“จุรินทร์ ออนทัวร์” สุโขทัย ฟื้นตลาดต้องชม “ตลาดริมยม 2437” เป็นแหล่งท่องเที่ยว

“จุรินทร์ ออนทัวร์” สุโขทัย ฟื้นตลาดต้องชม “ตลาดริมยม 2437” เป็นแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมปล่อยคาราวาน “มะม่วง” 2,000 ตัน กระจายทั่วประเทศ

วันที่ 5 มีนาคม 2565 เวลา 18.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน “Reborn ตลาดต้องชม ตลาดริมยม 2437” และเยี่ยมชม Street Art ชุมชนบ้านกง พร้อมด้วย นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นางสาวพัชรอร วงศ์กำแหง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ อดีต ส.ส. จังหวัดสุโขทัย ที่ตลาดริมยม 2437 อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า งานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างเทศบาลตำบลกงไกรลาศ กับ อบต.กง และกระทรวงพาณิชย์ จับมือเดินหน้าฟื้นชีวิตตลาดต้องชมตลาดริมยม 2437 ให้กลับมาเปิดอีกครั้งหลังจากประสบปัญหาโควิด ถัดจากนี้จะได้จัดขึ้นทุกวันเสาร์ต้นเดือนเรื่อยไป โดยมุ่งหวังจะให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของจังหวัดสุโขทัย และอำเภอกงไกรลาศ ตลาดดังกล่าวนอกจากจะมีร้านค้าขายของสองข้างถนนคนเดินแล้ว ยังมีงานศิลปะ และมีโฮมสเตย์ ที่ชาวบ้านแบ่งห้องพักให้นักท่องเที่ยว ซึ่งสมัยก่อนได้รับความนิยมมีนักท่องเที่ยวจองเต็มทุกครั้ง

ตลาดดังกล่าว นอกจากจะมีสินค้าพื้นเมือง ขนมที่ขึ้นชื่อของจังหวัดหลายชนิด ที่เปิดขายริมถนน 2 ข้างแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้เข้ามาช่วยพัฒนาให้ร้านค้าสามารถขายผ่านระบบออนไลน์ได้ผ่านแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียง ซึ่งจะทำให้สามารถส่งขายยังต่างประเทศได้ด้วย หวังว่าการฟื้นตลาดดังกล่าวจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ฟื้นชีวิตกลับคืนมาอีกครั้ง และถือว่าเป็นการส่งเสริม Soft Power ด้วยการแทรกศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตอาหาร งานฝีมือทุกอย่างลงไปในสินค้า บริการ ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวของไทยมีศักยภาพสูงขึ้น และจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดสุโขทัยได้ต่อไป

นอกจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ปล่อยคาราวานมะม่วง ซึ่งเป็นมะม่วงที่มีชื่อเสียง ปลูกมากใน 3 จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และสุโขทัย กรมการค้าภายใน และพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ต่างๆ ช่วยทำหน้าที่เซลส์แมนจังหวัดช่วยขายมะม่วงโดยจะได้ช่วยกระจายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่อื่นๆ ต่อไป หากขายได้หมด ก็จะทำให้เกษตรกรรอดชีวิตและอยู่ได้

“ขณะนี้มีมาตรการเชิงรุกซึ่งจะได้ไปดูทุกพืชเกษตร ในภาพรวมยุคนี้ถือเป็นยุคที่พืชเกษตรราคาดีเกือบทุกตัว 1. ข้าว ที่เป็นห่วงว่าเกวียนละ 5-6 พันบาท ตอนนี้ไป 8,000-8,500 สำหรับข้าวเปลือกเจ้า 2. มันสำปะหลัง เมื่อก่อน กิโลกรัมละบาทกว่าๆตอนนี้ 2.60-2.70 บาท 3. ข้าวโพด เมื่อก่อน กก.ละ 6-7 บาท เดี๋ยวนี้ 10-11 บาท 4. ปาล์มน้ำมัน เมื่อก่อนกิโลกรัมละ 2 บาทกว่า เดี๋ยวนี้โลละ 10-11 บาท 5. ยางพารา เมื่อก่อน 3 โลร้อย ที่เคยท่องกันขึ้นใจ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ยางแผ่นไปโลละ 60 กว่าบาท น้ำยางข้น ที่ประกันรายได้ไว้ 57 บาท ตอนนี้ราคาไป 70 บาทแล้ว ขี้ยางหรือยางก้อนถ้วย ประกันรายได้กิโลกรัมละ 23 บาท เดี๋ยวนี้ 26-27 บาท เพราะฉะนั้นพืชเกษตรราคาดีทุกตัว นอกจากนั้นผลไม้ แม้ไม่มีประกันรายได้แต่มีมาตรการเชิงรุกเข้ามาช่วย เพราะฉะนั้นจึงทำให้ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งหมด โดยเฉพาะทุเรียน ราคาสูงจนตลาดเมืองไทยเอื้อมไม่ถึง ทำให้รายได้เกษตรกรดีมาก มังคุด ลองกอง มะยงชิด ทั้งหมดนี้ ผมมั่นใจว่าเกษตรกรจะขายได้ราคาดีในยุคนี้ เพราะเรามาตรการเชิงรุก หากมีปัญหาแจ้งพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด พร้อมที่จะรับเรื่อง และเข้ามาช่วยเหลือหาตลาดให้ จัดการให้ทันที” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

ทั้งนี้บรรยากาศระหว่างการเดินชมตลาดต้องชม ริมยม มีพี่น้องประชาชน และร้านค้าทักทายให้การต้อนรับนายจุรินทร์ และคณะเป็นอย่างดี โดยนายจุรินทร์ ร่วมชิมขนมผิง ทองม้วนที่ขึ้นชื่อของจังหวัดหลายชนิด ซึ่งมีเงินร้อยเดียว ซื้อทองเข้าบ้านได้เยอะ ทั้งทองพับ ทองม้วน ทองกรวย เป็นต้น โดยก่อนกลับได้แวะนมัสการพระครูสุจิตรธรรมสุนทร
รองเจ้าคณะอำเภอกงไกรลาศ เจ้าอาวาสวัดกงไกรลาศ ซึ่งท่านได้อวยพรให้นายจุรินทร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

About Author