“นุ่น สินิทธา” พบเนื้องอกมดลูกรอบที่ 3!! ลั่น 10 ปีไม่มีแฟน บั้นปลายชีวิตมองบ้านพักคนชรา

“นุ่น สินิทธา” นางเอกดังยุค 90 วันนี้มาเปิดใจครั้งแรกถึงเรื่องราวสุดช็อก หลังเนื้องอกที่มดลูกกลับมาเป็นครั้งที่ 3 พร้อมเผยประสบการณ์เล่นติ๊กต๊อกจนทัวร์ลงมาแล้ว รวมทั้งไขข้อสงสัย ทำไมสวยขนาดนี้ต้องโสดนานถึง 10 ปี โสดจริงหรือไม่ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ ตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ทราบมาว่าเนื้องอกมันกลับมาจู่โจมอีกแล้ว?
“หลังทำให้มันยุบได้ก็ฉลอง ระเริงไป ดีใจ อุ้ยตายแล้ว ยุบแล้ว เราก็กิน กินระมัดระวังนะ แต่ออกไปกินนอกบ้านซะเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยได้ทำอาหารทานเอง มีวันที่คุมทานอาหารเองน้อยลง ทานนอกบ้านเยอะ อะไรที่อยากกินไม่เคยกิน แล้วไม่ได้กินมานานก็กินเต็มที่ไปเลย คือกินมากเกินไปนั่นเอง หิวโหย(หัวเราะ)”

ตอนแรกที่รักษาตัวจนหาย หายไปนานกี่ปี?
“จริง ๆ รักษาตัวประมาณ 6 เดือน เนื้องอกยุบก็ไปตรวจ มันยุบลง หลังจากดีใจ ประมาณช่วงก่อนปีใหม่ เราก็ฉลอง เริ่มกิน แต่สิ่งที่ชอบเป็นความทรงจำในวัยเด็ก ขนม โดนัท ชิฟฟ่อน เค้ก ชอบกินเบเกอรี กินแป้งขาวเยอะ อะไรที่อดมานานก็กินหมดทุกอย่าง วิปครีมเอย เนย เอาหมด”

ทานเยอะแค่ไหน?
“โดนัทประมาณ 6 ชิ้นต่อหนึ่งครั้ง กินแบบจุก ๆ ๆ หกชิ้นทีเดียว (หัวเราะ) หกชิ้นหนึ่งกล่องกินคนเดียวไม่แบ่งใคร ก็เหมือนฉลองไม่ได้กินมาหลายปี พอกินก็กิน 6 ชิ้นทีเดียว ทำแบบนี้ติดต่อกัน 3 เดือน อาทิตย์ละ 1 ครั้ง พอกินโดนัท 6 ชิ้นเสร็จก็อยากกินอีกแล้ว ก็ไปว่อนหาของกินที่ชอบ แซ่บไม่แซ่บ ชาติไหนก็แล้วแต่ ประดังประเด กิน ๆ ”

ตอนรอบแรกที่เจอเนื้องอก ตัดสินใจจัดการยังไง?
“ครั้งแรกตอนอายุ 30 คุณหมอบอกว่ามีเทคโนโลยีใหม่ มีการส่องกล้อง คุณหมอแนะนำว่าลองผ่าตัดมั้ย เราก็คิดว่าดีนะ ผ่าแล้วจะได้จบ ๆ ไป จะได้ไม่เป็นอีก พอผ่าเสร็จปุ๊บ ตื่นมาก็ปวดท้อง เพราะใครผ่าตัดมดลูกก็จะรู้ว่าเอาเท้าลงพื้นปวดขึ้นมามาก กว่าจะเดินได้ก็กะย่องกะแย่งประมาณ 2 อาทิตย์ เจ็บแล้วจบ โอเค เราก็คิดว่ามันหาย แต่ปรากฏว่าผ่านไปสองปี วิถีชีวิตเป็นแบบเดิมกินไส้กรอก กินของที่มาจากอุตสาหกรรมทั้งหมด ของที่ชอบ ของที่ใช่ กินง่ายกินเร็ว ไม่ต้องอุ่น ฉีกกินเลยก็ได้ พี่ก็ทำหมด กินเสร็จปุ๊บ เอ๊ะทำไมไปตรวจสองปีผ่านไป เราต้องหายสิ ปรากฏว่ากลับมา 2 เม็ด มันย้ายที่ด้วย ตอนแรกมันอยู่ในช่องท้องอยู่ด้านนอกของมดลูก ยอดมดลูก ไปเบียดกับตับ พอ 2 ปีกลับมาคราวนี้อยู่ในกล้ามเนื้อของมดลูกเลย มันไปงอกใหม่ในจุดอื่นเพราะพฤติกรรมการกินเรายังเหมือนเดิม เราใช้ชีวิตแบบเดิม คุณหมอก็แนะนำว่าเป็นฮอร์โมนไปกระตุ้นทำให้เกิดเนื้องอกได้ ก็คิดว่าฮอร์โมนส่วนนึง แต่ไอ้สิ่งที่เรากินเข้าไป มันไปสะสม ระยะเวลา 10-20 ปีที่เราใช้พฤติกรรมแบบเดิม ๆ มันก็ส่งผลต่อส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของเรา ของพี่แจ็คพอตคือมาออกที่มดลูก”


รอบแรกตัดสินใจผ่า รอบสองตัดสินใจยังไง?
“ไม่ผ่า เก็บไว้ดูเล่นก่อน ครั้งที่สองพอป่วยเกือบเป็นมะเร็ง ได้ค้นพบว่าการทำ Water Fasting (การลดน้ำหนักรูปแบบหนึ่งด้วยการดื่มน้ำเปล่าเท่านั้น) มันช่วยให้ตัวเนื้องอกฝ่อลงไปได้ มันไม่ได้หายไปนะ มันหดเล็กลง”

หนึ่งคอร์สต้องกี่วัน?
“การทำ Water Fasting สำหรับพี่ ให้เห็นประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในเรื่องของเซลล์ต้อง 3 วัน ทำ 3 วันแล้วไม่ควรทำมากเกิน 3-5 วัน  แค่นี้ควรจบพีเรียดแล้ว บางคนเดี๋ยวนี้มาราธอน คุยกันว่าทำมากกว่า 10 วัน อันนั้นจะมากเกินไป และส่งผลเสียแก่ร่างกาย อันนั้นไม่เห็นด้วย”

Water Fasting ต้องทำ 3 วัน แล้วผสมเกลือที่บริสุทธิ์ไปด้วย หลังจากตัดสินใจครั้งที่สองเจอเนื้องอก ไม่ผ่า มันหาย?
“ห้ามใช้คำว่าหาย ใช้คำว่าฝ่อและเล็กลง พอมันฝ่อและเล็กลง อย่างที่บอกพฤติกรรมการเอาของเข้าปากเรามันก็ยุบหนอพองหนอ มันก็โตขึ้นมาอีกรอบนึง เนื้องอกไม่มีใครสรุปได้ว่าทำไมถึงเกิด แต่เขาเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกายเราเอง ที่เขาเรียกว่ามันจะกลายพันธุ์ แต่จะไม่กลายพันธุ์จนกลายเป็นเซลล์ร้าย แค่มีการเปลี่ยนแปลง สามารถโตได้ด้วยตัวเอง มีการใช้พลังงานของเขาเอง มีการใช้อาณาจักรสร้างคิมดอมของเขาเอง แต่ไม่ถึงกับเป็นมะเร็ง เขาจะเปลี่ยนไปหรือกลายพันธุ์มันอยู่ที่ความเครียด การทานน้ำตาล ปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่จะแปลงออกเป็นเซลล์ร้าย แต่นี่ยังไม่ถึง เนื้องอกอาจจะเป็นเซลล์ที่กลายพันธุ์แล้วสามารถโตขึ้นมาได้เอง มีการดึงพลังงานมาใช้เอง เหมือนเขาสร้างบ้านของเขาได้เอง”

รอบที่สามที่กลับมาเป็นครั้งนี้ บ่งบอกยังไง?
“อาการแรกคือเจ็บปีกมดลูก เวลาไข่ตก ใครอยากมีลูกจะรู้สึกเจ็บ และหน่วงในวันที่ไข่สุก จะรู้สึกปวดตึงธรรมดา แต่ของพี่มันเจ็บและร้าวลงไป เจ็บแบบจี๊ด ๆ ไม่ได้อยู่แค่ 1 วัน ถ้าไข่ตกจะมีระยะเวลา 1 วันปวดตึงนิดหน่อย แต่ถ้ามากกว่านั้น 2-3 วันไม่หาย ยังเจ็บจี๊ดอยู่ แสดงว่าอาการของคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นซีสต์ถุงน้ำที่รังไข่ ให้ไปหาคุณหมอเลย อันนี้ก็พุ่งตรงดิ่งไปเลย แล้วแจ้งบาปตัวเองเลยว่า หนูคิดว่าหนูเป็นซีสต์ถุงน้ำที่รังไข่ค่ะ แกก็ทำหน้าแบบ รู้ได้ยังไง แต่พอไปอัลตร้าซาวด์ปุ๊บ มันแตกแล้ว มีร่องรอยอยู่นะว่าแตกแล้ว แต่ที่รู้ว่ากลับมาแน่นอนคือเนื้องอกสองตุ้มนี่แหละ กลับมาในขนาดที่ใหญ่ขึ้น ก็บอกว่าหนูกินเละเทะ (หัวเราะ)”

ตอนมันแตก ส่งผลอะไรบ้าง?
“ปวดตึงเจ็บมา 5 วัน ธรรมดารังไข่สุกปุ๊บเขาเดินทางมาอยู่ตรงมดลูก จะมีอาการแค่ปวดตึง ๆ ด้านซ้ายและขวาสลับกันอย่างละเดือน แต่ถ้าเกิดว่าเรามีอาการปวดจี๊ดลงไป อันนี้เริ่มมี ต้องไปหาคุณหมอถ้าต้องหาให้เจอ ต้องไปวันที่เราปวดเลย ซึ่งภาพวันนี้คือเนื้องอกของดิฉันเอง อันนึงคือ 7 เซนฯ อีกอันคือ 4 คุณหมอก็เสนอว่าตัดเลยมั้ย เราก็ยังดื้อแพ่งอยู่ว่าอย่าเพิ่งดีกว่า หนูยังอยากเก็บไว้ดูเล่น ขอทำ Water Fasting ก่อน สองก้อนนี่จากสองปีที่แล้วที่เจอ ที่ผ่า ยุบ แล้วก็มาใหม่”

ทำไมมั่นใจว่าจะกลับไป Water Fasting อีก?
“เพราะมันช่วยให้ตัวเนื้องอกมันฝ่อได้ แล้วมีอัลตร้าซาวด์ยืนยันผลมา การปฏิบัติตัว การกินของเรานี่แหละค่ะ ที่จะทำให้เราแข็งแรง หรือเจ็บป่วย มันอยู่ที่ตัวเราเอง รอบสองก็ตั้งใจมาก แต่รอบสามผีเข้าผีออก เหมือนได้เวลาทำ Water Fasting ทำดีมา 4 เดือน อาการเจ็บที่รังไข่ ที่เป็น 5-6 วันหาย รอบประจำเดือนดีขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นหมด แต่ก็มีชีวิตการทำงานที่ขลุกขลัก บางทีไม่สะดวก ไม่ถนัด ก็ขอเวลาตั้งใจจริง ๆ อีกสักทีแล้วจะไปตรวจกับคุณหมอว่ามันจะยุบลงมั้ย ปีครึ่งที่กินสนุกสนาน คือกินข้าวนอกบ้าน 2 วัน 3 มื้อ แล้วอีก 5 วันคุมอาหาร แต่ก็กิน 3 มื้อ 5 วันก็กินข้าวปกติ กินเนื้อบ้าง ไม่กินบ้าง กินหลาย ๆ อย่าง จำไม่ได้ แต่บางทีก็เป็นอาหารที่ซื้อมากินด้วย”

สองวันที่เหลือกินอะไรที่ปล่อยจอย?
“ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ อาหารจีน ที่ผัดใส่น้ำมันหอย ผัดไฟแดงใส่น้ำมันหอย ใส่ทุกอย่าง บุฟเฟ่ต์ด้วย อร่อยตรงไหนก็ไปกินหมด แล้วกินเยอะมาก กินเท่ากับผู้ชายตัวโต ๆ คนนึง สเต็กก็กิน 350 กรัม ไม่พอก็ไปซัดมันบดอีก กินขนมปัง ผักไม่กิน (หัวเราะ) ตกเย็นก็กินอีก ผัดซีอิ้ว ราดหน้า บางทีก็ข้าวกระเพรา ให้คุ้มกับ 5 วันที่อั้นมา”

ทำไมไม่ตัดสินใจตัดมดลูกทิ้ง?
“การตัดถ้ามันใหญ่ขนาด 10 กว่าเซนฯ ขึ้นไปพี่ยินดี แต่ยัง 7 อยู่ พี่ก็ถอย ยังขอเถียงว่าขอรักษาแบบนี้ไปก่อน ขอทำระบบ Autophagy ไปก่อน ซึ่งจริง ๆ ระบบ Autophagy มันได้รับรางวัลโนเบลไพรซ์มา ก็เชื่อว่าอย่างน้อยรางวัลโนเบลไพรซ์น่าจะส่งผลดี ในเมื่อเราทดลอง 1 ครั้งกับตัวเราแล้วมันดี ดังนั้นการกลับไปทำครั้งที่สองมันก็น่าจะดี”

ทำไมชะล่าใจกินทุกอย่างใน 2 วัน ไม่กลัวมันกลับมาอีกเหรอ?
“จริง ๆ ไม่ได้คิดว่ากลัวกลับมาหรือไม่กลับมา คิดว่ายังไงมันก็อยู่กับพี่ตลอดไปอยู่แล้วเนื้องอก แต่ทำยังไงที่จะเมนเทนให้อยู่ในขนาดที่เราควบคุมได้มากกว่า”

เอ็กเพิร์สเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง รอบนี้ออกมาเปิดเผยว่าเป็นเนื้องอกอีกรอบ ไม่กลัวเสียฐานแฟนคลับที่ติดตามเราอยู่เหรอ?
“ไม่นะ การทดลองเราทดลองกับตัวเองแล้วว่าเกิดผลจริง แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็แล้วแต่มันไม่มียาเม็ดเดียวแล้วบอกจะหายขาด จะดีไปตลอด มันเกิดจากพฤติกรรมการกินของเราเองนั่นแหละ ที่มันสร้างความสุขภาพดีหรือไม่ดีขึ้นมา ซึ่งมันก็ให้เห็นทั้งคู่ พอกินเละเทะ กินไม่ดี กินมั่วซั่วขึ้นมา ก็กลับมาเป็นโรคที่พี่หลีกเลี่ยงฉะนั้นการที่จะรักษาพฤติกรรมการกินให้คงอยู่ต่อไป คือการเมนเทนสุขภาพของเราให้มีความยั่งยืน การทำ Water Fasting ครั้งนี้ก็ไม่ต้องนับ เพราะทำบ่อยมาก (หัวเราะ) เป็นครั้งที่ 6 หรือ 7 จริง ๆ มีกติกาว่าคนเจ็บป่วย ปีนึงทำได้ 6 เดือนต่อเนื่อง ถ้าเป็นเนื้องอกแบบพี่นะ เดือนนึงทำ 3 วัน แต่สำหรับคนเป็นเนื้องอกที่มดลูกเท่านั้นนะให้ทำตรงรอบประจำเดือน มันก็เลยยุ่งยาก แล้วรอบประจำเดือนไม่เคยคุยกับเราสักทีว่ามันจะมาเมื่อไหร่ พอตรงบ้างไม่ตรงบ้าง แล้วงานเราค่อนข้างยุ่ง บางที 4 เดือนทำได้ หลังจากนั้นไม่ได้แล้ว ก็จะมียุ่งยาก แต่คนต้องการรีเวิร์สแอนด์รีเซ็ต อย่างภาวะดื้ออินซูลิน ภาวะเบาหวานประเภทที่สอง อันนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องรั้งรอ แต่ต้องคุยกับคุณหมอก่อนนะถ้าใครรับยาอยู่ ว่าอยากทำ Water Fasting ให้คุณหมอช่วยคุมยา แนะนำหน่อยว่าควรทานยาแบบไหน เพราะการทำ Water Fasting มันคือการเล่นกับเคมีและระดับน้ำตาลในเลือด ควรเรียนรู้และศึกษาก่อน”


คนปกติไม่ได้ป่วยไข้อะไร การทำ Water Fasting ทำได้มั้ย?
“คนปกติปีนึงทำครั้งเดียว หรือปีนึงสองครั้งมากสุดพอแล้ว ไม่ควรทำมากไปกว่านี้ และไม่ควรทำเกิน 3 วัน พอแล้ว แต่ถ้ามีแค่รอบประจำเดือนไม่ตรง อยากมีบุตรอยากทำรอบประจำเดือนให้ตรง อันนี้คือการรีเซ็ต รีเวิร์สฮอร์โมน”

หลังจากรีเซ็ตตัวเองมา 4-6 ครั้งจากรอบที่สาม ตอนนี้ได้ผลยังไงบ้าง?
“รอบประจำตัวตรงสม่ำเสมอ ระบบเผาผลาญในร่างกายสามารถควบคุมได้ดี กินเละเทะยังไงก็ไม่อ้วน แต่ขอร้องผู้หญิงทุกคน อย่าเอาไปใช้กับการลดน้ำหนัก เพราะมันไม่เกิดผลหรอก มันแค่รูทน้ำหนักแค่ 3 กิโลภายในเวลา 3 วัน ไม่ได้เสียอะไรมากไปกว่านั้น แต่ที่มันดีคือการรีเวิร์สแอนด์รีเซ็ตเรื่องระบบเผาผลาญในร่างกาย ระบบเราจะดีขึ้น ฮอร์โมนจากผิด ๆ เพี้ยน ๆ ไปมันก็จะดีขึ้น อันนี้เป็นผลที่ได้รับตรง ๆ ”

ต้องเรียกว่านักวิทยาศาสตร์ เป็นสายทดลองมาก เอาตัวเองเป็นหนูทดลองกับเรื่องต่าง ๆ และเรื่องการกิน ทดลองเรื่องอะไรบ้าง?
“เรื่องการทานวิปครีม เพราะตอนนี้เราชอบเครื่องดื่มกันเนอะ ทุกคนมีเครื่องดื่มดีต่อใจ วันละแก้วสองแก้ว บางคนบอกว่าห้ามกินวิปครีม แต่ไปกินครีมที่ทำจากพืช พี่ก็ลองทั้งสองอย่างนี่แหละ แต่เลือกลองวิปครีมก่อน ทานวิปครีม 1 ลิตรต่อ 1 เดือน เท่ากับ 2 เดือนกินต่อเนื่อง ที่เห็นเลยคือน้ำหนักขึ้นมาเลย 3 กิโล ยกตัวอย่างเช้ากาแฟดำ เราใส่วิปครีมลงไปโดยไม่ใส่น้ำตาล แค่นี้สองเดือนน้ำหนักก็ขึ้นมา 3 กิโล”

ไม่กลัวเหรอ พอเราเป็นหนูทดลอง เนื้องอกจะใหญ่กว่าเดิม?
“พี่คิดว่าเรากำลังทดลองกับอะไรอยู่ และเราต้องรู้ว่าเราคอนโทรลกับอะไร ฉะนั้นเราก็ต้องระมัดระวัง การหวาดกลัว กลัวได้ ระมัดระวังได้ แต่ถ้าเรารู้จุดแก้ไข รู้วิธีแก้มันคืออะไร คือการทานของเราเอง ฉะนั้นมันควรระมัดระวังเรื่องนี้ แต่อยากเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนรู้ว่าการทานอะไรซ้ำเดิมบ่อย ๆ แล้วเป็นอุตสาหกรรมมากเกินไปไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าทานไม่ได้ แต่ควรเว้นระยะห่างให้พอเหมาะพอควร ถ้ารู้ว่าเราป่วย ไม่สบาย อยากกินจังเลย เว้นระยะให้ห่างไปนิดนึง ของอุตสาหกรรมคืออะไรที่ไม่บูดไม่เน่าใน 7 วันอยู่ในตู้เย็นออกข้างนอกได้ ตั้งไว้ข้างนอกได้ ไม่มีราขึ้น ไม่เสียภายใน 7 วัน อยู่ในตู้เย็นเปิดฝาแล้วสามารถกินต่อได้จนหมดใน 1 เดือน ถ้าทำเองได้ก็จะดีอาหารยำไทยบ้านเรา ถ้าไม่ได้ใส่ไส้กรอกหรือหมูยอก็ยังทานได้อยู่ ส้มตำก็ไม่เข้า Processed foods นอกจากใส่น้ำเชื่อม น้ำหวาน น้ำปลาร้าสูงเกินไป ถ้าลดพวกนี้ก็ถือว่าเป็นอาหารที่ดีอยู่ อาหารอีสานถือว่าเป็นอาหารที่ดีมากๆ อยู่ อาหารท้องถิ่นทั่วไป แกงอ่อม แกงเลียง อาหารบ้านเรากินได้หมด ไม่เป็น Processed foods มาก”

ความรู้แน่นมาก ตอนนี้เป็นติ๊กต๊อกเกอร์ด้วย เกิดอะไรขึ้นทัวร์ลง?
“นอกจากกินอาหารแล้ว ยังดูแลตัวเองเรื่องอื่น ก็บอกทุกคนว่าสระผมเดือนละครั้ง ทุกคนก็อี๋ สกปรกจังเลย ทำไมไม่สระผม จริง ๆ คือไม่ใช้แชมพูสระผม แต่ใช้น้ำเปล่าล้างทุกวัน เข้าใจทฤษฎีกระดาษซับมันกันเนอะ ยิ่งซับหน้าเอาความมันออก น้ำมันในรูขุมขนก็เพิ่มขึ้น เส้นผมและหนังศีรษะก็เหมือนกัน เมื่อคุณสระชะล้างเอาไขมันออกทั้งหมด มันก็เกิดความแห้ง แห้งแล้วไขมันก็ต้องรีบมาทดแทนทันที ยิ่งสระยิ่งมัน สังเกตมั้ยว่าทำไมสระผมแล้วสองวันมีกลิ่นตุ่ย ๆ ตุ ๆ มันด้วย เยิ้มด้วย มันมีกลิ่นเน่าออกมา ถ้าเราสระด้วยน้ำเปล่า มันก็จะลดความมันตรงนี้ มันจะค่อย ๆ หายไป แล้วถามว่าใช้อะไรทดแทนได้บ้าง ใช้เบกกิ้งโซดาละลายน้ำ ก็จะช่วย เบกกิ้งโซดาครอบจักรวาล สามารถผสมน้ำแล้วก็ล้าง แต่จะบอกว่าถ้าทำสีผมก็จะไม่สามารถทำทฤษฎีนี้ได้ สีผมที่ทำไว้จะหลุดเลย ถ้าคนไม่ได้ย้อมผม ถ้าอยากดีทอกซ์เส้นผมและหนังศีรษะ แนะนำเบกกิ้งโซฟา 1 ช้อนโต๊ะน้ำ 1 กะละมัง สระเอามือถู ๆ แล้วเวลาถูต้องถูต้องนวดที่หนังศีรษะนะ ชำระล้างอันนี้ก็ใช้ได้”

ตอนนี้โสดมั้ย?
“ยังเหมือนเดิมค่ะ พี่ทำงานยุ่งมาก ไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็มีบิน ๆ เข้ามานะ แล้วก็บิน ๆ ออกไป บินออกไปเอง (หัวเราะ) จริง ๆ แล้วพี่มีเซ้นส์อย่างนึง ถ้าใครเข้ามาแล้วมีกลิ่นอายจะสร้างปัญหาให้ตัวเรา เราจะสอบสัมภาษณ์ก่อน หลอกถามความคิดเห็นทั่วไปของเขา รับฟังว่าเขาพูดอะไร แล้ววิเคราะห์ แยกแยะ คนนี้น่าจะสร้างปัญหาให้เราเนอะ ก็ประตูอยู่ทางนั้นค่ะ เชิญออก”

สแกนเขายังไง?
“คนไม่มีความสุขในชีวิต แล้วเขาหาสิ่งชดเชยบางอย่างอยู่ แล้วเขามองว่าเราคือสิ่งชดเชยจะทำให้เขามีความสุขในชีวิตของเขาได้ เขากำลังย่ำแย่ในจิตใจเขาเองอยู่ เขาหาเหมือนดอกไม้ดอกนึงแล้วเราเป็นดอกไม้ดอกนั้น เดี๋ยวเธอมาแล้วต้องสร้างความสุขให้ฉันแน่ เขามีความทุกข์อยู่ในใจ นั่นแหละคือการได้กลิ่นไม่มีความสุขของเขา พอได้กลิ่นนี้ปุ๊บก็จะรู้สึกว่าเอาล่ะ งั้นแปลว่าเราไม่ใช่”

มองออกได้ไงว่าเขาประมาณนี้?
“ลักษณะการพูดของเขา เขาต้องมีเรื่องเล่าว่าเขามีความขมขื่นอะไรบางอย่าง (หัวเราะ)”

คัดกรองเพราะเคยโดนมาหรือเปล่า?
“ไม่เคย แต่หลังจากที่มีความสุขได้ด้วยตัวเอง พี่จะรู้ว่าความสุขที่มาจากตัวเราเอง มันอยู่ตรงไหน เวลาเรารู้ว่าความสุขที่มาจากตัวเรา เหมือนเรามีรากแข็งแรง เราจะสามารถโฟกัสออนคนได้ ว่าไอ้คนนี้ไม่มีความสุข”

โสดมานาน กำแพงสูงหรือเปล่า?
“ไม่สูงเลย ก่อไว้เตี้ยๆ เรี่ยๆ ตรงตาตุ่ม แต่การสแกนเลเซอร์ของเรา มีผลต่อการใช้ชีวิตของเราว่าเราจะมีความสุขในชีวิตหรือไม่มีนะ”

คนที่ดีดออกเป็นสายฝอ?
“ใช่ รู้สึกอันตรายมาก พอพูดแบบนี้จะรู้สึกว่าเขาจะมีเอเรียที่เราไม่ควรเข้าใกล้”

ถ้าคนเข้ามาต้องสดใสมาเลย?
“ไม่ถึงขนาดนั้น มองว่าคนเรามันจะแสดงออก ถ้ามีสุขภาพจิตดี เขาจะมีความสุขด้วยตัวเอง วิถีการใช้ชีวิต หรือวิถีการพูด วิธีมองโลกจะบอกเองว่าเขามีความสุข เราอย่าหน้ามืดตามัวรีบ ว่าชาตินี้ฉันจะหาแฟนไม่ได้ หาสามีไม่ได้เป็นจุดบอดในชีวิต ไม่ใช่ ไม่ต้องรีบ ดูแล้วคนนี้เข้ากับเราได้ มีทัศนคติที่จะนำพาชีวิตเราไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นได้”

แบบไหนถึงจะชนะใจ?
“เราต้องการคนมองโลกในแง่ดี ซึ่งหาได้ยากนะ เวลาคนมองโลกในแง่ดีจะแสดงออกด้วยคำพูด พอฟังแล้วคนนี้คิดดีเนอะ แค่นี้เอง แต่มันไม่มีว่ะ (หัวเราะ) ไม่ได้ปิด ก็สแกนเรื่อยๆ แต่ไม่มีคนให้สแกน น่ากลัวจะขายไม่ออกแล้ว”

คิดว่าจะโสดตลอดไป?
“ที่ปักหมุดจริงๆ คือฉันต้องสุขภาพแข็งแรง ดูแลตัวเองได้ ไม่เป็นภาระของหมอ ไม่ป่วยติดเตียงในลองเทอม ถ้าเราไม่มีคู่ครอง ไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้มีบุตร บุตรคงหาไม่ได้แล้วล่ะตอนนี้ (หัวเราะ) พี่จัดการเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม เวลาแก่แล้วจะได้มีที่พักเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ”

โรดแมปถ้าไม่มีคนดูแล ไม่มีผัว ไม่มีลูก ไม่มีแฟน?
“ดูบ้านพักคนชราที่ดี เขาดูแลเอาใจใส่ มีระบบมาตรการที่ปลอดภัย ที่สำคัญคือดูร่างเราเองเราควรแก่แบบไม่ต้องนอนติดเตียง ไม่ต้องเจาะคอ ไม่ต้องใส่ท่อ ดูแลตับไต ดูแลอวัยวะ ปอด ตับ ไต ม้าม ทุกอย่าง ดูแลการกินทุกอย่าง แลนมาร์คก็คือดูที่อากาศดีกว่ากรุงเทพฯ แต่ยังมองไม่เห็นเลยว่าที่ไหนอากาศดี อยากได้ที่อากาศบริสุทธิ์ ขึ้นไปเหนือกรุงเทพฯ นิดนึง ไม่ใกล้ไม่ไป รพ.ที่กรุงเทพฯ ดี ขับรถมาแป๊บเดียวก็ถึงได้ เราก็มองอย่างนั้น”

แชร์เคล็ดลับ ทำยังไงอยู่กับตัวเองให้มีความสุข โดยไม่หมกมุ่นเรื่องความรัก?
“อย่าโฟกัสที่เขาทำให้เรามีความสุข ควรโฟกัสที่เรามีความสุขได้ด้วยตัวเอง สามารถเจริญเติบโตเบ่งบานได้ด้วยตัวเอง ถ้าภายในเรามีความสุข บางทีคนข้างนอกมาเติมให้เราไม่ได้หรอก เราต้องสร้างความสุขให้ตัวเอง บางอย่างก็ต้องยอมรับว่าบางสิ่งเราอาจขาดหาย แต่เราอาจมีสิ่งทดแทนได้เช่นกัน เพศใดเพศหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งไม่สามารถทำให้เราเจริญงอกงามขึ้นได้ เพราะเขาไม่ใช่ปุ๋ยที่ดี ตัวเราต่างหากควรเป็นปุ๋ยให้ตัวเราเอง”


ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ 

About Author