จุกอก! ดาบตร.ร่ำไห้เผย “แอม” ส่งยาลดน้ำหนักให้ภรรยา ก่อนเสียชีวิตต่อหน้าลูกอายุ 5 ขวบ และ 1 เดือน

จุกอก! ดาบตร.ร่ำไห้เผย “แอม” ส่งยาลดนน.ให้ภรรยาก่อนเสียชีวิตต่อหน้าลูกอายุ 5 ขวบ และ 1 เดือน ร้องหาสามีช่วยสุดทรมาน อัยการเปิดข้อกม. ประหารไม่ได้ เพราะท้อง! 

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 28 เม.ย. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เกาะติดเหตุการณ์ที่ “แอม สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์” ผู้ต้องหาวางยา “ก้อย ศิริพร ขันวงษ์” จนเสียชีวิต ขณะปล่อยปลาที่ท่าน้ำ บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ต่อมาพบว่ามีอีกนับสิบศพเชื่อมโยง ล่าสุดมีศพโผล่เพิ่มเป็นแม่ลูกอ่อนที่รู้จักกับแอมด้วย

โดยวันนี้สัมภาษณ์เปิดใจ ดาบตำรวจนิติพนธ์ นุชิต สามี หนิม แม่ลูกอ่อนผู้เสียชีวิต ,คุณยายเพ็ญ คุณยายแด้ สุทธิศักดิ์ ผู้เสียชีวิต และเป็นสามีแอม , ดล เพื่อนแด้, ภาคภูมิ สามีนิตยา ผู้เสียชีวิต, สิงโต หัวหน้างานนิตยา , รพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเรื่องนี้ และอ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน  

เรื่องนี้น่าตกใจ ผู้เสียชีวิต 13 ท่านในสำนวนตร. มีคุณฟ้า, คุณบี, คุณนุ้ย, จุ๋ม, เอ๊ะ, คุณแด้, คุณปู, คุณก้อย, พี่น้อยผัก, ครูอ๊อด, คุณต่าย, คุณนิต วันนี้ขอพูดคุยในส่วนคุณนิตยา เกิดอะไรขึ้นกับคุณนิตยา?

ภาคภูมิ : วันที่คุณนิตยาเสียชีวิต วันนั้นผมก็ยังคอลคุยกันอยู่ แต่อยู่กันคนละที่ คุณนิตยาอยู่นครปฐม ผมทำงานอยู่ชลบุรี ตอนเช้ามาก็โทรหาเขาไม่รับสาย โทรติดแต่ไม่รับสาย วันนั้น 23 ส.ค. 63 กระทั่งบ่ายโมงมีเพื่อนร่วมงานโทรมาบอกว่าคุณนิตยาเสียชีวิต จากนั้นผมก็ขับรถมาจากชลบุรี เพื่อหาคุณนิตยาที่รพ. ตอนนั้นยังเยี่ยมไม่ได้ รพ.ห้ามเข้าไปดูร่างภรรยา เพราะเขาบอกว่าจะรอผ่าชันสูตรศพก่อน จากวันที่ 24 ถึงได้ไปรับร่าง ตอนที่รับร่างก็เห็นสภาพศพมีอาการบวมเกิดขึ้นมา หน้าตาคล้ำ ดำเหมือนองุ่น เล็บเขาห่อ ทำให้ไม่เห็น เห็นแต่หน้า ปากก็ดำคล้ำหมดเลย

คุณติดใจมั้ยตอนนั้น?

ภาคภูมิ : มีติดใจตอนเข้าไปห้องพักที่เขาเสียชีวิต มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเอารูปมาให้ดู เห็นรูปคือนอนคว่ำในห้องน้ำ มีเลือดออกจากปาก ออกจากทวารไหลออกมา ปกติคนเสียชีวิตจากหมดสติ มันไม่มีพวกเลือดอะไรออกมา ก็ต้องรอผลชันสูตรจากรพ. ผลออกมาคือระบบไหลเวียนโลหิต ขาดออกซิเจน

ภรรยาเป็นลูกน้องพี่สิงโต เหตุการณ์ย้อนหลังไป ส.ค.ปี 63 เกิดอะไรขึ้น?

สิงโต : ปกติน้องเป็นคนเงียบ ๆ เวลาให้ข้อมูลกับใครจะไม่ตรง สามคนจะให้ข้อมูลคนละอย่าง เริ่มแรกทีเดียว ผมเห็นน้องมีผู้หญิงเข้ามาหาในไซต์งาน ผมไม่รู้จักชื่อ แต่จำหน้าได้

ขึ้นภาพคุณแอม?

สิงโต : คนนี้แหละครับ บุคลิกเปลี่ยนไป ตอนนี้กับตอนนั้นห่างกัน 3 ปี รู้สึกบุคลิกเปลี่ยนไป ตอนนั้นผอมกว่านี้

ตอนนี้เขาตั้งท้อง?

สิงโต : ตอนนั้นไม่ได้ดูราศีขนาดนี้ เขาเดินพุ่งเป้ามาหานิตยา ติดต่อกับคุณนิตยาอาจเป็นแชร์ เพราะนิตยามีวงแชร์ที่ไม่จบ นิตยาเป็นเท้าแชร์ มือแรกเป็นของเท้าแชร์ มือสองเป็นของลูกแชร์ แต่เปียมาแล้วไม่ได้ส่ง หมุนเงินไม่ทัน แกก็มายืมเงินผม ร้องห่มร้องไห้ว่ามีปัญหา ผมก็ให้ยืมไป 4 หมื่น พอเริ่มจาก 4 หมื่น เริ่มสแกนแล้วว่าน้องเอาไปใช้อะไร เขาบอกว่ามีปัญหาด้านการเงิน แต่ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียด บอกว่าเอาเงินไปส่งให้ลูกแชร์บ้างบางส่วน ส่งรถ ส่งอะไร เพราะตอนนั้นคุณภูมิเองไม่ได้งานเป็นหลักแหล่ง ว่างงานอยู่ช่วงนึง อันนี้คุยกันแล้ว เขามีค่าใช้จ่ายคนเดียว ผมเลยให้ไป จากนั้น มีอีกหลายๆ เรื่องเกี่ยวพันกับพวกรถฟอร์จูนเนอร์ รายละเอียดผมทราบ ผมมีข้อมูลว่ารถฟอร์จูนเนอร์ไม่ใช่ของคุณนิตยา สื่อบางช่องบอกว่าเป็นของคุณนิตยา จริงๆ แล้วไม่ใช่ เป็นของญาติผู้ใหญ่คุณนิตยา

คุณนิตยาไปยืมมา?

สิงโต : ไม่ได้ยืมครับ รถคันนี้แกไหว้วานคนรู้จักขับรถไปรับไปส่งแถวลาดพร้าว ไปรับรถคันนี้มาเพื่อเอารถคันนี้มาสวมทะเบียนที่นครปฐม

สวมทะเบียนเพื่ออะไร?

สิงโต : ผมสอบถามไปว่าเอารถราคาประมาณนี้มาสวมทะเบียนเพื่ออะไร น้องไม่มีคำตอบ แต่ผมรู้ว่าเขาทำในราคา 3 พันบาท

สวมทะเบียนในราคา 3 พันบาท แล้วใครเป็นคนทำให้?

สิงโต : จะเป็นผู้หญิงที่ผมรู้จักคนนั้นหรือเปล่า ผมให้คิดเอาเอง ผู้หญิงคนนี้ระหว่างนั้นไปมาหาสู่กันในไซต์งาน ผมเห็นสามสี่ครั้ง เจาะจงมาหาน้องนิตยาเลย ไม่คุยกับคนอื่น ไปคุยกันในที่ลับตา ไม่ใช่ที่เปิดเผย ซึ่งคุยอะไรอันนี้ผมไม่ทราบ

วันที่คุณนิตยาเสียชีวิต?

สิงโต : ก่อนหน้านิตยาเสียชีวิต มีเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่คุณนิตยาบอกว่าจะนำรถส่วนตัวไปจำนำในพื้นที่นครปฐม ผมได้รับคำยืนยันจากเพื่อนนิตยา ที่นิตยาไปบอกเขาว่าจะนำรถไปจำนำในพื้นที่นครปฐม เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ในราคา 1.5 แสนบาท คนพาไปก็ไม่ปรักปรำ แต่ทราบจากคนที่มาบอกกับผม น้องไปบอกยืมเงินเขามา 9.6 พัน น้องจะเอารถไปเข้า ตอนนี้เอาไปเข้าแล้ว ได้เงินสดมาแล้ว 1.5 แสนบาท แต่เป็นเงินสด ไม่ได้เอามาคืนพี่วันนี้ น้องนิตขอเอาเข้าบัญชีก่อน แล้ววันรุ่งขึ้นไปเบิกเงินให้ เย็นวันนั้นคนเป็นเจ้าของหนี้ 9.6 พัน ได้ไปสอบถามน้องนิต พอดีไปเจอคุณที่หน้าเหมือนคุณแอม นั่งคุยกับคุณนิตหน้าหอพัก พี่คนนั้นยืนยันได้ ให้การไปแล้วกับผู้กำกับ ที่นครปฐมเมื่อคืนนี้ ยืนยันได้ว่าคนที่ไปคุยกับน้องนิตยา คือบุคคล คนนี้ ผมไม่เอ่ยชื่อ จากนั้นพอคุยแล้ว น้องนิตยาได้วิดีโอคอลมากับเพื่อนอีกคน ซึ่งเป็นรุ่นน้องผมว่าขณะนี้อยู่ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง โดยมีเพื่อนผู้หญิงชักชวนให้มา ตัวเองไม่ได้เต็มใจมา เหมือนวิดีโอคอลมาให้เพื่อนไปรับ แต่เพื่อนคนนี้ไม่ได้ไปรับเพราะติดธุระ

ผู้หญิงที่ชวนไปคือใคร?

สิงโต : ไม่ระบุชื่อครับ ผมไม่ทราบครับ

ใช่คุณแอมมั้ย?

สิงโต : อาจเป็นไปได้ แต่ผมไม่ยืนยันครับ วันนั้นที่วิดีโอคอลเสียงดังมาก น้องวิดีโอคอลมาบอกว่าโดนบังคับมา ไม่ได้อยากมาเท่าไหร่ มาทราบข่าวอีกทีวันรุ่งขึ้น ห้าโมงเช้าก่อนคุณภูมิ เพื่อนที่อยู่ห้องข้างกัน แม่บ้านไปเปิด ไปเคาะห้อง มีคนมาตามบอกเป็นญาติคุณนิตยา ปลุกคุณนิตแล้วไม่ปลุกไม่ฟื้น แจ้งแม่บ้านว่าเป็นญาติให้ไปเปิดห้องให้ แม่บ้านก็เคาะห้อง ช่วงที่เคาะคุณนิดไม่ตอบ แม่บ้านเลยเอากุญแจจากเจ้าของหอมาไข พอเปิดประตูไปมีโซ่ล็อกไว้ข้างใน เรียกอยู่สักพักไม่เปิด เจ้าของหอเลยอนุญาตให้งัด เปิดประตูเข้าไปพบศพคุณนิตในสภาพโก้งโค้งอยู่ข้างโถส้วม ลักษณะเหมือนพุ่งไปอาเจียน แต่วูบไปก่อน เหมือนศีรษะพุ่งเลยโถไป ตัวถูกบีบ แขนโดนทับ ศพที่คุณภูมิบอกเห็นมือเขียวๆ ตอนแรกเข้าใจว่าปากอาจกระแทกโถ เลยมีรอยช้ำเขียว ไม่ได้สันนิษฐานว่าอาจโดนวางยา

มีเลือดออกใช่มั้ย?

สิงโต : ออกทุกจุดครับ ทวารทั้ง 7 ตอนแรกเข้าใจว่าน้องกลุ้มใจในหนี้สินหรือเปล่า อาจทานยาฆ่าตัวตาย แต่ลักษณะที่ไปเจอ คือน้องใส่ชุดนอนในสภาพพร้อมนอน เป็นชุดสบายๆ ลำลอง โทรศัพท์ชาร์ตอยู่ ไม่ได้ปิด ไม่ใช่ลักษณะคนฆ่าตัวตาย

ทำไมถึงคิดว่าน่าจะมีส่วนเชื่อมโยงถึงแอม?

สิงโต : หลังจากพอได้เงินก้อนนั้น ผมเข้าใจเองนะ เย็นคุณแอมไปนั่งคุยกับคุณนิตหน้าหอ มีคนยืนยันว่าเป็นคุณแอมแน่นอน ตกคืนนั้นไปเที่ยว เข้ากับเคสทุกเคสที่ผ่านมา พอได้เงินพาไปเที่ยว บางท่านพาไปทำบุญ อันนี้ผมไม่รู้น้องได้รับสารอะไรมาระหว่างดื่มหรือเปล่า

เงินที่ได้มา 1.5 แสน?

สิงโต : ไม่มีเลย

ภาคภูมิ : ไม่เข้าบัญชีอะไรสักอย่าง

แต่เขาบอกจะเอาเข้าบัญชี?

สิงโต : ใช่ น้องบอกคนที่ให้น้องยืมเงินไป 9.6 พัน น้องบอกว่าน้องนำรถไปเข้าจำนำไว้ราคา 1.5 แสน พรุ่งนี้จะใช้คืนพี่ แต่ขอนำเข้าบัญชีสักวันนึงก่อน

แต่ไปดูในบัญชี ไม่มีเงินเข้า?

ภาคภูมิ : ไม่มีครับ

เงินแสนห้าหายไป แล้วรถล่ะ?

ภาคภูมิ : รถอยู่กับที่เขาจำนำ หลังงานศพเสร็จเรียบร้อย คุณแอมก็โทรมาบอกว่ารถที่เอาไปจำนำ เขารู้จัก ถ้าจะเอารถคืน ต้องเอาเงิน 1.5 แสนไปไถ่คืนมา ผมก็เอาเงิน 1.5 แสนไปไถ่ออกมา

วันงานศพ แอมไปมั้ย?

ภาคภูมิ : ไม่ไปครับ

มาฝั่ง คุณหนิม เรื่องเกิดอะไรขึ้น?

นิติพนธ์ : หนิมกับแอม แล้วก็จอย เป็นสมาชิกวงแชร์ออนไลน์ด้วยกัน เท้าแชร์เป็นใครไม่ทราบ วงแชร์ชื่ออะไรไม่ทราบ ต่อมาวงแชร์ล้มไป จึงเกิดการรวมตัวระหว่างหนิม แอม จอย เพื่อนัดเจอกัน เพื่อไปติดตามทวงหนี้วงแชร์ รู้จักกันตรงนี้ เมื่อประมาณปี 59-60 พอเริ่มรู้จักกันปุ๊บ ก็พาผมไปทำความรู้จักด้วย ตัวผมกับหนิมจะใช้คำเรียกว่าป๊ากับม๊า ป๊า ม๊ามีผู้หญิงคนนึงอยากให้รู้จัก ชื่อพี่แอม เป็นภรรยานายตำรวจที่นครปฐม นิสัยดีมาก ผมก็โอเค ได้ ก็พากันไปพบแอมที่นครปฐม ร้านกุ้งภูเขาไฟ พอไปพบก็ทำความรู้จักระหว่างเพื่อนใหม่ แนะนำตัวเอง อาชีพ อายุ เวลานั้นเท่าที่จำได้ การพูดคุยเป็นลักษณะของการแนะนำตัวเองว่าชื่อแอมนะ เป็นภรรยานายตำรวจ เป็นนักเรียนนายร้อยด้วย ป๊าก็เป็นตำรวจเหมือนกันใช่มั้ย ถ้ามีอะไรจะให้ช่วยเหลือก็บอกได้นะ พี่เนี่ยช่วยเหลือได้ จะช่วยเต็มที่ ตอนนี้เรามาช่วยกันตามทวงหนี้ที่วงแชร์เขาโกงไป

หลังจากนั้นมีการกู้ยืมเงินกันด้วย?

นิติพนธ์ : ใช่ครับ นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมพบหน้าแอมตัวเป็น ๆ ครั้งที่สองที่นัดพบหน้ากันเป็นโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขารามอินทรา มีผม หนิม ลูกชายคนโตที่ชื่อลีโอ จอย แฟนจอย แอม เป็นการสังสรรค์กระชับมิตรทั่วๆ ไป จากนั้นก็แยกย้ายกันไป ผมกับแฟนทำงานที่กรุงเทพฯ ต่อมาพ่อของแฟนป่วยเป็นโรคหัวใจ แฟนลาออก แฟนทำงานธนาคารกรุงศรีฯ ก็ลาออกจากธนาคาร ไปดูแลพ่อที่เป็นโรคหัวใจ จนพ่อเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจไป น่าจะปี 61 ครับ แฟนก็บอกว่าม๊าคงไม่กลับกรุงเทพฯ แล้วนะ ป๊าหาทางย้ายมามุกดาหารแล้วกัน ม๊าจะรอที่มุกดาหาร หางานทำที่มุกดาหาร งานก็ไม่ค่อยมีหรอกครับ ต่างจังหวัดงานหายาก แต่สุดท้ายก็ได้งานประจำเป็นพนักงานขายบัตรเครดิตที่โฮมโปรของกรุงศรีฯ ทำได้สักพักก็บอกกับผมว่าป๊า อยากได้ลูกสาวใช่มั้ย เดี๋ยวจะมีให้ ก็ตั้งครรภ์ปี 63 ปี 63 เขาทำยอดบัตรเครดิตไม่ค่อยได้ เลยลาออกมาอยู่บ้านมุกดาหาร ด้วยความเป็นห่วงภรรยาเลยกู้สหกรณ์ตร. ถอนเงินฝากสหรกรณ์ตร. รวมกันแล้วได้ 1.4 แสน ก็โอนให้ภรรยาเอาไว้ใช้จ่ายระหว่างไม่มีงาน ภรรยาบอกว่าจะขอไปลงทุนออนไลน์ จะไปรับผลไม้กระป๋องราคาถูก รับอาหารแห้งราคาส่งมาขาย คราวนี้ระหว่างตั้งครรภ์ จนเดือนพ.ย. เขาคลอดลูกสาว 1 เดือนแล้ว เขามีลูกสาวให้จริงๆ

คลอดลูกนานแค่ไหนถึงมีเหตุ?

นิติพนธ์ : 1 เดือนครับ คลอดปุ๊บ ผมก็รวบรัดตัดตอนเลยแล้วกัน ภรรยาก็อยู่บ้าน วิดีโอคอลคุยกับคนนั้นคนนี้ เพื่อนๆ ก็ทักว่ายินดีด้วยได้ลูกสาวน่ารัก ระหว่างนั้นผมก็วิดีโอคอลคุยกับแฟนบ่อยๆ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบทั่วไป จนมีวันนึง เขาบอกว่าป๊า พี่แอมจะส่งยาลดน้ำหนักมาให้นะ พอดีม๊าไปบ่นว่าอ้วนจังเลย อยากลดน้ำหนัก พี่แอมเขาเลยจะส่งยาลดน้ำหนักมาให้ ยาตัวนี้ดีมาก หนิมกินยาของพี่นี่แหละ เขาส่งมาให้วันที่ 23 พ.ค.63

ปรากฏว่ายาที่ส่งมาให้ ในไลน์ที่คุยกับแอม คุณหนิมบอกว่ามันเยิ้มแล้วพี่แอม กินไม่ได้ มีทั้งแบบแคปซูล และมีลักษณะเป็นเม็ดใสๆ มันเยิ้มรวมกันหมดเลย มีการโทรศัพท์หากัน หลังจากนั้นปรากฏว่าแอมส่งยาชุดใหม่กลับมาให้อีกที ในวันที่ 25 พ.ย. 63 มีการส่งเลขพัสดุส่งให้ ถูกส่งไลน์วันที่ 25 พ.ย. 63 วันเดียวกัน คุณหนิมทานยาตัวนี้มั้ย?

นิติพนธ์ : ผมไม่แน่ใจตรงนี้ จริงๆ เรื่องพวกนี้ผมเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง หลังจากไปเปิดมือถือของแฟนดู ไม่เคยเปิดดูมาก่อนเลย บทสนทนาที่ผมเล่าให้ฟังเป็นหลายๆ เรื่องที่วิดีโอคอลคุยวันนั้น แต่มีอีกเรื่องนึงที่วันนั้นแฟนเล่าให้ฟังว่าพี่แอมจะส่งยามาให้นะ ซึ่งผมได้ยินก็ไม่ได้เอะใจอะไร

25 พ.ย. 63 เชื่อว่าคุณหนิมทานยาชุดนี้ และเสียชีวิตวันนั้นเลย?

นิติพนธ์ : ครับ เสียชีวิตวันที่ 25 พ.ย. 63

คุณหนิมเสียชีวิตกี่โมง?

นิติพนธ์ : วิดีโอคอลครั้งสุดท้ายคือห้าโมงเย็น แล้วหนิมบอกว่าเขาขอวางสายก่อนนะ รู้สึกเหนื่อย เพลีย จะอาบน้ำเร็วและพักผ่อนเร็ว ผมก็โอเค วางสายไป ต่อมาไม่นาน ประมาณทุ่มครึ่ง ผมวิดีโอคอลบ่อยมาก เพราะตอนนั้นอยู่คนเดียว เขาไม่รับสาย ผมเลยวิดีโอคอลหาลูกชายคนโต ตอนนั้นอายุ 5 ขวบ ลูกชายรับสาย ผมก็ถามว่าลีโออยู่กับใคร ม๊าอยู่ไหน ลีโอบอกว่าม๊าร้องไห้คิดถึงป่าป๊า ก็ขอดูหม่าม๊าหน่อย ลูกชายหันกล้องไป ภาพที่เห็นคือเตียงนอนมีลูกสาวคนเล็กหลับอยู่บนที่นอน ลูกชายคนโตนั่งเล่นมือถือ ส่วนภรรยานอนอยู่ปลายเตียงในลักษณะนอนตะแคงคว่ำหน้า ความเข้าใจเดิมคิดว่าอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า อยากนอนหลับพักผ่อน แล้วข้อมูลที่ลูกชายบอก สีหน้าเขายิ้มแย้มแจ่มใสตามประสาเด็ก เขาไม่รู้อะไร เขาคิดว่าแม่ร้องไห้เพราะคิดถึงป๊า ผมก็คิดว่าเขาอยู่คนเดียว อาจเหนื่อยให้นมลูก ทำงานบ้าน และอาจคิดถึงผมจริงๆ เลยร้องไห้ และผล็อยหลับไป นั่นคือที่ผมเข้าใจ ณ ตอนนั้น

นั่นคือความเข้าใจตอนนั้น แต่จริง ๆ คืออะไร?

นิติพนธ์ : ผมวางสายไป จนถึงทุกวันนี้ ผมยังคิดเสมอว่า…(ร้องไห้) ผมช่วยเหลือเขาช้าไปหรือเปล่า (ร้องไห้) อีกครึ่งชม. ผมวิดีโอคอลไปหาลูกชาย เขายังอยู่ท่าเดิม ทำให้ผมรู้ว่ามันเกิดเหตุผิดปกติขึ้นแล้ว ผมเลยรีบโทรหาเพื่อนบ้าน ให้รีบมาดู ภรรยาผมน่าจะเป็นลม หมดสติ ให้รีบมาดูหน่อย เขามาเคาะประตูหน้าบ้าน ลูกชายคนโตไปเปิดให้ เข้ามาพบว่าภรรยาผมนอนอยู่ท่าเดิมไม่กระดิก จับหมายขึ้นมาพบว่าปากเขียวนิ้วมือเขียว จากนั้นจึงรีบเรียกรถพยาบาลมารับตัวไป ผมรีบนั่งรถจากกรุงเทพฯ มาที่มุกดาหาร ระหว่างทางคุยกับรพ.ว่าภรรยาเป็นยังไงบ้าง หมอบอกว่าต้องอธิบายอย่างนี้นะคะ หมอได้รับตัวผู้ป่วยมาและทำการช่วยเหลือยื้อชีวิตสุดความสามารถแล้ว (ร้องไห้ จนหนุ่ม กรรชัยจับมือปลอบ)

จริง ๆ แล้วเข้าใจความรู้สึกพี่นิติพนธ์ สิ่งที่พี่พยายามพูดออกมา เชื่อว่าพยายามพูดให้ดีที่สุด เล่าเรื่องราวให้ดีที่สุด แต่ในใจพี่รู้ว่าไม่ไหว เจ็บปวดกับสิ่งที่เล่าออกมา แต่พี่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม?

นิติพนธ์ : ใช่ครับ ตั้งแต่วันนั้น จนไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเข้าใจว่าแฟนผมจากไปด้วยเรื่องสุขภาพ หัวใจล้มเหลว เหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก และภาวะคลอดลูกตอนอายุ 40 ผมเข้าใจอย่างนั้นมาตลอด จนไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ผมเห็นข่าวว่าแอมตกเป็นผู้ต้องสงสัยวางยาเท้าแชร์ คุณก้อย และคนอื่นๆ อีก ทำให้ผมสงสัยว่าความเชื่อที่ผมมีมา มันชักจะไม่ใช่ความจริงแล้ว

วันนั้นเด็กไม่รู้เรื่องอะไร นั่งอยู่กับแม่ ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไร แต่เชื่อว่าแม่จากไปแล้ว น้องสาวเพิ่งคลอดได้เดือนเดียว ไม่รู้เรื่องอะไรเลย มันหดหู่จริง ๆ ถ้าใช่เกิดจากฝีมือคนนี้ โอ้โห มันบีบหัวใจ ผมทำเรื่องนี้มา 4 วันเต็ม ๆ ได้คุยกับญาติ ๆ ผู้สูญเสีย มันทรมานจริง ๆ พี่รพีเองเป็นไง พี่ตามเรื่องทั้งหมด?

รพี : ตอนแรกผมเหนื่อย แต่ผมเห็นเคสของพี่เขา ผมไม่เหนื่อยแล้ว (ร้องไห้)

มุมคุณยาย แด้เป็นหลานยาย ยายไม่เคยออกมาพูด ยายคิดว่าแด้ถูกฆ่ามั้ย?

ยายแด้  : คิดค่ะ เพราะการตายไม่ปกติ มาวันแรกหน้าเขียวคล้ำ เล็บเขียว แด้เป็นคนมีสุขภาพดีมาก ไม่เคยเจ็บไข้ ไม่เคยปวดหัวตัวร้อนเข้ารพ. เข้าครั้งนึงถูกรถชน ครั้งที่สองไปผ่าริดสีดวงทวารแค่นั้น เขามีโรคแค่นั้น โรคหอบ โรคไอไม่มี เขาเป็นคนสุขภาพแข็งแรงมาก จู่ๆ มาเมียเขามาบอกว่าแม่ ล้มในห้องน้ำตาย ไปทานอาหารมาแล้วอ้วก เขาก็พาไปที่ปั้ม แด้ขอไปล้างตัว มันอ้วกมาจากในรถ เมียเขาเล่านะ

เมียคือแอม?

ยายแด้ : แอมเขาเล่า ยายไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น ยายไม่เคยไปที่อุดรฯ เขาเป็นคนเจ้าชู้ มีเมียก็ไปอยู่กับเมียคนนั้น คนนี้ไปเรื่อย ๆ

แอมมาแสดงตัวเป็นภรรยา?

ยายแด้ : ใช่

แล้วเด็กในท้องล่ะ?

ยายแด้ : เขาบอกเป็นลูกของแด้ เพิ่งรู้วันที่สามีเขาตายแล้ว

ทำไมเพิ่งรู้วันนั้นว่าเป็นลูกของแด้หลังแด้ตายไปแล้ว?

ยายแด้ : แอมเขามาบอกว่ายาย หนูท้องสามเดือนนะ เขาไม่ได้ขออะไร เพียงแต่บอกว่าลูกเป็นลูกของแด้ ทอง สร้อยคอ 5 บาท แหวนหนึ่งวงที่ยายเห็นครั้งแรกของแด้ เขาก็เอาไปหมด ทั้งเงิน โทรศัพท์สองเครื่องเขาก็เอาไป

ทุกเคสต้องหยิบโทรศัพท์ไปหมด?

ยายแด้ : รถเครื่องหนึ่งคัน เขาซื้อเงินสด แต่ใส่ชื่อแอม เพิ่งรู้ทีหลัง แต่เขาบอกว่าซื้อรถเครื่องไว้ให้ลูกน้องขี่ไปทำงาน และดาวน์รถไว้คันนึง แต่ฉันไม่รู้ว่ารถยี่ห้ออะไร ปิ๊กอัพหรือรถเก๋งไม่รู้ เขาเล่าให้ฟังก็ฟัง ไม่ได้ใส่ใจ แม่กับเราก็เลยพูดว่า ถ้าเอ็งมีลูกก็ดูนะ แด้มีสมบัติอะไรบ้าง ก็สอดส่องดูนะ

ตอนนี้สมบัติแด้แอมเอาไปหมดแล้ว?

ยายแด้ : ทุกอย่าง บาทเดียวฉันก็ไม่ได้

ตัวยายคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกแด้มั้ย?

ยายแด้ : ตอนนี้ไม่คิดน่ะสิ เขาไปพูดว่าเขาอยู่บ้านแฟนเก่า ที่เป็นผัวตร. เขาบอกต้องดูแลลูกสองคน ฉันก็ถามว่าแอมรูปภาพที่อยู่หน้าศพ เอ็งจะเอาไปมั้ย เขาไม่เอาไป

แต่เอาทอง?

ยายแด้ : ใช่ เอาหมดทุกอย่าง ยกเว้นรูปภาพ เขาบอกเขายังอยู่บ้านแฟนเขาอยู่ เขาเอาไปไว้ไม่ได้ ยายก็ต้องเอาไว้บ้านยาย แล้วคนแข็งแรง อยู่ๆ ไปล้มเลือดออกปาก ออกจมูก

ยายกลัวอิทธิพลแอม ไม่กล้าให้สัมภาษณ์ตอนแรก ทำไม?

ยายแด้ :   เราเป็นตาสีตาสา ทำมาหากินโดยสุจริต เราไม่คิดคดทรยศใคร เราไม่มีเพื่อนฝูง แล้วเขาพูดตลอดเวลาว่าเขามีผัวเป็นตร.

พอมีประเด็น มีคนไปถึงบ้าน มีคนแปลกหน้าไปเดินแถวบ้าน?

ยายแด้ : มีคนไป หลังเราให้ข่าวไป แต่เราไม่รู้เป็นใคร มันมาส่อง ยายก็กลัว หนีเลย ไม่กล้าเข้าบ้าน ยายไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน เขาขับกระบะมาด้อมๆ มองๆ ถ้าเราออกตอนนั้นเหตุการณ์ไม่แน่นปึกตอนนี้ ความปลอดภัยเราน้อย ต้องเห็นใจนะ

ถ้าเขาทำจริง อาจารย์คิดว่าเขาทำกี่เปอร์เซ็นต์?

ปรเมศวร์ : 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกคดีที่ต้องสอบทั้งหมด เป็นรูปแบบอาชญากรรมที่เขาทำ เป็นมาตรฐานของเขา ตั้งวงแชร์ ชิงเงินฆ่าๆ แล้วจะพบแอมเป็นคนสุดท้ายก่อนตายเกือบทุกคน เป็นรูปแบบ ต้องสอบเหมือนที่บอกเมื่อวาน ต้องให้โจ๊กสอบเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน ว่ารูปแบบเป็นแบบนี้ เพื่อให้ศาลรับฟังได้ แต่โทษที่น่าสนใจ มันวางแผนไตร่ตรองฆ่า มีโทษอย่างเดียวคือประหารชีวิต แต่เอาเข้าจริงๆ เขาไม่ต้องถูกประหาร เพราะหญิงท้องประหารไม่ได้ นี่เป็นจุดน่าสนใจ หญิงใดต้องโทษประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ให้รอจนกว่าจะพ้น 3 ปี นับแต่วันที่คลอด แล้วลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต

นั่นหมายถึงว่าแอมไม่ถูกประหารแน่ ๆ แล้ว?

ปรเมศวร์ : ใช่ ถ้าตามกฎหมายเขียนไว้แบบนี้

ถึงก่อเหตุฆ่าทั้งหมด ประหารชีวิตก็ประหารไม่ได้?

ปรเมศวร์ : ถ้าตราบใดที่ยังท้องอยู่ ถ้าคลอดแล้วต้องรออีก 3 ปี ถ้าอีก 3 ปีลูกยังอยู่ก็ลดโทษเป็นตลอดชีวิต

ข้อกฎหมายข้อไหน?

ปรเมศวร์ : ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 247 มันแก้เมื่อปี 50 เรื่องการปฏิบัติเท่าเทียมของสิทธิสตรี วรรคที่หนึ่งบอกคดีที่จำเลยต้องประหารชีวิต ห้ามไม่ให้บังคับตามคำพิพากษาจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษ คือขออภัยโทษก่อนประหารตามหลักเกณฑ์ วรรคสองหญิงใดต้องประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ให้รอไว้จนพ้นกำหนด 3 ปี นับแต่คลอดบุตร ตอนนี้เขามีครรภ์อยู่ เรามอง 3-4 เดือน คดีนี้กระบวนการยุติธรรมต้องเร่งให้เร็วเสร็จก่อนที่เขาจะคลอดนั่นแหละซึ่งห้ามประหารชีวิต คลอดแล้วก็ต้องรออีก 3 ปี กฎหมายเขียนว่ารอ 3 ปี ถ้า 3 ปีเด็กอยู่ประหารไม่ได้ ให้ลดโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต เหตุผลเพื่อสิทธิเด็กเพื่อเด็ก กฎหมายเขียนแบบนี้ ต้องบังคับเปลี่ยนเลยนะ ผมดูเมื่อคืนโอ้โห เมื่อวานบอกแล้วต้องสอบครบ เรื่องวิกลจริตไม่ต้องมาพูด เพราะเลอะเทอะ วางแผนได้มากมายก่ายกอง โรคจิตที่ใช้ในกฎหมายคือขณะกระทำไม่รู้สำนึก หรือรู้สึก เพราะการกระทำความผิดทางกฎหมายบอกว่ากระทำโดยเจตนา รู้สำนึกและประสงค์ต่อผล พอไปอธิบายมาตรา 65 เรื่องจิตฟั่นเฟือน แสดงว่าขณะทำไม่รู้สำนึกและไม่ได้ประสงค์ต่อผล แต่ถ้ายังพอรู้สำนึกอยู่บ้าง ว่าทำผิดนะ ทำตายนะ ศาลลงโทษได้

การที่คนนึงไปตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกได้ ผมว่าเรื่องฟั่นเฟือนไม่มีหรอก?

ปรเมศวร์ : มันเลอะเทอะจริงๆ อย่าหยิบมาพูดเลย มันทำให้สังคมไขว้เขว เขาตอบคำถามตร.ได้ ส่งน้องไปตรงปล่อยปลาเสร็จขับรถหนีได้ หยิบโทรศัพท์ได้ ไม่ใช่วิกลจริตที่ศาลลดเว้นโทษ ประเด็นนี้ตัดทิ้ง ที่ฝากโจ๊กไปสอบให้ครบทุกคน สอบรูปแบบการกระทำ ที่ทำซ้ำๆ เพื่อให้ศาลเชื่อ ทั้ง 12-13 เรื่องเป็นพยานหลักฐาน แม่ต้องเข้าใจนะไปดำเนินคดีว่าฆ่าลูกแม่ไม่ได้ เพราะใบชันสูตรพลิกศพไม่มี แต่ว่าทุกคดีที่เหลือ นั่นคือพยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะมัดตัวของผู้ต้องหาในคดีนี้ แล้วสองคดีแรก สองคดีหลัง อ.อ๊อดพบแล้วไซยาไนด์ ชี้เป้าเรียบร้อยแล้ว แล้วกล่องยา ก็ใช่ เป็นอย่างนี้ทุกคน

เขาน่าจะส่งยาตัวนี้มา จริง ๆ แล้วแอมหยิบยืมเงินคุณหนิมใช่มั้ย?

นิติพนธ์ : ใช่ครับ เขามีชวนลงทุนแชร์ ชวนลงทุนกู้นอกระบบ โดยหนิมเอาเงินก้อนไปให้เขา เดี๋ยวเขาเอาไปปล่อยเงินกู้เอง ผมรู้หลังจากไปเล่นมือถือของแฟน ถึงได้เห็นข้อมูลพวกนี้ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยระแคะระคายเขาเลย เขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของหนิม ให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาเรื่องหารายได้เสริม เป็นเมียนายตร. เขาจะมีความน่าเชื่อถือตรงนี้

ตัวเงินพอจะทราบมั้ยที่หนิมให้แอมไป?

นิติพนธ์ : หนิมไม่ได้ทำงาน มีเงินผม 1.4 แสน มีเงินจากเอารถไปจำนำ 1.8 แสน มีเงินที่ยืมจากน้องชายหนิมเอง 5 หมื่น มีเงินจากจำนองที่ดินจากมรดกที่ดินพ่ออีกหลักหมื่น ที่ผมรู้หลังจากภรรยาตาย ผมเป็นผู้จัดการมรดกเลยได้รู้เรื่องนี้

ตกเกือบ 5 แสน?

นิติพนธ์ : เมื่อวานนี้ตร.กองปราบได้โทรมาหาผม บอกว่าตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว พบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีหนิมสู่บัญชีแอมรวมๆ แล้วมูลค่า 6-7 แสนบาท  

ปรเมศวร์ : ผมว่ามันชัด รูปแบบคดีมันชัด

ที่ลูกบอกว่าแม่ร้องไห้อยู่ ถ้าสันนิษฐานเอง เชื่อว่าเขาน่าจะเห็นแม่อาเจียน น้ำตาไหล?

นิติพนธ์ : ใช่ครับ ผมว่าน่าจะทรมานพอสมควร หนิมตะโกนเรียกหาผม นี่คือลูกชายวัย 5 ขวบบอก ซึ่งที่น่าเจ็บใจคือเวลานั้นผมคิดว่าแฟนร้องไห้เพราะเหงา เขาอยู่คนเดียวกับลูกสองคน แม่ยายพี่สาวไม่อยู่ ปกติอยู่ด้วยกัน เผอิญวันนั้นไม่มีใครอยู่ มีเขาเสียชีวิตตามลำพังกับลูก

ฟังแล้วปวดหัวใจมาก ๆ ดล รู้จักกอล์ฟมั้ย?

ดล : รู้จักแค่พี่แด้ ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว วันที่ไปเที่ยวพูลวิลล่า วันนั้นเลย 12 ก.พ. นายกอล์ฟโทรมาหาแด้ แด้ก็เปิดโฟน กอล์ฟบอกว่าพี่แด้วันนี้มียอดปล่อยนะครับ เขาก็ถามว่ามียอดเท่าไหร่ เดี๋ยวโอนให้แล้วมึงไปตามเก็บจากคนที่เก็บไม่ได้ด้วยนะ แค่นั้น แล้ววางสายไป

กอล์ฟไปมาหาสู่กับแด้บ่อยมั้ย?

ดล : เป็นลูกน้องที่ไปเก็บเงินให้ครับ แด้จะอยู่ที่บ้านพัก กอล์ฟเป็นคนเอาเงินไปปล่อยลูกค้าและเก็บจากลูกค้ามาตอนบ่าย

รู้จักกบมั้ย?

ดล : ไม่รู้จักครับ

ยายแด้ : ไม่รู้จัก

กบนี่ภรรยาเขาร้องมาที่โหนกระแสเหมือนกัน?

รพี : ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้

ผู้หญิงคนนึงชื่อคุณรุ้ง บอกสามีชื่อกบ กบเป็นเพื่อนแด้ และที่สำคัญสองคนนี้ถูกชักชวนจากแอมให้ปล่อยเงินกู้เหมือนกัน เขาเป็นพ่อค้าขายหมู เขาออกไปข้างนอก ไปเจอแอมเป็นคนสุดท้าย กลับมาแล้วเสียชีวิตในลักษณะปากดำ มีน้ำลายฟูมปาก มีเลือดออก ภรรยาบอกว่าฝั่งแอมชวนเขาไปหาหมอดูเหมือนกัน นี่คืออีกหนึ่งเคสที่ส่งมาหาโหนกระแส ตอนนี้ตร.รับเรื่องแล้ว?

ปรเมศวร์ : น่าจะมีอีก แย่มากนะ

ทีมงานผมขึ้นกระดานไว้ ในมือมีเพิ่มอีก 3 รวม ๆ แล้วเป็น 16 คน แปลกใจข้อกฎหมายที่ออกมาแบบนี้ ไม่ประหารผู้หญิงที่ท้อง ต่อให้คลอดลูกออกมาแล้ว 3 ปี ก็ยังประหารไม่ได้ แต่มุมกลับกัน ภรรยาเขาคลอดลูกได้เดือนเดียว ถูกสังหารไปแบบนี้ ไม่มีอะไรคุ้มครองเขาเลยเหรอ?

ปรเมศวร์ : มันก็พูดลำบากนะ จริง ๆ แล้วมีคำนึงที่ผมมักใช้ คือความผิดจริง กับความผิดตามกฎหมาย มันไม่เสมอกันเลย บางทีเรานึกๆ อยากให้กลับไปใช้แบบเดิม ตาต่อตา ฟันต่อฟัน มันจะได้เกิดการเข็ดหลาบ แต่ว่าทั่วโลกเขาอ้างสิทธิมนุษยชน ถามว่าแล้วใครจะคิดถึงสิทธิของเขาบ้างมั้ย ภรรยาร้องหาเขาให้เขาช่วย มันต้องมานั่งนึกกันใหม่ จะเอายังไงต่อ ผมว่าต้องปรับปรุง กฎหมายเขียนแบบนี้ก็ใช่ แต่ต้องคิดอะไรบางอย่าง ถ้าปล่อยให้สังคมเป็นแบบนี้ ต่อไปห้ามใครไม่ได้แล้วนะ ไม่มีการเข็ดหลาบ

ผมฟังเคสพี่แล้ว ผมช็อก เคสอื่น ๆ เขาอาจเสียชีวิตในขณะอยู่คนเดียว หรือเสียชีวิตอยู่กับใครบางคน แต่ภรรยาพี่ เสียชีวิตอยู่กับลูก 5 ขวบและ 1 เดือน  ทุกวันนี้พี่ยังพูดคุยกับภรรยาอยู่ พูดคุยผ่านทางไหน?

นิติพนธ์ : ทางช่องทางออนไลน์ เฟซบุ๊กเขา เวลาผมลงรูปลูก ลงรูปกิจกรรมทำบุญ ผมก็แท็กเขาตลอด เสมือนว่าเขายังอยู่ (ร้องไห้) ข้าวของเครื่องใช้เขาก็ยังอยู่

ลูก ๆ เป็นยังไงบ้าง?

นิติพนธ์ : ลูกชายตอนแรกไม่รู้เดียงสา แต่พอผ่านไปได้สักเดือนสองเดือน เขาก็เริ่มรู้แล้วว่าการเสียชีวิตคือการจากไปโดยไม่มีการกลับมาอีก เขาก็เริ่มบ่นคิดถึงแม่ (ร้องไห้) เพราะว่าหนิมอยู่กับลูกตลอด ไม่เคยห่าง นอนกอดลูกตลอด ส่วนลูกคนเล็กได้กินนมแม่เพียง 1 เดือน เดือนต่อมาก็กินนมผง ก็มีงอแงบ้างในช่วงปรับเปลี่ยนการดื่มนม

ตอนนี้ใครดูแล?

นิติพนธ์ : ช่วยกันดู หลัก ๆ คือแม่ยาย แม่ยายบอกว่าแม่ทำใจไม่ได้ แม่ขอเลี้ยงหลาน เลี้ยงลูกของหนิม ก็ช่วยเลี้ยงกันมาตลอดกับแม่ยาย แม่ผม และผมครับ

ยายจะเอายังไงต่อไป?

ยายแด้ : แล้วแต่กฎหมาย ยายไม่รู้กฎหมาย เป็นชาวบ้านธรรมดา จะไปสู้รบปรบมือก็ทำไม่เป็น แต่ถามว่าติดใจมั้ย ติดใจมาก พอเปิดศพก่อนเผา ดำไม่มีที่ขาวเลย ดำแบบเสื้อคุณหนุ่มเลย เหมือนใครเอาอะไรดำๆ ไปทาเลย ยายก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับเป็นเดือน ต้องหนีจากบ้าน (ร้องไห้) เพราะยาเลี้ยงเขาตั้งแต่เล็กจนเขาโต เขาจะเลวอย่างไรเขาก็ดีกับยาย (ร้องไห้) ทำใจไม่ได้ ทุกวันนี้ได้แต่มองรูปเขาที่อยู่หน้าศพ ทำไมเอ็งต้องรีบตาย ยายแก่แล้ว ให้ยายตายก่อนได้มั้ย (ร้องไห้) วันที่เผายาวกรีดร้องลั่น พระต้องมาปลอบ ว่ายายถือศีล การเกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดา แต่นี่ไม่ธรรมดา มันตายก่อนวัย ให้เรารักษาสักอาทิตย์เรายังได้ภูมิใจว่าเราได้ช่วยหลาน แต่นี่ดีๆ อยู่ก็ตาย เอาศพมาให้เราทำ เขาไม่ดูแลอะไรเลย นอกจากบอกเราว่า ผัวตายทั้งคน แกเอาตังค์มาบ้างสิ เธอต้องเสียค่าพระให้ผัวบ้าง ผัวตายทั้งคน เราหวังดีกับเขา เขามาทุกวัน สามวันที่ทำศพ เขามาทุกวัน แต่มาช่วงเย็น เราบอกแอมไปจุดธูปเรียกแด้มาสิ เรียกผัวมากินข้าวสิ

ปรเมศวร์ : วันเผามามั้ย

ยายแด้ : มา ทำตัวเป็นปกติ ถามวาเราติดใจมั้ย เราติดใจ แต่เราไม่กล้าออก เรากลัวอิทธิพล เราอยู่กับลูกสาวสองคน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ถามว่าใครจะช่วยได้มั้ย ขนาดเขามาลักของในบ้านไปแจ้งเขาบอกไม่ใช่ซึ่งหน้าจับไม่ได้ ต้องเห็นขโมยลักไปกถึงจับได้ เขาลักของเราไป ตามไปยันบ้าน เอาของมา ตร.บอกจับไม่ได้ ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า สภ.บ้านโป่ง ตอนนี้ฉันอยู่สองคนแม่ลูก แล้วจะให้ฉันเรียกใคร ที่ไม่ออกครั้งแรกเลย อย่าถือโทษยายว่าไม่ร่วมมือนะ

พี่รพีได้กี่เคสแล้วตอนนี้ แล้วจะทำยังไงต่อไป?

รพี : ตอนนี้ผมก็พยายามรวบรวม ไม่ค่อยได้นอน เหนื่อยมา ดูแมสเซสตลอด ตอนนี้ตร.ภูธรภาค 7 ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ที่เกี่ยวกับกรณีคล้าย ๆ การเสียชีวิตในลักษณะแบบนี้ มีแอมมาเกี่ยวข้อง ก็อยากให้ไปที่นั่นมากกว่า และอยากฝากต่อเนื่องจากที่อ.ปรเมศวร์พูด คือหน่วยงานการแพทย์ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข น่าจะออกมาช่วยเจ้าหน้าที่ตร.ดูใบชันสูตร 5 ปีย้อนหลังไป และตีสโคปว่าจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม เคสลักษณะแบบนี้ มีความเกี่ยวข้องกับแอม ควรรีบทำตรงนี้มา ผมเชื่อว่าไม่ได้มีแค่นี้

สามีคุณนิตล่ะ?

ภาคภูมิ : อยากถามเขาว่าจิตใจเขาทำด้วยอะไร ทำไมจิตใจเขาอำมหิตขนาดนี้ ฆ่าคนไม่รู้สึกไม่รู้อะไรเลย อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถึงที่สุดครับ

หัวหน้าล่ะ?

สิงโต : ต้องคืนความยุติธรรมให้คนตายครับ (เสียงเครือ) ฟังแล้วมันจุกอก แม้ไม่ใช่ญาติผม

จากคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่มีชีวิตทำงานแตกต่างกัน แต่ทั้งหมด 16 ครอบครัวอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน คือกินน้ำตาแทนข้าว เป็นเรื่องทรมานหัวใจ การตายบางอย่างมันเกินไปจริง ๆ ไม่ยุติธรรมกับครอบครัวของเขา ไม่อยากจะพูดว่าครอบครัวไหน ทุกคนสูญเสียเหมือนกันหมด พอฟังแล้วบอกตามตรงการที่ผู้หญิงคนนึงเสียชีวิตต่อหน้าลูกตัวเอง พยายามร้องเรียกสามี ทั้งที่สามีทำงานอยู่อีกจังหวัดนึง มันคือวินาทีสุดท้ายชีวิตเธออยู่แล้ว ที่เธอเรียกหาคนที่เธอรัก มันจุกนะ จุกจริง ๆ

ยายแด้ : (ร้องไห้)

มุมอาจารย์มองยังไง?

ปรเมศวร์ : กระบวนยุติธรรมต้องมาแก้ไขใหม่ เรื่องทำแบบง่ายคงไม่ได้ ถ้าคดีแรกที่เกิด แล้วเรารอบคอบกว่านี้ อีก 14 หรือ 15 คน คงจะมีชีวิตอยู่ ที่คุณหนุ่มพูดจริง ไม่ยุติธรรม ถ้าการลงโทษเป็นแบบนี้ แต่จะแก้ไขยังไง ก็ปล่อยให้ผู้ใหญ่บ้านเมืองกลับไปคิดอีกที

ผมเองก็แปลกใจ สงสัย มุมข้อกฎหมาย เป็นสิ่งที่เราต้องเคารพ แต่มุมกลับ ก็ทำให้คนที่สูญเสียเขารู้สึกได้เหมือนกัน อย่างกรณีพี่นิติพนธ์ ลองคิดดู มีข้อกฎหมายคุ้มครองคนท้อง ถ้าประหารงดโทษไม่ประหาร หลังคลอดแล้ว 3 ปี ลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต แต่คนข้างๆ ผม เมียเขาท้องเหมือนกัน คลอดลูกเหมือนกันแค่เดือนเดียว แต่เสียชีวิต ไม่มีใครคุ้มครองเขาเลย อยากพูดอะไร?

นิติพนธ์ : ผมขอแสดงความเสียใจกับคุณนาย และคุณพี่ด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าครอบครัวผู้สูญเสียต้องอยู่ด้วยความโศกความเศร้ามาถึงวันนี้ แล้วไม่รู้จะหายเศร้าเมื่อไหร่ แต่ผมต้องขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน อดทน เฝ้ารอ เฝ้ามองไปด้วยกันครับ ว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ผมขอเป็นกำลังใจให้ผู้สูญเสียทุกคนครับ

ยายแด้ : ขอบคุณมากนะ (ร้องไห้)

รพี : อยากบอกว่าวันนี้กฎของสังคมได้พิพากษากับคนทำพฤติกรรมแบบนี้ไปแล้ว ถึงแม้กฎหมายอาจเอื้อมไม่ถึง สังคมได้รับรู้ และสังคมได้เรียนรู้กับเรื่องนี้ว่า ณ วันนี้ปัจจุบันเริ่มอยู่ยากขึ้น และต้องระมัดระวัง แค่นี้

สุดท้ายไม่มีอะไรจะพูด เสียงร้องไห้ในวันนี้ กับเสียงหัวเราะในวันนั้น หมายถึงใคร คิดดูนะครับ คุณควรต้องออกมาขอโทษญาติผู้เสียชีวิตหรือเปล่า ฝากไว้ด้วย นี่คือเสียงคร่ำครวญของพวกเขาครับ

About Author