ความเชื่อและการไหว้ ในวันตรุษจีน

วันตรุษจีน (Chinese New Year) เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองกันเป็นเวลา 15 วัน โดยวันแรกเรียกว่า “วันจ่าย” เป็นวันที่คนในครอบครัวออกไปจับจ่ายซื้อของสำหรับไหว้บรรพบุรุษและเฉลิมฉลองปีใหม่ วันรุ่งขึ้นเรียกว่า “วันไหว้” เป็นวันไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้าต่าง ๆ ส่วนวันสุดท้ายเรียกว่า “วันเที่ยว” เป็นวันที่คนในครอบครัวไปเยี่ยมญาติมิตรและเฉลิมฉลองปีใหม่กัน

ซึ่งการไหว้เริ่มจากช่วงเช้า เวลา 06.00 – 07.00 น. จะทำการไหว้เทพยาดา ฟ้า ดิน และไหว้เจ้าที่เจ้าทาง คือ ตี่จู๋เอี๊ยะ และเทพเจ้าที่ชาวจีนนับถือ

และเวลา 10.00-11.00 น. จะไหว้บรรพบุรุษด้วยเนื้อสัตว์ กับข้าว ขนมหวาน ผลไม้ เครื่องดื่ม รวมถึงการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และเสื้อกระดาษกงเต๊กให้กับบรรพบุรุษ

ต่อมาก็ไหว้ผีไม่มีญาติ หรือเรียกว่า ฮอเตียตี้ ในเวลา 14.00 – 16.00 น. จะไหว้ด้วยข้าวสวย กับข้าว และขนมหวาน เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน และกระดาษเงินกระดาษทอง เมื่อไหว้เสร็จแล้วให้จุดประทัด เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป ซึ่งการไหว้ผีไม่มีญาติบางบ้านก็ไหว้เป็นปกติทุกปี บางบ้านก็ไม่นิยมไหว้

ช่วงสุดท้ายของพิธีไหว้ คือ การไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เวลา 23.00 – 01.00 น. ของคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเป็นการขอโชคลาภจาก “เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย” ที่ลงมา ซึ่งเกิดขึ้นปีละครั้ง 

จุดที่ 1 : วางโต๊ะไหว้ไว้ด้านหน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา

จุดที่ 2 : วางกระถางธูปไว้หน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา

จุดที่ 3 : วางเชิงเทียนและแจกันดอกไม้ ขนาบทั้งข้างซ้ายและขวาของกระถางธูป

จุดที่ 4 : วางชามข้าวสวยพร้อมช้อนและตะเกียบ

จุดที่ 5 : วางถ้วยน้ำชาหรือถ้วยเหล้าจีน

จุดที่ 6 : วางถ้วยน้ำดื่ม

จุดที่ 7 : วางเนื้อสัตว์และเมนูอาหาร

จุดที่ 8 : วางขนมหวาน ขนมมงคล และผลไม้

จุดที่ 9 : วางเครื่องไหว้อื่น ๆ พวกกระดาษเงิน, กระดาษทอง, เสื้อผ้ากระดาษกงเต็ก, ใบเบิกทางบรรพบุรุษให้มารับของไหว้ (อ่วงแซจี๊) และแบงก์กงเต็ก (อิมกังจัวยี่)

จุดที่ 1 : รูปภาพ/รูปปั้นองค์ไฉ่ซิงเอี้ย

จุดที่ 2 : เชิงเทียนและแจกันดอกไม้ อย่างละ 1 คู่

จุดที่ 3 : กระถางธูป 1 ใบ

จุดที่ 4 : ถ้วยน้ำชา 5 ถ้วย

จุดที่ 5 : ขนมอี๊ (สาคูแดงต้มสุก) 5 ถ้วย

จุดที่ 6 : ผลไม้มงคล และ เจไฉ่ (อาหารเจ เช่น เห็ดหอม เห็ดหูหนู ดอกไม้จีน วุ้นเส้น ฟองเต้าหู้) อย่างละ 5 อย่าง รวมถึงขนมจันอับ 1 จาน

จุดที่ 7 : กระดาษเงินกระดาษทอง

1. ไหว้เทพเจ้า รวมถึงเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย : ใช้ธูป 3 ดอก

2. ไหว้บรรพบุรุษ : ใช้ธูป 3 ดอก

3. ไหว้สัมภเวสี ผีไร้ญาติ : ใช้ธูป 1 ดอก

ในวันตรุษจีนทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีเก่า ๆ

  1. หากร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี
    ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฏิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน
  2. แต่งกายและความสะอาด
    ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผม เพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่ จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี
  3. วันตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆ
    สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ เป็นความเป็นสิริมงคล
  4. บุคคลแรกที่พบ
    บุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี
  5. การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษ
    การเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้ายมาก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยหรือปกติ ก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก
  6. ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษ
    เพราะชาวจีนเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี
  • วันแรกของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ เพราะชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุ
  • วันที่ ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าว เพราะเชื่อว่าวันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด
  • วันที่ 3 และ 4 เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน
  • วันที่ 5 เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย
  • วันที่ 6 ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข
  • วันที่ 7 ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ
  • วันที่ 8 ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์
  • วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้
  • วันที่ 10 – 12  เป็นวันของเพื่อนและญาติๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน วันที่สิบสามถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย
  • วันที่ 14 ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการฉลองตรุษจีน
  • วันที่ 15 คืนแห่งการฉลองโคมไฟ วันตรุษจีน

ข้อมูล :สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง,th.wikipedia.org

About Author