“เป้-พีค” รวมพลัง “กอล์ฟ-วาววา” ท้าพิสูจน์ความแซ่บ! “เพลงบินใบงิ้ว” ละครอีโรติค2022

พร้อมกับมาออกอากาศแบบจัดหนักจัดเต็มอีกครั้ง สำหรับละครรสจัดจ้านสไตล์ อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 “เพลงบินใบงิ้ว” ละครสะท้อนสถาบันครอบครัว การเริ่มต้นชีวิตคู่ทำยังไงให้ชีวิตรักของครอบครัวไปถึงฝั่งฝัน ผลิตโดย CHANGE2561 ละครที่เป็นมากกว่าละคร จากปลายปากกาของนักเขียนบรมครู “กฤษณา อโศกสิน” การันตีความฮอตฉ่าไม่ดูไม่ได้แล้ว แถมยังเสริมทัพด้วยผู้กำกับงานพรีเมียม “หนุ่ย-ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์” ที่กล้าฉีกกฏการทำละครอะไรใหม่ ๆ ดันให้ “เพลงบินใบงิ้ว” เป็นละครอีโรติคแห่งยุค2022ที่น่าจับตามองอย่างมาก

นำแสดงโดยคู่ขวัญในอดีตอย่าง “เป้-อารักษ์” ที่รีเทิรน์กลับมาร่วมงานกับนางเอกไซส์มินิ “พีค-ภัทรศยา” อีกครั้ง ร่วมด้วยสองนักแสดงมากฝีมือ กอล์ฟ-อนุวัฒน์” และสาวสุดฮอต “วาววา-ณิชชา” ฝีไม้ลายมือแซ่บถึงพริกถึงขิง

และ นางร้ายแอ๊บแบ๊วในตำนาน “จอย-ชลธิชา” นางร้ายสุดปังในยุค5G  “เจนิส-เจณิสตา” พร้อมไฮไลท์เด็ดสะเทือนวงการสายวายคว้าตัว “ซี-พฤกษ์” พลิกมารับบทบาทใหม่บาร์โฮสสุดเร้าร้อน โดยนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ต่างพร้อมใจกันยืนยันว่าละครเรื่องนี้แรงที่สุดในชีวิตการแสดง และเปลืองตัวที่สุด “เพลงบินใบงิ้ว” เตรียมออกอากาศให้ชมกันตอนแรก วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลาใหม่ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น เวลา 21.30 น. (หลังจบรายการ ทุบโต๊ะข่าว) ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34

เรื่องย่อละคร “เพลงบินใบงิ้ว”

บทประพันธ์  : กฤษณา อโศกสิน

บทโทรทัศน์  : วาสุเทพ เกตุเพ็ชร์

                    :  ไพโรจน์ รุ่งธนไพศาล

กำกับการแสดง : ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์

ผลิตโดย : CHANGE2561

ออกอากาศ : อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 ทุกคืนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.30-22.30 น. (เริ่มตอนแรก 8 มกราคม 2565)

เรื่องย่อละคร เพลงบินใบงิ้ว

เมื่อชีวิตคู่ดำเนินไปอย่างผิดฝาผิดตัว การแต่งงานที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวมากกว่าความรัก การแก้ปัญหาด้วยการนอกใจ นำไปสู่เรื่องราวความสัมพันธ์อันเลวร้ายที่ทำให้เขาและเธอตกอยู่ท่ามกลางความแหลมคม ของหนามและใบงิ้วที่รุนแรงและอันตราย

  แนวไพร (เป้-อารักษ์) นักธุรกิจหนุ่มที่กำลังมีปัญหากับยวนตา (พีค-ภัทรศยา) ภรรยาสาวสวยไฮโซของเขา เริ่มแรกนั้น แนวไพรรัก และหลงไหลในความสมบูรณ์แบบของสาวสังคมที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ร้อนแรงของยวนตา การที่ผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งอย่างเขาได้แต่งงานกับยวนตา จึงไม่ต่างอะไรกับการเด็ดดอกฟ้ามาครอบครอง

  ในขณะที่ยวนตาก็มีผู้ชายดี ๆ ที่ร่ำรวยมากหน้าหลายตามาพัวพัน แต่เธอเลือกที่จะแต่งงานกับแนวไพร เพราะรู้สึกว่าเขาแปลกดี และแตกต่างไปจากผู้ชายคนอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามา ความเป็นจริงก็คือยวนตาตั้งใจประชดโยธี (ถา-สถาพร) บิดาผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพลของตน เพราะโยธีพยายามที่จะเข้ามาจัดแจงชีวิตของเธอ และเปลี่ยนแปลงเธอให้เป็นไปตามที่ต้องการ แม้แต่ตั้งใจให้ยวนตาได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ ที่โยธีเลือกให้การแต่งงานกับแนวไพร เป็นสิ่งที่โยธีไม่คาดคิด และไม่พอใจ แต่พอเวลาผ่านไป แนวไพรก็พิสูจน์ตัวเองให้โยธีเห็นว่า เขาเป็นคนจริงจัง และเอาการเอางาน จนโยธีไว้วางใจให้ช่วยดูแลธุรกิจหลายๆอย่าง ขนาดที่โยธีเริ่มรู้สึกดีกับแนวไพรมากกว่าลูกของตัวเอง

ส่วนยวนตา ถึงแม้จะแต่งงานแล้ว แต่ก็ยังคงทำตัวเป็นสาวสังคมเฉิดฉายไปทั่ว ไม่ชอบทำงานเพราะไม่อยากเครียด และเห็นว่ามีแนวไพรคอยช่วยพ่อทำงานอยู่แล้ว ในบทบาทของความเป็นภรรยายวนตายังอยากมีอิสระ ยังคุยๆกับผู้ชายหลายคน โดยที่ไม่สนใจว่าแนวไพรจะรู้สึกยังไง แนวไพรอดทนมานานจนรู้สึกตัวว่า อยากจะหย่ากับยวนตาให้รู้แล้วรู้รอด เพราะรู้สึกว่าชีวิตครอบครัวไม่มีความสุข และขัดแย้งกันตลอดเวลา แนวไพรอยากมีลูก แต่ยวนตาไม่อยาก ยวนตาชอบไปเที่ยวปาร์ตี้กินเหล้าจนดึกดื่น ทุกอย่างในชีวิตดูไม่ตรงกันไปหมด

                ส่วนอีกหนึ่งครอบครัว เปลแก้ว (วาววา-ณิชชา) หญิงสาวสดใส อ่อนต่อโลก เนื่องจากถูกมารดาเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมราวไข่ในหิน ตกหลุมรัก จอมทอง (กอล์ฟ-อนุวัฒน์) อย่างง่ายดาย นอกเหนือไปจากความเฉลียวฉลาดและมีเสน่ห์แล้ว จอมทองยังเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้ามาในโลกใบแคบ ๆ ของเปลแก้ว ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าเขากำลังพาเธอออกไปเจอกับอิสรภาพ หลังจากถูกมารดากำหนดกรอบชีวิตมาให้ตลอดมา โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าภายใต้หน้ากากที่ดูดีของจอมทองนั้นแฝงไว้ซึ่งความเจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัว เพราะว่าจอมทองต้องการแต่งงานกับเธอก็เพียงเพื่อหวังทรัพย์สินเงินทอง

                จอมทองหลอกล่อ นางเกษร (ดี้-ชนานา) มารดาของเปลแก้วด้วยภาพลักษณ์และโปรไฟล์ของการเป็นทนายความอนาคตไกล จอมทองใช้ความรู้และอาชีพด้านกฎหมายช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของนางเกษรจนทำให้เธอได้ผลกำไรขึ้นมาอย่างพอกพูน เกษรจึงเห็นดีเห็นงามว่าจอมทองจะช่วยดูแลเปลแก้วได้ การแต่งงานของทั้งคู่จึงเกิดขึ้นด้วยความพึงพอใจจากทุกฝ่าย มีเพียง กัทลี (จอย-ชลธิชา) ลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของเปลแก้วที่รู้สึกได้ถึงความไม่น่าไว้ใจของจอมทอง และก็ยังมี แสงนวล (เจนิส-เจณิสตา) อดีตคนรักของจอมทองที่ไม่เห็นด้วยและเป็นทุกข์กับการแต่งงานครั้งนี้

             แสงนวล นางแบบสาวที่ชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เป็นนางร้ายที่ไม่ค่อยมีใครจ้างคบหากับจอมทองมาก่อนเป็นเวลานาน เธอรักจอมทองมากแม้ว่าจอมทองเหมือนจะไม่ได้จริงจังอะไรกับเธอนักก็ตาม ดังนั้น ทันทีที่จอมทองมาบอกกับเธอว่าเขากำลังจะแต่งงานกับเปลแก้วด้วยเหตุผลของความเหมาะสม จึงทำให้แสงนวลรับไม่ได้ แสงนวลบุกไปหาทั้งคู่ที่งานแต่งงานเพื่อจะแสดงตัวตน แต่ก็ถูก นางบุญจริง (ต้อม-รัชนีกร) มารดาของจอมทองซึ่งดีใจนักหนาที่ลูกชายได้ตกถังข้าวสารขัดขวางเอาไว้ แถมนางบุญจริงยังพูดจาดูถูกแสงนวลจนทำให้เธอยิ่งโกรธจนยอมไม่ได้

                แสงนวลงัดไม้ตายออกมาด้วยการขู่จะฆ่าตัวตายในคืนนั้น ทำให้จอมทองต้องหนีออกมาจากห้องหอเพื่อห้าม เพราะกลัวว่าการตายของแสงนวลจะทำให้เรื่องวุ่นวาย จอมทองไม่รู้จะทำยังไงให้อารมณ์ของแสงนวลสงบลงจึงหลอกว่าเขาจะหาทางหย่ากับเปลแก้วโดยเร็วที่สุดหลังจากได้ทุกอย่างที่ต้องการ คำพูดของจอมทองทำให้แสงนวลมีความหวัง

                เปลแก้วรู้สึกแปลกๆ กับพฤติกรรมของจอมทองที่ออกจากห้องหอไปแบบนั้น แต่เธอก็พยายามจะไม่มองในแง่ร้าย จนกระทั่งหลังจากแต่งงานไปแล้ว ทุกอย่างจึงค่อยๆ เปิดเผยออกมาให้รู้ว่าจอมทองไม่ได้รักเธออย่างที่เธอเข้าใจ ชีวิตการแต่งงานของเปลแก้วกับจอมทองจึงดำเนินไปอย่างเย็นชาและขื่นขม แต่สิ่งที่ทำให้เปลแก้วเจ็บปวดที่สุดก็คือการที่ได้รู้ว่า จอมทองมีผู้หญิงอื่น และเป็นผู้หญิงที่มาก่อนเธอจากจุดเริ่มต้นของชีวิตการแต่งงานเหมือนจะมีความสุข จึงเปลี่ยนไปเป็นความทุกข์ คนที่รู้เห็นในความทุกข์ของเปลแก้ว และปัญหาอันเกิดจากจอมทองคือกัทลี แต่ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ฝังรากลึกอยู่ในใจของกัทลีมาตลอดชีวิต การเติบโตมาอย่างเด็กกำพร้า เป็นญาติห่างๆที่เกษรขอมาเลี้ยง เพื่อให้เป็นคนดูแลเปลแก้ว ได้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เปลแก้วได้รับมาเสมอ ซึ่งจอมทองก็รู้จุดอ่อนนี้ของกัทลี จึงแอบเอาใจกัทลีต่างๆ จนทำให้กัทลีปล่อยให้จอมทองทำอะไรกับเปลแก้วโดยไม่คิดจะบอกให้เกษรรู้ แถมยังแอบซ้ำเติมเปลแก้วทุกครั้งที่มีโอกาส

                แนวไพรยังคงคิดอยากทำเรื่องหย่ากับยวนตา และได้รับการแนะนำให้รู้จักกับทนายความรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างจอมทอง จึงปรึกษาจอมทองเรื่องนี้ จอมทองแนะนำแนวไพรว่า ถ้ามีหลักฐานว่ายวนตาแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายอื่น ก็จะทำให้การขอหย่ามีน้ำหนักมากขึ้น อาจจะไม่ถึงกับต้องทำเป็นคดีฟ้องหย่าให้อึกทึกครึกโครม แต่ใช้แค่เป็นหลักฐานในการขอหย่ากันแบบเงียบๆ แบบที่ยวนตาเองก็จะขัดขืนอะไรไม่ได้ แนวไพรไม่รู้จะทำอย่างไร จึงขอให้จอมทองช่วยหาคนสืบเรื่องยวนตา

                ในตอนแรกจอมทองคิดว่าจะช่วยแนวไพร เพื่อหวังค่าตอบแทน แต่พอแนวไพรแนะนำให้รู้จักกับยวนตา จอมทองก็เปลี่ยนความคิดว่า ยวนตาน่าจะให้ผลประโยชน์กับเขาได้มากกว่า ทั้งที่จอมทองแอบให้คนตามถ่ายรูปยวนตากับแจกัน (ซี-พฤกษ์) หนุ่มบาร์โฮสรุ่นน้องที่กำลังเข้ามาทำให้หัวใจของยวนตากระชุ่มกระชวย แต่แทนที่จะเอาหลักฐานนี้ไปบอกแนวไพร แต่จอมทองกลับนำมาต่อรองกับยวนตาว่า เขาจะช่วยปกปิดความลับนี้แต่แลกกับการที่ยวนตาจะสนับสนุนให้โยธีซื้อที่ดินของเกษรกับเปลแก้ว และร่วมทำธุรกิจรีสอร์ทด้วยกัน โดยให้เขาเป็นผู้บริหาร

                ยวนตาตกลง จอมทองจึงบอกแนวไพรว่า หาหลักฐานไม่ได้เพราะยวนตาไม่ได้นอกใจเขา และยังเกลี้ยกล่อมให้แนวไพรประคับประคองชีวิตครอบครัวต่อไปการติดต่อซื้อขายที่ดิน และการทำธุรกิจรีสอร์ทด้วยกันทำให้แนวไพรกับเปลแก้วพลอยได้รู้จัก และสนิทสนมกันไปด้วย แนวไพรรู้สึกอิจฉา จอมทองที่มีภรรยาที่ให้ความรัก และซื่อสัตย์อย่างเปลแก้วต่างจากยวนตาที่ไม่เคยดีกับเขาเลย แต่เมื่อยวนตาได้รับรู้ถึงความชื่นชมที่แนวไพรมีต่อเปลแก้ว ยวนตาก็รู้สึกหมั่นไส้ บวกกับความเป็นคนดีพร้อมของเปลแก้ว ทำให้ยวนตารู้สึกหงุดหงิด เพราะเป็นรูปแบบของผู้หญิงที่ตัวเองไม่อาจเป็นได้

ในขณะที่กัทลีนั้น หลงรักแนวไพรตั้งแต่แรกเห็น และตั้งใจจะทำทุกอย่าง เพื่อให้แนวไพรหันมาสนใจเธอบ้าง โดยไม่สนใจว่าแนวไพรมีภรรยาคือยวนตา และเพ้อฝันไปถึงขนาดว่า แนวไพรจะเป็นคนที่มาทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น จนสามารถที่จะขึ้นมาทัดเทียมผู้หญิงอย่างเปลแก้วหรือยวนตาได้บ้าง ยวนตาพยายามยุยงเปลแก้วให้คิดมากเรื่องการนอกใจของจอมทอง และพยายามทำทุกอย่างที่จะให้เปลแก้วได้เผชิญหน้ากับแสงนวล ด้วยหวังว่าเปลแก้วจะได้ไม่มีความสุขในชีวิตครอบครัว เหมือนที่ครอบครัวของยวนตาเองก็ไม่มีความสุข

                เปลแก้วต้องเผชิญหน้ากับแสงนวล และความจริงที่ว่าจอมทองรักกับแสงนวลมาก่อน รวมถึงจอมทองแต่งงานกับเปลแก้วเพราะผลประโยชน์มากกว่าความรัก แสงนวลอาละวาดราวีเปลแก้วอย่างหนัก ท่ามกลางการจัดฉาก ยุยง และสมน้ำหน้า ของยวนตากับกัทลี ซึ่งร่วมมือกันทำร้ายเปลแก้ว ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจจะร่วมมือกันมาก่อน แต่กลับมารวมกันด้วยเป้าหมายตรงกัน ทั้งที่กัทลีก็ยังจ้องจะแย่งแนวไพรจากยวนตา

                ในขณะที่จอมทองเองก็รู้ตัวว่าจะปล่อยเปลแก้วไปในไม่ได้เพราะเรื่องของผลประโยชน์ ถ้าเลิกกันตอนนี้เขาก็จะต้องเดินออกไปคือมือเปล่าและจะไม่ได้อะไรเลย จอมทองจึงพยายามปรับความเข้าใจกับเปลแก้วด้วยการอ้างว่าเขาไม่ได้รักแสงนวลแล้ว แต่แสงนวลยังไม่ยอมจบกับเขาเอง จอมทองยืนยันว่าเปลแก้วเป็นผู้หญิงที่เขารัก ในขณะที่แสงนวลเป็นปัญหาที่เขากำลังหาทางแก้ไข

                ทางด้านแนวไพรก็พยายามอดทนและปรับความเข้าใจกับยวนตาเพื่อประคองชีวิตคู่ เขาพยายามจะไม่คาดหวังกับเธอมากไป และปล่อยให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างมีอิสระตามใจต้องการ แต่ยวนตากลับยิ่งได้ใจ เธอเริ่มถลำลึกกับแจกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่ามันคือความผิด เพราะสำหรับเธอแล้ว แนวไพรอาจจะให้ความอบอุ่นปลอดภัยกับเธอได้ แต่แจกันกลับให้ความรู้สึกโลดโผนและชุ่มฉ่ำหัวใจได้มากกว่า และเธอก็เชื่อว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขกับผู้ชายสองคนได้พร้อมกัน

                แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายวนตาจะหลงใหลแจกันมาก แต่สุดท้ายแจกันก็เริ่มเบื่อหน่ายที่ตนเองจะต้องมาคอยเอาใจหญิงสาวรุ่นพี่ แจกันจึงเริ่มตีตัวออกห่าง ทำให้ยวนตายิ่งพยายามจะเอาใจแจกันหนักขึ้นไปอีก นอกไปจากข้าวของต่างๆ ที่เอาไปปรนเปรอแล้ว ยวนตายังถึงขนาดลงทุนทำธุรกิจขายรถหรูให้แจกัน เพียงเพื่อจะให้แจกันยังอยู่กับเธอ

                 นางบุญจริงแนะนำจอมทองว่าให้รีบมีลูกกับเปลแก้ว เพราะลูกจะเป็นเชือกเส้นสุดท้ายที่จอมทองจะใช้หาประโยชน์จากเปลแก้วได้ แม้ว่าจอมทองจะไม่เคยคิดอยากมีลูกมาก่อน แต่ก็เห็นว่าสิ่งที่มารดาพูดนั้นมีเหตุผล จอมทองกับเปลแก้วจึงพยายามมีลูกด้วยกัน แต่ต่างตรงที่เปลแก้วหวังว่าลูกจะเป็นโซ่ทองที่คล้องใจเธอกับจอมทองเอาไว้ และจอมทองกลับคิดแค่ว่าลูกจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้เขาได้ประโยชน์

                 ในขณะที่ความสัมพันธ์ของสองครอบครัวกำลังย่ำแย่ แต่มิตรภาพของแนวไพรและเปลแก้วก็ค่อยๆ พอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษากันและกัน คอยให้กำลังใจกัน จนกระทั่งกลายเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เริ่มมีให้กันโดยไม่รู้ตัว แต่ถึงอย่างไร ทั้งคู่ก็พยายามหักห้ามใจไว้เพราะต่างก็ไม่อยากทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แนวไพรมีความหวังที่จะบอกเลิกกับยวนตา เพราะตอนนั้นเขารู้ใจตนเองแล้วว่ามีความรู้สึกดีๆ กับเปลแก้ว เขาสารภาพรักกับเธอ และขอให้เธอกับเขาไปจัดการปัญหาตัวเองและจะเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน เปลแก้วไม่ปฏิเสธ เธอก็คิดเช่นเดียวกันเขา

                ในขณะที่แนวไพรหมดใจกับยวนตาแล้ว แต่ยวนตากลับต้องการแนวไพรขึ้นมาในเวลานั้น เนื่องจากแจกันเริ่มไปหลงผู้หญิงคนใหม่ เขาจึงทอดทิ้งยวนตาไปอย่างไม่ไยดี เช่นเดียวกับที่โยธีก็เริ่มจะเหลืออดกับยวนตาจนแทบจะตัดพ่อตัดลูก ยวนตาเริ่มสำนึกว่าแนวไพรเป็นสามีที่ดีแค่ไหน ดังนั้น เมื่อแนวไพรประกาศชัดว่าเขาต้องการจะหย่ากับเธอ ยวนตาจึงยอมไม่ได้ และยิ่งรู้ว่าเปลแก้วเป็นสาเหตุที่ทำให้แนวไพรคิดเช่นนั้น ยวนตาจึงประกาศเป็นศัตรูกับเปลแก้วทันที

 เรื่องราวการใช้ชีวิตคู่จาก “ต้นรัก” แปรเปลี่ยนมาเป็น “ต้นงิ้ว” บทสรุปจะจบลงเช่นไร พิสูจน์ความรักร้อนแรงพร้อมกันได้ในละครสะท้อนสถาบันครอบครัวการใช้ชีวิตคู่ “เพลงบินใบงิ้ว” ทุกคืนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.30 น. ( หลังจบรายการทุบโต๊ะข่าว)เริ่มออกอากาศตอนแรก 8 มกราคม 2565 ทาง อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34

คาแรกเตอร์ตัวละคร “เพลงบินใบงิ้ว”

แนวไพร (เป้-อารักษ์)

                นักธุรกิจหนุ่มอายุ 30-35 ปี เป็นคนดี ฉลาด มีความคิด ยึดมั่นในหน้าที่และความรับผิดชอบ เป็นคนจิตใจดี แต่ก็มีอารมณ์ร้อน ตรงไปตรงมา พูดจาตรงเกินไปในบางครั้ง แต่ก็อบอุ่นกับคนรัก  

ยวนตา (พีค-ภัทรศยา)

                สาวไฮโซลูกคุณหนู อายุ 28-30 ปี สาวสวยทันสมัย แพรวพราว มีเสน่ห์ แต่ไม่ชอบทำงานทำการเพราะไม่อยากเหนื่อยและทำอะไรไม่ค่อยเป็น รักอิสระเสรีชอบทำอะไรตามใจโดยไม่สนกรอบเกณฑ์หรือกติกา ไม่ชอบถูกบังคับ และมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม สนใจแต่ความรู้สึกของตัวเอง

เปลแก้ว (วาววา-ณิชชา)

                หญิงอายุ 23-25 ปี เป็นคนใสซื่อ มองโลกในแง่ดี เรียบร้อย ถูกเลี้ยงมาอย่างทะนุถนอมราวไข่ในหิน ทำให้เป็นคนอ่อนต่อโลกและไม่รู้เท่าทันความเลวร้ายของมนุษย์  แต่สุดท้ายก็โดยความจำเป็นบีบบังคับให้ลุกขึ้นเข้มแข็งและต่อสู้

 จอมทอง (กอล์ฟ-อนุวัฒน์)

                ทนายความหนุ่มอายุ 30 ปี รูปหล่อ บุคคลิกดี ฉลาดเฉลียว โก้หรูมีเสน่ห์ แต่ก็ซ่อนความเจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัวเอาไว้ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผลประโยชน์

แสงนวล (เจนิส-เจณิสตา)

                นางแบบและนักแสดงตัวประกอบสาวอายุ 25 ปี สวย เซ็กซี่ เปิดเผย และกล้าได้กล้าเสีย สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะผิดแค่ไหนก็ตาม

แจกัน (ซี-พฤกษ์)

                เด็กหนุ่มนักศึกษาอายุ 19-20 ปี เป็นคนรักสนุก ใช้ชีวิตล่องลอยไม่มีอนาคต ไม่ชอบการถูกบังคับ เชื่อมั่นในเสรีภาพของตัวเองจนไม่แคร์ว่ามันจะสร้างความเดือดร้อนให้ใคร รักความสะดวกสบายและวัตถุนิยม

กัทลี (จอย-ชลธิชา)

                หม้ายสาวอายุ 30-35 ปี ภายนอกเหมือนเป็นคนดี แต่ซ่อนความร้ายลึกไว้ภายใน เป็นคนขี้อิจฉา ไม่ชอบเห็นคนอื่นดีกว่า หรือมีความสุขกว่า

นายโยธี (ถา-สถาพร)

                เจ้าสัวกิจการพันล้าน มีทั้งอำนาจและอิทธิพล เป็นคนคิดทุกอย่างด้วยผลประโยชน์ บริหารครอบครัวเหมือนบริหารบริษัท รักและตามใจลูกจนลูกเสียคน

นางเกษร (ดี้-ชนานา)

                ผู้หญิงที่ต่อสู้กับความยากลำบากจนสามารถตั้งตัว มีฐานะมั่งคั่ง จริงใจ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม รักลูกมาก ทำทุกอย่างเพื่อความสุขของลูก

นางบุญจริง (ต้อม-รัชนีกร)

                แม่ผู้เห็นแก่ตัว ติดการพนัน ใช้เงินเปลือง ชอบเรียกร้องให้ลูกทำทุกอย่างให้สุขสบาย ไม่สนว่าลูกจะลำบากแค่ไหน คิดถึงแต่ตัวเอง 

About Author