ต้น ตระการ ควงภรรยา เปิ้ล อัจฉรา เปิดตัวที่แรก! พร้อมเคลียร์ใจดราม่า แตงโม นิดา เสียชีวิต

นักแสดงมากความสามารถ ต้น ตระการ ที่วันนี้ควงภรรยาคนสวย เปิ้ล อัจฉรา และลูกชายคนเล็ก ต้อง ภาคิณ วัย 4 ขวบ มาเปิดตัวครั้งแรก พร้อมเล่าเส้นทางรักกว่า 13 ปี เคยเลิกกัน เพราะเจอผู้หญิงส่งของสงวนมาให้ อีกทั้งยังพูดถึงประเด็มปมดราม่า แตงโม นิดา เสียชีวิต ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเบนซ์พรชิตาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ

พี่กับภรรยาห่างกัน 14 ปี เปิ้ลไม่เคยออกสื่อเลย?

ต้น : ไม่เคยเลย

ทำไมเปิ้ลมาวันนี้?

เปิ้ล : สามีบังคับมา

ต้น : มันถึงเวลาที่ต้องขายลูก ขายเมียหรือเปล่า (หัวเราะ) พูดเล่น ๆ ก็เหมาะแก่เวลา เราก็คุยกับเขาว่าถ้าเกิดมีรายการติดต่อมาจะออกไหม ก็คือเอาที่เขาสบายใจ

ทำไมตลอดที่แต่งงาน 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยออกรายการเลย?

เปิ้ล : เขินค่ะ เราไม่ได้ถนัดตรงนี้

เราก็คิดว่าสามีหวงกลัวออกสื่อหนุ่ม ๆ มาตามจีบ?

ต้น : ก็ไม่ถึงกับหวง แต่เขาเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยสังสรรค์ ไม่ค่อยอยู่ในวงสังคมอะไรมากมาย เขาสบายๆ 

ขอย้อนอดีตหน่อย พี่ต้นเพิ่งไปงานไว้อาลัยน้องแตงโม มา?

ต้น : ก็ครบรอบ 1 ปีของการจากไป แต่ว่าก็ยังอยู่ในความทรงจำที่ดีของพวกเราทุกคน เพราะเหตุการณ์ของโมเนี่ย เรารู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ แต่ว่าความเป็นจริงเป็นยังไงไม่มีใครรู้ ทางเรื่องคดีความเขาก็ไปว่ากันไป แต่วันนั้นพี่เอ ศุภชัย และพี่ที่รักกับแตงโม สนิทกับแตงโมก็จัดกลุ่มเล็กๆ ก็กังวลเหมือนกัน พอจัดใหญ่เดี๋ยวเป็นดราม่าหรือเปล่า ก็จัดกลุ่มเล็กๆ มีพิธีการทางคริสต์เล็กน้อย พี่เอแกอยากทำแบบที่รู้สึกว่าน้องยังไม่ได้จากไป

พี่บอกว่าไม่อยากจัดงานใหญ่ให้เป็นดราม่า แต่จริง ๆ มันเคยมีดราม่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับพี่?

ต้น : คือน้องคนหนึ่ง คือ กระติก เขาจะต้องไปสถานีตำรวจ กระติก เปิ้ล แตงโม เขาเป็นเพื่อนรุ่น ๆ กัน

เปิ้ล : ก็รู้จักทั้งกระติกและแตงโม ก็จะมาทานข้าวที่บ้าน ปรึกษากันเพราะมีลูกใกล้ๆ เคียงกัน อย่างแตงโม เขาจะดูแลลูกของแตงโม เราก็จะไปมาหาสู่สอง ถามเรื่องวิธีการดูแลลูก เราก็จะคุยกันเรื่อย ๆ 

พี่เป็นเพื่อนสนิทกัน?

ต้น : ก็ไม่ เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เพราะเราเป็นคริสต์เตียนอยู่โบสถ์เดียวกันมีอะไรก็จะปรึกษากัน พอวันนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นมันรวดเร็วมาก เปิ้ลเขาบอกพี่ต้นไปเป็นเพื่อนติกนิดนึง โอเคก็ไป เราก็คิดว่าไปเป็นเพื่อนเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไร ไปเนี่ย เนื่องจากเหตุการณ์นี้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยขึ้นโรงพักแล้วมีคดีความแบบนี้เขาก็กังวล พี่ก็ไปเป็นเพื่อนในฐานะเป็นรุ่นพี่ ไม่ได้คิดว่ามีอำนาจหรือไปช่วยเหลืออะไรได้ ก็ไปเหมือนเป็นพี่เลี้ยงนั่นแหละ

พอพี่ไปปุ๊บมันกลายเป็นคอมเมนต์จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ชั่วข้ามคืน?

ต้น : ไม่คิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิต

เปิ้ลตอนนั้นเห็นไหม?

เปิ้ล : เห็นค่ะ คือเรารู้อยู่ ตอนที่ไป เขาจะมีพี่ที่โบสถ์หลาย ๆ คน คือเขาไม่ได้ไปคนเดียว แต่เขาจะแยกกันทำหน้าที่ ซึ่งเขาเป็นคนที่คุ้นเคยกับสื่อทางโบสถ์เลยให้เขาดูแลเรื่องนี้

ต้น : ในฐานะเป็นพี่เลี้ยงไง

แต่คนข้างนอกเขาไม่เข้าใจ?

ต้น : ในวันนั้นไม่ได้เข้าข้างหรืออะไร ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงอะไร เราไปเพื่อเป็นคนเจรจา พูดคุยกับสื่อ พี่ๆ ที่เข้ามาอยากได้ข้อมูล เพราะว่าการพูด ณ วันนั้นชั่วโมงนั้นมันยังพูดไม่ได้ 1.เรายังไม่รู้ข้อเท็จจริง 2.การพูดไปมันอาจจะเป็นหลักฐานอะไรบางอย่างหรือเปล่าอะไรทำนิงนี้ เราก็ไปเป็นพี่เลี้ยงเฉยๆ แหละ แต่ปรากฏว่าบรรดาโซเชียลทั้งหลาย โอ้โห

ทัวร์ลง?

ต้น : เออ

ทัวร์ลงเรา เรายังเข้าใจ เรายังรับได้ แต่เมียไม่เคยเจอ ตอนนั้นทัวร์ลงหนักไหม?

เปิ้ล : หนักค่ะ มีแบบไดเร็กต์ไอจีมาเลยว่าเนี่ย เธอเป็นเพื่อนกับฆาตกร แล้วสามีเธอรู้ไหมว่าเขานอนกับคนนี้ ไปทางด้านที่ว่าสามีเราเป็นชู้กับเขาหรือเปล่า ส่งมาเยอะ

เรานั่งไล่ลบหรือเรานั่งตอบ?

เปิ้ล : ไม่ตอบอะไรเลยค่ะ มีเอาไปใหพี่ต้นดูด้วย

ต้น : เขาจะไปดูทางหนึ่ง พี่ก็จะดูทางหนึ่ง แล้วก็มีคนส่งมาให้ ส่วนใหญ่คือไม่รู้จัก ส่วนคนที่รู้จักจริงๆ ก็จะพูดคุยถามไถ่ว่าเหตุการณ์เป็นยังไง พี่ก็จะไม่แคร์

คอมเมนต์ที่พี่ว่าหนักคืออะไร?

ต้น : มันมีไลฟ์อยู่รายการหนึ่ง พี่เดินออกมายังไม่ได้พูดอะไรเลยก็ด่า ๆ ๆ ๆ คือพี่ไม่ได้ไปรายการนั้น แต่เป็นภาพที่พี่เดินออกมาตอนงานศพที่สื่อเชิญพี่มาช่วยให้ข่าวหน่อย กำลังเดินเข้าเฟรมมาเท่านั้นแหละ พี่ก็แบบฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยเราเลยเข้าใจว่าคนบนโลกโซเชียลบางทีมันอ่อนไหวนะ เราก็เข้าใจเขา ตอนแรกก็โกรธเหมือนกัน จะฟ้องให้หมดหาเงินกันดีกว่า สุดท้ายเรามานั่งถามตัวเอง เราเป็นคริสเตียน เราจะไม่โต้ตอบ แล้วมันจะค่อย ๆ เงียบไป

เปิ้ลเจอคอมเมนต์อะไรที่รับไม่ได้?

เปิ้ล : มาว่าเรื่องที่ไม่จริง อย่างเช่น สามีเรากับกระติก เราก็รู้อยู่ อย่างบางที คนนี้หิวแมงเหรอออกมาหาข่าว ณ ตอนนั้นตามกระแสเราไปเข้าข้างฝ่ายที่ผิด

ที่รู้สึกแย่คือไม่ใช่เราสองคน ไปถึงโรงเรียนลูก?

เปิ้ล : ใช่ๆ คือเดินเข้าไปจากปกติที่ยิ้ม แต่นี่เห็นหน้ากันเขาจะทำแบบไม่เห็น

ต้น : ก็เป็นข้อดีของโควิด ใส่แมสก์อยู่ ก็จะไม่เห็นว่าหน้าบึ้ง ปากเบี้ยว ยิ้มให้หรือเปล่า แต่เขาได้รับเอฟเฟ็กต์ทางสายตา มองมาแล้วไม่ทัก

เปื้ล : นี่เขาก็บอกว่า เขาจำไม่ได้มั้ง ใส่แมสก์อยู่เขาเลยไม่ทัก

เครียดไหม?

เปิ้ล : ก็มีค่ะ คุยกับเขาก็น้ำตาซึม ๆ บ้าง แต่เราก็ไม่ได้คุยกับเขา คือเรารู้สึกว่าถ้าเราต้องไปอธิบายให้ทุกคนฟัง มันเหนื่อยเรา ในจุดตรงนั้นเราปล่อยให้เรื่องมันคลี่คลายไปเองดีกว่า สุดท้ายพอเขารู้ความจริง เดี๋ยวเขาก็ลืมกันเอง

ต้น : ไม่โต้ตอบ และไม่สร้างกระแสให้มันต่อเนื่องไป พี่ว่าทุกอย่างก็จะเงียบไป

ตอนนี้ทุกอย่างโอเคแล้ว ไปร่วมงาน 1 ปีก็ไม่มีอะไรแล้ว?

ต้น : ก็ไม่มีอะไรแล้ว คือจัดเป็นงานเล็กๆ สำหรับคนกันเองมากกว่า

มาคุยเรื่องลูกบ้าง?

ต้น : คนโตชื่อมาวิน อายุ 7 ขวบ คนเล็กชื่อ ภาคิณ อายุ 4 ขวบ

ดูนิ่งสงบดี แต่ทำไมในสคริปต์บอกว่าก้าวร้าว?

ต้น : คือเขายังควบคุมกล้าเนื้อคำพูดไม่ค่อยได้ คือเขาอายุ 4 ขวบ แต่ตอนนี้ดูคลิปวีดิโอ เล่นเกม หรือว่าทำกิจกรรมเขาจะตามพี่ ซึ่ง 7 ขวบ ดูพฤติกรรมมันไม่เข้ากับวัย แต่ในมุมที่ดีเขาก็มี แต่ในมุมนั้นก็มี เก่งเกินวัย อยากปีนเก็บของเอง ถอดเสื้อผ้าเอง ซึ่งบางทีเด็กเล็กเกินไปทำอะไรบางอย่างมันอันตราย

ถึงขนาดไปหาหมอเลย?

ต้น : ก็มีแอบจะไปปรึกษาคุณหมอว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คือความก้าวร้าวของเขา เขาโกรธแม้กระทั่งแม่ เขาใช้คำพูดจากในคลิปมาใช้กับแม่เขา

เปิ้ล : ซึ่งมันคือภาวะไม่เข้าใจความหมาย เขาจะใส่อารมณ์ตามที่เขาได้ยินมา ซึ่งพอเด็กอายุเท่าเขาพูดมันฟังไม่น่ารัก

ตอนนี้เราทำยังไง?

เปื้ล : ก็ปรึกษากัน เรารู้สึกว่าเราอยากหาผู้ที่เขียวชาญด้านการจัดอารมณ์ของเด็ก เรื่องการพัฒนาอารมณ์ของเขา เพื่อจะได้ดูว่ามันเป็นปัญหาจริงไหม หรือจริงๆ แล้วมันก็หายไป ก็คือแค่ไปพูดคุยเฉย ๆ 

หนึ่งสาเหตุที่พี่ไม่มีลูกคนที่สาม เพราะพี่เพิ่งผ่านการผ่าตัดมา?

ต้น : ไม่กังวล ๆ ก็วางแผนเอาไว้เรื่องของการมีลูก ตั้งแต่คน1 คน2 ตั้งแต่ตอนแต่งงานแหละอยากมีภรรยาที่ยังดูสาวอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ได้ 2.เว้นระยะการเป็น สามี ภรรยา สักพักนึงเที่ยวกันให้สนุก แล้วค่อยมามีลูก พอมีลูกมันเปลี่ยนสถานะเป็นพ่อ แม่ เราต้องดูแลลูก ทุกอย่างมันลงที่ลูกหมดเลย เราก็เรียงลำดับ คนโต 7 ขวบ เว้นอีกสักพักหนึ่งค่อยมาคนเล็ก ถามว่าอยากมีอีกไหม จริงๆ ยังไม่ได้ปิดอู่

ถามเจ้าของอู่ก่อนไหม เปิ้ลอยากมีไหม?

เปิ้ล : ก็อยากค่ะ เป็นคนชอบเด็กไง รู้สึกเด็กมันมีความสดใสน่ารัก แต่ว่ามันก็เหนื่อย เพราะว่าไม่มีพี่เลี้ยง ตั้งแต่มีลูกมาไม่ได้ทำงานไงค่ะใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับเขา เราเห็นความต่าง ตอนมีคนเดียวโอเค พอมีคนที่สองมันไม่สามารถแบ่งได้แบบ 50 : 50 แล้วแต่ละคนมีนิสัยที่แตกต่างกัน การดูแลที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นพอมีคนที่3 เรากลัวว่าจะให้เขาได้ไม่เต็มที่ แล้วคนที่ 1-2 จะรู้สึกยังไง ก่อนหน้านี้เขาเป็นทุกอย่างขนาดนี้ เขาจะรู้สึกยังไง

แล้วไม่อยากได้ลูกสาวเหรอ?

ต้น : อยากมีลูกสาวมาก ตอนแรกเนี่ยหมายมั่นไว้ว่า คนโตเป็นผู้ชาย คนที่สองเป็นผู้หญิง แต่พอไม่ได้ พระเจ้าให้มาแบบนี้ เราก็ดูแลเขาแบบนี้

อายุห่างกัน 14 ปี ตอนคบกันใหม่ ๆ ปรับเยอะไหม?

ต้น : ตอนเป็นแฟนปรับไม่เยอะ แต่เขาจะมีโลกส่วนตัว มีนิสัยที่ชัดเจน เช่น เรียบร้อย สะอาดมาก แต่ผู้ชายมันสกปรกพี่ถ่ายละครเสร็จกลับบ้านล้างหน้าไม่อาบน้ำแล้วนอนเลย นี่บอกว่าไม่ได้ ตอนเป็นแฟนไม่แปลก เพราะต่างคน ต่างกลับบ้าน แต่พอมาเป็นสามี ภรรยากัน ไม่ได้ ขึ้นเตียงก็ยังไม่ได้เลย ต้องไปอาบน้ำให้สะอาด แล้วไม่ใช่อาบน้ำอย่างเดียวนะ ต้องสระผมให้สะอาดเรียบร้อยถึงขะนอนได้

ตอนแรกที่คบกันพี่ไม่ได้บอกว่าอายุเท่านี้?

ต้น : ก็ไม่ได้หลอกเขาแค่ไม่ได้บอก

เมื่อ 10 ปีที่แล้วคิดว่าเขาอายุเท่าไหร่?

เปิ้ล : ตอนคนที่มาแนะนำ เขาก็จัดให้เรานั่งข้างเบาที่โบสถ์ เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร พอเขาแนะนำเสร็จ แอดเบอร์เปิ้ลใส่โทรศัพท์พี่ต้นเรียบร้อย เขามาบอกตอนหลังว่าคนนี้เป็นนักแสดง เขาอายุยังไม่ 40 นู้นนี่นั่น รู้ตอนหลังตอนนั้น 42 แล้ว

ต้น : ข้อดีของการที่ไม่ดังไง

พี่ต้นโทรไปหา?

ต้น : ก็โทรเลย เสียเวลาทำไม คือพี่คุยกับพี่แอนตอนถ่ายละคร พี่อยากจะมีแฟนที่นับถือศามนาเดียวกัน มีอะไรขัดแย้งมันจะได้น้อยที่สุด

คุณเปิ้ลจับได้ว่ามีสาวสวยส่งรูปของสงวนมาให้พี่ต้นจริงหรือไหม?

ต้น : ไม่จริง

เปิ้ล : ก็เป็นส่วนที่ไม่ควรส่งให้คนอื่นดู

ต้น : คือเป็นใครก็ไม่รู้ไม่รู้จักเลย เขาส่งรูปแล้วก็ทักมานู้นนี่ เราก็เอ๊ะ…เป็นใคร เราก็ถามไป เพราะเขาก็ไม่โชว์โปรไฟล์ว่าเป็นใคร อันนั้นยอมรับผิดจริงๆ บนโลกโซเชียลเราไม่ควรไปเล่นหรือไปตอแยกับใครที่เราไม่รู้จักจริงๆ 

ตอนนั้นไม่ได้จบสวยแบบนี้ ตอนนั้นเปิ้ลทะเลาะไหม?

ต้น : เขานิ่ง โกรธที่สุดของเขาคือนิ่งไม่พูด ซึ่งอันตรายมากบอกเลย สามี-ภรรยา เมื่อใดที่ภรรยาเงียบสงบเหมือนทะเล สึนามิ กำลังจะเข้า

ตอนนั้นเป็นยังไง?

ต้น : ก็ต้องพูดกับเขาตรง ๆ ว่ามันจะไม่มีครั้งต่อไป ซึ่งมันก็ควรจะเป็นอย่างนี้ เราก็ระหกระเหิน ซ่าสุดเหวี่ยงมาตลอดชีวิตอยู่แล้ว มันถึงเวลาแล้ว

จริงไหมที่ทะเลาะกันตอนนั้นพี่นอนน้ำตาไหลเลย?

ต้น : มีๆ คือเราไม่อยากเสียเขาไปแล้ว เพราะว่า 1.เราได้ในสิ่งที่เราขอมาดีที่สุดแล้ว

ตอนนั้นเปิ้ลเคยพูดไหม พอแล้ว เลิกกันเลย จบ?

เปิ้ล : ก็บอกค่ะ เรื่องอื่นเรายังได้ แต่เรื่องนี้เรารู้สึกว่าความสัมพันธ์มันต้องมีความเชื่อใจ ความซื่อสัตย์ ถ้ามีเรื่องนี้มาเราก็รู้สึกไม่โอเค ก็บอกว่าไม่เอา ไม่ไปต่อ ตอนนั้นรู้สึกว่าเราไม่ได้ไม่มีทางเลือก เราก็มีทางเลือกอื่น เราก็เลยแบบไม่เอาดีกว่า

แต่วันนั้นด้วยคำพูด เขาสามารถดึงความรักเขากลับมาได้?

ต้น : มันไม่ใช่คำพูด มันใช้หัวใจ

สุดท้ายใช้หัวใจบอกอะไรกับภรรยาหน่อย?

ต้น : พูดกับเขาอยู่เสมอว่ารักเขา และยังจะยึดในคำที่ให้สัญญาไว้ในพิธีแต่งงาน เพราะพี่แต่งงานกันในโบสถ์ เราสัญญากับพระเจ้าแล้ว เราจะดูแลเขา เชื่อมั่นในตัวเขา รักเขาอย่างถึงที่สุดจนวันที่เราสองคนตายจากกัน ก็ยังยืนยันคำพูดนั้น แล้วยิ่งมีลูก 2 คนออกจะดูหวาน น่ารัก

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ต้น ตระการ และ ภรรยา

About Author