“ทนายเดชา” ขอกราบลาพระมารดา หมดเวรหมดกรรมแล้ว! 

เผยฟางเส้นสุดท้าย “แม่แตงโม” จะฟ้อง “ทนายตั้ม” ส่งมือถือให้ “บังแจ็ค” ไม่เคยเจอลูกความแบบนี้

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไม่น้อยเลยทีเดียว กรณีที่ “แม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน” คุณแม่ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ได้ออกมาสารภาพว่าเป็นคนส่งมือถือลูกสาวให้ “บังแจ็ค” ถึงสหรัฐอเมริกาเอง ท่ามกลางข่าวลือมากมาย เป็นที่มาของ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ประกาศถอนตัวจากการเป็นทนายความให้แม่ในวันนี้

รายการโหนกระแสวันที่ 26 พ.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ ทนายเดชา ที่มาพร้อม “รองแต้ม พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ”

ช่วงแรกคนรักพี่ แต่พอพี่ไปทำคดีให้แม่แตงโม ชีวิตเปลี่ยน มืดฟ้ามัวดิน ไม่ใช่คำชม กลายเป็นด่า รถทัวร์เต็มบ้าน อะไรทำให้เป็นแบบนั้น?

เดชา : เราไปเห็นภาพศพ ไปฟังคำชี้แจงจากตร. เยอะแยะไปหมดถ้าจำไม่ผิด 16 คน ตั้งแต่ผู้บัญชาการ ผู้การสืบ พนักงานสอบสวน หมอนิติเวช หลักฐานมันเป็นอย่างนั้น ฟันไม่หักเราเห็นอย่างนั้นเราก็พูดว่าฟันไม่หัก หัวต่าง ๆ ไม่มีรอยทุบ ก้านสมองไม่มีปัญหา คอไม่ถูกรัด หน้าไม่มีอะไรต่าง มันเห็นอย่างนั้นก็พูดอย่างนั้น ไม่มีอะไรเลย เพียงแต่ว่ามันไม่ตรงใจคนบางคน ไม่ตรงใจหมอผ่าศพบางคน ไม่ตรงใจคนนั้นคนนี้ ซึ่งเขาเป็นคนมีต้นทุนทางสังคม

การพูดแบบนี้ ทำให้หลายคนมองว่าทำไมต้องไปแตะคนอื่น ทำไมต้องไปแตะคุณหมอ คนนั้นคนนี้?

เดชา : ผมแถลงไปเสร็จแล้ว ก็มีหมอผ่าศพผู้หญิงสวนเลย มีกู้ภัย มีอะไรต่าง ๆ สวนมา ผมไม่ได้พูดถึงใครเลย ไปกรอเทปดู ผมบอกว่าผมขึ้นไปประชุมกับผู้การภาค 1 ตร.ทั้งหมด และหมอนิติเวชทั้งหมด ซึ่งเขาเป็นหมอที่ทำการผ่าศพ เห็นอะไรผมก็ลงมาเล่าให้ฟัง ตอนแรกตร.เขาจะแถลง แต่เขาแถลงไม่ได้ มันเป็นความลับทั้งหมด ก็เหลือแต่ทางผู้เสียหายคือคุณแม่แตงโม คุณแม่ก็ไม่ถนัดในการแถลง ก็มอบหมายผม ทนายกฤษณะก็นั่งคู่ ผมก็แถลงในสิ่งที่ผมเห็นมาแค่นั้น

ตอนนั้นพี่กับคุณแม่มองไปทิศทางเดียวกันคือประมาท?

เดชา : เราไปดูพยานหลักฐาน คุยกับผู้บัญชาการ พนักงานสอบสวน สืบสวน เราคุยหมดใช้เวลาคุย 3 ชม.นะ ไม่ได้คุย 5 นาที ไปถามท่านผู้บัญชาการ ไปถามท่านผู้การนนท์สิว่าผมได้ตั้งคำถามไปทั้งหมดเท่าไหร่ เขาบันทึกเสียง บันทึกภาพไว้ หลายคนบอกทนายเดชาไม่ทำงาน ถามท่านผู้บัญชาการภาค 1 ว่าทนายเดชาได้ตั้งคำถามทางคดี เพื่ออุดช่องว่างคดีกี่คำถาม เยอะมาก ถามจนมีปัญหากับพนักงานสอบสวน

พี่ไล่ซัดเขาเหรอ?

เดชา : ทุกประเด็นที่สงสัยทั้งหมด เขามีบันทึกภาพบันทึกเสียงไว้

พี่ไล่บี้ตร.?

เดชา : แน่นอน ตั้งข้อหาประมาท ผมก็ตั้งคำถามซักค้านหมด ตั้งประเด็นเยอะแยะ ไปถามท่านผู้บัญชาการดู

ตอนนั้นแม่เข้าใจ?

เดชา : ก็นั่งอยู่ด้วยกัน ผมก็ยังบอกคุณแม่มีอะไรสงสัยก็ให้ถาม ทนายกฤษณะมีอะไรก็ถาม นั่งกันอยู่ทั้งหมด

อะไรทำให้แม่ส่งมือถือให้บังแจ็ค?

เดชา : ตอบตรง ๆ เอาเรื่องจริงนะ หนึ่งสิทธิส่วนบุคคลของคุณแม่ โทรศัพท์มือถือเป็นพยานวัตถุ เสร็จสิ้นกระบวนการดูดข้อมูลอะไรต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ไปขอคืนจากพนักงานสอบสวน น่าจะวันที่ 13 พ.ค. เดือนนี้ คุณแม่ไปดำเนินการด้วยตนเอง ไม่ได้มาปรึกษาทนายความ

ไม่รู้มาก่อนว่าแม่ส่ง?

 เดชา : ไม่ทราบเรื่องส่งและไม่ทราบเรื่องลับ ตอนส่งโทรศัพท์ให้พนักงานสอบสวน ผมยังไม่ได้เป็นทนายเลย ตอนคุณแม่รับโทรศัพท์จากพนักงานสอบสวน แล้วไปส่งให้บังแจ็คหรือไม่ ผมไม่ทราบ ผมทราบเมื่อวานนี้ ผมเลยแถลงข่าวไง

ข้อหนึ่งพี่บอกเป็นสิทธิของคุณแม่ ข้อสองล่ะ?

เดชา : มันหมดความจำเป็นในการตรวจพิสูจน์โทรศัพท์มือถือแล้ว เพราะพนักงานสอบสวนมีการดูดข้อมูลครบแล้ว อยู่ในฮาร์ดดิส

ก่อนหน้านี้กระติกส่งให้คุณแม่ และคุณแม่ส่งให้ตร. ช่วงแรกกระติกถือโทรศัพท์อยู่ และกลับไปบ้านแตงโม ถ้ากระติกลบไป ดึงข้อมูลกลับมาได้มั้ย?

เดชา : คือการดูดข้อมูลหลายคนก็พูดไปเรื่อย บางคนอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผมถามผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว การดูดข้อมูลสามารถดูดได้ถึงสองชั้น บางครั้งดูดชั้นเดียวไม่ขึ้น สองชั้น โดยเฉพาะคดียาเสพติดมีการดูดถึงสองชั้น   

พี่แต้ม ถ้าเกิดโทรศัพท์เครื่องนี้ถูกลบข้อมูลวันแตงโมตกน้ำ วันที่ 24 ก.พ. หลังจากนั้นกระติกเอาโทรศัพท์ส่งคืนให้แม่ แม่ส่งให้ตร. ข้อมูลที่ถูกลบไปก่อน สามารถกู้ได้มั้ย?

รองแต้ม : ดึงออกมาได้ ผมเชื่อว่าหลักฐานในโทรศัพท์น้องแตงโม ตร.เขาทำไว้หมดแล้ว แต่ที่ทำเอามา คุณแม่ไปขอมามั้ย หรือใครรู้บ้างมั้ย ทีนี้คนไม่รู้ก็วิพากษ์วิจารณ์ ผมคิดในทางที่ดีว่าแม่อาจคิดว่าเขาอยากรู้ข้อมูล ในเมื่อเขาอยากรู้ข้อมูลเขาจะไปปรึกษาใคร ปรึกษาแอปเปิ้ล จะเป็นข่าวรั่วมั้ย เขาเลยไปให้บังแจ็ค ทีนี้การเอาโทรศัพท์ให้บังแจ็ค ด้วยความอยากรู้จริงหรือให้เพื่ออะไร อย่างที่บางคนบอกมีผลประโยชน์ นั่นก็อีกมุมนึง แต่ถามว่ามีความจำเป็นมั้ยที่ต้องเอาภาพตรงนี้มา ถ้าคุณอยากรู้ คุณถามตร.ได้ เพราะเชื่อว่าตร.บอกคุณหมด เขาจะมาเพิ่มแต่ง เพิ่มภาพ เพิ่มอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าทำอย่างนี้ได้ก็จบแล้ว

หลังแม่ส่งไปให้บังแจ็คแล้ว ได้บอกพี่เดชามั้ย?

เดชา : ผมไม่เคยทราบเลย

แล้วทำไมพี่ถึงทราบ?

เดชา : มันมีข่าวแม่ไปให้สัมภาษณ์สื่อว่าโทรศัพท์อยู่กับทนายเดชา ซึ่งมันไม่เป็นความจริง ก็รู้สึกตกใจนิดหน่อยว่าทำไมลูกความเราเล่นเราซะแล้ว ทำไมโยนเรื่องโทรศัพท์มาอยู่กับเรา ทั้งที่มันไม่ได้อยู่กับเรา

โยนขี้มาให้?

เดชา : จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เราก็รู้สึกแปลก ๆ แต่เข้าใจนะได้คุยกับคุณแม่ ท่านก็ต้องการเอาตัวรอด เพราะเป็นข่าวขึ้นมาท่านก็ต้องการเอาตัวรอด ผมไม่ได้โกรธคุณแม่ประเด็นนี้ แต่คนจะมาด่าผม ปัจจุบันทัวร์ก็เยอะอยู่แล้ว พอเอาโทรศัพท์มามีปล่อยภาพแตงโมที่ไม่เหมาะสม ทัวร์ก็ยิ่งมากขึ้น ผมก็รู้สึกว่าไม่สบายใจ มันก็หนักขึ้นๆ ตั้งแต่เช้าถึงเย็นรับแต่โทรศัพท์ผู้สื่อข่าว คอมเมนต์ก็มีแต่ด่า สาปแช่ง ชาติชั่ว เลวทราม ซึ่งเราไม่ได้ทำไง ลูกความไปให้สัมภาษณ์สื่อบอกอยู่กับเรา เมื่อวานตอนบ่ายก็เลยตัดสินใจโทรศัพท์ไปถามคุณแม่ คุณแม่ก็เลยยอมรับว่าได้ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็คไปแล้ว ผมก็เลยขออนุญาตแถลงข่าว แกก็เล่ารายละเอียดเลย ส่งทางไปรษณีย์เสียค่าส่ง 2 พันกว่าบาท วัตถุประสงค์ต้องการกู้ภาพกู้คลิป ซึ่งมีพยานหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าแตงโมถูกฆาตกรรม ผมก็แถลงข่าวไป เพราะคนด่าผมเยอะ การแถลงข่าวก็หมายถึงว่าผมสุดจะทนแล้ว ทุกวันนี้ก็โดนด่าอยู่แล้ว เป็นเรื่องไม่จริงอยู่กับเรา ใครจะทนได้ เราก็ต้องแถลงความจริง คุณแม่ก็อนุญาต ก็เลยแถลงและพูดเต็มที่เลย

อยู่ดี ๆ เมื่อเช้าเหมือนฟ้าผ่า?

เดชา : เมื่อคืนนี้ไปออกรายการไทยรัฐนิวโชว์ ออกเสร็จนั่งคุยกับทางผู้สื่อข่าวตั้งนาน ดึกเลย โทรศัพท์ไลน์คุยกับคุณแม่ตั้งนาน ไม่มีอะไร เมื่อคืนก็คุยกันเพราะคุณแม่เริ่มมีที่ปรึกษาเยอะ บังแจ็คเอย ส.ส.เต้เอย คนของคุณหมอผู้หญิง ผมจะถอนตัวดีมั้ย บอกตั้งแต่เมื่อคืนนี้

ส.ส.เต้ขึ้นแจ้งผู้บัญชาการไซเบอร์ ว่าคุณแม่มอบให้ฝ่ายกฎหมายพรรคศรีวิไลย์ดูแลทุกคดีต่อไป และเตรียมตั้งทีมกฎหมายร่างคำฟ้องตรงต่อศาลอาญา ตามป.อาญา ม.289(7) และฟ้องแพ่ง 200 ล้านบาทในคดีแตงโม โทษสูงสุดคือประหารชีวิต แฮชแท็กเซฟแม่แตงโม พี่ก็เปิดออกมาเลยว่าพี่ถอนตัวแล้ว?

เดชา : ผมเห็นอันแรกก่อน ไม่รู้ใครส่ง ผมก็ไม่รู้เรื่อง ผมโทรถามคุณแม่ก่อนมารายการ ตกลงปลดผมหรือเปล่า ไม่ได้ปลด ให้ผมรับผิดชอบคดีที่กำลังทำอยู่ถึงชั้นอัยการ ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าชั้นอัยการจบ ยังไม่ได้ถอนเลย แต่ผมได้คุยกับคุณแม่แล้ว ผมขอถอนตัว

พี่ขอถอนเอง?

เดชา : ถอน ผมบอกงี้ มีนักการเมืองคนนึงไปโพสต์แบบนี้ หมายความว่ายังไง เขาบอกนายมงคลกิตติ์กับพวกไปแนะนำคล้าย ๆ ว่าจะไปดำเนินคดีเป็นคดีฆาตกรรม อาจารย์เดชาไม่ได้เห็นด้วย เห็นตามพนักงานสอบสวน อัยการ จะฟ้องคดีประมาทให้ถึงแก่ความตาย จะฟ้องมั้ยฆาตกรรม ผมบอกว่าผมไม่เอา ผมไม่เห็นด้วย เอาอย่างนี้ดีมั้ย ผมขออนุญาตถอนจตัว แต่เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ไปกินข้าวไปกินไวน์กันได้เหมือนเดิมทุกอย่าง

พี่โกรธ ไม่พอใจอะไรหรือเปล่าถึงขอถอน?

เดชา : ไม่มีหรอก ผมก็ยังเป็นห่วง ความเห็นมันไม่ตรงกัน อันดับแรก

พี่บอกมี 3 ข้อขอถอนจากคุณแม่ หนึ่งคือพี่มองว่าเป็นประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่คุณแม่ตอนแรกเห็นทางนี้เหมือนกัน แต่ตอนหลังไม่ใช่แล้ว มองเป็นฆาตกรรม?

เดชา : ก็ไปเชื่อทางส.ส.เต้ คุณหมอพรทิพย์ คุณอัจฉริยะ เขาพูดอย่างนั้นจริงๆ เชื่อบังแจ็ค เขาพูดอย่างนี้หมดเลย

ข้อหนึ่งคิดเห็นต่างกัน?

เดชา : ต่างกันร้ายแรง แล้วต่อไปทำคดีคุณแม่เสียหาย ผมก็ขออนุญาตกราบลาพระมารดา ขอกราบลาพระมารดา นี่คือเหตุผลแรก

เขาอนุญาตเลยมั้ย?

เดชา : คุณแม่ก็บอกว่าแล้วแต่เรา

เขาพูดมั้ยว่าแม่กำลังจะบอกพอดี?

เดชา : ไม่มี เขาไม่กล้าทำกับผมแบบนั้นหรอก อย่าลืมนะผมยังมีประโยชน์กับคุณแม่หลายเรื่องนะ รู้รายละเอียดเยอะแยะ ช่วยเหลือมานาน

กำความลับไว้เยอะเหรอ?

เดชา : ผมไม่ใช่พวกแบล็กเมล์นะครับ ผมไม่ใช่พวกบัง คนละอย่าง บังไหนไม่รู้ ผมก็ถามแม่ไปเลยว่าแม่จะฟ้องผมหรือเปล่า เห็นมีนักการเมืองไปโพสต์ว่าจะฟ้องผม ผมทำอะไรให้แม่เสียหาย ไม่มี นี่คือเรื่องแรก

เรื่องที่สอง?

เดชา : คือเรื่องใหญ่เลย เรื่องโทรศัพท์มือถือแตงโม ส่งให้บังแจ็ค และข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีการปล่อยภาพลับต่างๆ ของแตงโม

แต่บังแจ็คเขาบอกว่าเขาไม่ได้ปล่อย แค่ให้กระติกเห็นเฉย ๆ ?

เดชา : เขายอมรับแล้วนี่ ไม่ว่าช่องไหนเขาก็ยอมรับแล้ว เขาเปิดให้ดู แต่ไม่ได้ออกสื่อมวลชน

แค่เปิดให้ดูก็ถือว่าผิดแล้วหรือเปล่า?

รองแต้ม :   การนำภาพผู้อื่นไปปล่อยทำให้เกิดความเสียหายมันก็ผิดแล้ว ให้คนใดคนหนึ่งดูก็ผิดอยู่แล้ว แค่เป็นบุคคลที่สามก็ผิด เพราะเขาไม่ได้ยินยอม

อันนี้พี่รับไม่ได้เพราะ?

เดชา : เป็นเรื่องร้ายแรง

เขาบอกว่าทำไปเพราะอยากช่วยคุณแม่?

เดชา : ผมว่าถ้ามีโทรศัพท์อีกเครื่อง แล้วมีหลักฐานแบบที่คุณแม่พูด กำลังฆ่า เอามีดกรีด เหมือนที่คุณอัจฉริยะพูด ถ้าเป็นเรื่องจริง โอ้โหเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็ส่งให้อัจฉริยะไปสิ ส่งให้ส.ส.เต้ไป ส่งให้หมอพรทิพย์ ให้พนักงานอัยการ ดีกว่า เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือทางสังคม อัจฉริยะ เพื่อนรักผมเนี่ย เขาก็งมดินงมอะไรอยู่ ก็ส่งให้เขาไป ส่งให้หมอพรทิพย์ อย่างน้อยๆ เขาเคยผ่าศพมาหลายศพอยู่ ก็ดีกว่าส่งให้บังแจ็ค ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ อัจฉริยะก็อยากได้หลักฐานอยู่แล้ว ก็ส่งให้เขาไป นี่ก็เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตัดสินใจ

ข้อที่สาม?

เดชา : คุณแม่ไม่พอใจทนายตั้ม ไปวิพากษ์วิจารณ์ ไปโพสต์ต่างๆ วิจารณ์คุณแม่ วิจารณ์เป็นแม่แบบไหน ที่ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค คุณแม่ก็บอกผมมาหลายครั้งแล้ว อันแรกที่คุณแม่ไม่พอใจทนายษิทราเพราะโพสต์ว่าคุณแม่ให้คนสนิทโทรไปหาทนายตั้มที่ฝรั่งเศส จะเปลี่ยนทนายใหม่ คุณแม่บอกว่าไม่เป็นความจริง คุณแม่ไม่เคยทำ แล้วสองช่วงนี้มาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องโทรศัพท์ ทำนองว่าเป็นแม่แบบไหนที่ขายมือถือลูกสาวให้มิจฉาชีพ ชาตินี้ก็พอ อย่าถึงชาติหน้าเลย สงสารน้องแตงโม คุณแม่ไม่พอใจ บอกให้ผมติดต่อทนายตั้มให้โทรไปขอโทษ ถ้าไม่ขอโทษจะดำเนินคดี แล้วให้ผมดำเนินคดีกับทนายตั้ม เมื่อเช้าผมก็โทรไป ตั้มขอโทษคุณแม่ เขาบอกว่าไม่โทร คุณแม่บอกว่าให้ดำเนินคดีกับทนายตั้ม

แล้วพี่ทำไง?

เดชา : ผมบอกเป็นเพื่อนกัน ดำเนินคดีไม่ได้ เขาก็บอกว่าทำไมไม่ดำเนินคดี เป็นเพื่อนกันแบบไหน ผมก็บอกว่าคุณแม่ต้องหาทนายคนอื่น เพราะผมเป็นเพื่อนกัน

มันเลยแตกตรงนี้ พี่เลยเซย์กู๊ดบายไม่เอาแล้ว?

เดชา : ครับ นี่แหละ 3 ข้อ ผมเลยคิดว่าพอกันทีพระมารดา

แม่โกรธที่พี่ไม่ฟ้อง?

เดชา : อาจไม่สบายใจ แต่เราก็ลำบากใจ มันเป็นเพื่อนเรา เราเพิ่งเจรจาสงบสึกกันมา ยังไม่ถึงปีเลย

แล้วอัจฉริยะไม่ใช่เพื่อนเหรอ?

เดชา : ผมไม่ได้ทะเลาะอะไรกับเขานะ รักเหมือนเดิม มีเวลาก็ไปแจ้งเพิ่ม

รองแต้ม : คดีนี้เป็นมหากาพย์ (หัวเราะ)

ต่อสายหา “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ได้ฟังหมดแล้ว ตกใจมั้ย?

ทนายตั้ม : ตกใจและน้ำตาไหลครับ ซึ้งใจที่อาจารย์เดชาไม่ฟ้องผมครับ

ตกใจมั้ยที่แม่จะฟ้อง?

ทนายตั้ม : ตกใจครับก่อนอื่นขอบคุณอาจารย์เดชาก่อนที่เป็นเพื่อนและเป็นมิตรกับผม แต่อยากบอกคุณแม่ว่าข้อความที่ผมโพสต์ในเพจมั่นใจว่าไม่มีข้อความไหน เข้าข่ายหมิ่นประมาทคุณแม่ เป็นการวิจารณ์โดยสุจริตทั้งนั้นนะครับ ส่วนข้อความที่บอกว่าเป็นคุณแม่แบบไหนไปขายมือถือให้มิจฉาชีพ คนฟ้องผมได้คือบังแจ็คนะครับ ผมพร้อมสู้คดีเพื่อพิสูจน์ว่าพฤติกรรมของคุณมันเป็นมิจฉาชีพหรือเปล่า ฝากบอกด้วยนะครับ กลับไทยสิครับ มาเจอกันในศาล บังแจ็คมาปั่นป่วนสังคมไทยมากี่ปีแล้ว ใส่ร้ายคนมากี่คน เคยจำได้มั้ยว่าถึงขั้นจะเอาระเบิดไปปาบ้านคุณบุ๋ม ปนัดดา แบบนี้ไม่ให้เรียกมิจฉาชีพจะให้เรียกว่าผู้ก่อการร้ายดีมั้ย

ไม่ได้โพสต์โจมตีคุณแม่?

ทนายตั้ม : ส่วนคุณแม่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดอะไรเลย แต่สิ่งที่คุณแม่ทำ ผมแอบผิดหวังหลายครั้ง ถ้าคุณแม่เลือกสู้เพื่อน้องแตงโม และรับฟังเสียงประชาชนบ้าง ชาวบ้านชาวช่องคงไม่เอาทัวร์มาลงตลอดหลายเดือนหรอก เคยเห็นแม่ของเหยื่อคนไหนเคยถูกสังคมพูดถึงแบบนี้ ไม่เคยมี แม่อาจต้องมองย้อนไปดูตัวเองบ้างว่าเราทำอะไร มีอะไรที่ไม่น่ารักหรือเปล่า แก้ไขตรงนี้ ถ้าแม่แก้ไขได้ ผมยังเชื่อว่าสังคมยังให้อภัยและกลับมาอยู่ข้างแม่ได้อีกครั้ง

คุณแม่มองว่าคดีที่เดินหน้าต่อไปน่าเป็นเรื่องฆาตกรรม เพราะส.ส.เต้บอกว่าจะมีการฟ้องเรียก 200 ล้าน?

ทนายตั้ม : ผมก็ได้ยินประเด็นนี้มาตั้งแต่อยู่ฝรั่งเศสแล้ว ว่าคุณแม่เขาไม่พอใจตร. น่าจะตั้งแต่เอาภาพจากกูเกิ้ลมา ทำให้หมดความน่าเชื่อถือ ตอนนั้นมีการประสานผมมา พอกลับไทยผมก็ได้มีการเล่าให้อาจารย์เดชาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มีการคุยกันว่าถ้าอาจารย์ยังทำคดีต่อไปแบบนี้เดี๋ยวมันจะยิ่งแย่ เพราะมันคนละทิศคนละทาง อาจารย์เดชามองไปทางเดียวกับตร. แต่คุณแม่มองมาทางเดียวกับที่ผมมองว่าไม่น่าใช่เรื่องอุบัติเหตุ ก็ดีใจที่วันนี้แม่จะมาช่วยเรื่องคดีน้องแตงโมเต็มที่

วันนี้มองว่าอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม?

ทนายตั้ม : ผมมองว่ายิ่งกว่าอุบัติเหตุ มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น แต่เราเป็นนักกฎหมายคงไม่กล่าวหาใครมั่ว ๆ ตอนนี้ถ้าส.ส.เต้หรือใครก็ตาม มีหลักฐานอะไร ให้ลุยเพื่อน้องได้เลยเต็มที่ สนับสนุนเลย ฟ้องตรงนี่ก็ดีครับ ใช้สิทธิ์ความเป็นทนายคุณแม่ มีอะไรเอาไปใช้ในศาลเลย มันก็เป็นประโยชน์ครับ

มุมทนายตั้ม อยากบอกอะไรทนายเดชา?

ทนายตั้ม : ฝากอาจารย์ว่าอาจารย์พ้นทุกข์พ้นโศกแล้ว ผมก็เคยพลาด บอกตรง ๆ ตัวผมก็เคยรับผลกระทบและคำวิจารณ์ เข้าใจอาจารย์เดชาดี เป็นเพื่อนเป็นมิตรกัน ถึงแม้อาจารย์เดชาอายุมากกว่า แต่ผมก็เป็นกำลังใจให้อาจารย์เสมอ

ณ เวลานี้ ทนายเดชามองต่างมุม แล้วขอถอนออกมา ก็ไม่ได้เป็นการผิดมรรยาททนายความ?

ทนายตั้ม  : ก็เห็นอาจารย์โพสต์ว่าคุยกับคุณแม่แล้ว ไม่ได้อยู่ ๆ ถอนตัวไปก่อน คุยกันแล้วออกมา ตกลงกันได้ ก็ไม่ผิดอะไร เดี๋ยวไว้นัดทานข้าวกันครับ คิดถึงครับ

เดชา : เช่นกันครับ จุ๊กกรู๊

แววตาพี่ดูเศร้ามาก?

เดชา : ไม่มีอะไรเลย เราหมดเวรหมดกรรม หนึ่งโล่ง ครอบครัวลูกน้องก็อยากให้เลิกยุ่งเกี่ยว เพราะทัวร์ลง คนด่า พูดไปก็ไม่มีคนเชื่อ เสียชื่อเสียงเยอะแยะมากมาย

คุ้มมั้ยกับการที่โดดลงมาทำเรื่องนี้ จากที่ทุกอย่างดีแล้ว?

เดชา : ไม่อยากใช้คำว่าคุ้มไม่คุ้ม แต่เราถูกด่าเยอะแยะมากมาย เราก็เคารพความคิดเห็น เราเห็นต่างจากเขา

ถ้าย้อนกลับไปได้ จะกลับไปทำคดีนี้มั้ย?

เดชา :   ผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำไปแล้ว ย้อนกลับไปก็ทำ ไม่มีอะไรได้มาแบบฟรี ๆ ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย วันนี้ก็จบไป ใครไม่เห็นด้วยกับผม ด่าผม ผมก็ขอโทษเลย ทัวร์ต่าง ๆ ไปที่อื่นบ้าง ด่าผมมาสองเดือนแล้ว ใครที่ไม่เห็นด้วยกับที่ผ่านมา ก็ต้องกราบขอโทษ นับจากวันนี้เป็นต้นไป คงไม่พูดเรื่องคดีแตงโมแล้ว คงต้องขอจบที่รายการโหนกระแส ไม่พูดอะไรแล้ว ไม่ยุ่งเกี่ยว กราบขออภัยเอฟซีเกือบๆ สองล้านทั้งหลาย

ตั้งแต่เป็นทนายความมาเคยเจอลูกความแบบนี้มั้ย?

เดชา : 36 ปี ไม่เคยเจอ เราก็ไม่เข้าใจ ไม่เคยเจอลูกความแบบพระมารดา แต่ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของคุณแม่ เราก็ไม่ได้วิจารณ์อะไร ไม่เคยเจอเหมือนกัน

อยู่ในสายกับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท) วันนี้จริง ๆ คุณแม่ต้องเดินทางไป ไปในฐานะอะไร?

พล.ต.ท.กรไชย : จริง ๆ พี่เดชารู้ดี พี่เดชาโทรหาผมเมื่อวานนี้ผ่านนักข่าวไทยรัฐ ขอพบเวลา 15.00 น. ผมไม่ได้นัดนะครับ พี่เดชาเป็นฝ่ายนัดผม การมา คุณแม่มาในฐานะพยาน เรื่องคุณกระติกแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ภาพที่เปิดเผยออกมาโดยบังแจ็ค มีภาพกระติก และมีข้อความบางอย่าง กระติกมองว่าเขาเป็นผู้เสียหาย เขาเลยไปแจ้งความเอาไว้ ตร.ก็ทำตามหน้าที่ต้องมีการสอบและสืบ หาต้นทางว่ารูปนี้มาจากไหน อยู่ที่ไหน ปรากฏว่ารูปนี้อยู่กับตร. กับอยู่ในโทรศัพท์แตงโม ปรากฏว่าคุณแม่ยอมรับแล้วว่าเอาโทรศัพท์ให้บังแจ็คไป ฉะนั้นบังแจ็คยอมรับแล้วว่าบังแจ็คปล่อยไปเอง คุณแม่มาในฐานะพยาน?

พล.ต.ท. กรไชย : ถูกต้องครับ มีประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากต้นทางเฟซบุ๊กอยู่ในมือถือคุณแตงโม การที่จะพิสูจน์ทราบได้ต้องมาจากมือถือหลัก ซึ่งคุณแม่บอกเสมอว่าอยู่ที่คุณแม่ บางครั้งก็บอกว่าอยู่ที่พี่เดชาบ้าง บางครั้งก็บอกว่าอยู่ที่คุณแม่ใส่ห่อไว้อย่างดี ผมก็ตามข่าวอยู่เหมือนกัน ในทางกลับกัน คุณแม่ต้องมาให้การ คำให้การของคุณแม่ ที่ได้บอกสื่อมวลชนไปว่าได้ส่งเครื่องนี้ไปให้บังแจ็ค นั่นคือประเด็นนึงที่เราต้องสอบถามว่าส่งไปด้วยเหตุผลใด การโพสต์ใครเป็นคนโพสต์ คนโพสต์เป็นบังแจ็ค ถามว่ามีความผิดทางคดีมั้ย ตอนนี้เรารับคดีไปแล้วกรณีคุณกระติก เนื่องจากเป็นหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และมีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เราก็ต้องออกหมายเรียก ถ้าบังแจ็คไม่มา ก็เป็นขั้นตอนทางกฎหมาย คุณแม่ต้องมาสอบในฐานะพยานของคดี พี่เดชารู้อยู่แล้ว เป็นขั้นตอนของกฎหมายไม่ได้แปลกอะไรเลย แล้วการตรวจพิสูจน์ผมยังงงอยู่ บังแจ็คเป็นใครครับ เป็นนักเทคโนโลยีหรือไงถึงให้เขาไปตรวจ อันนี้ยังงงอยู่ เพราะในเมืองไทยผมเชื่อว่าตร.ไทยไม่น้อยหน้าใคร พิสูจน์ทราบได้อยู่แล้ว ในรายละเอียดที่อยู่ในมือถือทั้งหมดผมเชื่อว่าสามารถดูดออกมาได้หมด แล้วก็มีเหตุผล มีภาพถ่ายต่างๆ ที่เขาอ้าง ถ้ามีก็ส่งมาสิครับ ผมมีหน้าที่ทางด้านไซเบอร์ เรื่องการโพสต์หมิ่นประมาทที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ สงสัย พยายามชี้นำให้เป็นเรื่องโน้นเรื่องนี้ จะได้รู้ว่าบังแจ็คโพสต์ทำไม โพสต์แล้วมีความผิดนะครับ บังแจ็คนี่ถูกห้ามเข้าประเทศถึงปี 69 เลยนะครับ

แสดงว่าบังแจ็คปี 69 ถึงเข้าประเทศได้ อีก 4 ปีข้างหน้า มีโอกาสมีกฎหมายอะไรไปผลักดันอีกมั้ย?

พล.ต.ท. กรไชย : ก็มีครับ ถ้าเรารับเป็นคดี บังแจ็คถูกออกหมายจับ คือหมายแดง หมายสากล เราประสานงานไปสหรัฐอเมริกา ก็สามารถส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ เมื่อวานฟังแล้วก็รู้สึกเคือง ๆ นิดนึง ไปบอกว่าตร.ไทยบอกว่าเขาอยู่บอสตัน ตร.ไม่เคยพูด ผมเชื่อว่าถ้าบังแจ็คเห็นเอกสารที่ผมมีอยู่ในมือ บังแจ็คต้องอ้าปากค้าง ตร.ไทยไม่น้อยหน้าใครนะครับ

ตอนนี้บังแจ็คอยู่ที่ไหน?

พล.ต.ท. กรไชย : ล่าสุดอยู่แถวแคลิฟอร์เนีย อิลินอย ก็อยากบอกว่าอย่ามาดูถูกตร.ไทย คำว่าบอสตันนักข่าวเป็นคนพูด ตร.ไม่เคยให้ข่าว

ตร.ไทยสามารถดูดข้อมูลทั้งหมดได้อยู่แล้ว แล้วสามารถเอามาให้ประชาชนคลายข้อสงสัยได้มั้ย?

พล.ต.ท. กรไชย : ไม่ได้หรอกครับ เป็นหลักฐานทางคดี ไม่ได้ครับ

ตรงนี้หรือเปล่าทำให้แม่เขาอยากให้มีการเปิดเผย?

พล.ต.ท. กรไชย : ถ้าอย่างนั้นคงต้องเล่นละคร มันทำไม่ได้ นี่เรื่องจริง ชีวิตจริง ไม่ใช่ในหนัง อย่าเอาไปเขียนเป็นชีวประวัติ ทุกอย่างต้องอยู่ในสำนวน พี่แต้มก็รู้ มีอะไรมาเปิดเผยได้ ต้องเอาให้ศาลดู ให้ศาลพิจารณา

แล้วจะทำยังไงกับบังแจ็ค เขาบอกว่าเขาไม่ได้เผยแพร่ เขาแค่ไลน์หาโม ไลน์หากระติก บอกว่าเขามีข้อมูลแล้ว ให้พูดความจริงออกมา ถ้าไม่มีความจริงมา แตงโมจะไม่มีที่ยืนในสังคม?

พล.ต.ท. กรไชย : บังแจ็คไม่เข้าใจกฎหมายไทยเพราะไม่เคยอ่าน การเผยแพร่ภาพลามก ไม่จำเป็นต้องเผยแพร่เยอะ ส่งให้อีกคนก็ผิดแล้วครับ ให้บังแจ็คไปอ่านกฎหมายใหม่ดีกว่า อย่ามาอ้างกฎหมายไทยโดยไม่รู้ ไม่ได้

มีโอกาสประสานตร.สากลถึงขั้นล็อกตัวมั้ย?

พล.ต.ท. กรไชย : อย่าไปทำถึงขั้นนั้นเลยครับ เราประสานงานอย่างดี ข้อมูลที่ได้มาขอบคุณเลย เป็นความสัมพันธ์ของเพื่อนกับเพื่อน แต่ในทางราชการเดี๋ยวเอาหลักฐานมาประกอบสำนวนเรื่องเฉพาะไซเบอร์นะครับ อย่าเอาผมไปพันกับคดีแตงโม คนละเรื่องกันเลย

ถ้าแม่ไม่แจ้งความ เอาผิดได้มั้ย?

พล.ต.ท. กรไชย : ได้ครับ เพราะกระติกแจ้งความอยู่แล้ว

กำลังจะบอกว่าช่างแม่?

พล.ต.ท. กรไชย : ไม่ใช่ครับ หาเรื่องให้ผมอยู่เรื่อยเลย แล้วแต่คุณแม่ครับ หนุ่มชอบพูดหาเรื่องให้พี่ แต่แม่ต้องมาให้การในฐานะพยาน

ดำเนินคดีตรงไปตรงมา?

พล.ต.ท. กรไชย : เรื่องไซเบอร์ไม่สามารถเอาความคิดของเราไปใส่ มันต้องเป็นไปตามเทคโนโลยี วิชาการ ข้อมูลทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ จับต้องได้ ไม่ใช่ลิ้นที่พลิกได้

เดชา : ท่านหมายถึงใคร

พล.ต.ท. กรไชย : ไม่ได้หมายถึงใคร

เดชา : ไม่ได้หมายถึงผมนะ

พล.ต.ท. กรไชย : ไม่ได้หมายถึงพี่ พี่นี่หวังดี ให้มาพบผม ผมบอกว่าเชื่อพี่เดชามีโอกาสรอดเยอะ มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เราไม่มีอะไร ที่ผ่านมาถูกหลอก คอลเซ็นเตอร์ยังเชื่อเลย ใครคุยกับบังแจ็ค 2 ชม.ก็ต้องเชื่อ 

About Author