รวมคน โคตรศาสตรา พร้อมพิพากษาทุกอาคม ท้าพิสูจน์ความคงกระพัน ขุนพันธ์ 3 -

นับถอยหลังเตรียมพร้อมสู่วันพิพากษากับ “ขุนพันธ์ 3” หลังจากปล่อยตัวอย่างเต็มสุดเดือดของภาพยนตร์ ก็มีกระแสชื่นชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากพล็อตเรื่อง งานสร้าง และฉากแอ็กชันที่น่าติดตามชมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ได้มีส่วนร่วมสร้างให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความน่าสนใจไม่แพ้องค์ประกอบด้านอื่น ๆ เลยก็คือ นักแสดงทั้ง 5 คนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการรับบทบาทตัวละครหลัก จนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสมบูรณ์ ครบรสชาติมากยิ่งขึ้นไปอีก แน่นอนว่า ทางผู้กำกับเองก็ได้มีความใส่ใจ และบรรจงออกแบบแต่ละตัวละคร เพื่อให้ออกมามีเอกลักษณ์ จุดเด่น รวมไปถึง อาวุธ อาคม และความเดือดเฉพาะตัวที่น่าสนใจมากที่สุด

โดยในวันนี้ เราจะพามาทำความรู้จักนักแสดงหลัก ทั้ง 5 คน พร้อมทั้งบทบาทที่สำคัญที่ได้รับในเรื่อง “ขุนพันธ์ 3” เพื่อที่ผู้ชมทุกท่านจะได้เตรียมตัวทำความคุ้นเคยกับตัวละครก่อนที่จะรับชมพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ในวันที่ 1 มีนาคมนี้

“นายตำรวจมือปราบเพียง 1 เดียวผู้สยบเสือร้ายทั่วปฐพีด้วยศรัทธา อาคม และความคงกระพัน”

The Character ขุนพันธ์ รับบทโดย อนันดา เอเวอริงแฮม

นายตำรวจมือปราบ ผู้กำราบเสือร้าย โจรดังๆในแฟ้มอาชญกรรมตำรวจมากมาย ด้วยศรัทธา และอาคม ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และยืนหยัดในการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เจ้าของฉายา ยอดตำรวจวีรบุรุษ, มือปราบสิบทิศ, นายพลหนังเหนียว ฯลฯ ดำรงตำแหน่ง “ขุน” คนสุดท้าย มี “หนวดเขี้ยว” เป็นสัญลักษณ์ประจำตัว และอาวุธประจำกายคือ “ดาบแดง” และความคงกระพันหนังเหนียว นายตำรวจเพียง1เดียวในปฐพีที่เสือร้ายยอมก้มหัว นายตำรวจต่างยกย่อง

STAR’s Quote

“ผมยอมรับว่าอยู่กับตัวละครขุนพันธ์มาจนเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ในตัวผมไปแล้ว เราอยู่กับเนื้อหานี้ประมาณ 11 ปี จำได้ว่าเข้ามาทำภาคแรกอายุ 29 แล้วตอนนี้ผมอายุ 40 แล้ว เป็นโปรเจกต์ที่ค่อนข้างยาก และใช้พลังงานสูง เพราะมันเหนื่อยจริงๆ แต่มันเป็นโปรเจกต์ที่เรารักมาก”

< SPOTLIGHT>

เราจะได้เห็นความพิเศษ และแสนยานุภาพของดาบแดงในการฟาดฟันบั่นคอเหล่าภูติผีร้าย รวมไปถึงการใช้ปราบเสือร้ายที่มีอาคม เป็น1ในฉากไฮไลท์ที่น่าตื่นตาที่สุดที่ถูกระดมสร้างสรรค์ขึ้นมาในการกลับมาครั้งนี้ นอกเหนือจากความสามารถทางด้านอาคม ของขลัง ขุนพันธ์เป็นเอกอุทั้งเรื่องคงกระพัน ยิงไม่เข้า ฟันแทงไม่เข้า วิชาตาทิพย์ การมองเห็นได้ในที่มืด หรือการสนทนากับคนตาย เราจะได้เห็นวิชาที่เพิ่มขึ้น และที่ยังไม่ได้เห็นในภาคอื่น

DIRECTOR’s VIEW

ท่านไม่ใช่คนธรรมดา จำนวนของโจรที่ท่านปราบเป็นหลักร้อย ประวัติเรื่องราวของท่านนับว่าสุดยอดที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ถ้าให้คำจำกัดความ ท่านขุนพันธ์คือนักสู้ นักล่า นักต่อรอง ท่านมีประโยคเด็ด “ถ้าพวกมึงยอมสัญญาว่าเลิกเป็นโจร แล้วไปบวชซะ กูจะจับเป็นพวกมึง” เป็นคนที่ยึดมั่นในความดี และนับถือความถูกต้อง ความพิเศษอยู่ตรงที่ท่านเป็นคนมีวิชาอาคม แล้วก็อยู่ได้ด้วยความศรัทธา

ในแง่มิติตัวละครของภาค 3 เราจะได้เห็นพัฒนาการในตัวคาแรกเตอร์ขุนพันธ์ ที่เดินทางมาในปีที่ 10 ที่เติบโตขึ้น มีความเป็นมนุษย์ มีเลือดเนื้อที่สัมผัสได้ มีความเจ็บปวด พร้อมการตั้งคำถามที่ว่า สิ่งใดคือความคงกระพันที่แท้จริง ซึ่งภาคนี้ ว่าด้วยเรื่องของ survival เรื่องความอยู่รอดของตัวละครแต่ละตัว ที่มาพร้อมกับเดิมพันที่มันสูงขึ้น

“เสือร้ายเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถกระตุกหนวดเขี้ยวขุนพันธ์”

The Character เสือ มเหศวร รับบทโดย มาริโอ้ เมาเร่อ

คือหัวหน้ากลุ่มจอมโจรเชิ้ตขาว ตัวแทนเสือรุ่นใหม่ มากไปด้วยอุดมการณ์ ฉลาด ไหวพริบเฉียบแหลม ว่องไว ดุจลิงลม เปรียบได้กับลม เป็นนักปลอมแปลม เก่งฉกาจในการล่องหน หายตัว มีมนต์คาถาเบี่ยงกระสุน โดยมีพระมเหศวรเป็นเครื่องรางประจำตัว

STAR’s Quote

“เสือมเหศวร เป็นเสือที่รักศักดิ์ศรี และพวกพ้อง มีความคิดที่จะปล้นเพื่อเปลี่ยนแปลง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ความท้าทายของบทนี้ เปิดโอกาสให้โอ้ได้ถ่ายทอดในหลากหลายแง่มุมทั้ง แอ็กชัน ดราม่า โรแมนติค ได้ฝึกทักษะและทำการแสดงหลายอย่างทั้ง ขี่ม้า ยิงปืน เล่นมายากล ปลอมตัว และทุกครั้งที่ปลอมตัวก็ต้องเปลี่ยนคาแรกเตอร์ไปด้วย”

< SPOTLIGHT> ฉากบู๊ที่ต้องขึ้นสลิงกระโดดหลบระเบิดลูกไฟขนาดยักษ์จากบนหอคอยสูง 8 เมตร ที่ทั้งเสี่ยง และอันตราย จากสเปเชียล เอฟเฟกต์ โดยเฉพาะขนาดของระเบิดเพลิงไล่หลังที่ห่างเพียงคืบ

DIRECTOR’s VIEW

อย่างตัวละครเสือมเหศวร ของมาริโอ้จะมีความเป็นทรชนสองหน้า คือคนสองบุคลิก โดย1ในร่างนั้นคือเสือมเหศวร จอมโจรชื่อดังผู้มีค่าหัวสูงอันดับต้นๆ ทางการต้องการตัวเขาเป็นอย่างมาก มเหศวรไม่เคยถูกจับได้ ทุกครั้งที่ออกปล้น มีการวางแผน ไปมาแบบไร้ร่องรอย จนมีคนเล่าว่ามเหศวรเหมือนหายตัวได้

“ เสือคู่ปรับที่ร้ายกาจที่สุด อันตรายที่สุด และซับซ้อนดำมืดที่สุด คือมัจจุราชที่ถูกส่งมาคร่าชีวิตขุนพันธ์”

The Character เสือดำ รับบทโดย โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์

หัวหน้ากลุ่มจอมโจรเชิ้ตดำ เสือร้ายผู้มาพร้อมกับความเหี้ยมโหด ดุดัน มีมนต์คาถาเสกฝุ่นอาคม ประจำตัว และมีปืนพกลูกโม่ และปืนลูกซองแฝดสั้น เป็นอาวุธประจำกาย สักหนุมานที่หน้าอก แขนซ้ายสักเสือ ฟันดำเพราะดูดฝิ่น และมีฟันทองอยู่ 2 ซี่

STAR’s Quote

“เสือดำของผมไม่ใช่พระเอก เสือดำของผมคือเสือจริงๆ คือเสือตัวสุดท้ายที่ยังคงความเป็นเสือจนวันตายเขาไม่มีความคิดที่จะมอบตัว คนทั่วไปอาจมองว่าสีขาวเป็นสีที่บริสุทธิ์ แต่เสือดำมองว่าสีดำเป็นสีที่บริสุทธิ์ และสีที่เกลียดที่สุดคือสีกากี เสือดำเป็นตัวละครที่ผมต้องทุ่มเททั้งทักษะความสามารถในทุกๆด้าน ทั้งแอคชั่น ขี่ม้า ยิงปืน มีด อาวุธ หมัด เท้า เข่าศอก พละกำลังของร่างกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นฐานของ“การแสดงที่ผมพร้อมถอดวิญญาณและสร้างลมหายใจให้กับตัวละครสำคัญตัวนี้ในทุกวินาที”

< SPOTLIGHT> ในระหว่างการถ่ายทำโตโน่ถูกบทเสือดำกลืนกินชีวิตถึงขั้นแยกไม่ออกถอดร่างจริงกับบทไม่ได้เมื่อคาแรกเตอร์เสือดำหลุดออกมานอกจอจนคนรอบข้างถึงกลับไม่กล้าเข้าใกล้ และทุกครั้งของฉากดวลกันระหว่างเสือดำกับขุนพันธ์ ทำให้นึกถึงการเข้าฉากของพี่น้อย กฤษดาในบทอัลฮาวียะลู โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากดวลกันในชุมเสือกับขุนพันธ์ที่ทั้งคู่บู๊กันจริงๆถึงขั้นไม้ตะพดที่ใช้ในฉากหักกลางสองท่อน

DIRECTOR’s VIEW

ในส่วนคาแรกเตอร์ของ เสือดำ ที่เราวางไว้จะเป็นคนเก็บกด มีอดีต เป็นโจรอาชีพ เป็นโจรโดยสัญชาตญาณ และเป็นโจรโดยสันดาน เกิดมาเพื่อเป็นโจร สิ่งที่เขายึดถือตลอดเวลาคือ สัจจะของโจร การไม่ทิ้งกันของโจร กลุ่มโจรเชิ้ตดำคือครอบครัวเดียวของเขา ทุกครั้งที่สู้กับตำรวจ เสือดำมีความตั้งใจว่า กูต้องถูกจับตาย จะได้จบๆ ชีวิตกูไปเสียที ฉะนั้นเลยไม่มีความคิดเรื่องการมอบตัวอยู่ในหัวเขาเลย”

“นายทหารหนุ่มรุ่นใหม่ ผู้ร่วมอุดมการณ์ในภารกิจถล่มชุมเสือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไปกับขุนพันธ์”

The Character รอ.ทัตเทพ รับบทโดย เอม ภูมิภัทร ถาวรศิริ

นายทหารหนุ่มอนาคตไกล สังกัดกองทัพ คือหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ โดยมีภารกิจหลักคือการแทรกซึม สืบสวนสอบสวน ผู้ปิดตำนานเสือด้วยยุทธวิธีการรบ เปี่ยมไปด้วยความสามารถในการใช้อาวุธทุกรูปแบบ ทั้งปืนสั้น ปืนยาว อาวุธหนัก เปรียบขุนพันธ์ดุจไอดอล

STAR’s Quote

“ถ้าขุนพันธ์เป็นแบทแมน ทัตเทพก็เป็นโรบิ้น เขาเป็นเหมือนคู่หู ที่มีภารกิจสำคัญคือปราบสองโจรที่สำคัญที่สุดแห่งยุคนั่นคือเสือมเหศวรและเสือดำ ทัตเทพเติบโตมาพร้อมวีรกรรมของขุนพันธ์ การร่วมภารกิจนี้เปรียบได้กับฝันเป็นจริง(dream come true) สิ่งที่เขาเชื่อมั่นในการทำภารกิจคือเขาจะไม่เลือกวิธีการในการทำให้มันสำเร็จ”

< SPOTLIGHT> เพื่อสวมตัวละครทัตเทพ ส่งผลให้เอม ต้องเข้าเรียนเวิร์กช็อปในการใช้อาวุธปืนเบื้องต้นทั้งปืนสั้นปืนยาว ฟิตร่างกาย เพิ่มน้ำหนักตัว และตลอดการถ่ายทำไม่มีฉากไหนง่าย เพราะนอกจากจะต้องเผชิญกับฉากแอ็กชันเป็นตัวละครที่ร่วมตะลุยเคียงข้างไปกับขุนพันธ์ในทุกโลเคชั่นตลอด1ปี ตั้งแต่บุกป่าฝ่าเขา ลุยน้ำ ล่องแก่ง พายเรือ ล่องแพ ปืนผา ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติแม่จริม, วังศิลาแลง ที่มีความเชี่ยวกราก และอันตรายในระดับ 3 ที่จ.น่าน , สระบุรี,ไปจนถึงการเผชิญกับระเบิด ห่ากระสุน ท่ามกลางอุณหภูมิเดือดกว่า 42 องศา ที่กาญจนบุรี ฯลฯ

DIRECTOR’s VIEW

ผู้กองทัตเทพ นายทหารหนุ่มที่ไม่เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์มนตร์ดำ เชื่อมั่นในยุทธวิธี การเมืองยุทธศาสตร์ มีความคิดแบบทหาร ฉลาดทั้งบู๊และบุ๋น เชี่ยวชาญเรื่องวางแผน กลยุทธ์ คือตัวละครที่ร่วมต่อสู้และเข้ามาเป็นบัดดี้กับ ขุนพันธ์

“หมอสาวแห่งชุมเสือ ที่ลุกขึ้นมาเป็นโจรด้วยเหตุผลคือเพื่อปล้นชีวิตคืน”

The Character สาวิตรี รับบทโดย ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา

หมอสาวคนแกร่ง เปรียบดั่งดอกฟ้าในชุมเสือ ใช้ชีวิตในการช่วยเหลือผู้คนไม่เกี่ยงว่าเป็นตำรวจ หรือพวกเสือนอกกฏหมาย มีความคิดแบบคนรุ่นใหม่ มีอุดมการณ์ ต้องการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสังคม มีความรักและเห็นอกเห็นใจชีวิตผู้คนตามจรรยาบรรณในความเป็นหมอ

STAR’s Quote

“สาวิตรี หญิงสาวที่ถูกลักพาตัวมายังชุมโจร เพื่อรักษาผู้คนจากโรคระบาด มีความรัก เมตตาในความเป็นหมอ สูงมาก ยอมทุ่มเทชีวิตจิตใจในการรักษาชีวิตผู้คนทุกคน โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นคนดี คนจน คนเลว คนชั่ว ถ้าเป็นคนไข้ รักษาหมด”

< SPOTLIGHT> การรับบทตัวละครเป็นหมอท่ามกลางภาวะในยุคสมัยสงคราม ทำให้ต้องเข้าใจพื้นฐานในวิชาชีพหมอตั้งแต่พื้นฐานการปฐมพยาบาล รูปแบบของบาดแผล อาการบาดเจ็บต่างๆในยุคสมัยนั้น การเป็นหมอในชุมโจร ที่ใช้ชีวิตท่ามกลางดงกระสุน ทำให้ต้องมีการเสริมทักษะการแสดงในส่วนของแอคชั่น เรียนรู้ความปลอดภัย เบสิกพื้นฐานการเป็นสตั๊นท์ เพราะบทสาวิตรีต้องเผชิญทั้งตำรวจ เสือ ทหาร กองทัพ ปืน เลือดและระเบิด รวมไปถึงสัตว์ร้าย ซึ่งเป็นประสบการณ์การทำงานในรูปแบบที่ฟ้าไม่เคยเจอหรือสัมผัสความเดือดสุดขั้วแบบนี้มาก่อนในชีวิต

DIRECTOR’s VIEW

ตัวละคร สาวิตรี คุณหมอ ประจำชุมโจร นางฟ้าชุดขาว มือซ้ายถือเข็มฉีดยา มือขวาถือปืน ในกระเป๋าพยาบาลมีทั้งมอร์ฟีน เข็มฉีดยา เข็มเย็บแผล รวมทั้งปืนและแม็กกาซีน โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการช่วยชีวิตผู้คน ในฐานะของหมอ ทุกชีวิตมีค่า ต่อให้จะเป็นโจรหรือตำรวจ คือทั้งช่วยคน ทั้งฆ่าคนในเวลาเดียวกัน”

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนมาร่วมพิพากษาอาคม และระเบิดความมันส์ เดือดระอุทะลุจอไปกับบทสรุปของไตรภาคแอ็กชันฮีโร่ไทยฟอร์มยักษ์ “ขุนพันธ์ 3” 1 มีนาคม 2566 นี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างเต็ม: https://youtu.be/dU6NlGlg-Jg