‘‘Dream Bangkok’’ สยายปีกสู่การเติบโตครั้งใหม่ เปิดตัว HYPE01 บุกตลาดลักชัวรี่-อัลตร้าลักชัวรี่ -

‘Dream Bangkok’ สยายปีกสู่การเติบโตครั้งใหม่ เปิดตัว HYPE01 ผสานความเชี่ยวชาญทำการตลาดแบบไฮบริดคอมพานี บุกตลาดลักชัวรี่-อัลตร้าลักชัวรี่ ด้วยเทคโนโลยีและบุคลากรที่ทรงพลัง!

นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญครั้งใหม่สำหรับ กลุ่มบริษัทดรีม แบงคอก (Dream Bangkok) หลังจากเปิดตัวสู่แวดวงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของเมืองไทยเข้าสู่ปีที่ 6 ในปีนี้ ในฐานะไฮบริด ครีเอทีฟ คอมพานี ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารการตลาดและแบรนด์ แบบโลกยุคใหม่ ที่เน้นความเร็วและความยืดหยุ่นในทุกด้าน แต่ต้องยังคงไว้ซึ่งการเป็นที่ปรึกษาที่มีประสิทธิภาพ และให้บริการแบบ วัน สต็อป เซอร์วิส มาวันนี้ได้ต่อยอดธุรกิจด้วยการเปิดตัว HYPE01 Hybrid Creative Company (ไฮพ์โอวัน ไฮบริด ครีเอทีฟ คอมพานี) ที่เน้นการทำงานกับกลุ่มธุรกิจและแบรนด์ ในตลาด Luxury และ Ultra-Luxury ที่มีการเติบโตอย่างสวนกระแสตลอดช่วงโควิด-19

นายสรรพาทิตย์ บูรณสมภพ ครีเอทีฟมือรางวัลระดับโลก ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ของกลุ่มบริษัทดรีม แบงคอก (Dream Bangkok) กล่าวถึงภาพรวมตลาดและการบริโภคที่น่าสนใจว่า “ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าโลกจะต้องเผชิญสถานการณ์โควิด-19 แต่ในตลาดลักซ์ชัวรี่ไปจนถึงอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ ถือว่ามีการเติบโตที่สูงมาก สวนทางกับสภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งเราวิเคราะห์ประเมินว่าสาเหตุนั้นเกิดจากปัจจัย 3 ประการ ประการแรกคือผู้บริโภคในกลุ่มนี้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายในการใช้ชีวิตที่ไม่มีอิสระเหมือนอย่างเคย ประการที่สองคือการตระหนักถึงความเสี่ยงในการใช้ชีวิต จึงเกิดความต้องการที่จะใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ มาตอบสนองต่อความต้องการคุณค่าทางอารมณ์และความรู้สึกมากขึ้น ประการสุดท้ายคือการกำเนิดใหม่ของผู้มีฐานะ ซึ่งใช้โอกาสที่เกิดขึ้นจากวิกฤตในครั้งนี้สร้างเนื้อสร้างตัวสร้างฐานะ ส่วนหนึ่งก็เป็นผลจากการเติบโตของโลกดิจิทัล ที่ทำให้การทำธุรกิจและการลงทุนสามารถที่จะสเกลอัปได้มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นการขายบนอีคอมเมิร์ซ โซเชียลคอมเมิร์ซ การเกิดขึ้นของธุรกิจผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์ การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี หรือแม้แต่ศิลปินในยุคนี้ก็ก้าวสู่การทำรายได้ บนมิวสิกสตรีมมิ่งได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการทำ NFT สำหรับผลงานศิลปะดิจิทัล โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะแตกต่างจากผู้มีฐานะในรุ่นก่อน คือ ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ใช้เหตุผลน้อยลง และกล้าที่จะตอบสนองต่ออารมณ์และความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา”

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทดรีม แบงคอก (Dream Bangkok) มีบริษัทในเครือได้แก่ Dream Riders Creative Hybrid Company และเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานก็คือ HYPE01 Creative Hybrid Company ที่มุ่งนำเสนอความเชี่ยวชาญในกลุ่มธุรกิจแบรนด์ Luxury และ Ultra-Luxury ที่มีความยากเฉพาะตัวในการทำสื่อสารการตลาดให้ประสบความสำเร็จ ด้วยปัจจัยที่มากกว่าแค่ยอดขาย แต่ยังต้องรักษาภาพลักษณ์ (Brand Image) และตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ (Brand Positioning) ไว้ให้มั่น แม้จะต้องทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์ (Brand Reputation) เป็นที่รู้จัก แต่ก็ยังต้องรักษาไว้ซึ่งความเอ็กคลูซีฟสำหรับลูกค้าตัวจริง

นางสาวณัฐกานต์ โทปุรินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารลูกค้าของ HYPE01 เล่าว่า “HYPE01 มีสถิติขายงานชนะ สูงถึง 100% และได้ถือครองลูกค้าในกลุ่มลักซ์ชัวรี่และอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ไว้ในการดูแลและให้คำปรึกษา ได้แก่ Peugeot, Maserati, Rolls Royce, Aston Martin, Azimut และ Chris-craft ด้วยวิธีการทำงานที่โดดเด่นและแตกต่าง ด้วยการวางบทบาทเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ทำงานเชิงรุก ประเมินความเสี่ยงและโอกาสให้กับแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ พร้อมนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นรูปธรรม สามารถลงมือจัดการความเสี่ยง หรือคว้าโอกาสจากสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าได้ทันท่วงที”

เสียงสะท้อนความสำเร็จที่ HYPE01 ได้รับความชื่นชมเสมอ คือการประเมินเห็นความเสี่ยงและโอกาสของแบรนด์ได้อย่างรวดเร็วและล่วงหน้าก่อนที่ลูกค้าจะทันรู้ตัว พร้อมนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมและมีความสมเหตุสมผล จึงไม่น่าแปลกที่ในปี 2564 ที่ผ่านมา HYPE01 คือส่วนผสมสำคัญซึ่งทำให้ Peugeot
(เปอโยต์) ได้กลับมาเป็นแบรนด์ที่สร้างความประทับใจและเป็นที่น่าจดจำ จนได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากจากกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย

อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของการเป็นไฮบริด ครีเอทีฟ คอมพานี คือ การสร้างสรรค์ผลงานในการสื่อสาร ที่จะก่อให้เกิดความประทับใจ และนำไปสู่เป้าหมายของแบรนด์ลักชัวรี่ หรืออัลตร้าลักชัวรี่นั้น ต้องเริ่มต้นด้วยการมีวิธีคิดที่แตกต่าง นางสาวพิชามญช์ สิริพชรกิตติ์ โปรดิวเซอร์อาวุโส (Senior Producer) ถอดรหัสความคิดออกมาได้อย่างน่าสนใจ โดยเล่าว่า “หัวใจสำคัญคือการมีวิธีคิดที่ว่า เราไม่ได้แค่สร้างผลงานเพื่อสื่อสารเท่านั้น แต่เรากำลังสร้างประสบการณ์ที่ใช่ ให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเสพประสบการณ์ที่มีความหาได้ยากและความเฉพาะเจาะจง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า Rare & Exclusive ซึ่งจะต้องมีความครบเครื่องในทุกมิติทั้งเนื้อหาและสุนทรียะที่สื่อออกไป ให้มีความถูกคน ถูกที่ และถูกจังหวะเวลาด้วย”

นางสาวชุติมณฑน์ จันเหมือน บูรณสมภพ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของกลุ่มบริษัทดรีม แบงคอก (Dream Bangkok) เผยความลับสำคัญของการเติบโตของ HYPE01 ว่า “การตลาดในกลุ่มลักซ์ชัวรี่และอัลตร้าลักซ์ชัวรี่มีความเฉพาะตัว ที่มีความท้าทายมาก ต้องอาศัยทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างมาก ในการที่จะเข้าใจลูกค้าที่มีความหลงไหลและเลือกซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูงมาก ทั้งในแง่จิตวิทยาและพฤติกรรม ซึ่งอยู่เหนือกว่าเหตุผลทางด้านราคา ด้วยเหตุนี้เราจึงพัฒนาเครื่องมือที่มีชื่อว่า Sales Moment (เซลส์ โมเมนท์) ซึ่งเป็นเครื่องมือเอกสิทธิ์ของทาง HYPE01 ที่พัฒนาขึ้นเอง นำมาใช้ในการประมวลผลดาต้า เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าของแต่ละแบรนด์ ว่ามีนิยามความหมายอะไรที่ซ่อนอยู่ในการเลือกใช้สินค้าเหล่านี้ เพื่อหาช่วงเวลา พื้นที่ สาระ และวิธีการที่เหมาะสมในการสื่อสาร หรือที่เรียกว่า Sweet spot ที่จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และนำไปสู่การสร้างยอดขายได้ในที่สุด

นอกเหนือไปจากวิธีการทำงาน และการมีเครื่องมือของตัวเอง ที่ประยุกต์ใช้ดาต้ากับเทคโนโลยีแล้ว อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ HYPE01 ประสบความสำเร็จก็คือ การคัดสรรบุคลากรที่มีความเฉพาะตัว หรือที่เรียกว่ามีไฮบริด ดีเอนเอ (Hybrid DNA) ซึ่งไม่ใช่แค่ความสามารถในการทำงานเท่านั้น แต่ยังต้องมีจริต ไลฟ์สไตล์ และรสนิยมในชีวิตที่เปิดกว้าง หรือพูดง่าย ๆ ว่าต้องเก่งทั้งเรื่องงาน ทักษะการใช้ชีวิต และมีความรับผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงให้ได้ตามเป้าหมาย หรือ เวิร์ค (work) ไลฟ์ (life) สปิริต (Spirit ) นั่นเอง คนที่มีไฮบริด ดีเอนเอนั้นจะพร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ และเข้าใจลึกซึ้งถึงความเป็นมนุษย์ ที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยแพสชั่น มองเห็นคุณค่าของตัวเองและสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างลึกซึ้ง และพร้อมจะเข้าใจความหมายของสิ่งเหล่านั้นจากมุมมองที่แตกต่างอย่างไม่ตัดสิน” การถือกำเนิด ไฮบริด ครีเอทีฟ คอมพานี ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวในตลาด Luxury และ Ultra-Luxury อย่าง HYPE01 ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในแวดวงธุรกิจอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศไทย ที่กำลังพยายามมองหาส่วนผสมที่ดีที่สุดในการที่จะอยู่รอดและสร้างการเติบโตได้ในโลกยุคใหม่ ที่ความเปลี่ยนแปลงผันผวนเข้ามาทักทายถึงหน้าประตูบริษัทแบบไม่ซ้ำในแต่ละวัน เป็นคำตอบที่ผสมผสานการทำงานของเทคโนโลยีและบุคลากรได้อย่างลงตัว มีทิศทางที่การดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์โลกของการค้าที่หมุนเวียนอย่างรวดเร็ว อันจะนำไปสู่การเติบโตและต่อยอดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด