“เจ๊ข้าว” ยันทำจริง ฉี่ราดหน้าหลังถูกเย้ย – ท้าทายร่ำไห้ประกาศบุญคุณหมดตั้งแต่วันนี้

กรณีที่ “อาร์ม” และ “ปั๊บ” ชาวจังหวัดสระบุรี เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “เจ๊ข้าว” หลังจากที่ปั๊บถูกคู่กรณีบุกทวงหนี้ บังคับให้กราบเท้าขอโทษ รวมทั้งมีการทำร้ายร่างกาย ด้านอาร์แฉถูกเจ๊ข้าวปัสสาวะรดใบหน้าและนำไปประจานในเฟซบุ๊กส่วนตัวทำให้อับอาย หยามเป็นความเป็นมนุษย์ 

รายการโหนกระแสวันที่ 4 พ.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ เจ๊ข้าว มาพร้อม พีท เพื่อนสนิท เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เจ๊ข้าวทำอาชีพอะไร?

เจ๊ข้าว : ทำธุรกิจส่วนตัว รับเช่า ขาย จำนำพระเครื่อง เมื่อก่อนปล่อยเงินกู้และเป็นท้าวแชร์ แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว

เจ๊ข้าวรู้จักคนชื่ออาร์มมั้ย?

เจ๊ข้าว : รู้จักค่ะ ประมาณ 5-6 ปีค่ะ

วันนี้จริง ๆ เชิญอีกฝั่งมาด้วย ทำไมไม่อยากให้เขามา เพราะอะไร?

เจ๊ข้าว : มันไม่มีเหตุผลอะไรต้องเจอกันนะ หนูก็ยอมรับว่าฉี่จริง ทำจริง เข้าสู่กระบวนการกฎหมายไปแล้ว หนูก็ไปรับผิด ให้ทางกฎหมายก็ดำเนินไป ไม่อยากให้มานั่งตรงนี้ มันไม่จบหรอก คนมีปัญหา ขัดแย้งกันแล้ว

พีท : โดยนิสัยเขาเป็นคนใจร้อน กลัวอดใจไม่ไหว จะไปลงมือไปอีก ผมรู้นิสัยเขาทั้งสองคน เป็นเพื่อนสนิททั้งคู่ ผมเป็นคนกลาง

กลางทางไหน?

พีท : ตอนแรกผมสงสารอาร์มที่โดนแบบนั้น ผมเข้าไปหาข้าวจะเข้าไปด่า ตื่นมาเห็นโพสต์ของข้าวก่อน

เรื่องเกิดอะไรขึ้น?

เจ๊ข้าว : เริ่มต้นไม่ได้ติดใจเรื่องจะมีเงินซื้อกระเป๋าหรือไม่มี เห็นบางสำนักข่าวไปลงโดยหนูไม่เคยให้สัมภาษณ์ใคร ไปลงว่าเราโดนหยามว่าไม่มีเงินซื้อกระเป๋า จริง ๆ ตรงนั้นไมได้สนใจ แต่ที่สนใจ มึงเป็นคนของกู ขออนุญาตหยาบคาย มึงหิวเมื่อไหร่มากินข้าวบ้านได้ตลอด ตามนิสัยมึงแว้งกัดคนไปทั่ว วัน ๆ เฟซบุ๊กโพสต์กัด โพสต์แซะชาวบ้านชาวเมืองเขา แต่เราไม่คิดว่าจะเป็นกับเรา เห็นเป็นแต่กับคนอื่น ไม่คิดว่าวันนึงจะหันมากัดเรา

เขาขายอะไร?

เจ๊ข้าว : กระเป๋ากุชชี่ 3 ใบ ราคา 8 หมื่น หนูเคยมีแล้วทุกรุ่นและขายกินไปแล้วทุกรุ่น สภาพหนูนี้ดีกว่านี้ยังขายไม่ได้ 8 หมื่นหรอก ก็บอกมันว่าขายไม่ได้ถึง 8 หมื่นหรอก มันบอกว่าลองเสนอมาสิจะเอาเท่าไหร่ เราอ่านแล้วไม่ตอบเพราะไม่ได้อยากซื้อ สักพักมันไปขึ้นสเตตัสว่า คนจริงไม่พูดเยอะ 3 ใบ 9 หมื่น เหมือนกัดเราว่าขายได้ในราคา 3 ใบ 9 หมื่น แล้วประเด็นคือกระเป๋า 3 ใบนี้ยังขายไม่ได้ หนูรู้นิสัยมันดี มันขายไม่ได้หรอก แต่มันโพสต์กัดเรา หาว่าเราดูถูกมันว่าขายไม่ได้ 8 หมื่น พอเป็นแบบนี้หนูก็โอเค ขายกระเป๋าได้เหรอน้อง งั้นเงินที่ยืมไปพันนึงเอามาคืน ที่มันโพสต์มันแขวะเราว่าเราไปว่ากระเป๋ามันขายไม่ได้ หนูรู้ว่ามันหมายถึงหนู แต่จริงๆ กระเป๋ามันยังขายไม่ได้นะ ไม่จบแค่นี้นะ นี่แค่จุดเริ่มต้น ทีนี้เราไปเมนต์งั้นโอนเงินมาใช้พี่ซะนะที่แอบยืมผัวพี่ไป ที่ยืมไปพันนึง จริง ๆ เงินพันนึงไม่อยากได้คืนหรอก หนูซื้อให้มันกินเยอะกว่านี้ คนอื่นรู้ดี หนูไปบอกว่ากูมาทวงเงิน ผัวกูไม่รู้เรื่องหรอก จะเอาเงินไปซื้อข้าวโยนให้หมากิน หมาไม่เคยกัดกู แต่มึงกินข้าวบ้านกูทำไมกัดกู หนูพูดกับมัน

เขาเป็นลูกน้องเราขนาดนั้นเลย?

เจ๊ข้าว : ทุกคนรู้ดีค่ะ คนสระบุรีรู้ดี เฟซบุ๊กมันไม่มีอะไร มีแต่อวยหนู หนูเลี้ยงมันเหมือนลูกคนนึง  

เขาโพสต์ขอบคุณคุณ เพราะคุณจัดงานวันเกิด จัดโน่นนี่ให้ตลอด?

เจ๊ข้าว : มันโพสต์ของมันเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนูหรอก

คุณไปฉี่ใส่หน้าเขาทำไม?

เจ๊ข้าว : พอเป็นจุดเริ่มต้น มันก็เริ่มมีการพูดจาไม่ดีกันขึ้นมา ต่างคนต่างด่า มันด่าหนู ขึ้นไอ้ขึ้นอี

แน่ใจเหรอว่าเขาด่าคุณ?

เจ๊ข้าว : แน่ใจค่ะ มันด่าหนูด้วย หนูก็ด่ามัน ลักษณะนิสัยสันดานมัน เป็นคนกัดคนอื่นไปทั่ว

คุณยังเดือดอยู่?

เจ๊ข้าว : ไม่เดือดค่ะ หนูแค่พูดจาเสียงดัง หลังจากนั้นมันท้าทายหนู ปุ่น ปัญญาพลโทรไป พี่อาร์ม ผมเห็นแล้วนะที่พี่ไปด่าพี่ข้าว แล้วพี่โจ้ไม่เกี่ยวข้องพี่ไปแท็กเขาทำไม เขารักพี่จะตาย

เขาบอกปุ่นไปขู่ฆ่าเขา?

เจ๊ข้าว : โอ้ย จะขู่ฆ่าใครได้ ไม่มีหรอกค่ะ ปุ่นไม่ได้ขู่ฆ่าไม่ได้อะไรค่ะ

เปิดคลิปเสียงบอกว่าโพสต์อะไรนักหนา อยากตายใช่มั้ย ไม่อยากยิงมึงทิ้ง แล้วไปขอโทษเขาซะ อันนี้เสียงปุ่นหรือเปล่า?

เจ๊ข้าว : ไม่ใช่ค่ะ อันนี้เป็นเสียงพี่ที่อยู่ในบ้าน เป็นคนขับรถ พาหนูไปตามหามัน

คนนี้เป็นเสียงคนของคุณ และโทรไปขู่เขาแบบนี้ให้มาขอโทษ คุณรู้มั้ยเรื่องนี้?

เจ๊ข้าว : รู้ค่ะ หนูก็นั่งข้าง ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะโทร เขากดโทร หนูก็นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร

วิดีโอคอล “ปั๊บ-อาร์ม” ตกลงที่อาร์มไปลง ต้องการโพสต์ต่อว่าต่อขานเขามั้ย?

อาร์ม : ผมเป็นลูกน้องคุณข้าว ณ ตอนนั้นผมยังทำงานให้คุณข้าวอยู่ แล้วผมจะทำไปแบบนั้นเพื่ออะไร ผมแค่อยากเอาหน้าตัวเองเฉย ๆ คนรอบตัวผมรู้นิสัยดี ผมพูดอะไรไม่ได้คิด อยากทำ ทำเลย ไม่ได้ไตร่ตรองก่อน

คุณเคยท้า ยั่วยุเขามั้ย?

อาร์ม : เคยครับ

พีทหัวเราะอะไร?

พีท : ที่บอกว่าเขาพูดไม่คิด ผมรู้จักเขามา เขาก็เป็นแบบที่เขาพูดนั่นแหละ เขาพูดไม่คิด พูดเป็นต่อยหอย พูดไปเรื่อย คงไม่ได้กรองว่าจะเกิดปัญหามั้ย

หลังจากนั้นยังไงต่อ คุณทรมานหัวใจยังไง?

อาร์ม : ตอนนี้ลูกค้าที่เคยเรียกใช้ผมตลอด ก็ไม่มีใครเรียกใช้บริการผม ผมก็อยู่อย่างหวาดระแวง ว่าจะมีใครมาดักหน้าซอยเข้าบ้านมั้ย จะมีใครมาบุกที่ผมพักมั้ย ทุกวันนี้นอนสะดุ้งตลอดเลยครับ ผวาครับ แพนิคเลยครับ

กลัวฉี่ใส่หน้าอีกเหรอ?

อาร์ม : ก็มีส่วนครับผม แต่ผวาว่าใครจะมาดักหน้าซอยบ้านมากกว่าครับ

หลังจากนั้นยังไง มีการโทรไปเหมือนข่มขู่ เขามาหาเหรอ?

เจ๊ข้าว : พอโทรไป เหมือนมีคนข่มขู่เหมือนให้ขอโทษ หนูไม่รู้ว่ายังไง เขาจะมาหรือไม่มาหนูไม่รู้ด้วยซ้ำ ตัวหนูก็เข้าบ้าน อาร์มแชตมาหาในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าถ้าเข้าไปหาพี่ พี่อย่าบังคับให้กราบเท้านะ อยากจบแล้ว ผมยอมแล้ว ผมอยากทำมาหากิน ก็บอกว่ามา มึงเข้ามา กูสัญญาเลยมึงจะไม่ให้มึงกราบตีนกูหรอก แล้วกูจะไม่ทำให้มึงเจ็บปวดด้วย ไม่ต้องกลัว กูคำไหนคำนั้น

เขาพูดอย่างนั้นจริงมั้ย?

อาร์ม : จริงทุกคำครับ ผมไม่ยอมกราบเท้าตอนแรก ให้กราบขอโทษกราบได้ แต่ให้กราบเท้าผมไม่ได้ ยอมรับว่าด่า อารมณ์เนอะพี่

เขาบอกเขาเคยรักคุณมาก เลี้ยงดูปูเสื่อคุณเหมือนลูกคนนึง?

อาร์ม : จริงครับ ดูแลทั้งเสื้อผ้า งานวันเกิดผมขนาดแม่ยังไม่เคยทำให้ ผมเรียกเขาว่ามี้ๆ  เรียกเหมือนแม่คนนึงเลย ก็ยอมรับว่ารักและเคารพเขามาก

ที่ไปทะเลาะต้องด่ากันเพราะอะไร?

อาร์ม : ผมทำงานกับเขามา 4 ปี คำหยาบคายไม่เคยขึ้นใส่เขาเลยนะ แต่ถามว่าทำไมจู่ ๆ ผมหมดความเคารพในตัวเขา  ความรักที่มีทั้งหมดกลายเป็นความเกลียดชังเพราะอะไร จากรักกลายเป็นเกลียดเพราะอะไร หลังจากที่เราทะเลาะกัน วันพฤหัสหรือศุกร์ มีรุ่นพี่คนนึงโทรมาหาผม ว่าอาร์มทำไมเอาเรื่องนี้ว่าไปว่าข้าวแบบนั้น พี่เสียหายนะ เรื่องนี้เราพูดกับพี่ข้าว รักษาผลประโยชน์เขา แต่ทำไมเขาถึงเอาเรื่องนี้ไปพูดกับฝ่ายโน้น

แล้วไปฉี่ใส่หน้าเขาได้ยังไง?

เจ๊ข้าว : มันไม่ใช่เรื่องนิดเดียว ไม่ได้ฉี่เพราะด่ากันนิดเดียว ฉี่เพราะมันหยาม มันท้าทายว่าน้ำหน้าอย่างมึงจะทำอะไรกูได้อีข้าว มึงทำกูได้มึงทำไปนานแล้ว พอได้ยินคำนี้ ก็เลยบอกว่าได้ เดี๋ยวมึงจะได้รู้ว่าน้ำหน้าอย่างกูทำอะไรได้บ้าง ก็ไปตามเลาะหามันให้หวาดระแวง และที่มีโทรศัพท์โทรไปหามัน หนูก็ยอมรับทุกอย่างว่าทำจริง หนูไม่ได้ทำเพราะมีอิทธิพลอะไรหรอกพี่ หนูรักแล้วมาหยามหนู ดูถูกหนู หนูแค้น เราไปตามหาก็ไม่เจอ  มันเป็นคนมาหาหนูที่บ้านเอง

เราบอกว่าไม่กราบเท้าแน่ถ้ามาหา ไม่เจ็บตัวแน่?

เจ๊ข้าว : หนูไม่ได้คิดว่าจะทำรุนแรงให้มันเจ็บตัว มันเยาะเย้ยไม่จบไม่สิ้น ขณะที่หนูขับรถออกไปหามัน หนูคิดว่าถ้าเจอมันขับมอเตอร์ไซค์อยู่ในตลาด หนูจะลงไปดีดหูมันสักทีว่ามึงอะไรนักหนา จะจบได้ยัง จะไม่ทำอะไรให้มันเจ็บตัวหรอก แต่ขณะที่หนูตามหามัน มันเด้งโพสต์ไม่หยุด ด่าหนูตลอด เราก็ไอ้ห่-นี่ยังไง ก็ให้คนโทรหามันว่าให้เข้ามาหากู จะเข้ามาขอโทษดีๆ หรือไม่เข้ามาก็ตามนั้นเจอที่ไหนก็เจ็บตรงนั้น หนูพูดอย่างนี้จริงๆ

เราคิดในใจว่าถ้าเข้ามาจะให้ทำอะไร?

เจ๊ข้าว : หนูมานั่งคิดว่ามันทั้งด่า ทั้งหยาม กูนี่รักมึงเหมือนลูกคนนึง ณ วันนี้ที่มึงทำความเดือดร้อนให้กู มึงบอกว่าจากคนรักกลายเป็นคนเกลียดชัง กูพูดให้ฟังตรงนี้ มึงทำกูขนาดนี้ กูยังเกลียดมึงไม่ลงเลย หนูไม่เกลียดหรอกพี่ แต่ถามว่าจะเอามันกลับมามั้ยหนูก็ไม่เอา หนูก็อยากถามว่ามึงเกลียดชังกูเรื่องอะไร ดูหน้ากูนะ ต่อให้มึงเกลียดกูแค่ไหน กูก็เกลียดมึงไม่ลงวันนี้ แต่ต่อไปไม่รู้ หนูยอมรับว่าเยี่ยวจริง หนูคิดในใจเลยว่าถ้ามึงเข้ามาในบ้าน กูจะทำยังไงกับสิ่งที่มึงหยามกู ต่อให้ตีหัวแตกเลือดราด ก็ไม่หายเจ็บใจ หนึ่งไม่อยากให้เจ็บตัว จะทำยังไงกับสิ่งที่มันด่าเรามาสองสามวัน ที่เราอดทน คนอื่นเตือนหนูตลอดว่าจะเลี้ยงคนแบบนี้เหรอ ภัยใกล้ตัวนะ ปากมันเป็นแบบนี้ตลอด หนูก็บอกว่าอย่าไปถือสา มันบ้า มันไม่เต็ม มันไม่มีอะไรหรอก ไม่คิดว่าวันนึงต้องมาจัดการมันเอง พอมันมาบ้านก็ถามว่ามึงเก่งอะไรกับกูนักหนา มึงไปโดนตัวไหนมา ใครยั่วยุอะไรมึง หนูสั่งมันนอน

เขาบอกคุณสั่งให้คนไปกดเขา?

เจ๊ข้าว : บ้านหนูมีกล้องวงจรปิด หนูกล้ายืนยันไม่มีใครกดมัน

เขาบอกตอนแรกจะมีคนไปกด แต่เขาบอกเขานอนเอง มีใครกดคุณมั้ย?

อาร์ม : ไม่มีคนกดครับ แต่ที่เขาพูด ไอ้อาร์มมึงนอน แล้วคนชื่ออ๊อด กับลูกน้องเขาจะเข้ามาหาผม โดยคุณข้าวไม่ได้สั่ง พอคุณข้าวพูดปุ๊บ สองคนนั้นจะเข้ามา ผมก็เลยชี้หน้าบอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวผมจะนอนเอง

เป็นอย่างนั้นมั้ย?

เจ๊ข้าว : หนูไม่ได้สั่งให้ใครกดมันทั้งนั้น หนูสั่งให้มันนอน มันก็นอนเรียบเลย ข้างบนหนูใส่ชุดนอน ข้างล่างใส่ผ้าขนหนูยาวเลยเข่า หนูเดินตั้งแต่เท้าไปถึงหน้า

ระหว่างเดินคุณทำอะไรบ้าง?

เจ๊ข้าว : ฉี่ใส่เขาค่ะ

ฉี่ไปเรื่อย ๆ ทั้งตัวจนถึงหน้าเขา แล้วก็เดินถอยหลังกลับมา?

เจ๊ข้าว : หนูจำไม่ได้ค่ะ แต่หนูฉี่ตั้งแต่เท้าจนถึงหน้าค่ะ

แล้วเขาทำยังไง?

เจ๊ข้าว : เขาก็ลุกขึ้นมาแล้วบอกว่าพี่ทำกับผมได้ขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเขาก็พร่ำพรรณนา

รู้สึกผิดบ้างมั้ยไปฉี่ใส่เขาขนาดนี้?

เจ๊ข้าว : รู้สึกผิดนะ แต่หนูโมโห มันหยาม หนูไม่รู้หรอกว่าโดนหน้ามั้ย พอถึงประมาณคาง-ปาก หนูก็ถอยหลังกลับ

จากนั้นยังไง?

เจ๊ข้าว :   หนูก็ฉี่ไปร้องไห้ไป หนูบอกกับมันว่าเจ็บปวดมั้ย (ร้องไห้) มึงรู้สึกโดนหยามมั้ยอาร์ม (ร้องไห้) กูจะบอกให้นะกูไม่รู้หรอกว่าวันนี้มึงเจ็บปวดแค่ไหน แต่ ณ วันที่มึงบีบบังคับให้กูทำขนาดนี้ เจ็บปวดมาก (ร้องไห้) หนูพูดกับมันแบบนี้ แล้วหนูถามมันคำนึงว่ากูทำอะไรให้มึง เรื่องทุกอย่างเกิดจากมึง มักรักกูบ้างมั้ย หนูถามมัน แล้วหนูก็เดินหนีเข้าบ้าน เพราะหนูอาย หนูไม่รู้จะไปเสียน้ำตาให้คนอย่างมันทำไม หนูเดินไปหยิบแบงก์พันแล้วโยนให้มัน บอกว่ามึงไปซื้อข้าวแดกซะ แล้วไป เขาบอกว่าพี่ ขออะไรอย่างนึงได้มั้ย ไหนๆ จะไม่ได้เจอกันแล้ว พี่เป็นผู้มีพระคุณ มันก็พร่ำของมันไป หนูบอกว่าหยุด มึงไม่ต้องพูด ไม่ต้องจดจำหรอก บุญคุณกูกับมึงหมดตั้งแต่วันนี้ วันที่กูเยี่ยวใส่หน้า วันนี้กูขอให้มึงจำว่ากูเป็นคนเหี้-คนนึงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมึง (ร้องไห้)

อึดอัดใจมากเหรอ แล้วคุณให้อะไรเขา?

เจ๊ข้าว : โยนตังค์ให้มันพันนึง มันก็ก้มเก็บเงิน แล้วก็กราบ แต่หนูไม่ได้สนใจ

จริงมั้ยอาร์ม?

อาร์ม : จริงครับ

อาร์มเอาเงินเขาด้วย?

อาร์ม : เอาครับ

ไปแจ้งความเพราะโกรธแค้น?

อาร์ม : ตอนนั้นไม่ได้คิดจะแจ้งความ มีเหตุผลที่ต้องแจ้งความทีหลัง เหตุผลคือวันอาทิตย์ผมโพสต์สเตตัสนึงพูดถึงแม่ผมเอง ก่อนวันที่ผมไปหาคุณข้าว ผมขอแม่ไปหลบในบ้านได้มั้ย แม่ผมไล่ผมออกมา ไม่ให้ผมไปหลบ ผมก็น้อยใจแม่ว่าทำไมไม่ให้ผมไปอยู่ด้วย ถ้าวันนั้นแม่ให้ผมอยู่ผมก็คงไม่เข้าไปมอบ ผมแค่น้อยใจแม่ผม พอเขาเห็นสเตตัสเขาบอกว่าผมไม่จบเหรอ ได้สิ แล้วเขาโพสต์ว่าเป็นคนฉี่ใส่ผม ในเมื่อเขาบอกว่าโอเค ประกาศให้สาธารณชนรับรู้ว่าพี่ทำกับผมแล้ว เราก็ต้องปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของผมบ้าง ผมต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายของผม ผมโพสต์เพราะน้อยใจแม่ ไม่เกี่ยวกับเขาเลย

วันนี้จะมีโอกาสกลับมาคุยกับเขามั้ย?

อาร์ม : คงไม่แล้วครับ เลยจุดกลับไปแล้ว

คุณจะกลับไปขอโทษเขามั้ย?

เจ๊ข้าว : ไม่ค่ะ ไม่รู้จะขอโทษด้วยเรื่องอะไร หนูผิดก็ยอมรับผิดตามกฎหมาย ที่ไปฉี่ใส่หน้าไม่ใช่ไม่สลดนะ หนูกล้าทำกล้ารับ หนูผิดจริง หนูไปรับโทษตามกฎหมาย แต่ให้ขอโทษ หนูไม่ขอโทษ

ไปเจอตร.มาแล้ว สอบกี่ชั่วโมง?

เจ๊ข้าว : 12 ชม.ค่ะ

ตร.สอบ 12 ชั่วโมงที่ไปฉี่ใส่เขาเนี่ยนะ?

พีท : ไปตั้งแต่บ่ายสามกลับตีหนึ่ง พิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อย ตร.แจ้ง 3 ข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำร้ายร่างกาย ไม่ได้ร้ายแรง แต่เป็นเหตุให้กระทบจิตใจ อีกข้อหาจำไม่ได้แล้ว

อาร์มอยากบอกอะไรกับผู้มีพระคุณ เขาเคยให้เงิน ให้ข้าวอาร์ม เคยจัดงานวันเกิดให้อาร์ม วันนี้แยกกันแล้ว อยากบอกอะไรเขา?

อาร์ม : โชคดีครับนาย แค่นั้น

คุณอยากบอกอะไรเขา?

อาร์ม : หนูไม่มีอะไรจะพูดกับมันค่ะ แต่อยากบอกมันว่าสิ่งที่มึงพูดมาเมื่อกี้ จากคนรักกลายเป็นคนเกลียดชัง  ณ วันนี้กูก็ไม่ได้เกลียดอะไรมึง แต่ถ้าวันนึงมึงกลับมา ถามว่ากูจะเอามึงอีกมั้ย กูก็ไม่เอา ขอให้มึงดำเนินชีวิตตามทิศทางของมึง ขอให้มึงโชคดี ขอให้เจอคนที่เขารักมึงเท่าที่กูรักมึง แค่นั้นพอ

จากนี้จะไปฉี่ใส่คนอื่นอีกมั้ย?

เจ๊ข้าว : ไม่ฉี่แล้วค่ะ หนูไม่มีเงินประกันตัวค่ะ

แล้วบอกเป็นเจ้าแม่เงินกู้?

เจ๊ข้าว : หนูก็งง พี่ดูสภาพหนู ดูมีอิทธิพล ดูมีเงินตรงไหน

เขาบอกคุณเอาคนไปล้อมรถปั๊บด้วยนะ?

เจ๊ข้าว : ไม่ได้เอาคนไปล้อมรถค่ะ เอาคนไปตบค่ะ

อาร์มพูดจริงมั้ยว่าน้ำหน้าอย่างอีข้าวจะทำอะไรกูได้?

อาร์ม : พูดจริง แต่ไทม์ไลน์ผิดครับ เขาด่าทอว่าระวังจะโดนส้นตีน ผมก็เลยบอกว่าน้ำหน้าอย่างมึงไม่มีปัญญาทำอะไรกูหรอก ถ้าจะทำก็ทำไปนานแล้ว เหมือนผู้ชายต่อยกับผู้หญิง เปอร์เซ็นต์ชนะเท่าไหร่ ผมคิดแค่นั้น อันนี้ผมโทรด่าเขาเลย

จากเป็นแม่เรียกอีข้าวเลยเหรอ?

อาร์ม :   ใช่ครับ มันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเอาผมไปพูดกับอีกคนนึง ว่าผมเอาความลับเขามาบอกเขา นั่นคือการหักหลัง ทรยศ

เจ๊ข้าว : กูทรยศอะไรมึง

อาร์ม : ตอนที่เพื่อนพี่มาขอกู้เงินพี่หมื่นนึง

เจ๊ข้าว : กู้เงินใคร พูดดีๆ

อาร์ม : กู้เงินสามีพี่ แล้วผมก็บอกว่าพี่ไม่ควรให้กู้นะเขามีปัญหางี้ๆ แล้วพี่เอาไปบอกเขา จนทำให้เขามาด่าผม ผมต้องขอโทษเขา

เจ๊ข้าว : แล้วมึงพูดจริงมั้ย

อาร์ม : ผมพูดจริง แต่ถามว่าผมทำเพราะอะไร

เจ๊ข้าว : มึงเอาความลับ เอาเรื่องส่วนตัวเขามาพูด คนที่มึงพูด เขาจ่ายเงินจ้างมึงซื้อของ คือลูกหน้า ผู้มีพระคุณกับมึง มึงไปเข้าออกบ้านเขาได้ แล้วมึงก็ไปรู้ความลับเขา มึงพูดเพราะอะไร

อาร์ม : ตอนนั้นผมเป็นลูกน้องคุณ ผมก็รักษาผลประโยชน์ให้คุณสิ

เจ๊ข้าว : กูไม่ได้อยากรู้เรื่องบ้านอื่น แล้วเรื่องที่มึงเอาเรื่องบ้านอื่นมาพูด เขาเป็นลูกค้า เอาเงินให้มึงกินมึงใช้ แล้วมาพูดให้เขาเสียหายทำไม ก็สมควรแล้วที่เขาจะด่ามึง

อาร์มพูดให้ทัน?

อาร์ม : ผมรักษาผลประโยชน์ให้สามีนาย แค่นั้น

เจ๊ข้าว : หนูไม่ได้ปล่อยกู้ คนรู้จักกัน

จริงหรือเปล่า ในอดีตอาร์มเคยไปห้างโรบินสัน แล้วอาร์มไปจอดรถในที่ห้ามจอด อาร์มตะโกนด่าเขา?

อาร์ม : ตอนนั้นผมไปซื้อกาแฟให้คุณข้าว ประตูตรงนั้นอยู่หน้าสตาร์บั๊กพอดี ขาผมก็ไม่ค่อยดี ขอจอดแป๊บนึง กาแฟแก้วเดียวคงไม่ถึงห้านาทีหรอก เขาไม่ให้จอด แต่เราพยายามจอด เป็นที่ห้ามจอดครับ เป็นความมักง่ายของผมเอง

เขาบอกเจ๊ข้าวก็ไม่ธรรมดา อาร์มก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันในพื้นที่สระบุรี?

อาร์ม : ผมก็ธรรมดาพี่ ผมเหาะได้เหรอ

พีท : มันก็คนธรรมดานี่แหละ แต่ปากมันไม่ธรรมดา ที่เขาพูดถึงคือมันพูดไปเรื่อย ปากหมานั่นแหละ เขาเรียกมันว่าอาร์มหม-ย มันฝอยไปเรื่อย จนกลายเป็นอาร์มหม-ย ผมรู้จักทางอาร์มดี นิสัยไม่มีอะไรหรอก ไม่มีส้นตีนอะไรหรอก แต่ปากมันเป็นแบบนี้ กับข้าวมันปากร้าย ใจดี ถ้าไม่พอใจมันใส่เลย มันนิสัยผู้ชายคนนึง

ข้างๆ อาร์มคือปั๊บ เคยถูกข้าวตามไปตบจริงมั้ย?

ปั๊บ : จริงค่ะ มีปัญหากันก่อนหน้านี้แล้ว วันนั้นไปเดินซื้อของที่ตลาด ไม่ได้ระวังตัว เพราะไม่ได้คิดว่าจะมีใครตามประกบตัว ซื้อของเสร็จสองทุ่มครึ่ง กำลังจะเลี้ยวรถแต่ออกมาไม่ได้ เพราะมีรถขวางซอยอยู่ มีผู้ชายมาประมาณ 10 คนได้

คุณติดหนี้เขาเท่าไหร่?

ปั๊บ : ก่อนหน้านี้มีของเก่าที่เขาเอามาหักเงินเดือนด้วยส่วนนึง ยอดตอนนั้นประมาณ 1.5 แสน ปัจจุบัน 5.2 หมื่น วันนี้เหลือ 2.7 หมื่น

เจ๊ข้าว : หนูไม่ได้ตามเรื่องหนี้เรื่องอะไรค่ะ ปั๊บโกงเงินหนูมา 3 รอบ รอบแรก 4 ปีที่แล้ว มายืมเงินแสนนึง ปั๊บเป็นแม่ค้าออนไลน์ ตัวแทนขายยาลดความอ้วน ที่เอาเงินตัวแทนไปหมุนแล้วเป็นหนี้ แล้วมายืมเงินเรา ทั้งจังหวัดกล้าพูดเลย ที่เป็นตัวแทนเขา ไม่มีใครเอาเขาสักคน เอาเงินตัวแทนไปแล้วไม่มีของไปขาย วันนั้นหนูมีงานขึ้นบ้านใหม่ เพื่อนโทรมายืมเงิน หนูไม่มีเงินสด แต่หนูให้คนเอาทองหนูไปจำนำ ได้เท่าไหร่ให้โอนใส่บัญชีนี้ ถ้าจำไม่ผิด ได้ประมาณ 1.6 แสน ถึง 1.8 แสนนี่แหละ แต่หนูโทรบอกคนไปจำว่าให้เอาเศษกลับมา ก็ให้เขาไปแสนนึง ถึงเวลาเขาถามว่าดอกเท่าไหร่ หนูบอกว่าไม่เอา แต่ไปเสียดอกที่ร้านทองให้หนูเอา เพื่อนกัน ช่วยเหลือกัน หนูไม่เอาดอกหรอก เขาเป็นรุ่นพี่เมื่อก่อน เมื่อก่อนเรียกพี่ ตอนนี้เรียกอี ให้ยืมไปแสนนึง ยืมเดือนนึงถึงเวลาไปไถ่ทองมาคืนหนูแล้วกัน หนูไม่เอาดอก ไปจ่ายดอกที่ร้านทองเอา ถึงเวลาปุ๊บไม่มีเงินคืนหนู เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วที่ยืมไปก้อนแรก หนูเป็นท้าวแชร์ก็บอกว่ามาลงวงกับหนูแล้วกัน หนูเปิดวงแสนให้ ได้เงินแชร์มาก็เอาเงินแชร์ไปเอาทองหนูออกมา แล้วก็มาจ่ายแชร์ จะได้ลดภาระ ตกลงตามนั้น ถึงเวลาคืนไม่หมด ส่งมาสักครึ่งวงแล้วไม่ส่งต่อ หนูก็ไม่ได้อะไร หนูก็มีปัญหา แชร์จะล้มคนโกงเยอะ ก็หายไป ค้างหนี้เก่าอยู่ประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท หนูจำไม่ได้ว่าเขาส่งมา 4 หรือ 6 หมื่น แล้วหนีไปทำงานเกาหลี วันดีคืนดีเราโทรหา ไม่รู้นึกยังไง ขนาดเขาออกจากชีวิตไปแล้ว เฮ้ย เพื่อน มึงอยู่ไหน เขาบอกกูทำงานเกาหลี มึงสุขสบายดีมั้ย ได้เงินดีมั้ย เขาบอกว่าได้อยู่ ไม่ถึงกับร่ำรวย หักแล้วเดือนนึง 3-4 หมื่น

สรุปกี่ครั้ง?

เจ๊ข้าว : สามครั้งที่โกงหนู ยอดครั้งแรกจำไม่ได้ว่าคืนมาเท่าไหร่ เอาเป็นว่ามันนานแล้ว คงไม่ไปหาสลิปหรอก เพราะมันนานแล้ว รอบสองโกงหนูไม่ได้โกงธรรมดา เอาชื่อคนอื่นมาโกง สุดท้ายหนูไปตามบี้ สมมติเอาชื่อพี่หนุ่มมาโกง วันนึงหนูไปถามพี่หนุ่มว่าเงินเมื่อไหร่จะได้ พี่หนุ่มบอกว่าเงินไม่ใช่ของพี่ พี่เอาให้ปั๊บ เอาคนมาโกงหนู 3 คน รวมตัวเองด้วย เป็น 4 คน ยอด 152, 600 หักเงินเดือนไปแล้วประมาณ 4 หมื่นกว่า เบ็ดเสร็จยอดเหลือประมาณแสนนิด ๆ บวกกับล่าสุดที่โกงไป 6 หมื่น แต่ 6 หมื่นผ่อนมาแล้วเหลือ 2-3 หมื่น เบ็ดเสร็จแล้วยังเป็นหนี้อยู่เป็นแสนนะ ไม่ใช่หมื่นตามที่บอกมา

คุณตามไปยังไง?

เจ๊ข้าว : หนูเคยไปที่บ้าน บอกแม่เขาว่าแม่รู้มั้ยว่าลูกแม่ทำจังไรแค่ไหน รู้มั้ยโกงคนทั่วสระบุรี พูดแบบนี้เลย หนูโพสต์ให้รู้เลย ไปถึงก็ไม่ได้อันธพาลอะไรนะ หนูเจอแม่เขา ก็ถามแม่เขาว่าแม่รู้จักหนูมั้ย รู้มั้ยเป็นเพื่อนปั๊บ แม่พูดว่าวันนี้ถ้าไม่มีข้าวแม่ไล่ออกไปหมดทุกคนแล้ว แต่แม่เห็นว่ามีข้าวมาด้วย ปั๊บเขามาพูดเยินยอสรรเสริญข้าวให้ฟังอยู่ช่วงนึง ช่วงที่เขาแย่ มีปัญหากับคนที่เขาโกงมารอบแรก มีแต่ข้าวอุ้มชูประคองเขา ให้เขาอยู่ ให้เขากิน ช่วยเหลือเขา

เมื่อไหร่ถึงตอนตบ?

เจ๊ข้าว : พี่จะเอาลัดเลยมั้ย

เขาติดเงินเราแล้วยังไง   เราตามทวงเขายังไง?

เจ๊ข้าว : วันที่ตามไปตบ หนูรู้มาหลายครั้งและอดทนมาตลอด น้ำหน้าอย่างอีข้าวจะมีปัญญาทำอะไรกู สเต็ปเดียวกับไอ้อาร์มเลย น้ำหน้าอย่างอีข้าวจะมีปัญญาฟ้องใคร เขาท้าทายหนู หนูก็พูดกับมันนะ จำไม่ได้ว่าโทรไปด่าหรือแชตด่าบอกว่าที่มึงรอดมือรอดตีนมาได้ ไม่ใช่กูไม่มีปัญญา แต่กูไม่ทำเพราะรักมึง แล้วมีคนโทรมาบอกว่าเจอที่ตลาดสด หนูก็ตามไปเลย ไม่มีใครให้ไป หนูเดินออกมาคนเดียว เรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปตีอีปั๊บ แต่พอเห็นหนูเดินมาถึงป้อมยาม เขาก็ต้องขับรถพาหนูไปเขาก็ปิดรถไว้ไม่ให้หนี แล้วเรียกลงมาคุย หนูไม่ใช่มาเฟียหรอก แต่ความเจ็บใจของหนู พี่เข้าใจมั้ย พอเจอตัวปุ๊บ มึงลงมาคุยกับกู ลงมา มันคุยกับหนูว่าข้าว อย่าทำแบบนี้ ต่างคนต่างอยู่ได้มั้ย หนูบอกว่าไม่ได้ ทำไมตอนกูให้ต่างคนต่างอยู่ มึงไม่ต่างคนต่างอยู่ ทุกครั้งที่มึงพูดเข้าถึงกูตลอด พอวันนี้ที่กูมีอารมณ์ มึงจะเจ็บตัวแล้ว มึงให้ต่างคนต่างอยู่ทำไม กูเนี่ยนะ มึงโกงกูไปสามรอบ กูไม่เคยคิดจะทำอะไรมึงเลย ถ้าวันนี้เจ็บตัวเพราะปากมึงที่ท้าทาย หนูขึ้นกระบะหลังตีไปที่หน้าผากตรงคิ้วทีนึง แล้วบอกให้ลงมาคุย ถ้าไม่ลงมาคนอื่นเดือดร้อนหมด จนเขาลงค่ะ ก่อนลงเขาถามว่าแล้วจะทำอะไรมากกว่านี้มั้ย หนูบอกว่ามึงลงมา กูไม่ทำหรอก ตอนแรกว่าจะไม่ทำมัน พอมันลงมาก็ใจขึ้นเนอะ เอาเท้าเหยียบหลังมัน ลงมาแล้วมันนั่งคุกเข่า

เขาเอาภาพไปแจ้งความคุณ คุณบังคับเขาหรือเปล่า?

เจ๊ข้าว : หนูบอกว่ามึงลงมากราบตีนกู มึงท้าทายกูมากเลยนะ พอมันลงมา หนูเอาเท้าวางหลังมันแล้วบอกว่าอีปั๊บมึงมองหน้า แล้วพูดชัด ๆ อีกสักที กูมีปัญญาทำอะไรมึง คนอย่างกูที่ไม่ทำอะไรมึงไม่ใช่เพราะกูไม่มีปัญญา แต่กูรักมึง เตะเข้าที่หูหรือคางนี่แหละ

ไม่สงสารเขาเหรอ?

เจ๊ข้าว : สามรอบ ถ้าหนูเป็นคนจิตวิปริต อย่างที่เขาด่าจริง คงไม่ปล่อยให้เขาทำถึงสามรอบหรอก

ปั๊บ เป็นอย่างนั้นจริงมั้ย?

ปั๊บ : เรื่องติดหนี้ติดสินจริงค่ะ ยอมรับ

เขาบอกว่าคุณโกงเขาเลยนะ?

ปั๊บ : ใช่ค่ะ แต่หนูมีการผ่อนจ่ายอยู่ค่ะ

เจ๊ข้าว : ตั้งแต่โดนส้นตีนหนูไป โอนดีมากเลย ไม่ต้องให้ทวงเลยพี่ ปกติเขาเรียกอีปั๊บ 500 ไม่ทวงก็ไม่โอน อีปั๊บ 500 นี่ไม่รู้ว่าโอน 500 หรือสันดานโจร 500 นะ ไปคิดกันเอาเอง แต่ตั้งแต่โดนส้นตีน โอนวันละพัน โอ้โห หนูชื่นอกชื่นใจ มีข้าวให้ลูกกิน

ปั๊บยังติดใจ ไปแจ้งความเหมือนกัน?

ปั๊บ : ก็ให้เป็นเรื่องกฎหมายไปค่ะ

อาร์มชวนคุณไปออกรายการเหรอ?
ปั๊บ : ไม่ใช่ค่ะ เรากังวลเรื่องความปลอดภัยของเราเนอะ

วันนี้จะเอาผิดเขามั้ย?

ปั๊บ : ให้เป็นเรื่องกฎหมายต่อไปค่ะ

เจ๊ข้าว : ฝากนิดนึง อยากให้ใส่ใจเรื่องมนุษยธรรมด้วย มึงโกงเขายังมีหน้าไปแจ้งความ แล้วที่เจ็บตัวไม่ได้เป็นเพราะโกงนะ แต่เจ็บตัวเพราะปากดี ถ้าไม่ปากดีก็ไม่เจ็บตัว

คุณดุมากเลยนะ?

เจ๊ข้าว : หนูไม่เป็นแบบนี้กับใครนะ หนูไหว้พระสวดมนต์ สภาพไม่น่าแต่บอกเลยหนูไหว้พระสวดมนต์ วันพระไม่ขาด

สังคมส่วนนึงบอกว่าคุณไปฉี่ใส่หน้าอาร์มไม่ถูกต้อง หยามศักดิ์ศรีมนุษย์กันเกินไป?

เจ๊ข้าว : ณ วันที่หนูทำ หนูไม่คิดหรอกว่ามันเกินไป หนูรู้ว่ามันคือการหยาม เพราะจุดประสงค์หนูก็อยากหยามมัน แต่พอมาเกิดเรื่องราวเราก็ทำเกินไปจริง ๆ หนูก็รู้สึกผิดนะ ที่มานั่งพูดเสียงดัง ใครอาจคิดว่าหนูไม่สลด ไม่มีความรู้สึก ไม่ใช่ ตัวหนูก็รู้สึกผิด แต่คนเรามีความอดทนและมีอารมณ์ด้วยกันทุกคน ก่อนหนูมาทำแบบนี้ หนูก็อดทน หนูดีกับพวกมันมาโดยตลอด ถ้าคิดว่าหนูทำเกินไป จิตวิปริต เป็นคนไม่ดี มองหน้าหนูชัดๆ กล้องจับให้ทุกตัว สภาพหนูเหมือนผู้มีอิทธิพลตรงไหน เมื่อวานโดนจับไปยังลงขันช่วยประกันตัว หนูไม่ได้มีเงิน ไม่ได้มีอะไร แต่เราดีกับมัน มันหยามเรา หนูก็ยอมรับว่าหนูผิด ถ้าคิดว่าการกระทำมันแรงเกินไป หยามความเป็นมนุษย์ หนูก็ขอโทษทุกคนที่ไม่ชอบการกระทำที่มันเย้ยกฎหมาย จริงๆ หนูไม่มีเจตนาเย้ยกฎหมาย หนูทำไปเพราะอารมณ์โมโห ถูกเยาะเย้ยท้าทาย ส่วนนึงเกิดจากอารมณ์ ซึ่งหนูไม่คิดขอโทษค่ะ ผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย หนูขอโทษคนทั้งประเทศ แต่ไม่ขอโทษสองคนนั้นค่ะ จะขอโทษเขาทำไม ที่ไปเยี่ยวใส่หน้าก็สมควรแล้วค่ะ

อาร์มก็แยกย้ายกันไป?

อาร์ม : ผมมีคำนึง ที่พี่บอกว่าผมไม่สมควรเอาเรื่องบ้านอื่นมาพูดกับเขา วันนั้นถ้าผมทำผิดจริง ทำไมไม่บอกเขาตั้งแต่ตอนนั้น ไปบอกเขาตอนทะเลาะกับผมทำไม

เจ๊ข้าว : กูอยากทำให้มึงเดือดร้อนไง  อยากให้คนอื่นรู้ว่ามึงปากไม่ดี ตอนที่รักกัน มึงเป็นคนของกู กูจะพูดทำไมกูจะเอาความจังไรของมึงไปบอกเขาทำไม แต่วันที่ทะเลาะกันกูก็ต้องให้คนอื่นรู้ มึงเดือดร้อนก็เพราะปากมึงเหี้-แบบนี้  

พีท : อาร์มบางทีก็พูดเกินจริง ที่บอกว่าข้าวมีอิทธิพล มันไม่ได้มีอิทธิพล มันแค่รู้จักคนเยอะ เพื่อนฝูงเยอะ เขาแค่เป็นหูเป็นตาให้มันเฉย ๆ

ปั๊บเงินต้องคืน?

เจ๊ข้าว : ค่ะ โดนส้นตีนไปโอนไวมากค่ะ

เดี๋ยวเขาก็ไปแจ้งความอีกนะ?

เจ๊ข้าว : มันรู้ตัวมันดี ต้องใช้หนี้ให้หมดนะ ใช้ให้ตรง เดี๋ยวจะเอาเงินที่มึงใช้หนี้ ไปเสียให้มึงที่ศาล อยากได้เท่าไหร่ จ้างทนายฟ้องเอา แต่มองหน้ากู ใช้หนี้กูให้ตรง จริง ๆ หนูไม่ใช่คนแบบที่สังคมมอง

About Author