“ครูน้ำ” ปะทะ “ครูเก้า” 4 หมื่นไม่ยอมจ่าย เตรียมฟ้องเรียก 2 แสน! เทงานแต่งไปจดทะเบียนแฟนเก่า

กรณีครูสาวออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังวางแผนเตรียมงานวิวาห์ แต่สุดท้ายฝ่ายชายขอจบ อ้างเรื่องโรคซึมเศร้า สองอาทิตย์ต่อมากลับไปจดทะเบียนกับแฟนเก่า เรียกค่าเสียหายแค่ 4 หมื่น แต่ฝ่ายชายไม่ยอมจ่าย อีกทั้งยังโพสต์ให้ร้าย ทำให้ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง

รายการโหนกระแสวันที่ 1 ธ.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ ครูน้ำ มาพร้อมคุณพ่อและคุณพ่อ รวมทั้ง “ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร”

ตรวจพบเป็นโควิดก่อนเข้ารายการ?

ครูน้ำ : เป็นมาแล้วสองรอบค่ะ รอบนี้รอบที่สาม ก็งงเหมือนกัน

ที่มาที่ไป เกิดอะไรขึ้น?

ครูน้ำ : จุดประสงค์ตอนแรก โพสต์นี้เราไม่ได้เปิดสาธารณะ ให้เห็นแค่เพื่อนด้วยกัน เพราะความรักระหว่างเขากับน้ำให้เห็นแค่เพื่อน เราแค่จะแจ้งเฉยๆ ว่าสาเหตุที่เลิกสายฟ้าแล่บเพราะอะไร แค่นั้นค่ะ เพราะมีคนถามมาเยอะมากว่าเลิกกับครู ก.ทำไม เราก็แค่อยากแจ้งให้ทราบ เพราะมีบางส่วนไม่เชื่อ คิดว่าแค่งอนกันหรือเปล่า เพราะผ่านไปไม่ถึงสองอาทิตย์ที่เขาไปจดทะเบียนสมรสกับถ่ายพรีเวดดิ้งกับแฟนเก่าที่เขานอกใจมาคบกับน้ำ

ครูน้ำต้องการให้เขาชดใช้เรื่องค่าเสียหายที่ครูน้ำจ่ายไป?

ครูน้ำ : ใช่ค่ะ

ครูรู้จักเขาได้ยังไง?

ครูน้ำ : รู้จักที่อบรมค่ะ ที่พัทยา น้ำเป็นตัวแทนเขต 1 เขาเป็นตัวแทนเขต 2 ไปอบรม ได้เจอกัน เขามีตำแหน่งสูงกว่า เป็นผู้บังคับบัญชาของโรงเรียนนั้นก็ตามมาทีหลัง อาสาถ่ายรูปให้ ก็ได้มีโอกาสเจอกัน ตอนนั้นน้ำก็โสดอยู่ มีแฟนเก่าตามง้อเราก็ไม่ได้สนใจ

เป็นครูอยู่โรงเรียนเดียวกันมั้ย?

ครูน้ำ : ไม่ค่ะ เขาเป็นครูอีกอำเภอนึงค่ะ แต่มาเจอในงานอบรมค่ะ หลังจากนั้นเขาก็จีบเรา มีหลักฐานในแชตค่ะ

เขาบอกเป็นห่วง ถ้าร้อนต้องเปิดแอร์ ถ้าอยากมีคนดูแลต้องเปิดใจ เขาจีบครูแบบนี้?

ครูน้ำ : ใช่ค่ะ เขาจีบในแชต แต่ตอนในค่าย ตอนกินข้าวเขาก็มานั่งข้างๆ ตอนนั้นพี่ๆ ที่เขตหนึ่งติดโควิด เขตหนึ่งเหลือแค่น้ำ เราก็ต้องพึ่งพาเขาที่อยู่เขตสอง ขอติดรถไปเซเว่นหน่อยนะ ซึ่งประเด็นนี้เขาก็ไปโพสต์ให้น้ำเสียหายในเฟซบุ๊กเขาเหมือนกัน

ยืนยันว่าเขาจีบคุณแน่นอน?

ครูน้ำ :   ไม่ใช่แค่น้ำที่ยืนยัน แต่เพื่อนครูด้วยกันที่นั่นมีอยู่ 4 ท่าน สามารถยืนยันได้เลยว่าเขาจีบ ทุกคนยังแซวกันอยู่เลย มีครูผู้หญิงคนนึงตอนน้ำลุกไปเข้าห้องน้ำ เขาก็เตือน ครู ก. ว่าเบา ๆ หน่อยนะ อย่าทะลึ่งมากนัก เขาไม่ชอบนะ

หลังจากนั้น คุณคบหากัน?

ครูน้ำ : ใช่ค่ะ

คุณพาฝ่ายชายไปอยู่ที่บ้าน?

ครูน้ำ :  พาเขามาแนะนำที่บ้านค่ะ แล้วด้วยความที่ฝ่ายชายเขาไม่มีบ้านอยู่จันทบุรี เขาอยู่บ้านพัก ก็เลยบอกว่างั้นอยู่ที่บ้านด้วยกันเลยก็ได้นะ เราโตๆ กันแล้ว คุณพ่อก็โอเค เห็นว่าเขาเป็นคนดี สวดมนต์ทุกเช้าตอนตี 5

ใครสวดมนต์?

ครูน้ำ : ครูผู้ชายค่ะ ทุกคนก็ไว้วางใจ มาช่วยงานบ้าน ทำกับข้าว มาใช้ชีวิตในบ้านน้ำช่วงนึงเลย

ตลอดระยะเวลาเขามีคุณคนเดียว?

ครูน้ำ : ถ้าตอบ ณ ตอนนี้ก็ไม่ใช่ค่ะ แต่ถ้าตอนนั้นที่เราทราบ มีเราคนเดียว เขาบอกว่าเพิ่งเลิกกับแฟน มีเราคนเดียวจริง ๆ ไปพูดกับพ่อแม่ วันเกิดแม่ก็ไปกราบเท้าแม่ วันเกิดตัวเองก็ไปกราบเท้าแม่ ขอพรตั้งแต่เช้า ตั้งแต่ตี 5

คุณเคยเจอพ่อแม่เขามั้ย?

ครูน้ำ : เคยเจอค่ะ

คุณคบหากัน เหมือนอยู่กินกันฉันท์ผัวเมียภรรยาในช่วงแรก หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางกบาลคุณเลย?

ครูน้ำ : น้ำไปทำงานพิธีกรที่ต่างจังหวัด แล้วมีผู้หญิงคนนึงทักมาในเฟซบุ๊กว่าไม่ทราบเหรอคะว่าเขาคือแฟนครู ก. และส่งหลักฐานการซื้อบ้านคู่กันมา น้ำก็ถามว่าอ้าว คือยังไง พี่ ก. ไม่ได้บอก เขาก็เลยบอกว่าเอ๊ะ เมื่อคืนยังไปหากันอยู่เลยค่ะ ไปมีอะไรกันมา ไปหอมกอดจูบกันด้วยค่ะ น้ำก็ขออนุญาตโทร เขาก็โทรมาหาน้ำ บอกว่าเมื่อคืนไปที่โรงเรียนของครู ก. ทำไมพี่ไม่กลับบ้านเลย เหมือนไปง้อเขา เขาก็ยืนยันว่าครู ก. ไม่ได้บอกเขาว่ามามีแฟน อยู่บ้านผู้หญิง พอจี้ไปจี้มา จับได้ว่าอยู่บ้านผู้หญิง เขาก็บอกว่าครูน้ำร่ำรวย น่าจะช่วยเขาได้

ครู ก. ชื่อ เก้า บอกว่ายังไม่ได้เลิกกัน เป็นภรรยาและสามีกันอยู่ แฟนครูผู้ชายบอกแบบนี้ และให้ดูว่าเซ็นกู้บ้านต่างๆ นานา ปรากฏว่าครูน้ำเลยไปคุยกับครูผู้ชาย ครูผู้ชายบอกว่าไม่เลย เขาเลิกไปแล้ว แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมเลิก?

ครูน้ำ :   ใช่ค่ะ

มุมกลับกัน ฝั่งแฟนเก่าฝ่ายชายไปบอกครูน้ำว่าที่ไปคบหากับครูน้ำ เพราะครูน้ำสามารถช่วยเรื่องการเงินเขาได้?

ครูน้ำ : ใช่ค่ะ เขาทั้งพูดทั้งพิมพ์เลย ว่าพี่เก้าพูดว่าครูน้ำมีเงิน น่าจะช่วยได้มากกว่า ขออยู่กับครูน้ำไปก่อน เรื่องของเราเดี๋ยวมาคุยกัน เขาคุยทางโทรศัพท์ แล้วเขาก็แชตมาอีกว่าครูน้ำร่ำรวย สามารถช่วยครูเก้าได้ สาบานค่ะ ว่าพูดจริงนะคะ ประมาณนั้นค่ะ

พอคุณรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ทำไมไม่เลิก?

ครูน้ำ : เลิกค่ะ ตอนนั้นน้ำบอกเลิกเขาเลย เขาก็บอกว่าไม่ได้ พี่จะไม่ยอมเสียหนูไปเด็ดขาด ฟังพี่นะ อย่าไปฟังคนนั้น แล้วก็วิดีโอคอลประชุมกันสามสาย น้ำก็บอกผู้หญิงคนนั้นว่า คุณ ย. เงียบไว้นะคะ ประชุมสายสามคน ทางครูเก้าก็ให้ความเชื่อใจเรา โดยการบอกเลิกผู้หญิงคนนั้นให้เราได้ยินเลย

คุณได้ยินเขาบอกเลิก?

ครูน้ำ : ใช่ค่ะ บอกเลิกให้ได้ยินเลยค่ะ แล้วมีแชตที่เขาง้อ น้ำไปทำงานต่างจังหวัด 3 วัน เขาก็ง้อตลอดว่าที่รักฟังพี่นะคนดี อยู่กับพี่เถอะนะ มีสตินะ  ถึงน้ำไม่อยู่ที่บ้าน เขาก็ไปช่วยแม่ตัดหญ้าที่บ้าน ทำกับข้าว รีดชุดกากีให้น้ำที่รอไว้ พิมพ์มาตลอดว่าจะกลับหรือยังครับ

สุดท้ายคุณก็กลับไปคุยกับเขา?

ครูน้ำ : ใช่ค่ะ น้ำก็บอกเขาว่าให้โอกาสอีกครั้ง ตอนนั้นน้ำก็เชื่อเขา

มีการตกลงแต่งงานกัน แล้วไปเกิดเรื่องยังไง?

ครูน้ำ : ขอย้อนไปแป๊บนึง ที่เรายอมกลับมาดีด้วย เพราะเขาตั้งใจเหมือนกลับตัวเป็นคนดี ในเฟซบุ๊กก็โพสต์รูปเรา ให้เกียรติเรา พาเราไปเตะบอลด้วยอย่างเปิดเผยเหมือนบอกว่าคบกับเราคนเดียวนะ แต่พอหลังจากนั้น พ่อน้ำก็เอ๊ะ ผู้ชายคนนี้มาอยู่ที่บ้านเรานะ อายุก็พอสมควรแล้วนะ เราคบไปนานๆ จะยังไง แต่งเร็วๆ เลยก็ได้ พ่อเลยเรียกเขาไปคุย เขาก็ตกลงค่ะ

พ่อว่ายังไง?

พ่อ : ก็ตามที่ครูน้ำพูดให้ฟังครับ ผมก็เรียกเขาไปคุย ว่าสรุปยังไง จะตกลงมั้ย จะแต่งงานจะอะไรก็ทำให้ถูกต้อง เขาก็โอเคนะครับ เขาก็ตกลง บอกจะพาพ่อกับแม่มาพูดคุยหลังปีใหม่

อยู่ในสายกับ “ครูเก้า” ตอนนี้ครูน้ำติดโควิดนะ ห่วงมั้ย?

ครูเก้า : คงไม่ได้เป็นห่วงอะไรแล้วครับ เพราะไม่ได้อะไรกันแล้ว

ครูน้ำ ทำไมประเด็นถึงโป๊ะแตกอีก ทำไมถึงแยกย้าย?

ครูน้ำ : จากนั้นเราก็เตรียมงานแต่งไปเรื่อยๆ เตรียมเรื่องออแกไนซ์ เราปิดเทอมทั้งคู่ เราก็เตรียมทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย ไปดูสถานที่ด้วยกัน เขามีการออกความเห็นเรื่องชุดแต่งงาน ไปเดินซื้อที่แพลตตินั่ม ไปร้านพรีเวดดิ้งก็ไปด้วยกัน อยู่ด้วยกันทุกขั้นตอนทุกอย่าง เขาบอกว่าพี่พร้อมครับ พูดคำนี้บ่อยๆ

ประเด็นที่มีปัญหาเกิดขึ้นคืออะไร?

ครูน้ำ :   ผู้หญิงคนเดิมทักเฟซบุ๊กมาบอกว่ารบกวนครูน้ำบอกครูเก้าให้เลิกโทรมาได้แล้วนะคะ มันเสียเวลาส่วนตัว น้ำก็ขอดูหลักฐาน เขาก็แคปมาให้ดู ผู้หญิงก็โทรมาบอกว่าโทรมาปรึกษา รู้สึกอยากกลับไป ไม่มีความสุขในชีวิตเลย คุยปรึกษาเรื่องการเงิน และฝากบอกเขาด้วยว่าไม่ต้องโทรมาแล้ว เขามีแฟนใหม่แล้ว ไม่เอาแล้วค่ะ ผู้หญิงพูดว่ามีใหม่แล้วค่ะ ไม่เอาครูเก้าแล้วเหมือนกันค่ะ แล้วเขาก็ตัดสายไป

ครูเก้ายกเลิกงานแต่งเพราะอะไร?

ครูเก้า : ผมกับน้ำคบกันจริงเดือนนึง ซึ่งผมนิสัยแย่เอง ผมมีแฟนอยู่แล้ว แล้วระหองระแหงกับเขา เราไม่ได้เคลียร์กัน ผมให้เหตุผลกับแฟนว่าผมมีภาระเยอะ อาจเป็นตัวถ่วงให้เขา ถามว่าทำไมถึงยกเลิกงานแต่ง ผมรู้สึกผิดกับแฟนที่ผมเคยอยู่ด้วย ตอนนี้ก็จดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้วครับ

รู้สึกผิดกับครูน้ำมั้ย?

ครูเก้า : ผมรู้สึกผิดกับครูน้ำในช่วงแรกๆ ที่ผมพยายามเป็นห่วงเขา ผมพยายามแล้ว เอาตรง ๆ ผมคบกับใคร ผมต้องรับผิดชอบคนนั้น แต่ในความรับผิดชอบของผม ผมรู้สึกผิดกับคนแรกของผม แต่ผมพูดกับน้ำตรงๆ ไม่ได้ เพราะมารู้ตอนหลังว่าน้ำเป็นโรคซึมเศร้าด้วย เวลาพูดตรง ๆ เขาเหมือนมีอาการ ผมรู้สึกว่าผมพูดกับเขาตรงๆ ไม่ได้ทุกเรื่อง ผมเลยขอพูดกับคุณพ่อคุณแม่เขา ทีแรกเขาจะให้ผมจดทะเบียนกับเขาวันที่ 31 วันฮาโลวีน แต่ทีนี้มีเรื่องก่อน ผมเห็นอาการหนักๆ ของเขา วันที่ 27 หรือ 28 ก็เลยขอคุยเรื่องทั้งหมดเลย เขาเคยคบใครมา ขอคุยกับคุณพ่อคุณแม่ว่าขอเลื่อนเถอะนะ เพราะผมเพิ่งเห็นอาการเขา ผมกลัวชีวิตคู่ไปไม่รอดจริง ๆ เขาวิ่งลงจากรถบ้าง ไม่มีเหตุผลเลย ผมก็ไม่รู้โรคซึมเศร้าจะเป็นยังไง จะฆ่าตัวตายมั้ย ผมก็กังวลเหมือนกัน ผมไม่สามารถพูดตรง ๆ ก็พูดกับครอบครัวเขาและครอบครัวผมด้วย ผมก็ขอเลื่อนไป ขอเลื่อนปุ๊บ ในใจผม ผมว่าไม่ไหวแล้ว ผมรู้สึกผิดกับคนแรก เขาก็หนักอยู่ ทั้งในสังคมที่เขาต้องเจอว่าผมหายไปไหน

ครูน้ำเขาบอกว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตอนไปคบหากันคุณก็ไปอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาที่บ้านเขา พอตกลงจะแต่งงานกัน คุณเองบอกไปต่อไม่ได้แล้ว ขอเลิก ทั้งที่ทำทุกอย่างหมดแล้ว วันนึงคุณไปสงสารแฟนเก่ามากกว่า แต่สำหรับครูน้ำคุณรู้สึกว่าไม่ใช่ เขาก็งงว่าต้องทำยังไง ขอชดใช้ในสิ่งที่เขาจ่ายไปแล้วกัน แต่คุณก็ไม่ได้ชดใช้ให้เขา ตรงนี้จะยังไง?

ครูเก้า : ผมยอมรับว่าผมไปกับเขาทุกที่แหละครับ ผมก็ไปรับฟัง จองสถานที่ แต่ทุกอย่างไม่ได้ใช้เงินนะครับ ผมบอกเขาเสมอว่าผมไม่มีเงิน การที่จะแต่งงานไม่มีเงินเลยครับ

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คุณมีเงินหรือไม่มีเงิน เขาไม่ได้รังเกียจคุณที่คุณไม่มีเงิน เขาก็ยังจะแต่งงานกับคุณ เขาก็มีมุมน่าสนใจ แต่สิ่งหนึ่งที่กำลังถาม วันนี้ที่คุณรู้สึกผิดกับคนเก่า แล้วไม่รู้สึกผิดกับเขาบ้างเหรอ?

ครูเก้า : ที่ผมบอกว่าไม่มีเงิน ผมจะบอกว่าทุกอย่างที่เขาบอกว่าจองอะไร ผมว่าไม่ได้จองอะไร เพราะผมไปยกเลิกด้วยตัวเอง ไม่มีการมัดจำใดๆ เขาจะประสานงานโดยไม่ได้เสียเงินอะไรเลย ก็งงว่าวันนี้มาเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอะไรเหรอครับ

ครูน้ำ :   ตอนนั้นเรารักแฟนเรามาก เราเห็นแฟนเรามีปัญหาเรื่องเงิน ไม่อยากให้เขาเครียด ก็เลยไม่อยากบอกว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เพราะเขาชอบน้อยใจตัวเอง ขนาดไปกินข้าวที่ร้านที่น้ำเป็นหุ้นส่วนเขาไม่ได้สั่งอาหารก็ยังนอยด์เลย เลยคิดมาก เราก็คิดว่าเราจะบอกดีมั้ยว่าเราสำรองจ่ายค่าอะไรไปบ้าง เราก็ห่วงเขาไม่อยากให้เขาคิดมาก แต่จริงๆ แล้วเรามีการสำรองจ่าย อย่างค่าทำการ์ดแต่งงาน ก็ต้องจ่าย ค่าร้าน ค่าช่างภาพ ค่าแต่งหน้า เราก็สำรองจ่ายไป อีกอย่างคือค่าออแกไนซ์เราสำรองจ่ายอยู่ เราไม่ได้บอกเขาเรากลัวเขาเสียใจกลัวเขาคิดมาก แต่พ่อเราพูดเป็นนัยๆ แล้วในวันที่มาตกลงเลิกว่าเอามา 4 หมื่น เหมือนเจอกันครึ่งทาง คุณให้เหตุผลกับเราว่าคุณเลิกเราเพราะเราเป็นซึมเศร้า คุณไม่มีเงินมาดูแลเราได้ งั้นก็เจอกันครึ่งทางแล้วกัน คนละ 4 หมื่น เขาก็โอเคครับ จากนั้นเขาก็บล็อกเบอร์น้ำ บล็อกไลน์ บล็อกเฟซ บล็อกเบอร์พ่อน้ำ

ครูเก้า : ผมว่าไม่น่าใช่ ตัวน้ำเองเขาน่าจะมีปัญหาเรื่องเงินเหมือนกัน สังเกตหลายๆ อย่าง ไม่มีอะไรที่ต้องจ่ายเลยนะ ผมว่าเขาไม่มีเงิน ยังไม่เชิงว่าขอเงินผมไปจ่าย เพราะผมก็ออกตัวว่าผมไม่มี เรื่องชุดแต่งงานที่เขาพาไปซื้อที่แพลตตินั่มก็ไม่น่าจะมีนะครับ ตอนหลังเหมือนยืมเพื่อนมา

เท่าที่ฟัง รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เขารักคุณ คุณไม่ได้มีเงินอะไรเลย ต่อให้คุณไม่มีเงิน เขายังยืมเงินคนอื่นมาเช่าชุดเจ้าสาวแต่งงานกับคุณ?

ครูเก้า : มันก็ภูมิใจครับ แต่ตอนหลังประเด็นคืออะไร ที่เขาต้องมาเรียกเงินจากผม

คุณคิดว่าการที่ครูน้ำออกมาพูดเพื่ออะไร?

ครูเก้า : ในเมื่อไม่มีเสียเงินอะไรเลย ทำไมต้องมาเรียกเงิน และไปโพสต์

เก้าคิดว่าครูน้ำออกมาพูดเขาต้องการอะไร?

ครูเก้า : ไม่กล้ากล่าวหาเขาเลย ผมพูดได้เหรอครับ

ครูเก้าบอกว่าที่เลิกเพราะฝ่ายหญิงเป็นโรคซึมเศร้า อยู่ไม่ได้ สองฐานะการเงิน ฝ่ายหญิงเรียกร้องเกินไป ฝ่ายหญิงที่ครูเก้าบอกว่าไม่มีค่าชุดค่าอะไรเลย แต่คุณพ่อเรียกค่าเสียหาย 4 หมื่น จริงมั้ย?

ครูน้ำ : จริงค่ะ

พ่อ : จริงครับ ผมได้คุยกับครูเก้าว่ามีค่าใช้จ่าย ให้เขามาชดใช้บ้าง ในส่วนของฝ่ายลูกสาวที่ดำเนินการหลายๆ อย่างเกี่ยวกับงานแต่ง ถือว่าน้อยมากครับ 4 หมื่น

ขอแค่ 4 หมื่นแล้วจบเลย?

พ่อ : ครับ ไม่เอาเยอะเลยครับ

ครูเก้า :   ผมต้องให้เรื่องอะไรบ้าง มันไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องเสียนี่ครับ ผมไปบอกน้ำว่าพ่อเรียก 4 หมื่น น้ำบอกว่าไม่ต้องจ่ายให้พ่อ

พ่อ : ผมเรียก 4 หมื่นจริง แต่ลูกสาวอาจไปคุยกับครูเก้า เห็นว่าจากกันแล้ว ครูเก้าอยู่คนเดียว สงสารเขา น่าจะเอาสักครึ่งนึง แต่อีกวันครูเก้าไปมีเมีย จดทะเบียนสมรส มันไม่สมควร เหมือนหยามกันเกินไป

เขาเป็นพ่อของลูก คุณไปอยู่กินกับลูกเขา คุณไปจดทะเบียนกับคนอื่น ทำให้ครอบครัวเขาทุกข์ทรมาน เขาบอกจ่าย 4 หมื่นแล้วจบเลย จริงๆ มันน้อยมากนะ?

พ่อ : น้อยมากครับ ปกติเป็นคนอื่นเขาเรียกหลายแสนครับ

ครูเก้า :  ผมมีแฟนและผมไปอยู่กับเขา ผมก็ไม่ใช่แฟนในตอนแรก ในช่วงระยะเวลาเดือนนึง ขอพูดดีๆ ให้จบแบบเคลียร์

คุณไปอยู่กับเขา คุณรู้สึกไม่ใช่แฟน?

ครูเก้า : ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นแฟนนั่นแหละ แต่เมื่อไปกันไม่ได้ ผมก็เคลียร์แล้ว

คุณกลับไปง้อเขาทำไม?

ครูเก้า : ตอนนั้นผมยังหลงเขาอยู่ ผมก็ทะเลาะกับคนเก่าอยู่ อาจมองว่าผมแก้ตัว แต่ผมก็พูดตามความจริง ยังหลงอยู่ตอนนั้น เพราะผมไม่รู้ทราบว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้า หรืออดีตเขาเป็นยังไงบ้าง ผมได้แต่มีอะไรกับเขา แต่ไม่เคยได้ถามว่าเขาเคยคบกับใครยังไง เป็นโรคยังไง

ในวันที่แฟนครูเก้าโทรไปหาเขาบอกว่ายังคบหากันอยู่ ครูเก้าไปง้อเขาทำไม?

ครูเก้า : ตอนนั้นผมยังชอบเขาอยู่ครับ

พอจับได้ครั้งที่สอง ครูเก้าก็ยังไปง้อเขาอีก?

ครูเก้า : ช่วงแรกยังง้ออยู่

ครูเก้าเขียนจดหมายให้เขาด้วยลายมือ?

ครูเก้า : ใช่ครับ ทุกอย่างที่ขึ้นมา ทั้งโพสต์ทั้งอะไร ผมบอกเขาตั้งแต่แรกว่าผมไม่ได้อยากทำอะไรแบบนี้ อย่างที่ผมเขียน เขาเขียนมาก่อน ผมก็เขียนตอบเขา

ครูน้ำ : คุณแม่ก็มีข้อมูลอีกเยอะ ที่เขามาอาศัยอยู่ที่บ้าน

แม่ : เหตุผลที่ครูเก้าได้เลิกกับครูน้ำ ครูเก้ามาเล่าให้แม่ฟังว่าไม่สามารถดูแลลูกแม่ได้ เพราะน้องเป็นโรคซึมเศร้า ขอไปศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ว่าต้องดูแลยังไง ขอเวลาห่างกันสักพักนึง อาจใช้เวลาสักหน่อย ขอศึกษาก่อน แล้วถามว่าอยู่คนเดียวเหรอ มีใครมั้ย เขาบอกว่าไม่มีใครอยู่คนเดียวที่บ้านพักครู น่าจะอยู่คนเดียวสัก 2-3 ปี ขอตั้งหลักชีวิตใหม่ ถ้ามีข้อมูลอะไรก็จะขอดูแลน้อง แม่ก็บอกว่าให้เอารถตัดหญ้ามาตัดหญ้าให้แม่บ้างนะ มาเยี่ยมน้องบ้างนะ ก็บอกเขาอย่างนี้ ผ่านไปสองอาทิตย์ เขาไปจดทะเบียน แล้วโพสต์ลงติ๊กต๊อก ลงยูทูป ลงทุกช่องทางเหมือนเยาะเย้ยครอบครัวแม่ แล้วภาพพรีเวดดิ้งอีก แม่ก็คิดว่ามันไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่ไปศึกษาโรคซึมเศร้า ณ ตอนนั้นเงิน 4 หมื่นบอกลูกว่าไม่ต้องไปเอาเขาแล้วก็ได้ สงสารเขา เขาอยู่คนเดียวก็ให้จบๆ กันไป ไม่ต้องโพสต์ไม่ต้องอะไรแล้ว แต่มาทำแบบนี้มันไม่ใช่แล้วไง

ครูจะว่ายังไง?

ครูเก้า :   ผมว่าผมชัดเจน ผมขอเลิกไปแหละ ถ้าป่วยแบบนี้รักษาตัวก่อนมั้ย ผมขอออกมาก่อน ผมพูดจริงว่าผมออกมาที่บ้านพัก

เป็นข้ออ้างที่คุณอยากกลับไปจดทะเบียนกับแฟนเก่าคุณหรือเปล่า?

ครูเก้า : ผมไม่กล้าไปแต่งงาน เพราะผมทำไม่ดีกับแฟนผมคนนี้ ผมออกจากน้ำยังไม่รู้อนาคตว่าไปคุยกับเขา หรือง้อใครจะได้คืนดีมั้ย

ครูน้ำ : ระหว่างที่คุณเก้ามาง้อน้ำ ก็ด่าคุณ ย. ให้น้ำฟัง ว่าอยู่ไม่ได้เพราะอะไร อยู่กับผู้หญิงคนนึงก็ว่าคนนึง

หลังฝ่ายหญิงโพสต์เฟซบุ๊ก เขาลงเลยว่าโหนกระแสติดต่อมาหน่อย ช่วยคืนความเป็นธรรมให้ด้วย เราก็ติดต่อ แต่ประเด็นคือครูเก้ากลับไปโพสต์ข้อความชี้แจงว่าไม่ได้ขโมยรถใคร ไม่ได้อยากอยู่กับคนที่มีทัศนคติแบบวันไนท์สแตน โทรนัดเปิดห้องมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ผูกพัน คุณบอกไม่มีใคร แต่ยังไปกับอีกคนที่ตามมาง้ออยู่ หมอให้พักรักษาตัวตั้งแต่ลอยกระทง แต่คุณมางัดบ้านพัก ไม่ได้รักษาตัว คุณพยายามวางงานทุกอย่าง มันหมายความว่าอะไร?

ครูเก้า : ที่คุณแม่บอกว่าผมไปเยาะเย้ย ก็ไม่ใช่เลยนะครับ ผมก็เล่นของผม แฟนผมก็เล่นของเราด้วย เราไม่เคยไปให้ใครเห็น ที่ผมโพสต์เพราะเขามาโพสต์ในเฟซของตัวเองซึ่งผมไม่ได้ไปดูนานแล้ว เหมือนมีคนกดไลค์เป็นพันคน แท็กโหนกระแส ผมก็ไปอ่าน มันก็เห็น ทีนี้ต้องมาชี้แจงทีละประเด็นว่าถูกต้องแล้วเหรอที่น้องเขาพูดมาฝ่ายเดียวแบบนี้

ที่คุณไปเปิดเผยเรื่องวันไนท์สแตนแบบนั้น มันก็ไม่ค่อยจะเหมาะ ที่เอาเรื่องผู้หญิงออกมาพูดแบบนี้ เก้ามองยังไง?

ครูเก้า :   ถ้าไม่เหมาะจริงๆ ผมก็ต้องปกป้องผมและภรรยาผมด้วย ที่เขาต้องมาเสียศักดิ์ศรี และเสียเกียรติตรงนี้

คนเสียเกียรติน่าจะเป็นน้ำนะ?

ครูน้ำ : คนเสียเกียรติน่าจะเป็นเรามากกว่า คุณเลิกกับเราไปไม่ถึง 2 อาทิตย์ ให้เหตุผลว่าขอไปศึกษาโรคซึมเศร้า แล้วจะอยู่คนเดียว 2-3 ปี ไม่มีใคร แต่สองอาทิตย์ คุณโพสต์ติ๊กต๊อกเป็นสาธารณะ ก็เห็นว่าคุณไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วคุณก็เข้ามาถล่มเรา แล้วก็มีกระแสว่ารักของเราล่มเพราะน้ำไม่เลือกครูเก้า เพราะครูเก้าจน เราก็เฮ้ย ทำไมกระแสออกไปอย่างนั้นได้ 4 หมื่นก็คือไม่มี ไม่จ่าย หนี ปิดเฟซ บล็อกไลน์ บล็อกเบอร์ บล็อกเบอร์พ่อน้ำ

ครูเก้า :   แล้วผมต้องไปจ่ายค่าอะไร

ครูน้ำ : ดูที่แม่เลยค่ะ ว่าค่าอะไร ค่าชุดแต่งงาน ชุดเจ้าบ่าว การ์ดแต่งงาน

เขาแบกมาหมดเลย?

ครูน้ำ : สลิปการโอนเงินที่ต้องจ่ายค่าต่าง ๆ

แม่ : แล้วมาโพสต์ว่าน้องอย่างไร้สติ

ครูเก้า : ค่าใช้จ่ายที่พูดมา ผมก็ต้องรับรู้ตั้งแต่แรก ผมไม่ได้ปัดเลยนะครับ ผมก็พยายามรับผิดชอบ ว่ามีต้นตออย่างไร จ่ายตอนไหน ตอนที่อยู่ไม่ได้มีการตกลงกันว่าผมต้อง..หมายถึงว่าผมต้องรับรู้สิว่ามันเท่าไหร่ ค่าออแกไนซ์เขามาบอกตอนหลังว่า 4.5 หมื่น แล้วผมไปตกลงปลงใจตอนไหนว่าต้องจ่าย 4.5 หมื่น

แม่ : ก็เห็นแล้วว่าค่าอะไรยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเยอะแยะ ที่น้องไม่อยากบอก เพราะคุณเก้ามีปัญหาเรื่องการเงิน แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร ขอให้รักด้วยใจ ดูแลลูกแม่ได้ เขาดีมาก ตื่นเช้าเป็นระเบียบ สวดมนต์ ไหว้พระ เข้ามาหาแม่ในครัว แม่ทำกับข้าวให้เขากินก่อนไปโรงเรียน มีอะไรให้ช่วยบ้าง คือดีมาก ลูกได้คนดีแน่นอนเขาต้องดูแลลูกเราได้ เพราะลูกเราเป็นโรคซึมเศร้า เราก็หลงกันทั้งครอบครัวเลย พอเราไปจัดการทั้งหมด น้องเขาเก่ง เขาเป็นพิธีกร เขาทำงานหลายอย่าง เขารู้จักพรรคพวกเยอะ เขาก็จัดสรรได้หมด โดยที่คุณเก้าไม่ต้องรู้ก็ได้ เพราะเขามีปัญหาเรื่องเงิน เขาก็เครียดอยู่แล้ว

คือจะบอกว่าทางฝั่งครอบครัวเขาก็ทำให้แหละ เพราะครูเก้าไม่ได้ออกอะไรเลย งานแต่งงานคงไม่ได้ไปขอวัดไปจัดที่นั่น มันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ครูเก้าไม่สงสัยเหรอแล้วค่าใช้จ่ายชุดเจ้าบ่าวมาได้ยังไง นี่แม่เขาพยายามบอกอย่างนี้ ตอนนี้ประเด็นหลักเขาไม่ได้ขออะไรเลย เขาขอ 4 หมื่นบาท?

รณณรงค์ : ทำไมครูเก้าคิดว่าครูเก้าไม่ต้องจ่ายอะไรเลย อยากรู้ตรงนี้

ครูเก้า : ผมได้ถามเขา คุยกับเขาแล้ว คุยกับพ่อแม่เขาแล้ว แล้วคนก่อนๆ ที่อยู่มา ที่ทำผิดกับน้ำ จนน้ำจะฆ่าตัวตาย เขาเสียอะไรหรือเปล่าล่ะครับ

 เราอย่าไปเปรียบเทียบกับใคร อย่ามองว่าน้ำคบกับแฟนเก่า เลิกกันไป ไม่เห็นต้องจ่ายเลย ทำไมครูเก้าต้องจ่าย บริบทในชีวิตมันแตกต่างกัน เขาประกาศไปแล้ว พ่อแม่เขามาออกรายการก็อายชาวบ้านชาวช่องนะ ลูกเขาโดนผู้ชายทิ้งไปแต่งกับคนอื่น มันน่าอับอายนะ นี่คือสิ่งที่เก้าต้องเข้าใจ เก้าเป็นครู สอนนักเรียนได้ก็ต้องสอนตัวเองได้ด้วยเหมือนกัน เงิน 4 หมื่นไม่ได้มากมายอะไร การที่คุณจะจ่ายผมว่าคุณไปซื้อกิน คุณอาจจ่ายมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่นี่เขารักคุณสุดหัวใจเหมือนกัน เขาจ่ายค่าโน่นค่านี้ให้คุณทุกอย่าง มองในมุมฝ่ายหญิงบ้าง อย่ามองมุมเราฝ่ายเดียว?

ครูน้ำ : ณ ตอนนั้น 4 หมื่นเป็นราคาที่เราคุยกันว่าเขาจะเลิกกับเราเพราะเหตุผลคือเราเป็นโรคซึมเศร้ากับเขาไม่มีเงิน อยากให้ไปเจอคนที่ดี ขอไปศึกษาโรคซึมเศร้าก่อนแล้วจะกลับมาดูแลน้องใหม่ เราเลยเรียก 4 หมื่น แต่ไม่ถึง 2 อาทิตย์ เขาหักหลังโดยไปจดทะเบียน ถ่ายพรีเวดดิ้งกับคนเก่าที่เขานอกใจมาหาน้ำ น้ำว่ามันไม่ควรใช่ 4 หมื่นแล้วค่ะ น้ำจะเอาทั้งหมดเต็ม ๆ และถ้ามากกว่านี้ก็จะเรียกค่ะ เพราะเป็นค่าเสียชื่อเสียง ค่าศักดิ์ศรี ตอนนี้น้ำขอเอาทั้งหมดค่ะ และค่าความเสียใจของพ่อแม่

ตอนนี้น้ำประกาศว่าในเมื่อ 4 หมื่นก่อนหน้านี้คุณไม่จ่ายไม่เป็นไร ตอนนี้เขาเรียกหมดเลย ค่าทุกอย่างที่จ่ายไป ค่าเสียชื่อต่าง ๆ นานา ข้อกฎหมายเรียกได้มั้ย?

รณณรงค์ : มุมการจัดพิธีหมั้นการแต่งงาน ถ้ามีการหมั้นกันแล้ว และตกลงทำพิธีแต่งงาน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเตรียมพิธีแล้ว แล้วยกเลิกกัน ค่าเสียหายต่าง ๆ สามารถเรียกค่าทดแทนได้ทุกบาททุกสตางค์ ก้อนที่สองคือค่าเสียหายแก่ร่างกายหรือชื่อเสียง ต่อมายังเรียกของหมั้นที่มีการหมั้นกันแล้วเอามาได้ส่วนนึง กรณีดังกล่าวต้องไปดูว่ามีการทำพิธีหมั้นกันมั้ย หรือส่งมอบของหมั้นกันมั้ย เป็นสาระสำคัญของเรื่องนี้  แต่อยากให้ครูเก้ามองอีกมุมนะ ถ้าน้องสาวหรือญาติครูเก้ากำลังไปงานแต่ง แล้วเขาบอกว่าเจ้าบ่าวหนีแล้ว ไปถึงปุ๊บแล้วไม่มีงานแต่ง ครูเก้าจะรู้สึกยังไง วันนี้เจ้าสาวก็รู้สึกแบบนั้น?

ครูเก้า : ผมรีบใช้โอกาสในการพูดกับครอบครัวเขา มันชัดเจนจนคุณพ่อเขาบอกว่าไม่เป็นไร เอาค่าเสียหายมาแล้วกัน 4 หมื่น ก็งงว่าทำไมถึงมาเรียกกับผม

รณณรงค์ : เราได้บอกพ่อเขามั้ยว่าเราไม่แต่งแล้ว ไม่จัดงานแล้ว

ครูเก้า : ผมบอกเขาในลักษณะนั้นแหละครับ จนเขาบอกว่าเข้าใจแล้ว ที่บอกว่าผมออกมาอยู่คนเดียว เพราะผมไม่มั่นใจว่าผมจะง้อใครได้ ผมก็ออกมา

รณณรงค์ : แต่ครูเก้าบอกว่า 31 จะไปจดทะเบียนกับครูน้ำอยู่เลยนะ

ครูเก้า : ครับ แต่ผมเจออาการซึมเศร้าเขาแบบชัดๆ ก่อนครับ

วันที่เราเคยไปอยู่กับเขา ทำกับข้าวให้เขากิน พอรู้ว่าเขาไม่สบาย เขาป่วย  ครูเก้าก็ดึงตัวเองออกมา ครูเก้าไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?

ครูเก้า : ผมรู้สึกครับ เขาบอกผมเป็นยาวิเศษสำหรับเขา อยู่ข้างๆ แล้วเหมือนจะดี แต่อยู่โดยไม่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งเขาก็มาขอเคลียร์ที่โรงเรียน

ตอนนี้เขาฟ้องเลย เรียกหลักแสนแล้ว?

ครูเก้า :   ถ้ามีการจ่ายจริง

รณณรงค์ : เขาจ่ายจริง เขามีใบเสร็จด้วย

ครูเก้า : ผมก็คงขอดู เพราะผมก็ไม่เห็นเหมือนกัน

ครูน้ำ : ตอนนี้ไม่เอาแค่ใบเสร็จแล้วค่ะ เอาค่าเสียหาย ค่าเสียศักดิ์ศรี ค่าเสียชื่อเสียง และค่าที่คุณโพสต์หมิ่นประมาทกับเรื่องราวในเฟซบุ๊ก ถ้าคุณแมนสักนิดนึง คุณบอกว่าคุณผิดเอง เรื่องเงินเคลียร์ให้จบ แล้วขอเริ่มต้นใหม่กับ ย. ก็จบ แต่นี่คุณดันไปโพสต์ว่าร้ายเราอีก เป็นเรื่องไม่จริงอีก ตอนนี้จะเอาเรื่องทุกอย่างค่ะ

พ่อ : มันเกินไปครับ ตอนคุณเก้ามาอยู่ที่บ้าน ลูกสาวถึงขั้นปรึกษาจะช่วยใช้หนี้ที่คุณเก้าเป็นอยู่ มีที่ก็จะเอาเข้าธนาคารโปะหนี้ให้เลยนะ ไม่รู้เขาติดหนี้อะไรกันมา ผมกับแม่เขา ก็ยินดีช่วย วันที่ครูเก้าเดินออกจากบ้านผม ลูกสาวร้องไห้ บอกว่าพ่อ ซื้อตัวเขาอยู่ได้มั้ย ผมก็บอกว่าห้ามเขาไม่อยู่หรอก ถ้าใจเขาไม่อยู่

แม่ : เขาออกไปอย่างโหดร้ายค่ะ ณ วันนั้นเกิดเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจน้อง น้องเข้ารพ. แล้วหมอต้องเพิ่มยาอย่างหนักเลย หลังจากไปโรงพยาบาลกลับมาส่งน้องที่บ้าน แม่ขอให้อยู่เป็นเพื่อนน้องสักคืน ตื่นมาจะได้ล่ำลากัน หมอให้ยาแรงมาก เขาก็บอกว่าเขามีงานต้องทำ แล้วทิ้งไปอย่างโหดร้ายมากๆ น้องป่วยหนัก ซึมเศร้ากำเริบหนัก เอาน้องมาปล่อยที่บ้าน ตัวเองก็จะไป เราก็อยากให้จากกันด้วยดี เอาหมามาให้เลี้ยงอีกตัวด้วย

เอาง่าย ๆ เลยนะ สิ่งที่คุณต้องจัดการกับชีวิตคุณ คุณเตรียมหาตังค์เลย เขาฟ้องคุณแน่ สองเขาแจ้งความคุณแน่ เรื่องหมิ่นประมาท สิ่งที่คุณโพสต์ทั้งหมด?

รณณรงค์ :   อยากบอกอย่างนึง เวลาโพสต์อย่างนี้ ไม่แน่ใจว่าครูเก้าโพสต์เองมั้ย หรือต้องการชี้แจงเองมั้ย การโพสต์ไปแบบนั้น ทำให้เขาเสียหายค่อนข้างเยอะ เขาเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย เขาป่วยอยู่ด้วย ถ้าเขาจะเอาเรื่อง แนะนำอย่างนึง ถ้าเขากลับไปต้องไปเจอหน้าเขา เพื่อไม่ให้เรื่องใหญ่กว่านี้จะบล็อกเบอร์ บล็อกไลน์ไม่ได้ ต้องคุยกัน หลังจากนี้ต้องกล้าเผชิญหน้า ทำอะไรไว้ต้องกล้ารับผิดชอบ

ครูเก้าต้องรู้สึกก่อนว่าสิ่งที่ทำผิดหรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่ผิดไปขอโทษก็ไม่มีประโยชน์ ไปทบทวนดีๆ นะ ก่อนสอนเด็กได้ เราก็ต้องสอนตัวเองก่อน วันที่เราเดินเข้าไปในบ้านเขา พ่อแม่เขาก็ต้อนรับครูอย่างดี ต้องเห็นใจเขาด้วย เกิดเหตุการณ์แบบนี้พ่อแม่เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เขามานั่งออกรายการแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะดี เหมือนสาวไส้ มันเป็นความเดือดร้อนของครอบครัวเขา ครูเป็นครู ต้องมีวุฒิภาวะในความผิดมากกว่านี้ ในสิ่งที่ครูต้องจัดการ ครูไหวนะ?

ครูเก้า : ครับ

เรื่องเหยียบเรือสองแคม ผมก็เคยมาก่อน แต่ก็ไม่เคยว่าผู้หญิง สิ่งที่ทำได้คือพูดว่าขอโทษนะอย่าไปว่าผู้หญิง เราเหี้-เอง ที่ไปหลอกเขา มันดูชัดเจนกว่า เราไม่ควรไปว่าเขา สุดท้ายอยากบอกอะไรเขามั้ย?

ครูเก้า : ถ้ามองว่าผมผิด ผมว่าเวลาอาจช่วยได้ ผมก็ยอมรับว่าผมผิดอย่างที่พี่หนุ่มบอก ผมเลวเอง ยอมรับตรงนี้ จีบผู้หญิงไป ทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น ผมยอมรับต้นเหตุตรงนี้ ผมก็เป็นผู้ชายคนนึง ไม่อยากให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว

ครูน้ำ : ตอนนี้จากการที่ศึกษาข้อกฎหมายมาน้ำสามารถฟ้องร้องได้ แต่เราสามคนทำงานในวงการการศึกษา สวมชุดสีกากีทั้งสามคนเลย อย่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเลยค่ะ มาคุยกันภายใน ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เสียเวลาสอน เสียเวลาราชการ แทนที่ครูจะไปศาล เอาเงินมาเคลียร์กันภายในให้มันจบๆ หรือเลิกบล็อกโทรศัพท์น้ำ โทรกลับมาคุยกับพ่อน้ำว่าจะผ่อนจ่ายเดือนเท่าไหร่ทำให้มันถูกต้อง ยิ่งคุณจดทะเบียนสมรสกับภรรยาคุณแล้ว คุณไม่มี คุณย. ก็ต้องช่วยคุณได้ ในเมื่อจะร่วมหัวจมท้ายกันแล้วก็ต้องมาจัดการตรงนี้ อยากยื่นคำขาดว่าถ้าไม่จัดการเรื่องเงินให้จบก่อนคุณแต่งงานกัน เราจะร้องวินัยราชการของคุณอย่างร้ายแรงมากที่สุดและจะฟ้องร้องให้ได้มากที่สุด ให้คุณเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาล ดังนั้นถ้าไม่อยากเสียเวลา ก็มาเคลียร์ให้จบก่อนคุณไปแต่งงานค่ะ

แม่ : ทำอะไรไว้ก็มารับผิดชอบให้ชัดเจน จะเรียกค่าใช้จ่ายรวมๆ แล้วก็ 1 แสน ค่าเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลอีก 1 แสน รวมเป็น 2 แสนค่ะ

ทนายอยากพูดอะไร?

รณณรงค์ : ครูเก้าต้องยอมรับว่าตัวเองผิดและขอโทษเขาก่อนอย่างแรกเลย ที่นั่งฟังคุณไม่ขอโทษอะไรเขาเลย

ครูเก้า : ขอโทษแล้วกันครับ

ขอโทษคือขอโทษ อย่าขอโทษแล้วกัน แต่ก็ไม่เป็นไร เหมือนไปบังคับคับคุณ ถ้าคุณมั่นใจว่าผิดก็ไปขอโทษเขาดีกว่า?

ครูเก้า : ครับ

About Author