จิลล์ โรเจอร์

“จิลล์ โรเจอร์” เผยถูกบูลลี่รูปร่างจนนอยด์หนัก พร้อมเล่าโดนขอร่วมหลับนอนด้วยให้หลักแสน!

อดีตนางเอกนักบู๊แถวหน้าของเมืองไทย จิลล์ โรเจอร์  ขอหวนกลับสู่วงการบันเทิงหลังหายไป 7 ปี เปิดใจเรื่องการถูกบูลลี่รูปร่างจนถึงขั้นน้ำตาตกใน พร้อมพูดถึงอาการแพนิกที่ทำให้ชีวิตต้องเปลี่ยนไป และยังเคยโดนขอซื้อไปร่วมหลับนอนราคาหลักแสน และเล่าถึงประสบการณ์โดนผีเด็กหลอก ทุกประเด็นในรายการคุยแซบSHOW ออกอากาศทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยวัฒน์ และเป๊กกี้ ศรีธัญญา  ดำเนินรายการ มีกระแสข่าวรูปร่างเปลี่ยนไป? จิลล์ : ถ้าทางโซเชียลทุกคนน่ารักมาก มีแค่ส่วนเล็กน้อยมากๆ ตอนที่เราลงรูปเรารับได้แล้ว เราพร้อมที่จะออกมาพูดว่าเราเปลี่ยนไป เราอ้วนจริง เราไม่ได้ดูแลตัวเองจริง ๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการป่วย คอมเมนต์เล็ก ๆที่รับไม่ได้เกี่ยวกับคนที่รู้จักกันแล้วปฏิบัติกับเราแปลกๆมากกว่า เรารู้จักคนๆนี้มานานมาก ตอนผอมเค้าคุยดี คุยง่าย แต่พอเปลี่ยนไปเริ่มคุยยาก ไม่อยากคุย มองเราอีกแบบนึง เลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องอะไร? จิลล์ : เรื่องงานค่ะ เค้าบอกต้องดูแลตัวเองนะ คำนี้มันทำให้รู้สาเหตุที่เค้าเปลี่ยนไป เรื่องรูปลักษณ์ร่างกายของเรา นอยด์มั้ย? จิลล์ : ช่วงแรก ๆ นอยด์ค่ะ ไม่ออกไปเจอใครเลย ไม่ค่อยได้โทรคุยหรือนัดสังสรรค์ จิลล์หายไปเลย เรากังวลและกลัวนิดนึง เพราะถ้าเราไปนั่งตรงนั้นเค้าจะถามอัพเดตชีวิตเราแน่นอน เพราะอะไร ทำไม แล้วเราต้องนั่งตอบคำถามนั้นทั้งที่เรายังไม่พร้อม คำถามไหนที่ไม่อยากฟัง? จิลล์ : อ้วนแล้ว ไม่สวยแล้ว ใครจะเอาไปทำอะไร เราก้รู้สึก แต่ถ้ามันเป็นคาแรคเตอร์ที่ได้เราก็พร้อมจะรับนะคะ เรารู้สึกว่าไม่เข้าใจเราเลยจริงๆหรอ เราเปลี้ยนไปเพราะเราไม่ดูแลตัวเองยอมรับค่ะ แต่เราก็ยังอยากได้กำลังใจ ตอนนี้โอเคแล้ว? จิลล์ : โอเคแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่ติดอะไรเลย อันล็อคตัวเองช่วงหลังโควิด ตอนแรกมันกลัวมันกังวลไปหมดทุกอย่าง ถ้ายังเป็นแบบนี้เราจะเดินหน้าไม่ได้ อยู่ๆก็คิดว่าพอแล้วแค่นี้อะไรจะเกิดก็มาพร้อมรับมือ แล้วก็เปลี่ยนเลย  น้ำหนักเพิ่มขึ้นส่งผลกระทบอะไรบ้าง? จิลล์ : เรื่องงานละครอย่างแรกเลย พูดง่ายๆถ้าไม่ผอมไม่มีใครจ้างแน่นอน อันนี่เข้าใจเลยค่ะ เรื่องที่ 2 คือยังไงดีเราควรไปหาหมอจริงจังมั้ย ยังรู้สึกว่าไม่พร้อมอีก เลิกดูแลตัวเองเพราะเป็นแพนิก? จิลล์ : เป็นเมื่อนานมาแล้วตอนไปนั่งเครื่องเครื่องตกหลุมอากาศ วันนั้นสำหรับจิลล์มันรุนแรงตอนนั้นเหงื่อแตก กังวลที่สุดในชีวิต เรายังไม่รู้ตอนนั้นคืออาการแพนิก หอบ ๆ...