ์สดบ้างในพื้นที่ของเรานะคะ ก็มีลูกค้าเข้ามาคอมเมนต์เห็นเขาไลฟ์ขายใน tiktok ทุน 200 เอง เธอทำไมมาขายเอากำไรตั้ง 40 เราก็ว่าไลฟ์จะไลฟ์ยังไงก็ได้แต่ไม่จำเป็นต้องมาบอกลูกค้าว่าชุดนี้ราคาส่งมันแค่ 200 บาทเองนะ”

ประเด็นที่บอกมาว่าตลาดมันพังไม่พอใจบรรดาแม่ค้าหิ้วของไลฟ์ก็เพราะว่าไปบอกราคาทุน?

“ใช่ค่ะ ปกติหนูก็จะได้กำไร 40 50 เป็นปกติอยู่แล้ว”

มันเกี่ยวกับโควิดก่อนหน้านั้นมั้ย?

“เกี่ยวค่ะซึ่งออเดอร์มันหายไปเยอะอยู่แล้ว แล้วพอมาช่วงนี้คือยอดตกไม่พอแล้วยังมีลูกค้ามาเปรียบเทียบเรา ต่อราคากับเราเพราะเขารู้ราคาทุนเรา”

ยกตัวอย่างให้ฟังหน่อย?

“เช่นลูกค้าที่ยกตัวอย่างไปค่ะ เช่นเราไลฟ์ขายตัวละ 240 เขามาคอมเมนต์ว่าขายแพงจัง ทุนมาแค่ 200 ทำไมเธอมาเอากำไรตั้ง 40 ลูกค้าเขาต้องเลือกฝั่งไลฟ์ที่ประตูน้ำอยู่แล้วค่ะ ซึ่งเรายอมรับสภาพตรงนั้นเพราะเราเองก็เป็นลูกค้า เป็นคนกลางเราก็เป็นลูกค้าร้านส่งอยู่แล้ว อันไหนถูกเราก็เอาอันนั้นเราเลยออกมาพูดว่า ตลาดมันจะพังเพราะแม่ค้ารับหิ้วตัวละ 10 บาทนะ มาบอกราคาทุนแล้วเอาค่าหิ้วตัวละ 10 บาท คนที่สต็อกเขาจะอยู่ยังไง มันอยู่กันไม่ได้ถ้าคุณมาบอกราคาทุน มันมีวงการค้าขายไหนที่ออกมาบอกว่า ต้นทุน 40 นะคะขอกำไร 40 บาทพอค่ะ มันไม่มีค่ะ มันไม่มีใครทำ”

ทำไมไลฟ์สดบวกน้อยแค่ 5 บาท 10 บาท?

“เขาไม่มีต้นทุนค่ะ เขามีต้นทุนแค่วันนึงตื่นออกมาจากบ้านเดินทาง บางคนอาจอยู่ใกล้ประตูน้ำเลย ไปไลฟ์มีเน็ตมีโทรศัพท์แล้วก็ไลฟ์ ต้นทุนเขามีแค่นั้น”

แม่ค้าไลฟ์สดบางคนก็ออกมาให้ข่าวนะ บอกว่าดิฉันก็เดินทางมาจากต่างจังหวัด ดิฉันก็บวกแล้วค่าอาหารค่ากิน บวกทุกอย่างแล้ว 5 บาท 10 บาทก็คือค่าหิ้ว ยังไงก็ต้องมี เผลอ ๆ 20 30 บาท ราคาก่อนจะ F ต่ำกว่าแม่ค้าที่สต็อก 10 20 บาทเอง อย่าเหมารวม?

“ใช่ค่ะ อย่างที่หนูบอก แม่ค้าที่รับหิ้วมีมานานแล้ว 4 – 5 ปี เริ่มแรกที่ทำในประตูน้ำก็คือ หิ้วให้แม่ค้าสต็อก คือเขาจะมีกลุ่มสร้างขึ้นมาเลยว่าเป็นแม่ค้ารับหิ้วนะคะ แม่ค้าคนไหนที่อยู่ต่างจังหวัดฝากหิ้วได้ แล้วอย่างเราก็จะเข้าไปแล้วฝากเขาหิ้วทีละ 40 – 50 ตัว เราจะได้ไม่ต้องเดินทางไป อันนั้นเขาก็จะรับหิ้วกันทีละ 5 บาท 10 บาท ซึ่งมันก็คุ้มในแต่ละทีที่เราจะให้เขาไปหิ้วให้ แต่ช่วงหลังๆ เริ่มมีหน้าใหม่ที่เขาคิดว่าไปไลฟ์ราคาทุนกันเลยก็คือถือกล้องกันไปเลยแล้วก็พูดราคาทุนให้ลูกค้า ลูกค้าสามารถซื้อของปลีกได้ในราคาส่งเท่ากับคนที่ต้องสต็อกต่อแบบ 3 ตัว ตัวแบบ 5 ตัวอย่างนี้ค่ะ”

กำลังจะบอกว่าฝั่งแม่ค้าไลฟ์สดไม่ต้องมีทุนอะไร แค่มือถือเครื่องเดียวก็ไปขายได้ พอออกมาเปิดประเด็นแบบนี้ขายได้มั้ยทุกวันนี้?

“ใช่ค่ะ ขายได้ค่ะ พอเรารู้ว่าอยู่ตรงไหนแล้วมันไม่ใช่ที่ของเรา  เช่นกลุ่มลูกค้าที่ไลฟ์สดมีเวลาอยากได้ของถูก ถูกแบบเปรียบเทียบ เราก็เลือกไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ต้องไลฟ์ขาย เราก็หาช่องทางการขายด้วยวิธีอื่น”

ถ้าบอกว่าแม่ค้าไลฟ์สดทำระบบตลาดพังมันยิ่งกลับทำให้ตลาดมันคึกคักขึ้นนะร้านค้าขายของได้นะ?

“คือถ้ามองในระยะยาวหรือมองแค่ช่วงโควิดที่ผ่านมา ประตูน้ำจะมีช่วงนึงที่ปิดไปไม่ให้เดินเข้าไปหิ้วได้ ซื้อได้ หน้าร้านโดนปิดไป อยู่สักพักนึงค่ะ แล้วก็จะมีแม่ค้ารับหิ้วไปไลฟ์หน้าร้านส่ง เพื่อเพิ่มรายได้ให้เขา อันนี้คือแม่ค้าสต็อกไม่โผล่หน้าไปจริงๆ ค่ะ อย่างที่บอกคือเราก็ฝากหิ้วเขาเหมือนกัน เราเอาทีนึงมันไม่ใช่ยอดน้อยๆ”

แต่คนรับหิ้วบอกว่าที่คุณน้ำหวานออกมาเปิดประเด็นแรง ๆ แบบนี้เพราะกำไรทุนมันหาย?

“ทุนลดลงตั้งแต่มีโลกออนไลน์มาแล้วค่ะ ไม่ใช่ทุนลดลงเพราะมีแม่ค้ารับหิ้ว”

บวกกำไรเยอะไปหรือเปล่า?

“40 บาท ถ้าเทียบกับน้ำมันรถไปกลับ ค่าถุงแพ็ก ค่าอะไรอย่างนี้ มันก็จะเหลือกำไร 10 – 20 บาทต่อตัวเหมือนกัน แต่ยังเรียกว่ากำไรไงคะ แต่ถ้าทุกวันนี้ให้เราเอากำไรแค่ 10 บาท มันไม่เรียกว่ากำไรค่ะ มันไม่เหลืออะไรเลย แล้วก็มันจะมีพวกเรื่องภาษีเข้ามา พวก Epayment ที่โอนเกิน 3,000 ครั้งจะต้องมีหน้าที่จ่ายภาษีอะไรอย่างนี้ค่ะ คือถ้าไปคิดถึงตรงนั้นมองการตลาดแบบไกลๆ มันจะต้องโดน มันจะต้องจ่าย”

แต่คนรับหิ้วบอกว่าเขาบวก 10 บาท ต่อสินค้า 1 ตัวเขาก็ไม่คุ้มเหมือนกันนะ?

“ตอนนี้คนรับหิ้วก็จะมีเป็น 2 กลุ่มเหมือนกัน คือหน้าใหม่กับคนที่รู้งานที่ทำกันมาอยู่แล้ว สมมติเดินไป ร้านนี้ส่งเสื้อผ้าชุดนี้ตัวละ 200 คนที่เป็นงานอยู่แล้วเขาจะเดินไป ลูกค้าชุดนี้ส่ง 230 บาท ค่าหิ้ว 10 บาทนะคะ อันนี้มันก็จะเป็นกลุ่มที่เขาอยู่ได้ แม่ค้าสต็อกอยู่ได้ แต่มันจะมีหน้าใหม่เลยคือเดินไปแล้วบอกว่า อันนี้ทุน 200 นะคะ ค่าหิ้ว 10 บาท มันจะต่างกันตรงนี้ค่ะ”

แล้วการที่บรรดาร้านต่าง ๆ พากันออกมาติดป้ายห้ามไลฟ์สดคุณน้ำหวานมองว่าเป็นเพราะคุณน้ำหวานมั้ย?

“มองว่าเป็นเพราะหนูส่วนนึง แต่ว่ามันก็จะมีบางร้านนะคะ ที่ไลฟ์สดได้นะแต่ห้ามบอกราคาทุนให้บวกเพิ่มจากราคาส่งไป 40 – 50 บาท ก็ไม่ได้ห้ามทั้งหมดค่ะ หนูไม่ได้บอกว่าเลิกไลฟ์สดกันไปเลยนะ อาชีพพวกเธอมันทำลายอาชีพพวกฉันเราเป็นแม่ค้าเหมือนกันเราไม่ได้ออกมาพูดแบบนั้น เราแค่ออกมาบอกว่ากำไร 10 บาทแล้วออกมาบอกราคาทุนลูกค้าด้วย อย่าทำเลย”

แต่แม่ค้ารับหิ้วก็ไม่มีจะกินแล้วเหมือนกัน?

“เขาไม่มีจะกินหนูไม่ได้บอกเขาว่า อย่าถือมือถือเครื่องเดียวแล้วออกไปรับหิ้วนะ เราบอกว่า เธอจะมาบอกราคาทุนลูกค้าแล้วมาบวกกำไร 10 บาทไม่ได้ ถ้าเธอบวก 30 บาท 40 บาทฉันจะไม่ว่าเธอเลย”

แต่บางคนก็ทำแบบนั้น กลุ่มที่บวกเยอะมีจำนวนเยอะมั้ย?

“ใช่ค่ะ มันมี 2 กลุ่มจริงๆ กลุ่มที่บวกเยอะก็มีเยอะค่ะ กลุ่มที่บวกน้อยคือกลุ่มที่ทำให้ตลาดพัง”

ไม่โอเค ควรจะหายไปจากตรงนี้?

“ไม่หายแต่ควรปรับปรุงตัวก็ได้ ทำให้เหมือนเพื่อนเขาที่เคยทำกันมาก่อน เขาทำยังไงก็ทำตามเขาก็ได้ ไม่ใช่จะมาแบบฉันบวก 10 บาทแต่วันนึงฉันได้ 200-300 ออเดอร์ ฉันอยู่ได้นี่เป็นราคาที่ฉันรับได้ แล้วพวกเธอจะทำไม มันไม่ใช่ค่ะ แล้วที่หนูออกมาพูด แม่ค้าที่รับหิ้วที่เขาบวกเยอะแล้วเขาเอื้อเราอยู่แล้วเขาก็ได้รับผลกระทบ อันนี้ต้องขอโทษนะคะ ต้องขอโทษจริงๆ แต่วันนี้ถ้าไม่ออกมาพูด ประตูน้ำร้านขายส่งก็อาจยังไม่ปรับอะไรด้วยซ้ำ”

แม้ค้าสต็อกหลายคนบอกว่าที่คุณน้ำหวานออกมาแบบนี้เขาก็ไม่โอเคเหมือนกัน?

“หนูคิดว่าการที่หนูออกมาพูดแบบนี้ไม่ได้ตัดช่องทางใครนะคะ มีลูกค้าคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ลูกค้าคือคนที่มีสิทธิเลือกมากที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นคนขายเราก็เป็นลูกค้าต่อเหมือนกัน อะไรที่มันถูกที่สุดหรือเราคิดว่าดีที่สุดแล้วเราก็ต้องซื้ออันนั้น เราถึงออกมาพูดว่าแม่ค้าที่รับหิ้วกำลังทำตลาดพังนะ เราไม่ได้ออกมาบอกว่าลูกค้าอย่าไปซื้อของถูกนะ”

ตอนนี้ฝั่งของคนรับหิ้วเองก็บอกว่า วันนี้ถ้าไม่คิดจะปรับวิธีการขายเลยมันก็อยู่ไม่ได้นะ โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว?

“ถ้าความหมายของเขาไม่ปรับวิธีการขายคือไม่มาเอากำไร 10 บาท อันนี้มันไม่เรียกว่าปรับค่ะ เราปรับทุกอย่างตั้งแต่มีหน้าร้าน เศรษฐกิจมันไม่โอเคเราก็ผันตัวเองมาอยู่ในออนไลน์ ออนไลน์เสร็จไลฟ์สดเราก็เห็นว่ามันเพิ่มการขายได้ เราก็ไปไลฟ์ แต่พอไลฟ์แล้วมันเจอปัญหา เราเป็นแม่ค้าเราก็อยากออกมาพูดออกมาเตือนแม่ค้าด้วยกันว่าทำแบบนี้ต่อไปตอนนี้เธออาจอยู่ได้ แต่ต่อไปเธออาจอยู่ไม่ได้แบบฉันก็ได้”

แต่คนรับหิ้วเองก็บอกเขาก็เสี่ยงเหมือนกันนะ?

“ทุกคนก็มีความเสี่ยงเราก็เหมือนกันค่ะ อย่างเราลูกค้า F ไม่โอนก็มีเหมือนกันแต่ความเสี่ยงเราแบกรับมาตั้งแต่แรก คุณเสี่ยงแค่ไลฟ์แล้วอาจมีคนรับบ้างไม่รับบ้างในแต่ละวัน แต่อย่างเราคุณยังไม่เห็นใจเราเลย ขนาดเราสต็อกที 3-4 หมื่น ขนาดคุณขายถูกคุณยังโดนเท แล้วคนที่เขามีของอยู่แล้วโดนเปรียบเทียบเรื่องราคาหนักมาก ออกมาโดนตราหน้าว่าเอากำไร 30 – 40 บาทเอาทำไมเยอะจังเลยทำไมหน้าเลือดจังเอาเปรียบลูกค้า”

แล้วหน้าเลือดมั้ย?

“คิดว่า 40 บาทมันต้องไปหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วอยากให้มองว่าอาชีพแม่ค้ามันคืออาชีพเหมือนกันคุณทำงานคุณได้เงินเดือน เราค้าขายเราก็อยากมีเงินเดือนให้ตัวเองเหมือนกัน ถ้าให้เรารับมากำไร 10 บาทหักค่าใช้จ่ายแล้วไม่ได้อะไร เงินหมุนไปเรื่อยๆ แค่เดือนๆ นึงจะขายทำไม”

ถ้าไม่ให้เขาไลฟ์ขายจะขายยังไง?

“ไลฟ์ขายต่อไปได้เลยค่ะ แต่ช่วยนิดนึงเดินไปถือกล้องไปราคาส่ง 200 ไม่ต้องให้ลูกค้าเห็นป้ายก็ได้เดินไปลูกค้าคะ 230 บาท ค่าหิ้ว 10 บาทแบบนี้คุณอยู่ได้เราก็อยู่ได้ เราเอากำไร 40 บาทถึงจะได้น้อยลงเราก็หากลยุทธ์ เราส่งฟรีบ้างอะไรบ้างให้มันยอดขายเพิ่มอันนี้เราไม่ซีเรียส ขอร้องที่ออกมาพูดอย่างเดียวเลย อย่าบอกราคาส่งลูกค้าได้มั้ย รู้แหละทุกคนรู้ว่าร้านส่งเสื้อผ้าอยู่ที่ประตูน้ำ แต่ไม่มีใครนั่งรถจากภาคอีสาน ภาคใต้ แบบอยากดูราคาส่งนั่งรถไปดูก่อนมันไม่มีลูกค้าคนไหนทำ”

แต่คุณน้ำหวานอย่าลืมว่าการที่เอาโทรศัพท์ไปจ่อไลฟ์สดแล้วเขาเห็นราคาส่ง ผมเป็นคนซื้อผมก็ต้องเลือก?

“เราถึงได้ออกมาเตือนแม่ค้าด้วยกันไม่ได้ออกมาด่าลูกค้า”

แล้วพอมันมีดราม่าแบบนี้สังเกตมั้ยว่ายอดไลฟ์สดตามย่านประตูน้ำมันเยอะขึ้นหรือมันน้อยลง?

“มันมากขึ้นค่ะ เพราะพอมีคนเริ่มสนใจประเด็นนี้ บางคนคือไม่รู้นะคะ อย่างหนูเนี่ยเป็นการเปิดเพิ่มช่องทางให้เขาด้วยซ้ำพอหนูออกมาพูดบางคนก็ไปหาดูใน tiktok ว่ามันมีจริงมั้ยรับหิ้ว 5 บาท 10 บาท ทุกวันนี้นะคะบางเจ้าไม่รู้ทำประชดหรือเปล่ารับหิ้วฟรีค่ะ หนูก็ยังมีคำถามว่าทำไปเพื่ออะไร”

ถ้าไลฟ์สดขอบวกราคาเพิ่มไปเลยตกลงกันแบบนี้ได้มั้ย?

“มันต้องอยู่ที่ร้านส่ง ตรงนี้เราเคยคุยกับร้านส่งหลายรอบแล้ว เรื่องนี้มันไม่ได้เพิ่งเกิดเดือนสองเดือนนะคะ มันเกิดมาปีสองปีแล้ว มาหนักช่วงหลัง เราเคยคุยกับร้านส่งบางร้าน เขาก็ไม่ได้สนใจค่ะ เพราะว่ารับหิ้วหรือสต็อกก็คือลูกค้าใครเอาเงินมาให้เขาก็ต้องรับ เราก็บอกว่าพี่บอกเขาได้มั้ยว่าเวลาไลฟ์ไม่ต้อบอกราคาตัวละ 200 ได้มั้ย”

ถ้าฝั่งคนหิ้วก็ไม่เอาวิธีนี้ฝั่งแม่ค้าสต็อกก็ไม่โอเควิธีนี้คุณมีวิธีดีกว่านี้มั้ย?

“มันคือวิธีนี้วิธีเดียวค่ะที่จะคุยกันได้ เพราะมันไม่ใช่การเอากลยุทธ์อะไรมาแข่งกัน มันคือเรื่องราคาอย่างเดียว มันไม่ใช่แค่การตัดราคา ตัดราคายังไม่พอยังมีการไปบอกราคาทุนเขาอีก มันเป็นเรื่องที่เขาต้องฟังเราบ้าง อย่างมีแม่ค้ารับหิ้วบางคนที่เขาปรับตัวที่เขาทำดีอยู่แล้วก็คือเดือนไปบอกลูกค้า 230 นะคะค่าหิ้ว 10 บาท เหมือนที่หนูบอก อันนี้คืออยู่กันได้ มันสบายๆ กำไร 10 บาท เราได้น้อยลงไม่เป็นไรแต่เรายังอยู่ได้”

ออกมาแฉแบบนี้คุณน้ำหวานกลัวมั้ย ?

“กลัวนะ ทุกวันนี้หนูก็ไม่ไปเดินนะคะ เพราะหนูมีร้านส่งในมืออยู่แล้ว”

ทำไม ไหนบอกว่ามันเป็นประโยชน์ไง?

“มันเป็นประโยชน์แต่คนที่ไม่ได้เห็นด้วยกับเรามันก็เยอะค่ะ ที่เขาไม่ได้คิดว่าเดือดร้อน”

เคยมีโทรศัพท์มาขู่มั้ย?

“ไม่มีค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังขาบปกติ”                 

เห็นว่าปิดแผงหนีไปอยู่ต่างจังหวัด?

“หนูไปอยู่ต่างจังหวัดนานแล้วค่ะ แล้วก็มาทำออนไลน์นานแล้ว ตั้งแต่โควิดมา คือมันขายไม่ค่อยได้หน้าร้านก็เลยมาขายออนไลน์ แต่พอมาอยู่เจอขายตัดราคาแข่งกันไม่พอ มาเจอคนไลฟ์หิ้วบอกราคาทุนอีก มันไปได้ยาก แล้วคือเราทำมาเป็นอาชีพแล้วไม่ได้เพิ่งมาทำเดือนสองเดือน บางคอมเมนต์บอกหนูขายขายไม่ได้ก็ปล่อยให้คนอื่นเขาทำ ก็ไม่ต้องขายแล้ว คือทุนเราจมอยู่ตรงนั้นตั้งหลายบาท คุณมาพูดง่ายๆ ว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ อยากให้คนเมนต์ทำนองอย่างนี้เห็นใจเรานิดนึง”

เพจที่มีอยู่ก็ปิดหนีไปแล้วเหมือนกัน?

“ขายอยู่ปกติเลยค่ะ”

ยอดเป็นไงบ้าง?

“ก็ปกติเลยค่ะ อย่างที่หนูบอกลูกค้าใครลูกค้ามัน ที่หนูมีผลกระทบหนัก ๆเลยก็ตอนไลฟ์สด พอไลฟ์สดเจอประเด็นเรื่องเปรียบเทียบราคาเลยค่ะ เพราะว่าคนที่เขาชอบดูเสื้อผ้าผ่านไลฟ์สดส่วนใหญ่ก็จะเห็นผ่านตามาก่อนว่ามันมีคนไลฟ์ราคาส่งแล้ว”

อยากให้คนที่เขาไลฟ์สดซื้อขายด้วยวิธีไหน?

“ก็อยากจะขอโทษก่อนนะคะแม่ค้ารับหิ้วที่เขาไม่ได้ทำแบบนี้ มันมีหลายกลุ่ม คนเป็นงานเขารู้อยู่แล้วว่าต้องทำยังไงอะไรที่ทำแล้วได้กำไร ก็ส่วนคนที่เป็นหน้าใหม่ที่คิดว่าการเอาราคาส่งมาบอกลูกค้าแล้วเอากำไร 5 บาท 10 บาท แล้วมันอยู่ได้เนี่ยคุณควรปรับบ้าง เราออกมาพูดเราไม่ได้บอกให้คุณหยุดทำอาชีพนี้ แต่แค่บอกว่าคุณอย่าบอกราคาส่งได้มั้ย แค่นั้นพอรับหิ้ว 10 บาท ก็ได้ แต่ไม่ต้องบอกลูกค้าหรอกว่าทุนมันแค่ 200”

คิดว่าวันนี้มันจะจบมั้ย?

“หนูคิดว่ามันไม่จบ ทุกคนก็ต้องปรับตัวซึ่งหนูก็ปรับตัวเองแล้วหนูไปทำแบรนด์ตัวเองจบไม่ต้องมีแม่ค้าคนกลาง เราปรับคนอื่นไม่ได้เราก็ปรับตัวเอง”

หลังจากนี้จะกลับไปขายปกติ ไม่กลัว?

“ใช่ค่ะ ไม่กลัว คือหนูทำอาชีพค่ะ ไม่ได้โกงใคร”

About Author