อุ๊ ช่อผกา

“อุ๊ ช่อผกา” อดีตพิธีกรชื่อดัง เปลือยใจหายไปไหน 10 ปี พร้อมเล่าอดีตเคยโดนขู่ฆ่าตั้งค่าหัว 2 แสน!

อดีตพิธีกรหญิงแถวหน้าของเมืองไทย อุ๊ ช่อผกา ที่วันนี้จะมาเปิดใจถึงสาเหตุที่หายหน้าหายตาไปจากจอทีวีกว่า 10 ปีลั่นอดีตเคยแรงชัดเจนไม่ยอมใครจนเคยถูกขู่ฆ่าพร้อมตั้งค่าหัว ถึง 2 แสนบาท ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา, เป็กกี้ ศรีธัญญา และตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ หายหน้าจากจอไปกี่ปี? อุ๊ : 20 ปีคือดาวล้านดวง เลิกไปประมาณ 20 ปี แต่ว่าหลังจากดาวล้านดวงพี่ก็ทำรายการต่อ รายการล่าสุดถ้าคนจำได้ก็จะชื่อรายการ คาหนังคาเขา คู่กับพีเค ทางช่อง9 หลังจากนั้นจะมีงานในทีวีค่อนข้างน้อย  ก็จะเหลืองานพิธีกร อีเว้นท์เกี่ยวกับสัมนาอะไรที่เป็นวิชาการ เนื่องด้วยอายุงาน หรือพี่ตัดสินใจที่จะไม่ทำแล้ว? อุ๊ : ทำค่ะ แต่ว่าเลือกงาน พอเราอายุเยอะขึ้น เราอยู่ในวงการเราจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราอยากทำ และอะไรคือสิ่งที่เราไม่อยากทำ พี่รู้ว่าพี่เป็นคนสนุกชอบคุยเล่นกับเพื่อน แต่พี่ไม่ชอบที่จะมาบิ้วตัวเองให้สนุกในรายการที่มันขายความสนุกสนานอย่างเดียว มันไม่ใช่เรา ทีนี้เทรนด์ทีวีมันเป็นแบบนั้นก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับเรา ที่ผ่านมาพี่ไปทำอะไรในช่วงเวลาที่หายหน้าไป 10 ปี? อุ๊ : พี่ทำงานเบื้องหลัง พอจบจากดาวล้านดวงก็มีผู้ใหญ่ชวนไปทำงานบริหาร เริ่มจากเป็นผู้ช่วย CEO ตอนช่วงรีโนเวทห้างโรบินสัน และหลังจากนั้นก็ไปเป็นทีมบริหารในการกอบกู้ธุรกิจเฟรมมิลี่ มาร์ท ก็ได้เรียนรู้วิชาการบริหารธุรกิจโดยเฉพาะกอบกู้ธุรกิจที่มาจากการติดลบ พี่ว่ามันยิ่งใหญ่กว่า MBA พี่ก็เลยทุ่มเทที่จะศึกษาและให้เวลากับตรงนั้น งานในวงการกับงานธุรกิจ มันเวทไปยังไง? อุ๊ : เรามีโอกาสรู้จักผู้ใหญ่เยอะ มีชอบทำงานเรื่องข้อมูลวิชาการ เราเป็นคนชอบศึกษาอะไรลึกๆ พอถึงช่วงนึงมามีโอกาสนั้นก็เลยตัดสินใจว่าเราต้องเลือก เพราะพี่รู้อยู่แล้วในระยะยาววงการบันเทิงมันทำไม่ได้ตลอดชีวิต แต่สิ่งที่เราทำได้คือทำธุรกิจ แล้วตอนนั้นพี่ทำธุรกิจแล้ว ทำบริษัทโปรดักชั่น เฮ้าท์  ก็คิดว่าถ้าเราเข้าใจวิธีการทำธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากธุรกิจนี้มันจะทำให้เรามีอาชีพจนตายได้ ก็เลยไปเริ่มเรียนเรื่องค่าปลีก อยู่ตรงนั้นประมาณ 3-4 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีคนติดต่อเล่นละครเยอะมาก เราก็มีหน้าที่ปฏิเสธ ขอบคุณนะคะ คิวไม่ได้ค่ะ จนหลังๆ เขาบอกว่านี้ชวนหลายรอบแล้วนะ เลิกชวนแล้วนะ แล้วเขาเลิกชวนจริง ๆ  แล้วถ้า ณ วันนี้มีคนชวนพี่ไปทำงานในวงการบันเทิง เล่นละคร พิธีกร รับไหม? อุ๊ : งานพิธีกรรับอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็รับ เป็นงานอีเว้นที่เป็นวิชาการ ถ้าเป็นงานทีวีคือให้มันมีเนื้อหาหน่อย ไม่ใช่รายการตลก เพราะพี่ไปพี่ก็แป๊ก ถ้าละครกก็ดูบท บทที่มันมีความสำคัญ เล่นแล้วมันได้สะใจว่าได้เล่นในขณะเดียวกันมันไม่ทำลายภาพลักษณ์ของเราจนพินาศ สมัยก่อนพี่อุ๊เป็นคนตรง ๆ ชัดเจน จนมีการขู่ฆ่าตั้งค่าหัว 200,000 บาท จริงไหม? อุ๊ : เรื่องจริง คือพี่แรงแน่นอน แต่พี่ไม่ได้แรงในลักษณะไปไล่ทะเลาะกับใคร พี่แรงในลักษณะอุดมการณ์แรงกล้าเหตุการณ์ตั้งแต่สมัยเป็นนักข่าวเรียนจบใหม่ ๆ ช่วงนั้นบ้ามาก ขุดคุ้ยเรื่องราวที่มันทำลายประเทศชาติ ตอนนั้นเป็นเรื่องตัดไม้ทำลายป่า ดิฉันก็บุกเข้าไปตามป่าในภาคอีสาน ไปถ่ายหลักฐานเอามาออกทีวี เพื่อจะบอกว่ามีแก๊งตัดไม้คนนู้น คนนี้ ซึ่งไม่ได้บอกตรง ๆ หรอก แต่คนที่รู้เรื่องเขาก็รู้ว่ากำลังเล่นใคร แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าตัวเองถูกตั้งค่าหัว 2 แสน?...