หนุ่มคิดสั้น ฟ้อง รพ.ทำพิการ ถ้าแพ้จะฆ่าตัวตาย

พ้อสูญเสียทุกอย่าง ไม่อยากเป็นภาระให้แม่ ด้านแม่ร่ำไห้สุดทุกข์ อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีลูก

กรณี “แบงค์” ไปรักษาอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่รพ.แห่งหนึ่งด้วยวิธีการผ่าตัด แต่หลังผ่าตัดกลับรู้สึกว่าปวดหัว และปวดหลังรุนแรง ต่อมาพบบริเวณไขกระดูกสันหลังมีน้ำไหลออกมาตลอดเวลา แพทย์ระบุว่ามีอาการแผลติดเชื้อ โยนความผิดให้แม่ที่ทำหน้าที่ล้างแผลอยู่ที่บ้าน หลังเข้ารับการผ่าตัดรอบสอง ปรากฏว่าขาชาไม่มีความรู้สึก ไม่สามารถเดินได้ตามปกติ สุดท้ายแพทย์ลงความเห็นว่าพิการ จนนำไปสู่การฟ้องร้องรพ. ตอนนี้ไม่กินข้าวมา 5 วันแล้ว พร้อมประกาศหากแพ้คดีจะฆ่าตัวตาย

รายการโหนกระแสวันที่ 9 มิ.ย. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ แบงค์ ผู้เสียหาย มาพร้อม แม่รุ่งนภา , คุณน้าภาวิณี และ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์

แบงค์อายุเท่าไหร่?

แบงค์ : 31 ครับ กำลังจะ 32

เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น?

แบงค์ : ตอนแรกผมปวดหลังครับ ใช้เวลา 3-4 ชม.ในการทำงานแล้วมันจะปวดมากเลย แต่ถ้าหยุดสักพักมันจะหาย พอหายผมก็ทำงานได้เหมือนเดิม ผมเลยไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ผมตัดสินใจไปหาหมอครั้งที่ 1 หมอบอกว่าน่าจะกล้ามเนื้ออักเสบ ให้ยากลับมากิน พอกินแล้วไม่หาย ก็กลับไปหาหมอครั้งที่สองก็กินยาเหมือนเดิม คราวนี้ไปหาหมอคนที่สาม คราวนี้หมอส่งไปทำ MRI ผมกลับไปหาหมอคนที่สามอีกรอบ หมอคนที่สามพบว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เลยส่งตัวไปหาคนที่ 4 ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ เขาบอกผมว่าวิธีการรักษามีสองวิธี ต้องกินยาต่อหรือผ่าตัด แค่นั้นเลยครับ ผมตัดสินใจผ่าตัดเพราะผมกินยามานานแล้วครับ ตัดสินใจผ่าตัดที่รพ.นี้เลย

ผ่าส่องกล้องหรือผ่าแบบเปิด?

แบงค์ : ผ่าแบบเปิดเลยครับ

เราปวดมาก?

แบงค์ : ปวดมากครับ ก่อนผ่าผมถามหมอแล้วว่าจะมีผลอะไรมั้ย หมอบอกว่าอยู่รพ.แค่ 3 วันแล้วพักรักษาตัว 3 เดือนหายเป็นปกติเลย ผมเลยตัดสินใจผ่า อันนี้คือหมอคนที่ 4 ที่ไปหา ก่อนหน้าแรกไม่ใช่หมอเฉพาะทาง คนนี้คือหมอเฉพาะทาง ดูแลจากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นหมอคนนั้นตลอด

ไปผ่านานหรือยัง?

แบงค์ : 11 เดือน 8 ปีที่แล้วครับ พอผ่าปุ๊บทุกอย่างก็เหมือนปกติเลย ผมฟื้นตัวในห้องดูอาการ ไม่มีใครมาพูดคุยอะไรด้วยเลย นอนรออาการสักพักเขาก็เข็นผมลงไปห้องเอ็กซเรย์ พอเอ็กซเรย์เสร็จก็เข็นไปห้องพัก คราวนี้พอผมเริ่มรู้สึกตัวนิดนึงผมก็โทรหาญาติผม เขานั่งรอยืนรอที่ห้องผ่าตัดโดยไม่มีใครบอกเลยว่าผมผ่าตัดเสร็จตั้งนานแล้ว หลังผ่าตัดด้วยความเหนื่อยผมก็หลับไปเลย ทีนี้ช่วงกลางคืนคุณหมอที่ผ่าตัดเดินเข้ามา บอกว่าแผลเป็นแค่นิดเดียวเองนะ สามารถลุกขึ้นนั่งได้เลย เพราะก่อนหน้านี้มีป้ายนอนราบบนหัวผม คือห้ามลุก ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเจอหมอหลังผ่าตัด แล้ววันถัดไปผมไม่ได้เจอหมอ วันถัดมาหมอมาถอดสายระบายเลือดเพราะยังเสียบอยู่ พอคุณหมอเดินเข้ามาปุ๊บดึงปั๊บแล้วเดินออกไปทันที ไม่พูดอะไรสักคำ ซึ่งเป็นคุณหมอที่ผ่า ผมก็ไม่รู้อะไรเลย แต่รู้อย่างเดียวคือคุณหมอบอกผมว่าสามวันกลับบ้านได้ พอถอดเสร็จก็ลองลุกเดินดู เพราะพยาบาลบอกว่าลองเดินดูนะ เพราะเดินได้ ผมก็เดินได้ ไม่ปวดหลัง วันถัดไปผมก็ตัดสินใจกลับบ้านเลย

แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?

แบงค์ : ผมกลับบ้านวันเสาร์ช่วงบ่าย ตอนเย็นผมก็กินข้าวและขึ้นไปนอนปกติ แต่พอมาวันอาทิตย์ ตอนเช้าผมลงมากินข้าว ผมขึ้นไปนอนชั้น 3 มื้อเที่ยงลงมากินข้าว ขึ้นไปนอนชั้น 3 พอตอนเย็นลงมากินข้าว ผมรู้สึกว่ามีอาการปวดหัวมาก ปวดหัวขั้นรุนแรง นั่งไม่ได้ ผมก็ขึ้นไปนอนบนห้องนอน พอนอนก็รู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ลุกออกจากห้องนอนเลย แล้วผมก็ไม่ได้ตัดสินใจไปรพ.ทันที เพราะผมไม่รู้ว่าหมออยู่รพ.วันไหนบ้าง แต่ผมมีใบนัดกับคุณหมอวันศุกร์ ผมเลยตัดสินใจว่าทนไปถึงวันศุกร์แล้วกันค่อยไปหาหมอ เพราะตอนนั้นแค่ยกหัวขึ้นมาจากหมอน 45 องศาก็ทำไม่ได้เลยจริงๆ ครับ

อาการมันยังไง?

แบงค์ : หลังไม่ปวดเลยครับ แต่ปวดหัวมาก ปวดหัวรุนแรง วันศุกร์ไปหาหมอเสร็จปุ๊บ หมอให้พยาบาลมาถอดแม็กซ์ที่หลัง ข้างซ้ายคือแผลครั้งแรก ข้างขวาคือแผลครั้งที่สอง

ข้างซ้ายแม็กซ์เอาไว้แบบนี้ หมอก็ต้องถอดแม็กซ์ออก?

แบงค์ : ใช่ครับ หมอใช้ให้พยาบาลมาถอดครับ พอถอดเสร็จปุ๊บมันจะมีส่วนข้างบนประมาณ 3 แม็กซ์บน มันจะมีน้ำใสๆ ไหลออกมา พยาบาลเลยวิ่งไปบอกคุณหมอ คุณหมอก็วิ่งกลับมา ทีนี้คำถามแรกที่คุณหมอถามก็คือ ทำแผลเองที่บ้านหรือทำแผลที่รพ. แม่บอกว่าทำแผลเองที่บ้าน คุณหมอเลยตอบกลับมาทันทีว่าแผลติดเชื้อจากการทำแผลเองที่บ้าน แล้วคุณหมอก็เดินออกไปเลยครับ แล้วก็ทิ้งให้น้ำที่หลังผมไหลอยู่เรื่อยๆ ไหลไม่หยุด หัวก็ปวดไม่หยุด ขยับไม่ได้ จนถึงวันรุ่งขึ้น เขาเอาผมเข้าเครื่องสแกนอะไรสักอย่าง แล้วช่วงประมาณเที่ยงหรือบ่ายๆ คุณหมอถึงได้มาเย็บหลัง ช่วงที่มันรั่ว ปิดรูรั่วข้างนอก

เขาบอกแผลติดเชื้อจากคุณแม่ที่ทำไม่ดี?

แบงค์ : เขาว่าแม่ทำแผลไม่ดีครับ

แล้วน้ำนั่นรั่วเพราะอะไร?

แบงค์ : ข้อเท็จจริงมัวรั่วเพราะคุณหมอทำครับ คุณหมอผ่าตัดครั้งแรกทำให้น้ำไขสันหลังรั่วครับ

แม่รุ่งนภา : ผ่าตัดครั้งแรกทำให้น้ำไขสันหลังรั่วแล้วไม่แก้ไข ทั้งที่รู้แล้วก็ไม่แก้ไข

แบงค์ : เขาเห็นตั้งแต่วันผ่าตัดเลยครับ

แม่รุ่งนภา : ก็ให้ลูกมานอน ขูดแล้วเย็บใหม่

แบงค์ : แล้วปล่อยให้ผมกลับบ้าน โดยไม่พูดอะไรครับ

ครั้งที่สองผ่าตัดใหม่?

แบงค์ : ใช่ครับ เพราะน้ำมันไหลออกมาเรื่อยๆ ก็เป็นหมอคนเดิม รพ.เดิม แต่ครั้งนี้เขาเรียกคุณหมอที่เป็นรุ่นพี่เขามาด้วยอีก 1 คนเพื่อมาช่วยครับ ตอนก่อนผ่าตัดผมถามเขาว่าคุณหมอครับ จะแก้ไขอะไรได้บ้าง คุณหมอบอกว่าจะเย็บกล้ามเนื้อข้างในให้มันแน่นขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำมันทะลุออกมา ผมก็ถามคุณหมอว่ามีวิธีการหารูรั่วได้มั้ย คุณหมอบอกว่าไม่มี สามารถอุดรูรั่วได้มั้ย คุณหมอบอกว่าไม่มี ก็โอเคทำได้แค่เย็บกล้ามเนื้อนะ ผมก็เข้าใจแบบนี้ ผมเลยตัดสินใจผ่าตัดครับ พอผ่าตัดเสร็จปุ๊บ รอบนี้ไม่เหมือนรอบแรก มีคนมาปลุกผมในห้องพักฟื้นครับ แล้วพอฟื้นตัวมาผมปวดมาก ปวดที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมาเลยครับ มีคนถามว่าอาการเป็นยังไงบ้าง ปวดระดับไหนให้คะแนนหน่อย ผมก็ชูมือสิบนิ้วเลยครับ ตอนนั้นผมหลับตาเพราะปวดมากๆ ปวดทั้งตัวเลย ทั้งหัวที่เสียน้ำไขสันหลัง ปวดขา ปวดแขน ปวดทั้งตัว ยกมือได้แค่นี้ นอนนิ่งๆ เขาก็เข็นไปบนเตียง เสร็จประมาณ 4 ทุ่มผมก็หลับไปเลย

มันเกิดอะไรขึ้นหลังผ่าตัดครั้งที่สอง?

แบงค์ : พอเช้าวันรุ่งขึ้น ตามจริงหัวผมขยับไม่ได้อยู่แล้วเพราะน้ำไขสันหลังผมมันรั่วตั้งแต่แรก แต่ผมสามารถขยับแขน ยกแขน ยกขาได้นิดหน่อย ทีนี้ผมก็ลองยกแขนดู ก็ยกได้ปกติ ทีนี้ผมจะขยับขา ขาผมขยับไม่ได้ทั้งสองข้างเลยครับ ผมตกใจมาก เลยถามพยาบาล พยาบาลก็ให้คำตอบไม่ได้อยู่แล้ว เขาก็ต้องรอคุณหมอ พอวันถัดไปคุณหมอมา บอกว่าได้ใส่ก้อนเนื้ออะไรสักก้อนนี่แหละครับเข้าไปเพื่ออุดน้ำไขสันหลัง ซึ่งมันไม่ตรงกับประเด็นที่ผมคุยกับเขาก่อนผมตัดสินใจผ่าตัด มันคนละเรื่องกันเลย

สุดท้ายผ่าครั้งที่สอง มันเป็นยังไง?

แบงค์ : ผมเดินไม่ได้ครับ ขยับขาไม่ได้เลยทั้งสองข้างครับ ตอนนี้ขาขวาใช้งานได้ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนข้างซ้าย 50-60 เปอร์เซ็นต์แค่นั้น แล้วมีอาการเหมือนขาอ่อนแรง ตอนนี้พอเดินได้ แต่ถ้าไกลมากจะไม่ได้ ต้องใช้ไม้ ถ้าในบ้านมีที่จับเดินได้ปกติ แต่ถ้าให้ผมไปเดินไกลๆ ไม่ได้

ทุกอย่างมันเปลี่ยนหมด ชีวิตเปลี่ยน?

แบงค์ : ใช่ครับ ชีวิตผมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ก่อนหน้านี้ผมเปิดธุรกิจส่วนตัว ขายจักรเย็บผ้า แล้วก็ขายอุปกรณ์เย็บผ้า ช่วยกิจการที่บ้านด้วยการเอาของที่ผมมี ไปให้ที่บ้านใช้ทำงานด้วย ผมก็เหมือนแบกรับภาระตรงนี้ด้วย

หลังจากนั้นมีการฟ้องร้องรพ.?

แบงค์ : ตอนแรกผมไม่ได้คิดจะฟ้องร้องครับ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเจอเรื่องเลวร้ายมาก่อนเลยในชีวิต มันโชคดีมาก ผมก็ปล่อยไป จนหลังผ่าตัดครั้งที่สอง ผมมีอาการนอนไม่หลับ ผมเลยรักษากับจิตแพทย์ที่รพ.นั้น ทีนี้วันนึงผมไปเจอเขา แล้วผมไม่รู้เขาอารมณ์ไหน เขาไล่ตะเพิดผมเหมือนหมูเหมือนหมาออกมาจากห้องเลยครับ ผมถามเขาว่าช่วยเลื่อนเวลานัดหน่อยได้มั้ย เพราะผมลำบากในการต้องมาเช้า ตอนบ่ายผมมากายภาพทุกวันอยู่แล้ว แต่ถ้ามาเช้าบ่าย เท่ากับผมอยู่รพ.ทั้งวันจะไม่ได้กินข้าว จะอธิบายให้เขาฟัง ผมกำลังจะพูด ไม่ทันได้เอ่ยเลย หมอจิตแพทย์บอกว่าเสาร์-อาทิตย์ ไป๊! ไล่เลยครับ คุณหมออายเยอะมากแล้วด้วยนะครับ น่าจะ 80 กว่าครับ แล้วพยาบาลก็เข็นผมออกมาเลย

คุณเลยตัดสินใจฟ้องรพ.แห่งนี้ทันที?

แบงค์ : ทันทีเลยครับ จากที่ไม่คิดจะเอาเรื่องอะไรเลย

ทำไมถึงมีข่าวออกมาว่าน้องพอไปฟ้อง ถ้าแพ้จะฆ่าตัวตายต่อหน้าศาลถ้าแพ้?

แบงค์ : ก่อนหน้านี้ผมคิดจะสู้แล้วครับ สู้ด้วยการทำด้วยตัวเองหมดทุกอย่าง พยายามส่งข่าวผมไปที่เฟซบุ๊ก ส่งข่าวไปที่ช่องทีวีหลาย ๆ ช่อง แต่ก็ไม่มีการตอบรับ ไม่มีใครช่วยเหลือผมเลย ผมรู้สึกว่าผมแพ้ครับ จากตอนแรก ผอ.รพ.คุยกับผมดีมาก อยู่ดี ๆ เขาเหมือนหน้ามือเป็นหลังมือเลย บอกว่าการรักษาของผมเป็นเหตุสุดวิสัย

ล่าสุดน้องอดข้าวกี่วัน?

แบงค์ : 5 วัน ตั้งแต่ตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย ผมก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย นอกจากยานอนหลับ กรอกเข้าปากโดยไม่กินน้ำ

วันนี้สิ่งที่ต้องการ?

แบงค์ : ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากได้ความยุติธรรม ล่าสุดผมไปเจอหมอรักษาหลังคนเดิม ผมใส่เสื้อบอลไป เพราะใส่เสื้ออื่นลำบาก คำพูดแรกของเขาที่พูดกับผมคือ เขาถามว่าเมื่อคืนได้ดูบอลมั้ย เป็นยังไงบ้าง ซึ่งผมนอนไม่หลับ ค่อนข้างเครียด แต่เขากลับทักอย่างนั้น อารมณ์ดี ผมบอกว่าผมปวดหลังครับ เขาก็บอกว่าเหรอ ถ้าปวดหลังอาจต้องผ่าซ้ำอีกรอบนะ อาจเป็นเหมือนเดิมอีก ผมฟังแล้วไม่โอเคเลย สุดท้ายเขาก็โทรมาเลื่อนนัดผมไปเลย

ฟ้องเรียบร้อย?

แบงค์ : ศาลจะนัดไกล่เกลี่ยครั้งแรกวันที่ 14 เก้าโมงเช้าครับ

แม่ไม่สบายใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น?

แม่รุ่งนภา : (นิ่งไป) พูดไม่ออก ทุกข์มาก ลูกเป็นชีวิต เป็นหัวใจ เป็นลมหายใจ ถ้าไม่มีมันไม่ได้ เขาคือลมหายใจ (เสียงสั่นเครือ)

ตอนแรกไม่คิดฟ้อง แต่สุดท้ายไปหาจิตแพทย์รพ.เดิมที่ผ่า หมอไล่ ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้แล้วเลยไปร้อง พอฟ้องปุ๊บอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการไกล่เกลี่ยกันที่ศาล แต่ประเด็นคือน้องบอกว่าถ้าแพ้จะฆ่าตัวตาย ไม่ไหวแล้ว อยู่อย่างนี้ไม่ได้ เรื่องนี้น้องเขาอดข้าวไป 5 วัน ทนายไพศาลไปเห็นเข้า?

ไพศาล : วันนั้นผมลงเคสกับเพื่อนกับหมอปลาที่ลพบุรี ไปช่วยหาศพ แล้วพอดีนักข่าวช่อง 3 น้องสิทธิกร บอกว่าเคสนี้ร้องมา แล้วบอกว่าร้องมาทุกที่แล้ว ร้องโหนกระแสแล้วด้วย ผมก็บอกว่าเดี๋ยวจะสอบข้อเท็จจริง แต่ผู้สื่อข่าวบอกว่าน้องเขาอดข้าวมา 4-5 วันแล้วนะ น้องเขาเอาแน่ ไปๆ มาๆ ต่อสาย เขาก็พูดแบบคนไม่ได้กินข้าว ก็สอบถามคุณแม่ คุณแม่บอกว่าน้องเขาเป็นคนเอาจริงและเด็ดเดี่ยวมาก เราในฐานะทนายความ กระบวนการยุติธรรม การฆ่าตัวตายที่ศาลไม่ควรเกิดขึ้น เพราะยังไงศาลยุติธรรมให้ความยุติธรรมอยู่แล้วตามพยานหลักฐาน ผมก็สอบถามข้อเท็จจริง ก็เห็นว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง การที่เขาจะฆ่าตัวตายที่ศาล เกิดจากเขาร้องเรียนตามที่ต่างๆ แล้วไม่ขยับ ผมต้องให้น้องเขาเอ่ยถึง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานประกันสุขภาพ ทางรพ.เองที่น้องไปรักษา การพูดคุยของหมอ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ตร.เอง เพราะน้องมีเหตุซ้ำซ้อนด้วย น้องช้ำแล้วช้ำอีก ช้ำแรกคิดว่าประเทศมีความเป็นธรรม แต่สุดท้ายไม่ได้เกิดขึ้น เราก็พยายามอธิบายว่าการทำงานของข้าราชการหรือหน่วยงานเอกชน บางทีมีระเบียบขั้นตอน แต่สิ่งที่เขาได้รับผลกระทบคือหนึ่งเขาติดต่อไปก็ไม่ติดต่อกลับมา ทางสปส. ในส่วนตร. มีรถชนซ้ำน้องอีก น้องขับรถไป วันนั้นแกจะขับรถไม่ได้อยู่แล้ว แต่ต้องขับรถไปรับยา รถชนซ้ำ มันมีประเด็นนี้ด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตร.ก็เข้าใจนะ แต่อยากให้ช่วยกันทำงาน อยากให้คดีจบเร็วๆ ก็ช่วยกันหากล้องวงจรปิดมา แต่นี่ก็เข้าใจว่าตร.อาจไม่รู้ว่าน้องมีสภาพพิการแล้ว มันเหมือนช้ำดอกที่สอง ตร.ให้ไปหากล้องมาเอง แล้วเขาผ่าตัดมาแบบนี้ แล้วดอกที่สาม หมอจิตแพทย์ก็ใช้เสียงดังกับเขา จนทุกอย่างเฟลไปหมด จนหมอผ่าตัดรักษาเขา อาจเป็นการพูดของหมอให้สบายใจ แต่สภาพจิตใจเขาไม่ได้แล้ว ถามเขาว่าบอลเมื่อคืนเป็นไง จนเขาร้องมาที่สื่อ ผมไปดูแล้ววิธีการเขาเอาแน่ ไม่กินข้าวจนเราเข้าไปช่วยกันหมด

ตอนนี้จะทำยังไง?

ไพศาล : เขาบอกว่า 14 จะฆ่าตัวตายที่ศาลจังหวัดนนท์เลย ผมบอกว่าใจเย็นก่อน เขาบอกเขามีทีมทนายแล้ว ผมพยายามอธิบายว่าการไกล่เกลี่ยเบื้องต้นเป็นแบบนี้ แล้วดำเนินคดีอาญาหรือยัง เขาบอกว่าทนายพาไปดำเนินการแล้ว แต่อาจเป็นวิธีการต่อสู้ของทีมทนายเขา ผมก้าวล่วงไม่ได้ ก็เลยโทรศัพท์หาทีมทนายเขา ทนายก็อนุญาต ผมก้เลยเข้าไปหาตร. พยายามกล่อมเขาและอธิบายกฎหมายเขาว่าหนึ่ง สามารถดำเนินคดีได้เลย  คดีประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย บาดเจ็บสาหัส อะไรก็ว่าไป ส่วนทางแพ่งก็ฟ้องละเมิดได้ ผมบอกเขางี้ แต่สิ่งที่อยากให้เข้ามาจัดการคือระบบสาธารณสุข เพราะการที่รพ.เอกชนทำแบบนี้ ตัวหมอทำไปแบบนี้ ถ้าผลมันพิสูจน์ได้ว่าเป็นผลจากการผ่าตัดจริง มันเอาผิดได้อยู่แล้ว มันมีพ.ร.บ.อีกเยอะแยะที่เข้ามาช่วยได้ อยากฝากหน่วยงานช่วยทำให้เร่งด่วน สิ่งที่ตลกที่สุดคือก่อนเข้ารายการ น้องบอกว่าสปส. มากดกริ่งหน้าบ้านแต่เช้าว่าเขาจะเข้ามาช่วยดูแล แต่ก่อนหน้านั้นน้องเขาร้องไปเป็นเดือนๆ สำคัญที่สุดคือแพทยสภา น้องเขาไปร้อง มีการบอกว่าคนรับเรื่องลาคลอด อีกเดือนให้ติดต่อมา ถ้าเกิดขึ้นไปแล้ว มีคนทำอะไรขึ้นไปคาศาล เขาได้รับความยุติธรรมตรงไหน มันง่ายๆ เลย เดี๋ยวเอาหมอคนกลางมาพิสูจน์ ว่าเหตุที่เขาเกิดขึ้น เกิดจากผลการกระทำของแพทย์มั้ย เกิดจากการผ่าตัดมั้ย หรือเกิดจากเหตุอะไร แต่การที่หมอมาบอกว่าเป็นเหตุสุดวิสัย สุดท้ายผมไปถามหมอที่รพ. เขาบอกว่ามีการสอบกันภายในแล้วไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เขาพูดนะ

แบงค์ : มีคลิปเสียง ส่งให้ทีมงานไปแล้วครับ วันนั้นผมไปคุยกับผอ. เขาก็อยู่รพ. ผมโทรนัดวันก่อนด้วย แต่เขาไม่ยอมลงมาคุยกับผม เขาให้คุยเฉพาะทางโทรศัพท์เท่านั้น ผมเลยถามเขาว่าสรุปเรื่องผมเป็นยังไง เพราะผมคุยกับรพ. วันที่ 11 เดือน 11 แล้วเราจะตัดสินกันอีกทีอาทิตย์ถัดไป แต่คราวนี้เวลาผ่านมานานแล้ว สภาพร่างกายผมไม่ไหว ผมเลยตัดสินใจไปรักษาที่อื่นก่อนดีกว่า ให้มันดีขึ้น แล้วค่อยกลับมาคุย ทีนี้พอผมเริ่มดีขึ้น ผมก็ติดต่อไปทางรพ. มันผ่านไปเป็นเวลานานมากเหมือนกัน

เรามีหลักฐานเก็บไว้ มีสองคลิป?

แบงค์ : ใช่ครับ คลิปแรกผอ.บอกว่าเหตุที่เกิดขึ้นกับผมเป็นเหตุสุดวิสัย อีกคลิป หมอที่ผ่าตัดครั้งแรกเขายอมรับว่าเขาเห็นน้ำไขสันหลังรั่ว 

แล้วมาว่าแม่ทำไมว่าแม่ดูแลไม่ดี?

น้าภาวิณี : เขาไม่บอกเลยค่ะ จนเย็บสองสามครั้ง เย็บแล้วก็นอนรอที่รพ. สองสามครั้ง ก็คือน้ำยังรั่วอยู่ เราร้อนใจเลยโทรไปถามเพื่อนที่เป็นพยาบาลอยู่รพ.อีกแห่งนึง เพื่อนบอกว่าอาการแบบนี้คือน้ำไขสันหลังรั่ว ไม่ใช่ทำแผลไม่ดีแล้วติดเชื้อ

แบงค์ : เรื่องน้ำไขสันหลังรั่วเรารู้เอง น้าโทรไปถามหมออีกรพ.แล้วรู้เอง หมอไม่เคยบอกว่าน้ำไขสันหลังรั่วอะไรเลย ไม่เคยพูดข้อเท็จจริงอะไรเลย หมอพูดอยู่อย่างเดียวว่าแผลติดเชื้อจากแม่

น้าภาวิณี : แต่ไม่ได้พูดว่าน้ำไขสันหลังรั่ว เราเป็นคนพูดคนที่หนึ่งค่ะ

ไปหาหมอที่อื่นมั้ย?

แบงค์ : หมอที่อื่นก็บอกเหมือนกันว่าน้ำไขสันหลังรั่ว เพราะผมมีฟิล์ม MRI มันจะเห็นชัดว่าน้ำไขสันหลังรั่วอย่างชัดเจน แล้วเขาก็บอกว่าวิธีการรักษา ของผมหมอนรองกระดูกนิดเดียวไม่จำเป็นต้องผ่าตัดด้วยซ้ำ มีวิธีอื่นที่รักษาให้หายได้ แต่หมอที่นี่บอกว่ากินยากับผ่าตัดเท่านั้น หมอที่อื่นบอกว่ามีเครื่องที่เข้าไปสแกนดูหารูรั่ว มีวิธีการรักษาน้ำไขสันหลังรั่วได้ในทันทีถ้าจะทำ ทำได้ครับ

แม่ทุกข์ใจเพราะแบงค์บอกว่าถ้าเขาแพ้เขาจะไม่อยู่บนโลกใบนี้?

แบงค์ : ผมใช้ชีวิตมา 31 ปี ไม่เคยพูดอะไรแล้วไม่ทำ ผมพูดแล้วทำทุกอย่าง

พี่เป็นคนนอก มุมมองของพี่ ถ้าแบงค์คิดว่าไม่ไหว ไม่อยู่แล้ว พูดแล้วต้องทำ แบงค์ต้องนึกถึงแม่ด้วยนะ เมื่อกี้แม่พูดว่าถ้าแบงค์ไม่อยู่จะยังไง?

แม่รุ่งนภา : มันไม่ได้ ลูกคือชีวิต ลูกคือหัวใจ ลูกคือลมหายใจ 

เข้าใจในมุมความทุกข์ทรมานใจ แต่มันต้องผ่านไปได้?

แบงค์ : ผมสัญญากับทนายไพศาล ว่าผมจะกินข้าว กินยา แล้วจะสู้ไปถึงวันที่ 14 และรอดูผลอีกที

ต่อให้ผลวันที่ 14 จะออกมาเป็นยังไง ก็ไม่อยากให้คิดแบบนี้?

แบงค์ : ผมสูญเสียทุกอย่างไปหมดแล้วครับ ผมมี  3 อย่าง ตัวผมเอง อาชีพ และฟุตบอล ร่างกายผมตอนนี้ นั่งอยู่ตอนนี้ผมก็ยังเจ็บหลังอยู่ ผมต้องโกหกพ่อแม่ว่าผมสภาพร่างกายดี ทั้งที่ผมเจ็บหลังมากมาโดยตลอดตั้งแต่ผ่าตัด สองคืออาชีพผมเสียไปแล้วตั้งแต่ 11 เดือน 8 ผมไมได้ทำงานอีกเลยจนถึงตอนนี้ ผมไม่มีรายรับเข้ามาเลย แล้วก็ฟุตบอล ผมเล่นฟุตบอลไม่ได้อีกแล้วในสภาพนี้ ผมชอบเล่นฟุตบอลมาก

นอกเหนือจาก 3 สิ่งนี้ ยังมีแม่ น้า?

แบงค์ : ผมก็รักเขานะครับ แต่ว่าถ้าผมอยู่โดยที่…

แม่รุ่งนภา : เขาคิดว่าถ้าเขาอยู่จะกลายเป็นภาระของแม่ (ร้องไห้)

แบงค์ : จะกลายเป็นภาระของครอบครัว ก่อนผ่าตัดหรือช่วงปีใหม่ ผมยังช่วยงานที่บ้านได้อยู่ตามปกติ แต่ตอนนี้นอกจากผมช่วยเขาไม่ได้แล้ว ผมพลิกตัวเองจากคนที่ช่วยเหลือเขาได้ ต้องกลายเป็นภาระของเขา เขาต้องมาเลี้ยงลูกที่เหมือนเป็นเด็กแบเบาะใหม่ๆ ทำอะไรไม่ได้เลย ทำงานทำการไม่ได้ มันไม่มีอนาคตครับ

แม่รุ่งนภา : (ร้องไห้)

มุมพ่อแม่น้าก็รัก สิ่งที่อยู่ไม่ได้ ไม่ต้องการเป็นภาระให้กับแม่ ผมถามว่าแล้วแม่ล่ะ เขาบอกว่าถ้าคิดถึงแม่ต้องไม่อยู่ เพราะจะเป็นภาระ แต่แม่บอกว่าถ้าแบงค์ไม่อยู่ แม่ก็อยู่ไม่ได้ มันหนักกว่านั้นอีกนะ?

แบงค์ : ก่อนตัดสินใจผมก็คิดอยู่นาน ผมเป็นคนคิดก่อนพูด ผมคิดมาสักระยะนึงแล้วด้วย

อยากให้เลิกคิดเรื่องฆ่าตัวตาย แพ้ก็แพ้ไม่เป็นไร?

แม่รุ่งนภา : แพ้เราก็ได้สู้ (ร้องไห้)

คนเราชีวิตต้องมีทั้งแพ้ชนะ ต่อให้เก่ง สุดยอด เลิศเลอแค่ไหน ชีวิตไม่มีใครไม่แพ้ จะแพ้จากตัวเอง หรือแพ้จากคนอื่น มันก็ต้องมีแพ้ มันเป็นชีวิตมนุษย์?

แบงค์ : แต่เขาเป็นคนทำ การที่ผมแพ้ ผมไม่ได้แพ้หมอ แต่ผมแพ้คนที่มีอำนาจ คนมีเงินมากกว่า

แล้วคิดมั้ย ถ้าเราไม่อยู่เขาจะยิ่งหัวเราะ คิดเหรอถ้าวันนึงเราไม่อยู่ คนเหล่านั้นจะให้ค่ากับเรา วันนี้ถ้าคิดว่าคนเหล่านั้นไม่ให้ค่า อยู่ให้เขาเห็นว่าเรามีคุณค่าไม่ดีกว่าเหรอ ยังไงก็ได้สู้แล้ว เดี๋ยวจะช่วยแม่คุยเรื่องนี้ให้ในทุกทางที่คุยได้ ทนายอยากบอกอะไรมั้ยเรื่องนี้?

ไพศาล : ผมบอกเขาแล้วให้เป็นต้นแบบในการต่อสู้ ให้เขาอยู่สู้ต่อไป ให้อยู่เพื่อแม่ เพื่อตัวเอง และทำเพื่อสังคม ทำประโยชน์ให้สังคมได้ เบื้องต้นคิดว่าเป็นต้นแบบในสังคมได้ ให้สู้ไปด้วยกัน หากเกิดกรณีแบบนี้กับรพ.

แม่ : เรื่องรพ.กับหมอ ทนายเอาน้องไปเลย

ไพศาล : เราสู้ได้อยู่แล้ว เดี๋ยวเอาหมอคนกลางมาพิสูจน์ว่าใครเป็นคนทำ เกิดจากหมอมั้ย ถ้าเข้าความผิด เอาเรื่องได้หมด ค่าทรมานจิตใจ ค่าการผ่าตัด ผ่าขาดประโยชน์ มันเอาเรื่องได้หมดอยู่แล้ว เดี๋ยวทุกคนจะช่วยกัน สื่อทุกคนจะช่วยกัน

About Author