“มาซูม่าเปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมรับดีมานด์โค้งสุดท้าย มั่นใจเติบโตกว่า 12%” -

“มาซูม่า” เผยปิดปีเติบโตกว่า 12% พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ตอบรับความต้องการของผู้บริโภค นำเสนอนวัตกรรมทันสมัย ในราคาจับต้องได้ ด้วยเครื่องกรองน้ำแบบตั้งโต๊ะ “RO Portable PX-135” และเครื่องทำน้ำอุ่น “MIRACLE BLACK Rain Shower”

นายศรัล ดุรงค์เดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่าย เครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น – น้ำร้อน ตู้กดน้ำดื่ม ระบบจัดการน้ำครบวงจร และเครื่องฟอกอากาศ เปิดเผยว่า “ปัจจัยที่ทำให้มาซูม่ามียอดขายที่เติบโตขึ้น แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย รวมถึงการบริการหลังการขาย ที่เน้นเรื่องความใส่ใจเป็นหลัก ด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญซึ่งผ่านการอบรม มีประสบการณ์อย่างมืออาชีพ พร้อมให้บริการที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปี 2565 นี้ได้เปิดศูนย์บริการเพิ่มที่จังหวัดนครสวรรค์ ส่วนปีหน้ามีแผนเปิดศูนย์บริการเพิ่มในแถบ EEC เช่น ระยอง ชลบุรี ปัจจุบันมาซูม่ามีศูนย์บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วไประเทศ 17 แห่ง โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายศูนย์บริการและทีมช่างอย่างต่อเนื่องปีละ 1 – 2 แห่ง เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น”

“นอกจากนี้ยังเปิดตัวสินค้าใหม่ คือ “RO Portable PX-135” เครื่องกรองน้ำแบบตั้งโต๊ะ 4 อุณหภูมิ ดีไซน์สวยทันสมัย สามารถเลือกปรับอุณหภูมิน้ำร้อนได้ตามต้องการเพียง 3 วินาที ใช้งานง่ายเพียงแค่เสียบปลั๊ก หมดปัญหาเรื่องการต่อท่อเดินสายน้ำ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกและความสวยงาม เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน ผู้สูงอายุ ผู้ที่ต้องการใช้ทั้งน้ำกรองและน้ำร้อน หรือใช้สำหรับชงนมให้เด็ก”

“ในส่วนของเครื่องทำน้ำอุ่น นำเสนอ “MIRACLE BLACK Rain Shower” ที่ได้เพิ่มกำลังไฟเป็น 5,500 วัตต์ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานของเรนชาวเวอร์ ตอบโจทย์ลูกค้าครัวเรือน ไม่ว่าจะบ้านหรือคอนโด ซึ่งเทรนการอาบน้ำด้วยเรนชาวเวอร์กำลังมาแรง เข้าได้กับห้องน้ำทุกรูปแบบ เพิ่มความหรูหราของตัวเครื่องด้วยสีดำด้าน มาพร้อมชุดฝักบัวเรนชาวเวอร์ สามารถติดตั้งและใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเดินท่อเพิ่ม สร้างความคุ้มค่าและตอบโจทย์ความสะดวกไปพร้อมกัน”
“ภาพรวมของมาซูม่าควรเติบโตกว่านี้ แต่ด้วยผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อีกทั้งอัตราการแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทที่อ่อนลง ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบบางตัวสูงขึ้น ซึ่งแผนรองรับสำหรับต้นทุนที่จะสูงขึ้นในอนาคตข้างหน้า คือ มุ่งเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ โดยใช้วัสดุทดแทนไม่ว่าจะเป็นพลาสติก หรือโลหะจากการรีไซเคิลอย่างน้อย 20% นอกจากช่วยลดต้นทุนแล้ว ยังรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”