“คิวเท” โดนทีมงานหักหลัง ร้องไห้ เปิดใจ “ทำไมใจร้ายกับผมขนาดนี้”

คิวเท ร่ำไห้ เปิดใจทีมงานเก่าหักหลัง ขโมยของ-ขายข้อมูลบริษัท ช้ำใจเคยมองเป็นครอบครัว เพิ่งรู้สปอยเกินไป เผยเหตุให้เงินเดือน 3 หมื่น

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ‘คิวเท โอ็ปป้า’ หรือ ‘ซิม คิวเท’ หนุ่มเกาหลีใต้เจ้าของช่องยูทูบ Kyutae oppa ที่มาร่วมงานกาล่าพรีเมียร์ภาพยนตร์ “พี่นาค 3” ที่โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ได้เปิดใจ พร้อมร้องไห้ ถาม ทำไมใจร้ายกับผมขนาดนี้ หลังถูกทีมงานเก่าหักหลัง หนึ่งในนั้นขโมยของแบรนด์เนมไปขายร่วม 2 แสน มีคนแชร์ข้อมูลบริษัท แจ้งความดำเนินคดีแล้ว
โดย ซิม คิวเท เผยว่า

เหตุการณ์คือ มีทีมงานลักทรัพย์ ตอนนี้ดำเนินคดีอยู่ครับ อยู่ขั้นตอนการรอขึ้นศาลครับ ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาครับ ส่วนตัวในใจผมจริงๆ ก็อยากลองคุยกับเขา

จับได้ตอนไหน ว่าเขาขโมยของ?

ผมไปเจอข้อมูลมาว่าแบรนด์เนมบางชิ้นของผมหายไปปีก่อน บางชิ้นหายไปปีนี้ เขาเอาไปขายในเว็บแบรนด์เนมมือสองซึ่งอันนี้เป็นข้อมูลที่เจอมา และข้อมูลอีกหลายอย่างแต่ตอนนี้ยังไม่สามารถแชร์ได้เพราะตำรวจยังดำเนินการอยู่ยังไม่เสร็จอาจจะต้องรอดูไปก่อน

ถามว่าเอะใจมาตลอดไหม ผมพูดตรงๆ ว่าของผมหายมาเป็นช่วง ๆ แล้ว ผมบอกที่นี่เลยว่าผมไม่รู้ว่าเขาทำจริงๆ หรือเปล่า วันนี้ผมพูดแค่ว่าของที่มีหลักฐานจริง ๆ ของทุกชิ้นที่ผมพูดออกไปในคลิปมีหลักฐานทั้งหมด อะไรที่หายไปไม่มีหลักฐานผมไม่ออกมาพูด แต่ต้องยอมรับว่าของของผมหายมาเป็นช่วง ๆ แล้วครับ

คนที่เอาไปเขาสารภาพแล้วใช่ไหมว่าเป็นคนทำ?
ตอนนี้เขาสารภาพกับตำรวจแล้วว่าเขาเป็นคนกระทำอย่างนั้นจริง ๆ โดยทุกข้อกล่าวหาเขาก็ยอมรับหมดว่าเขาเป็นคนทำอย่างนั้นจริง ๆ

ความเสียหายตอนนี้ที่เจอหลักฐานจริง ๆ มีหลักฐานร้อยเปอร์เซ็นต์ที่สามารถยื่นฟ้องศาลได้ประมาณ 2 แสนบาท ส่วนใหญ่จะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม เสื้อผ้า

คนที่เอาไปคือตากล้อง ใช่ครับส่วนประเด็นการขายข้อมูลบริษัท ผมบอกในคลิปเสมออยากให้ทุกคนก่อนคอมเมนต์มีสตินิดนึงเพราะว่าตอนนี้ผมเห็นหลายคนเชื่อมโยงข่าวผิดก็มีบ้าง แต่ผมบอกในคลิปแล้วว่ามีการแชร์ข้อมูลบริษัท ซึ่งในการแชร์ข้อมูลบริษัทมีหลายอย่างมากๆ ตั้งแต่กับคนรอบตัว และคลิปที่ออกไปเพื่อจะสนุกปาก

ไม่ยอมความแน่นอนใช่ไหม?
พูดตรง ๆ เรื่องนี้คนที่มาสำนึกกับผมจริง ๆ คุยกับน้องเขา ผมเห็นความจริงใจ และผมก็ให้อภัยตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว ทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้อะไรกับเขาแล้ว พูดตรง ๆ ผมกลับมาเป็นพี่น้องที่รักไม่ได้แล้ว ใครที่สำนึกจริง ๆ ผมก็ไม่ได้อะไร ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขายังไงบ้าง แต่ในเวลานี้จุดนี้ยังไม่มีใครติดต่อผมมา แล้วคนที่ถูกจับก็ไม่ได้ติดต่อมาหาผมเช่นกัน

ส่วนเรื่องที่มีคนโพสต์เรื่องเงินเดือน 3 หมื่น อันนี้ผมอยากจะอธิบายทุกคนว่าน้องเขาไม่ได้เป็นคนโพสต์ ส่วนคนที่โพสต์ไม่ได้เกี่ยวกับทีมผมเลยที่โพสต์ยาว ๆ อยากให้ทุกคนเสพข่าวกันดีๆ เพราะจริง ๆ ที่เขาโพสต์ยาว ๆ ชื่อโปรไฟล์ก็เป็นอีกคนหนึ่งแล้ว ไม่ใช่คนนั้น คือผมไม่อยากให้ด่าเรื่องนี้ครับเพราะผมรู้สึกว่าอันนี้ไม่ยุติธรรมผมว่าน้องเขาก็สำนึกแล้วนะ ผมไม่อยากให้เอาเรื่องนี้ไปด่า เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นคนโพสต์จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ตัวเขาคนที่ผมให้อภัยคือน้องตัวเล็กสุดครับ เป็นตัดต่อที่ออกไปทำช่องครับ ผมให้อภัยเขาแล้วก็สัญญาว่าผมจะไม่เอาเรื่อง อย่างน้อยเขาเป็นคนเดียวที่มาคุยกับเราคือจริง ๆ เรื่องนี้มันก็ผ่านมา 2 เดือนแล้ว แต่ผมออกมาพูดอะไรไม่ได้เพราะว่าต้องให้ตำรวจดำเนินการก่อน พูดตรง ๆ ผมไม่ได้อยากจะออกมา ผมแค่จะเรียกความยุติธรรม ผมทรมานมากเพราะว่าผมมองทุกคนเป็นครอบครัว

หลายคนบอกว่าทำไมต้องให้เงินเดือนเยอะ เพราะส่วนตัวผมถ้าได้เงินเดือน 15,000 มันอยู่ยากครับ ผมมองว่ามันอยู่ยาก ผมก็เลยมองตรงจุดนี้ เรามาคุยกันว่าอยากได้อะไรเพิ่มผมก็ซัพพอร์ตเต็มที่แค่นั้นเองครับ ผมไม่เคยมองพวกเขาเป็นทีมงาน แล้วสุดท้าย ผมมาเดี่ยว ๆ มีคนอยากมาทำงานด้วย มันรู้สึกดีใจมากเลยนะ เขาอยากมาทำงานกับผมจริงๆ ผมดีใจมาก แล้วผมก็รับเขามา แล้วผมแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องโหดร้ายขนาดนี้ด้วยกับผม

มีใครให้คำปรึกษาบ้าง จริงๆ ผมก็คุยกับผู้ใหญ่หลายคน คือผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมให้เงินเยอะ สวัสดิการมันดี เรื่องนี้มันโหดร้ายขนาดนี้ เอาจริงๆ มันเกิดขึ้นมันอาจจะเป็นเพราะผมจริงๆ ก็ได้ เพราะก่อนที่ผมจะรู้ข้อมูลนี้ ตอนนั้นผมไม้รู้อะไรเลยนะ ตอนนั้นผมมองว่าผมแย่จริงๆ ผมก็มองเป็นครอบครัวเขาก็บอกเราอย่างนี้ มันก็เป็นตัวเราจริงๆ ตอนนั้น แต่พอเห็นข้อมูลแบบนี้ ผมรู้สึกว่าความยุติธรรมมันอยู่ไหน คนก็เริ่มจับผิดว่าคนข้างเคียงเราไม่เหลือใคร ผมมองว่าจริงๆ เราไม่ได้ทำอะไร มีอะไรก็คุยต่อหน้ากันได้ไม่ใช่ว่าคุยลับหลัง ผมไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น

ทำไมถึงเลือกโทษตัวเองมากกว่า?
ผมก็คุยกับผู้ใหญ่หลายคน เขาก็บอกว่าผมเลี้ยงดีไป เขาก็บอกว่าผมสปอยไป เขาใช้คำนี้ว่าผมสปอย สปอยพวกเขาเพราะว่าผมไม่ได้รับเขามาเพื่อมาใช้ชีวิตแบบทีมงานลูกจ้าง ผมมองว่าพวกเขาเป็นเพื่อน พวกเขาเป็นพี่น้อง คือสองคนนั้นเขาอยากทำช่องผมก็สนับสนุนเต็มที่ เพราะว่าผมแค่ไม่อยากให้เขาได้เงิน 3 หมื่นไปเรื่อยๆ วันหนึ่งผมอยากให้เขาได้เงินเดือนแสน 2 แสน 3 แสน ใครที่อยากได้เพิ่ม ผมก็หาเงินให้เพิ่ม ทำโปรเจ็กต์เพิ่ม ทำช่องให้เพื่อจะให้พวกคุณไปต่อยอดเองได้ เพื่อจะให้ทุกคนมีอนาคตที่ดี ผมมองแค่ตรงนี้มาตลอดแล้วผมก็สนับสนุนเต็มที่ ผมแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเกิดแบบนี้

เขารวมตัวกันเรียกเราเข้าไปขอเงินเดือนเพิ่ม ขอวันหยุด เอาเราไปต่อว่า?

ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมอาจจะไม่ดีจริง ๆ ผมมองว่าพวกเขาเป็นครอบครัวผมจริง ๆ พอคนหนึ่งพูดแล้วทุกคนเห็นด้วยก็คือตัวผม ผมก็รู้สึกอย่างนั้น ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ก็แค่เจ็บตัว

ตอนนั้นได้เคลียร์ใจกันไหม หรือพูดจบแล้วทางใครทางมัน?

มันก็จบแค่นั้นแหละ

ตอนนี้จัดการทำช่องตัวเองยังไง มีหลายคนอยากไปสมัครงาน?

ทุกวันนี้ผมก็ไม่ค่อยได้ลงคลิป ลงอาทิตย์ละคลิปสองคลิป ต้องขอบคุณน้องฝึกงานคนหนึ่ง เป็นคนเดียวที่ไม่ทิ้งผม

หลังจากนี้ทำให้เราไว้ใจคนยากไหม?

ไม่ครับ ไม่ ผมจะไม่ให้เรื่องนี้มาส่งผลกระทบกับผมในอนาคต ผมไม่ยอมครับทุกคน (ร้องไห้) ผมบอกได้เลยว่า ผมไม่ยอมให้พวกนั้นมาทำร้ายความรู้สึกผมแล้วทำให้ผมเป็นอีกคนหนึ่งในอนาคต แล้วผมจะเป็นที่รักทุกคนมากๆ (ร้องไห้) ผมจะรักคนที่อยู่ข้างๆ ผมจะรักคนที่ดีกับผมมาก ๆ แล้วผมจะเป็นอย่างนี้จริง ๆ ผมจะพยายามอย่างนั้นจริง ๆ ครับ

ทีมงานที่มาจะเข้ามาใหม่เราคัดเลือกยังไง?

เรื่องนี้ผมยังไม่รู้ครับ ผมก็ต้องศึกษาไปเรื่อย ๆ ส่วนเรื่องคดีตอนนี้รอขึ้นศาล มันอาจจะใช้เวลาหน่อย ผมก็พยายามเร่งพยายามตาม ผมก็เดินไป สน.เอง เดินไปกับเพื่อนผมเพื่อจะไปแจ้งความ ไปเองเลยครับ มันยากมาก กว่าทุกอย่างมันจะจบลงอย่างนี้ 2 เดือนนี้สู้มาตลอด ยังสู้แล้วผมก็อยากรู้ว่าทุกคนยังทำเรื่อย ๆ อย่างนี้ ซึ่งผมไม่รู้จริง ๆ ว่าผมต้องทำยังไง

หลังจากได้พูดเรื่องนี้ไป เป็นการปลดล็อกไหมที่โดนเข้าใจผิดมาตลอด 2 เดือน เคลียร์ตัวเองว่าเราเป็นคนโดนกระทำ?
“ผมพูดตรง ๆ ผมไม่ได้รู้สึกดี แล้วผมก็มองว่าบางอย่างก็แรงไปนิดนึง อย่างเช่นเรื่องหน้าตาเขา อะไรก็แล้วแต่ผมอยากให้ทุกคนอยู่ในประเด็น ไม่อยากให้ไปนอกเรื่อง

ภาพจาก อินสตาแกรม kyutaeoppa

About Author